CEO ที่รัก ชุด พ่อทูนหัว

CEO ที่รัก ชุด พ่อทูนหัว

เนื้อนวล

5.0
ความคิดเห็น
237.8K
ชม
56
บท

เพราะอุบัติเหตุสิบสองครั้งในระยะเวลาหนึ่งเดือนทำให้ พิมนรา เต็มไปด้วยความสยดสยองและขวัญกระเจิง หมอดูคือที่พึ่งหนึ่งเดียวที่คิดได้ ณ ตอนนั้น แต่คำทำนายที่ได้รับกลับทำให้ยิ่งตกใจ “หนูชะตาขาด ไม่มีหัวแล้วนะตอนนี้น่ะ” “แล้วหนูจะ... จะทำยังไงดีคะ หนูยังไม่อยากตาย” “มีผัว” “มีผัว?!” “ใช่ ต้องมีภายในคืนนี้ด้วย หลังออกจากตำหนักของแม่ไป ผู้ชายคนแรกที่พูดกับหนู เขานั่นแหละคือคนที่จะช่วยหนูได้ จับทำผัวให้ได้ก่อนเที่ยงคืนนะ” มหาเศรษฐีเพลย์บอยหมื่นล้าน ลีโอนาโด เด รอสซี ผู้ชายที่มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลา แต่จู่ๆ กลับต้องมาซวยเมื่อถูกผู้หญิงจืดชืดคนหนึ่งปลุกปล้ำจับทำสามี ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้เต็มใจจะถูกปล้ำเลยสักนิด และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น... เช้ามาแม่คุณแม่ทูนหัวกลับหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย นี่เพลบอยย์อย่างลีโอนาโด เด รอสซี ถูกฟันแล้วทิ้งจริงๆ เหรอ?! และทุกอย่างมันก็คือจะเลือนหายไปตามกาลเวลา หากเขากับยายผู้หญิงเฉิ่มแต่ร้อนราวกับไฟป่าคนนั้นจะไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก ในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง!

บทที่ 1 ตอนที่ 1

โด่งดัง การบัญชีและทนายความ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ นางสาวพิมนรา ใจสู้ นักบัญชีสาวไฟแรงที่เพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของเมืองไทยมาได้เพียงแค่หกเดือนเท่านั้น

“น้องพิม...ลงบัญชีบิลค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ เฮียอ๋าเสร็จหรือยัง”

พิมนราที่กำลังก้มหน้าก้มตาคีย์ข้อมูลอยู่เงยหน้าขึ้นทันที “ได้ค่ะพี่ดา แป๊บนะคะ” หญิงสาวลุกขึ้นแล้วรีบหยิบเอกสารให้กับดาริกาหัวหน้าของตัวเอง

“ขอบใจมากจ้ะ นี่ถ้าไม่มีน้องพิมพี่คงยุ่งมากกว่านี้แน่”

หล่อนยิ้มหน้าเจื่อนให้กับดาริกา อยากจะบอกออกไปเหมือนกันว่าหล่อนเองก็งานยุ่งจนหัวฟู วันๆ แทบไม่ได้กินข้าวเหมือนกัน

“พิมว่าถ้าพี่ดารับพนักงานเพิ่มอีกสักคนสองคน พี่ดาก็น่าจะไม่ยุ่งขนาดนี้นะคะ”

ดาริกาส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่เอาหรอก จ้างมาอีกก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มน่ะสิ พี่กับน้องพิมก็ทำกันมาได้ตั้งหลายเดือนแล้ว ทำต่อไปเรื่อยๆ งานคงอยู่ตัวเนอะ น้องพิมว่าไหม”

พิมนราทำได้แค่ยิ้มน้อยๆ แล้วหมุนตัวเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานรกๆ ของตัวเองตามเดิม

“เออ...น้องพิม เย็นนี้ส่งบันทึกตัดราคาค่าเสื่อมให้พี่ด้วยนะ”

คนฟังถอนหายใจฟืดฟาดกับงานที่หนักเกินกว่าค่าแรงที่ได้รับ “ได้ค่ะพี่ดา เดี๋ยวก่อนกลับบ้านพิมจัดการให้ค่ะ”

“ขอบใจมากจ้ะ อ้อ มีอีกเรื่องหนึ่ง บัญชีลูกหนี้น่ะจ้ะ ส่งให้พี่พร้อมกันเลยนะ เย็นนี้”

หล่อนยิ้มบางๆ อีกครั้ง รู้สึกว่าสมองหนักอึ้งจนแทบจะทำงานต่อไปไม่ไหว

“ได้ค่ะพี่ดา”

“ขอบใจจ้ะ เดี๋ยวปีหน้าพี่จะปรับเงินเดือนให้”

พิมนรายิ้มกว้างทันที เพราะรอฟังประโยคนี้มานาน

“ขอบคุณมากค่ะพี่ดา”

“สักห้าร้อยเป็นไง พอไหม”

จากที่ยิ้มกว้างอยู่ค่อยๆ หุบลงทีละนิดจนแทบไม่มีเหลือ

“แล้ว...แล้วแต่พี่ดาจะเห็นสมควรเถอะค่ะ”

“งั้นห้าร้อยเนอะ กำลังดี”

ดาริกาตอบเองเออเองเสร็จสรรพ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปโทรศัพท์ที่ด้านนอกสำนักงาน

พิมนราถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย สำนักงานบัญชีที่นี่มีหล่อนกับดาริกาอยู่แค่สองคน เพราะคนเก่าสองคนพร้อมใจกันลาออกไป งานทุกอย่างเลยถาโถมเข้ามาใส่หล่อนเต็มๆ

หล่อนไม่ใช่คนขี้เกียจ ไม่ใช่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หล่อนทำงานอย่างสุดความสามารถ ไม่เคยเอาเวลาทำงานไปคุยโทรศัพท์หรือเล่นเฟซบุ๊ก แต่งานที่มีมันมากเกินไป แถมดาริกาก็ไม่ยอมรับคนเพิ่มสักที

หญิงสาวขยับตัวลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปชงกาแฟภายในห้องครัว แต่แล้วก็ล้มครืนลงไปกองกับพื้น หน้าคว่ำลงกับกระเบื้องแข็งๆ เต็มแรง หน้าผากของหล่อนมีเลือดซึมทันที

“โอ๊ย...”

หล่อนขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ยกมือขึ้นกุมหน้าผากที่เจ็บระบมแล้วน้ำตาก็ไหลซึมออกมา

“ทำไมต้องซุ่มซ่ามแบบนี้ด้วยนะ”

“ตายแล้วน้องพิม หกล้มอีกแล้วเหรอจ๊ะ”

อาจเป็นเพราะหล่อนล้มเสียงดัง ดาริกาที่โทรศัพท์อยู่ด้านนอกถึงได้ยิน หญิงสาวรีบตรงปรี่เข้ามาหา และมองไปที่รอบๆ ตัวของพิมนรา

“โชคดีนะไม่มีของเสียหาย”

พิมนราเคยชินกับคำพูดของดาริกาแล้ว ทำให้หล่อนไม่คิดจะโมโหในความใจแคบของเจ้านาย

“ว่าแต่หน้าผากโนนะนั่น ไปทำแผลคลินิกใกล้ๆ ไหม พี่จะพาไป”

“ขอบคุณค่ะพี่ดา แต่พิมไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวทำแผลที่นี่ก็ได้ค่ะ”

ดาริกาส่ายหน้าดิก “ไม่ได้หรอกจ้ะ ที่นี่ไม่มีกล่องปฐมพยาบาล”

“แต่พิมเห็น...”

“กล่องนั้นเป็นของพี่คนเดียว สำหรับเจ้าของสำนักงานน่ะจ้ะ”

หล่อนได้แต่อ้าปากค้าง มองดาริกาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“ค่ะ...พิมเข้าใจแล้วค่ะ”

พิมนราพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน โดยมีดาริกาผู้ขี้เหนียวขยับเข้ามาให้ความช่วยเหลือ

“พี่ว่าน้องพิมต้องไปทำบุญล้างซวยเสียบ้างนะ”

หล่อนมองหน้าดาริกาอย่างตกใจ

“เพราะตั้งแต่ต้นเดือนมาจนถึงปลายเดือน พี่เห็นน้องพิมหกล้มบ้าง ชนนู่นนั่นนี่บ้างมาเกือบสิบครั้งแล้วนะ มันไม่ปกติแล้วล่ะ”

พิมนราว่าจะไม่รับฟัง แต่พอได้ยินก็ใจคอไม่ดีขึ้นมาดื้อๆ

“สิบเอ็ดครั้งแล้วค่ะ”

“นั่นไง เกินสิบครั้งอีกต่างหาก พี่ว่าน้องพิมไปให้พระท่านรดน้ำมนต์หน่อยดีกว่า หรือไม่ก็ไปทำสังฆทานให้เจ้ากรรมนายเวร หนักจะได้กลายเป็นเบา”

คราวนี้หล่อนที่นิ่งงันรับฟังอยู่หน้าซีดเผือด “มัน...จะร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะพี่ดา”

ดาริกาจ้องหน้าหล่อน

“พี่มีเพื่อนสมัยประถมคนหนึ่งนะ ก่อนตายก็มีอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ แบบน้องพิมนี่แหละ พี่บอกให้ไปรดน้ำมนต์ไปทำบุญก็ไม่เชื่อ สุดท้ายเป็นไง ไม่ถึงเจ็ดวันถูกรถชนตาย”

พิมนราพูดไม่ออก ช็อกมาก

“แล้วดูหน้าตาของน้องพิมช่วงนี้ก็ดำคล้ำแปลกๆ พี่ว่าดวงตกแน่เลย หรือไม่ก็อาจจะดวงถึงฆาต”

“พี่ดา...”

“นี่พี่ไม่ได้พูดให้กลัวนะ แต่พี่แค่เตือน”

พิมนราใจคอไม่ดีเอาเสียเลย “งั้น...พิมควรจะไปทำบุญใช่ไหมคะ อะไรๆ จะได้ดีขึ้น คือพิมยังตายไม่ได้พี่ดาก็รู้นี่ พิมมีแม่ มีน้องที่ต้องดูแล แถมน้องก็ยังเจ็บออดๆ แอดๆ” หล่อนรู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่ได้ยินจนน้ำตาซึมออกมา

“งั้นเอาอย่างนี้...”

ดาริกาตบบ่าหล่อนเบาๆ และปรายตาไปดูนาฬิกาแขวนที่ผนังห้อง

“เหลืออีกสิบห้านาทีจะห้าโมงครึ่ง พี่ให้น้องพิมกลับบ้านไปทำบุญทำทานต่อชีวิตก่อนดีไหม”

พิมนราน้ำตาแทบไหลกับความใจดีของดาริกาที่หยิบยื่นมาให้หล่อนเป็นครั้งแรก

“ขอบคุณมากค่ะพี่ดา...”

“แต่น้องพิมจะต้องมาทำชดเชยให้พี่วันเสาร์นี้”

“แค่...สิบห้านาทีเนี่ยนะคะ”

“ไม่ใช่แค่สิบห้านาที แต่ต้องเพิ่มเป็นหนึ่งชั่วโมง เพราะต้องคูณต้นคูณดอกไปด้วย”

“แต่พิมก็อยู่เกินเวลาเลิกงานทุกวันเลยนะคะ โอทีพิมก็ไม่เคยเบิก...”

ดาริกายังคงยิ้มน้อยๆ

“คืออย่างนี้นะน้องพิม พี่เป็นเจ้าของสำนักงานบัญชี แถมยังเรียนบัญชีมาด้วย ในหัวของพี่ต้องมีแต่กำไร พี่ไม่ชอบขาดทุน”

“พี่ดา...”

“เอาน่า ปีหน้าจะขึ้นเงินเดือนให้ห้าร้อยไงจ๊ะ”

หล่อนพูดไม่ออกอีกกับความใจดีที่สุดของดาริกา จำต้องยกมือขึ้นไหว้ประชด

“น้ำใจของพี่ดามีมากขนาดนี้ ชาตินี้พิมคงชดใช้ไม่หมดแน่ๆ เลยค่ะ”

“ชาตินี้ใช้ไม่หมด เอาไปชาติหน้าก็ได้นะน้องพิม พี่ไม่ถือหรอก”

ดาริกายังไม่รู้ว่าหล่อนประชดประชัน หล่อนจึงทำได้แค่ทำหน้าเบื่อหน่าย และเอ่ยขอตัว

“พิมขอตัวไปชงกาแฟก่อนนะคะ”

“กาแฟของน้องพิมเองใช่ไหมจ๊ะ”

พิมนราหันมายิ้มเหนื่อยหน่ายให้กับดาริกา

“ก็ต้องของพิมสิคะ ในเมื่อในครัวไม่มีอะไรเลย นอกจากน้ำร้อน”

ดาริกายังคงยิ้มให้หล่อนอย่างไม่สะทกสะท้าน นี่หล่อนอยากรู้จริงๆ ว่าดาริกาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่

“อ้อ น้องพิม อย่าทำอะไรในห้องครัวตกแตกอีกนะ”

“พิมทราบค่ะ เพราะที่แก้วทุกใบมีราคาติดอยู่”

หล่อนประชดออกไปอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“พิมขอตัวนะคะ”

“ตามสบายจ้ะ”

ดาริกายิ้มหวานให้หล่อน ในขณะที่หล่อนแสนเหนื่อยใจ ทำไมหล่อนจะต้องมาเจอหัวหน้างานที่ขี้เหนียวขั้นเทพแบบนี้ด้วยนะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
อุ้มรักเมียแสนชัง

อุ้มรักเมียแสนชัง

โรแมนติก

4.9

ปรมะพลาดพลั้งมีความสัมพันธ์กับนักศึกษาของตัวเองจนตั้งท้อง เขาจำใจต้องรับผิดชอบอย่างไม่มีทางเลือก แต่ผู้ชายระดับไฮเอ็นเช่นเขาไม่ยอมเข้าตาจนง่ายๆ หรอก ในเมื่อพลาดไปแล้วก็ช่างมัน รับแค่ลูกเอาไว้ และเขี่ยแม่ของเด็กทิ้งลงถังขยะ นี่แหละคือทางออกที่ยอดเยี่ยมที่สุด! ตัวอย่างเล่ม : ระหว่างที่รองเท้าสีดำเงาวับกำลังย่ำลงไปบนพื้นกระเบื้องราคาแพง เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาชนเข้าที่ขาด้านหลัง ปรมะหยุดเดิน และก็หมุนตัวกลับไปมองสิ่งที่พุ่งเข้ามาปะทะร่างกายของตัวเอง เด็กผู้หญิงถักเปียสองข้าง... เขายิ้มที่มุมปากน้อยๆ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งเผชิญหน้ากับเด็กตัวจ้อย “อย่าวิ่งซนนะครับเด็กดี...” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามองเขา ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างดีใจ “คุณพ่อ...” เขาไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของเด็กหญิงตรงหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจจนแทบช็อกคือใบหน้าของเด็กหญิงคนนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับเขาตอนเด็กไม่มีผิด ปรมะถึงกับอึ้งงันไป แต่เด็กน้อยยังคงยิ้มแถมยังยกมือขึ้นลูบหน้าของเขาไปมา “คุณพ่อจริงๆ ด้วย... ไข่มุกไม่ได้ฝันไป... เย้...” “หนู...” ตอนนี้แม้แต่จะพูดออกมาให้เป็นคำยังยากสำหรับปรมะเลย เด็กคนนี้เรียกเขาว่าพ่อ แถมยังมีหน้าตาถอดแบบมาจากเขาในตอนเด็กอีกต่างหาก ซีรีส์ในชุดที่เกี่ยวข้องกัน 1. ขายหัวใจให้ท่านประธาน 2. มลทินรัก CEO 3. คืนเผลอรัก 4. อุ้มรักเมียแสนชัง

เธอคือของหวง

เธอคือของหวง

โรแมนติก

5.0

เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา

คุณหมอทำไมร้าย

คุณหมอทำไมร้าย

โรแมนติก

5.0

นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

โรแมนติก

5.0

ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

โรแมนติก

5.0

พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

ทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ผู้มั่งคั่งในยุค 90

แก้วใบเล็ก
5.0

เธอทะลุมิติไปเป็นสาวใช้ส่วนตัวที่เขาซื้อมาจากครอบครัวที่เก็บขยะขาย ในยุคปัจจุบันก็ทำงานจนตัวตาย มาอยู่อดีตก็กลายเป็นคนอัตคัดขัดสน ชีวิตจะลำบากซ้ำซ้อนไปถึงไหน ……………………………………………… เช็ดท่อนบนเสร็จเนื้อนวลก็เตรียมถอดชิ้นล่างที่เป็นกางเกงผ้านิ่มขายาว มือเล็กกำลังจับขอบกางเกงเตรียมจะถอดออก            หมับ! แต่ก็มีมือใหญ่มายึดไว้อีกครั้ง พร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา            “หย่า!” เด็กอะไรแก่แดดขนาดนี้ ไม่รู้จักอายผีอายสาง กลางวันแสก ๆ ยังจะแก้ผ้าผู้ชาย ถึงปู่กับย่าจะไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยให้รักนวลสงวนตัวแต่เธอก็น่าจะคิดเองเป็นบ้าง หรือเธอเป็นเด็กใจแตกถึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้            เช่นเดิมเนื้อนวลไม่ได้สนใจ เพราะกลิ่นตัวของเขาที่โชยเข้าจมูกเธอคิดว่าน่าจะเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เช็ดตัว เพราะเท่าที่เนื้อนวลเข้ามารับใช้เขาไม่กี่วัน สุรเชษฐ์ก็ไล่เธอท่าเดียว แต่อย่าหวังว่าเนื้อนวลคนนี้จะยอมแพ้ง่าย ๆ            “ถ้าอายก็หลับตา” เนื้อนวลพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ มือข้างหนึ่งจับสะโพกเขายกขึ้นมืออีกข้างดึงกางเกงนอกลงมาจนสุดปลายเท้าตามด้วยกางเกงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายทั้งหนักและเบาของตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันระวังตัว เมื่อนั้นแหละสุรเชษฐ์จึงนอนแน่นิ่งปิดเปลือกตาแน่น ร่างใหญ่แข็งทื่อไปทั้งตัว จากที่ไม่รู้สึกแค่ฝั่งขวาตอนนี้เหมือนจะชาไปทุกสัดส่วนบนร่างกาย            ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนนี้ช่างไร้ยางอายสิ้นดี เกิดมาเขายังไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนเห็นร่างเขาตอนเปลือยเปล่าแบบนี้มาก่อน เว้นเสียแต่ภรรยาของเขาเพียงคนเดียว เธอช่างเป็นผู้หญิงที่…หน้าด้านเหลือทน มีผู้หญิงคนไหนกันที่อยู่กับชายแปลกหน้าที่นอนเปลือยล่อนจ้อนแบบนี้ในห้องสองต่อสองเหมือนเธอบ้าง ถ้าคนอื่นรู้เข้ามีหวังเธอไม่มีทางหาสามีได้แน่ อย่างว่าล่ะนะก็คนไม่ได้เรียนหนังสือก็คงไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร            พ่อจ๋า! แม่จ๋า! ช่วยลูกด้วย ผมกำลังโดนแทะโลมทางสายตา สุรเชษฐ์พร่ำบ่นในใจเมื่อคิดว่าสาวใช้คงใช้สายตาจ้องมองเขาไปทั้งตัว

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
CEO ที่รัก ชุด พ่อทูนหัว
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

31/03/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

31/03/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

31/03/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

31/03/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

31/03/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

31/03/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

31/03/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

31/03/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

31/03/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

31/03/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

01/04/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

01/04/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

01/04/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

01/04/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

01/04/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

01/04/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

01/04/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

01/04/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

01/04/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

01/04/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

01/04/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

01/04/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

01/04/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

01/04/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

01/04/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

01/04/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

01/04/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

01/04/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

01/04/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

01/04/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

01/04/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

01/04/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

01/04/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

01/04/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

01/04/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

01/04/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

01/04/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

01/04/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

01/04/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

01/04/2022