Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นิยายรักฉบับสาวคลับ S

นิยายรักฉบับสาวคลับ S

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
26K
ชม
72
บท

นิรัติศัย&นันทภัค “ปล่อยนะ” เธอสะบัดแขนสุดแรง ถอยหลังสองสามก้าว มองหน้าเขานิ่ง “ฉันไม่อยู่กับคุณแล้ว เชิญคุณไปอยู่กับผู้หญิงของคุณตามสบายเลย อยากไปอยู่กับใครก็เชิญ” พูดจบก็ก้มตัวลงหยิบกระเป๋าขึ้นมา กำลังจะนำมันไปวางบนเตียง แต่ก็ถูกเขากระชากกลับไป แล้วโยนไปมุมห้อง “เธอจะไปไหนไม่ได้ถ้าฉันไม่ให้ไป” นิรัติศัยเสียงเข้มใส่ ในใจรู้สึกโหวงหวิวเมื่อได้ยินนันทภัคพูดว่า จะไปจากเขา “คุณมันเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง คุณไม่นึกถึงใจฉันเลย ไม่เคยเลย...ฮือ” นันทภัคตะเบ็งเสียงใส่สามีที่ยืนอึ้งกับคำพูดที่รับรู้ได้ว่า นันท์ภัคเจ็บปวดมากแค่ไหน น้ำตาสาวเป็นอีกหนึ่งอย่างที่แสดงออกถึงความปวดร้าวในจิตใจ “นัน...ฉัน” หนุ่มตี๋พูดไม่ออก มันตื้อไปหมด “ฉันทำตามข้อตกลงที่คุณกำหนดทุกอย่าง ฉันอดทนมาตลอด ต้องทนรับรู้ว่าผัวตัวเองนอนกับผู้หญิงคนอื่น แต่ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อดทน แต่คุณ คุณกลับไม่รู้สึกรู้สากับการกระทำของตัวเอง มีความสุขในแบบที่คุณชอบ คุณบอกฉันเองว่าจะไม่ให้ผู้หญิงของคุณมายุ่งเกี่ยวกับฉัน ในเมื่อมีมาแสดงตัวว่าเป็นเมียและแม่ของลูก ฉันก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป ถือว่าข้อตกลงของเราจบลงแค่นี้ ถ้าคุณพร้อมหย่าเมื่อไหร่บอกฉันก็แล้วกัน ฉันจะรอคำตอบจากคุณอยู่ที่บ้านของฉัน” นันทภัคบอกคนที่ยืนอึ้งเสียงเด็ดเดี่ยว อาศัยจังหวะที่เขายืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกเดินไปหยิบกระเป๋า ก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไปทันทีที่พูดจบ .................................................................................................................. หัสดิน&อารยา “รักจัง รักที่สุดเลย” เขาจูบซ้ำๆ บนกลีบปากค่อนข้างบวมเจ่อจากการจุมพิตยาวนาน “รักเหมือนกันค่ะ” เธอจุมพิตปากเขาบ้าง ซบหน้าลงบนบ่าแข็งแรง มือเล็กลูบแก้มเขาแผ่วเบา เรื่อยไปจนถึงใบหูใช้ปลายเล็บจิกลงบนติ่งหูเบาๆ เงยหน้าหอมลำคอหัสดิน ทุกสัมผัสของอารยาทำให้ร่างหนาสั่น หลับตาลงราวกับข่มความรู้สึก “อย่าซนสิครับ จะทนไม่ไหวแล้วนะ” เขาหลับตาพูด อารยาเงยหน้ามองคนรักแล้วยิ้ม “ทนอะไรไม่ไหวคะ เปิ้ลไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” สาวเจ้าไม่หยุดยั่ว ลูบต้นคอเขาด้วยปลายเล็บ กรีดลงมาตามลำคอถึงสาบเสื้อ จูบคอเขาอีกครั้ง ขยับสูงสู่แก้มขาว คราวนี้เขาสั่นมากขึ้น อารมณ์รัญจวนพล่านไปหมด “ยั่วดีนัก เดี๋ยวจะโดนดี” หัสดินพูดจบ อารยาดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที “เปิ้ลไปทำงานก่อนนะคะ” พูดจบก็รีบเดินออกจากห้อง เหลียวมองชายร่างโตที่นั่งพ่นลมหายใจด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบาๆ “ยั่วเก่งจริงๆ พับผ่าสิวะ กูจะทนได้สักกี่ครั้งวะ” เขาพูดกับตัวเอง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามร่างสวยด้วยอารมณ์สวาทที่ยังคั่งค้าง หัสดินคิดว่า หากเธอยั่วเช่นนี้บ่อยๆ มีหวังเขาตบะแตก จับเธอปล้ำทำเมียสักวันแน่ๆ ‘กูจะรอดถึงวันแต่งงานไหมเนี่ย’ นั่นสิจะรอดไหม... ....................................................................................................... กันต์ธีร์&เบญญาภา “จ๋ากลัว” เป็นความกลัวที่ฝังใจ แม้ว่าจุมพิตของเขาทำให้ใจเธอเตลิด หลงอยู่ในวังวนสิเน่หา ทว่าประสบการณ์ทางเพศที่ไม่น่าจดจำ มันตอกย้ำในอก ภาพสบโชคกระทำรุนแรง ป่าเถื่อนกับตน ไม่เคยลืมเลือน “ไม่ต้องกลัวครับ ผมจะทำให้จ๋าเห็นว่า ความรักและเซ็กซ์ของเราสวยงาม เชื่อผมนะครับ” เบญญาภากล้าๆ กลัวๆ เธอรู้สึกได้ด้วยหัวใจตัวเองว่า กันต์ธีร์ไม่เหมือนสบโชค ชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีวันทำให้ตนเจ็บปวดหรือเสียใจ มีแต่สร้างความสุขให้ในทุกๆ วัน ทว่าอดีตที่ตามหลอกหลอน และไม่เคยห่างหายไปจากห้วงความทรงจำ ทำให้เธอใจไม่เข้มแข็งพอที่จะก้าวผ่านความรู้สึกนั้น แต่ถ้าไม่กล้าก็ต้องกลัวอยู่อย่างนี้ เธอต้องชนะความกลัวด้วยความไม่กลัว ดังเช่นสำนวนที่ว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ใช่...เบญญาภาต้องผ่านไปให้ได้ เธอจะได้หลุดพ้นจากความปวดร้าวที่รัดรึงหัวใจ “มันสวยงามจริงหรือคะ” เป็นคำถามของคนขี้กลัว ที่เรียกรอยยิ้มให้คนถูกถาม “จริงสิครับ มันสวยงามจนจ๋าต้องติดใจ ผมจะจูงมือจ๋าไปตลอดเส้นทางนั้น จ๋าจะได้รู้ด้วยตัวเองว่า มันมีความสุขมากแค่ไหน” น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ย จูบกลีบปากเธอแผ่วเบา “ผมจะพาจ๋าไปสวรรค์ชั้นเจ็ด รับรองว่าจ๋าไม่อยากลงมาเหยียบพื้นดิน อยากอยู่บนนั้นทั้งวันทั้งคืน” เธอแก้มแดง ร้อนไปทั้งตัว ยิ้มเขินให้ชายหนุ่มที่เริ่มลงมือจูงเบญญาภาไปย่ำเยือนสวรรค์ด้วยการจูบ รสสัมผัสที่จะกระตุ้นความปรารถนาให้คุกรุ่นในกาย กันต์ธีร์อ่อนโยนและนุ่มนวล ทุกสัมผัสของเขาคือการทะนุถนอม ฝ่ามือใหญ่ที่กำลังสำรวจไปทั่วเรือนกายสาวไม่ผลีผลาม เขาอยากให้เธอซึมซับรสชาติของเซ็กซ์เข้าไปในหัวใจทีละน้อย

บทที่ 1 1

1

คลับเอส สถานบันเทิงชื่อดังย่านพัฒน์พงศ์ที่มีลูกค้าทั้งชายและหญิงมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะที่นี่เป็นสถานบันเทิงครบวงจร แบ่งแยกเป็นสัดส่วนแล้วแต่ความต้องการของลูกค้า ส่วนผับจะอยู่ชั้นแรกของอาคาร ชั้นที่สองจะเป็นเล้าน์ ชั้นนี้เหมาะสำหรับสาวเปลี่ยว ขี้เหงา แม่ม่ายทั้งหย่าขาดกับสามีและสามีเสียชีวิต หรือแม้แต่สามีไม่ขยันทำการบ้าน ชั้นนี้จะมีหนุ่มโฮสต์หน้าตาดี หุ่นล่ำบึกไว้ให้เหล่าสตรีขี้เหงาเลือกซื้อบริการ ชั้นที่สามจะเป็นอาบอบนวดสวรรค์ของหนุ่มกลัดมันทั้งหลาย ชั้นที่สี่ถึงหกห้องจะเป็นห้องพักไว้สำหรับบริการลูกค้า

ในแต่ละวันคลับเอสต้อนรับลูกค้าทั้งหญิงและชายนับร้อยคน แต่ละคนต่างฐานะและอาชีพ มีรวยมีจนคละเคล้ากันไป นักการเมือง นักธุรกิจแวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสาย เศรษฐีนีก็มีมาก เม็ดเงินที่เข้ามาในสถานบันเทิงแห่งนี้คืนหนึ่งสูงถึงคืนละครึ่งล้านบาท คลับเอสจึงเป็นที่จับตามองจากคู่แข่งทางธุรกิจในละแวกเดียวกัน ที่มักเข้ามาสืบดูความเคลื่อนไหวเนืองๆ

รถเบนซ์สปอร์ตแล่นมาจอดหน้าประตูอาคารสูงหกชั้น ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมาด้วยมาดนางพญา เด็กรับรถประจำคลับเอสรีบวิ่งไปยังสตรีนางนั้น อำนวยความสะดวกนำรถไปเก็บไว้ให้อย่างเช่นเคย ดุจดารา ม่ายวัยสี่สิบสามปีเดินนวยนาดเข้าไปในคลับเอส และไม่ทันที่เธอจะก้าวผ่านประตู นงเยาว์พนักงานต้อนรับของคลับได้เดินมาทักทายด้วยรอยยิ้มและนอบน้อม

“สวัสดีค่ะคุณดุจ คืนนี้เหมือนเดิมไหมคะ” นงเยาว์ถามอย่างรู้ใจ

“ใช่ เหมือนเดิม” เสียงติดผยองตอบกลับ

“เชิญทางนี้ค่ะ” นงเยาว์ผายมือให้ดุจดารา ก่อนจะพาเดินไปยังลิฟต์โดยสาร พาเธอไปส่งยังชั้นสองของร้าน “ดิฉันจะไปตามเด็กมาให้นะคะ”

“ไม่ต้อง ไปเรียกคุณต้อมมาหาฉันก็พอ”

ดุจดาราหมายถึงมนตรี ผู้จัดการแผนกโฮสต์ ที่ดูแลชั้นนี้ทั้งชั้น รวมถึงหนุ่มหล่อ กล้ามใหญ่ ลีลาเด็ดทั้งหลาย

“ได้ค่ะคุณดุจ นงจะไปทำตามที่คุณดุจต้องการค่ะ”

นงเยาว์ทำตามลูกค้ารายใหญ่ ไม่นานเกินรอคนที่ดุจดาราต้องการพบก็เดินมาหาที่โต๊ะ

“สวัสดีครับคุณดุจ” มนตรีพนมมือไหว้นอบน้อม “วันนี้คุณดุจจะรับแบบไหนครับ”

“ฉันขอชุดเดิม แบบสปอย” ดุจดาราตอบ มนตรีได้ยินแค่นี้ก็เข้าใจความหมาย

“วันนี้มีเด็กใหม่เข้ามาคนหนึ่งครับ หน้าตาดีมากๆ เลย ผมอยากแนะนำให้คุณดุจรู้จักครับ” มนตรีนำเสนอเด็กในสังกัดคนใหม่

“พามาสิ” เธอไม่ปฏิเสธ มนตรีโค้งศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะไปตามเด็กใหม่มาพบลูกค้าพิเศษของคลับ

“คุณดุจครับมาแล้วครับ” ดุจดาราเงยหน้ามอง ชายหนุ่มวัยยี่สิบห้าปีที่ไม่สวมเสื้อ สวมแต่กางเกงรัดติ้ว เห็นกายแกร่งขึ้นเป็นลำด้วยรอยยิ้มพอใจ ผู้ชายคนนี้มีความหล่อเหลามาก มากกว่าหนุ่มโฮสต์คนอื่นๆ กล้ามเนื้อทุกสัดส่วนทำให้เธอครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนผ่าวได้อย่างเหลือเชื่อ

“ชื่ออะไร” ดุจดาราถามชายร่างบึกบึน ยกไวน์ขึ้นจิบ ทว่าสายตาไม่ละจากใบหน้าของเขา

“ชื่อเอกครับ” เอกบุรีตอบ

“ไม่ทราบว่าคุณดุจจะรับโฮสต์เพิ่มสักคนไหมครับ” ผู้จัดการโฮสต์ถาม

“ได้สิ ไม่มีปัญหา” ดุจดาราตอบขณะที่ลุกขึ้นยืน “ฉันจะขึ้นไปรอที่ห้องนะ”

“ได้ครับ ผมจะให้เด็กพาไปนะครับ”

มนตรีเดินนำดุจดาราที่ช้อนตามองเอกบุรีด้วยประกายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา ซึ่งเอกบุรีก็ได้ส่งสายตาหวานฉ่ำกลับ วินาทีนั้นดุจดาราแทบอยากจะกระชากร่างเอกบุรีมากอดจูบ แต่เธอต้องไว้ลาย เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า นางก็จะได้สมหวังในอารมณ์

ดุจดาราที่ล่วงหน้ามาห้องพิเศษของคลับ เธอได้ตระเตรียมความพร้อมสำหรับเกมกามาด้วยการอาบน้ำ พอก้าวออกมาจากห้องน้ำก็พบว่า หนุ่มโฮสต์ทั้งสามที่เธอเลือกไว้ ตอนนี้กำลังนอนร่างเปลือยเปล่ารอเธอบนเตียง ดุจดารามองความเป็นชายของเอกบุรีด้วยความพอใจ หน้าร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว เธอยิ้มก่อนจะปลดผ้าขนหนูออกจากกาย แล้วก้าวขึ้นเตียงไปนอนบนที่นอน ไร้ซึ่งความเหนียมอายสักนิดเดียว มีแต่อาการครั่นเนื้อครั่นตัว ปรารถนาให้ชายทั้งสามแตะต้องสัมผัสร่างของตน

“คุณพี่จะเอาแบบไหนครับ” ยศถาม

“แบบสปอย ให้เอกสอดใส่”

ดุจดาราตอบ แบบสปอยหมายถึง หนุ่มโฮสต์ที่ซื้อมาจะปรนเปรอความสุขให้เธอด้วยการโอ้โลมทุกสัดส่วนของร่างกาย แต่จะมีเพียงคนเดียวที่เธอเลือกให้ครอบครองเรือนร่าง โยกโยนบนร่างกาย แล้ววันนี้เธอก็เลือกเอกบุรี ชายหนุ่มถูกใจตั้งแต่แรกเห็น

“ได้ครับ” ยศทำตามที่ลูกค้าวีไอพีต้องการ เขาประกบปากจูบดุจดารา แลกรัดปลายลิ้นอย่างช่ำชอง ซึ่งเธอเองก็โต้ตอบจุมพิตอย่างถึงใจ ในขณะที่ไม้ก้มหน้าอ้าปากงับยอดถันสีกุหลาบ มือเขาประคองบีบอกอวบอีกข้างไปด้วย หมุนปลายถันเล่นไปในที เธอถึงกับร่างสั่น เกิดเสียงครางเบาๆ ในลำคอ

และดูเหมือนว่าเสียงครางจะดังมากขึ้น เมื่อเอกบุรีแนบหน้าลงบนช่อดอกพิกุลที่ยังคงความสวยงาม ไม่บอบช้ำทั้งที่ผ่านการดอมดมมานับครั้งไม่ถ้วน อาจเป็นเพราะดุจดาราดูแลสุขภาพร่างกายเป็นอย่างดี ทำให้เรือนร่างของเธอยังคงสวยสด สรีระงดงามไม่ต่างกับหญิงสาววัยสามสิบปี

เอกบุรีจูบแผ่วเบาบนช่อดอกไม้งาม ยื่นลิ้นออกจากปากไล้เลียไปตามรูปทรงขึ้นและลง ก่อนจะแทรกลิ้นตรงร่องหลืบสาว ตวัดลิ้นไปมา นิ้วมือซ้ายสะกิดจุดกระสัน นิ้วมือขวาค่อยๆ สอดเข้าไปในรวงผึ้งที่เวลานี้มีน้ำผึ้งเอ่อไหล ทำให้สะดวกในการขับเคลื่อนนิ้ว

“อ๊าาาาา...อืม”

ดุจดาราเบี่ยงหน้า เพื่อให้ตนเองได้ปล่อยเสียงครางอันแสนซาบซ่านผ่านปากได้อย่างสะดวก เพราะเวลานี้ความกระสันอันเกิดจากการเล้าดลมของสามหนุ่มกำลังทำให้เธอขาดใจ แต่ละคนเก่งกาจ รู้จุดของสตรี รู้ว่าทำอย่างไรให้เธอมีความสุขกับการปรนเปรอ

ยศไล่ปากไปตามผิวแก้ม มาหยุดทักทายใบหูของเธอ ห่อลิ้นก่อนจะสอดเข้าไปในส่วนรับฟัง กระดกลิ้นไปมาจนเกิดเสียง แล้วเสียงนั้นก็ทำให้ดุจดาราขนลุก ดวงตาหลับพริ้ม ปากเผยอคราง ยศสร้างความปั่นป่วนทางอารมณ์ให้เธอตรงบริเวณหูชั่วครู่ เขาได้ไต่ปากต่ำลงไปยังลำคอ บ่า และหัวไหล่ ไล่ไปตามลำแขนโดยใช้ปลายลิ้นสะบัดฉวัดเฉวียนไปด้วย ขนแขนขนขาดุจดาราลุกซู่ ร่างกายตอบสนองความใคร่ที่ถูกถ่ายเทเข้าไปในร่างกาย ยศดูดนิ้วเรียวสวยของเธอทีละนิ้ว ดูดเข้าดูดออก ใช้ฟันขบเล็บเบาๆ

อึดใจต่อมาเขาก็เลื่อนใบหน้าไปยังสีข้าง เม้มเพียงนิดให้เธอรู้สึกซ่านเสียว แต่ไม่ทิ้งร่องรอย กัดแผ่วเบาช่วงเอว ไล่ปากไปตามสะโพกงามงอน จูบต่อไปเรื่อยๆ ตามแนวขาจนถึงปลายเท้า แล้วทำเช่นเดียวกันกับนิ้วมือเธอ เขาดูดนิ้วเท้าเธอทีละนิ้ว ปลายลิ้นเน้นสะบัดกลางร่องนิ้วเท้า เธอเสียวซ่านถึงขั้นชักปลายเท้าหนี ทว่ายศจับเท้าดุจดาราไว้มั่น ไม่ให้เธอชักเท้าหนีได้ง่ายๆ

“อ๊าาาา...ดีจัง...อืม”

ดุจดาราครางพอใจ ไม้ยังคงเชยชมดอกบัวเบ่งบาน กอบกุมด้วยมือ บีบเคล้นหนักบ้างเบาบ้างสลับกัน ครอบครองยอดถันทั้งสองข้างเต้าอย่างเท่าเทียม

เอกบุรีก็ทำงานแข็งขัน ละเลงลิ้นแพรวพราวอยู่ตรงปากถ้ำ ประโลมเลียน้ำสวาทที่ไหลเอ่อไม่ขาดสาย สอดลิ้นกระหวัดเข้าไปภายใน ปาดซ้ายปาดขวาไปตามผนังถ้ำฉ่ำหวาน นิ้วมือใหญ่สะกิดเร็วๆ บนทับทิมสวาท เรียกเสียงครางครวญดังต่อเนื่อง เนื้อตัวเธอร้อนแล้วร้อนอีก ประหนึ่งอุณหภูมิในร่างกำลังถึงขีดสุด จวนเจียนจะระเบิดเต็มแก่

“โอ้วววว...วิเศษจัง...อืม...อา”

วันนี้อารมณ์สวาทดุจดารากระเจิดกระเจิง มากกว่าทุกครั้งที่มีชายหนุ่มกลัดมันแตะต้องกาย มันทำให้เธออยากให้ชายทั้งสามมีความสุขร่วมกันกับตน แค่คิด แค่จินตนาการ อารมณ์เธอก็พุ่งทะยาน ปรารถนาจะลองทำตามความคิดสักครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ