Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา

ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา

หลงเวลา

5.0
ความคิดเห็น
81.4K
ชม
46
บท

ซือลู่ชิง หนุ่มหล่อวัย 25 ปี ทายาทอันดับหนึ่งของตระกูลซือ เขาเย็นชา ทำตัวราวกับว่าไร้หัวใจ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะมาทอดสะพานให้เขาก็ไม่สน ปากบอกไม่แต่ในใจนั้นรัก ก็หัวใจเขามีเพียงน้องน้อยคนเดียว คู่หมั้นวัยเด็กที่เขาก็แสนจะเต็มอกเต็มใจยอมรับ แต่เพราะความปากหนัก ปากร้าย เลยเผลอพูดจาทำร้ายจิตใจของเด็กสาววัยใสไป ในวัยที่ตนเพิ่งจะย่างเข้าสู่วัยรุ่น ตั้งแต่วันนั้นมาเธอก็หันหลังให้กับเขาและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจนกลายเป็นซุปตาร์ตามรอยมารดา เธอเป็นของเขา และใครก็จะไม่มีวันได้เธอไป นอกจากเขาซือลู่ชิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ซูหนี่ว์ ซุปตาร์สาวคนสวยวัย 22 ปี ทายาทของอดีตซุปตาร์สาวชื่อดังของเมืองแอล คู่หมั้นวัยเด็กของคุณชายซือลู่ชิง หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งของเมืองแอลในยุคนี้ เธอรักและมอบหัวใจให้เขามาตั้งแต่ในวัยเด็ก วันแห่งความรักในวัยสิบสองปี เขาทำร้ายจิตใจเธออย่างใจร้ายด้วยคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดที่สุด และในวันนี้เธอต้องการจะเอาคืนตามคำแนะนำของพี่ลู่เหลียน น้องสาวฝาแฝดของซือลู่ชิงนั่นเอง เธอพยายามทำตัวร้ายๆด้วยการควงหนุ่มหล่อให้เป็นข่าว แต่เอ๊ะ! ทุกคนที่เธอควงมักจะหายไปหลังจากวันถัดมา มันเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่แน่ใจ หรือเธอไม่ดีพอที่จะให้ใครมาจริงใจด้วยกันนะ

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของสัญญาหมั้นหมาย

15 ปีก่อน

วันนี้เป็นวันที่สองครอบครัวตระกูลซือและตระกูลหลินนัดพบกันตามปกติเพราะอยู่เมืองเดียวกัน คุณนายซือกับอดีตซุปตาร์สาวเพื่อนสนิทอย่างหลินซือซือนั้นมักจะพาลูกๆ มารับประทานปิ้งย่างกันที่สวนภายในอาณาจักรของตระกูลซืออยู่เป็นประจำ ซือลู่ชิงนั้นคอยดูแลน้องๆ แทนมารดาที่กำลังยุ่งได้เป็นอย่างดี ด้วยวัยที่โตกว่าและความเป็นลูกผู้ชาย

“ลู่จื้อ อย่าวิ่งไปทั่วนะครับ เดี๋ยวแม่ถิงถิงเป็นห่วง” เสียงของเด็กชายวัยสิบขวบเอ่ยดังขึ้นขณะที่นั่งอยู่บนเสื่อกับอีกสองสาว ซือลู่เหลียนฝาแฝดผู้น้องอาสาลุกขึ้นไปดูแลน้องชายเอง บนเสื่อปิกนิกตอนนี้จึงมีเด็กชายวัยสิบขวบกับเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งอยู่ด้วยกัน

“น้องซูหนี่ว์ กำลังทำอะไรอยู่คะ” เสียงเด็กชายดัดเล็กและสุภาพยามคุยกับน้องสาวผมเปียผู้น่ารัก เด็กหญิงเงยหน้าหวานขึ้นมองพี่ชายก่อนที่จะยื่นกระดาษที่เธอเพิ่งจะวาดรูปเสร็จให้เขาดู

คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยขณะที่เพ่งมองไปยังรูปที่ดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจเอ่ยถามผู้เป็นคนวาดแทน

“น้องน้อยวาดรูปอะไรคะเนี่ย” เด็กหญิงฉีกยิ้มให้กับพี่ชายสุดหล่อก่อนที่จะอธิบายรูปภาพของคนสองคนที่ยืนจับมือกัน

“นี่พี่ลู่ชิง ส่วนคนนี้ซูหนี่ว์เองค่ะ” เด็กน้อยตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ซือลู่ชิง

“หืม.. นี่พี่หรอกหรอ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดล่ะคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก็ในรูปมันมีเพียงรูปเขาและรูปของสาวน้อยแล้ว น้องสาวฝาแฝดและน้องชายจอมซนของเขาไปไหนซะล่ะ

“ไม่มีค่ะ เพราะรูปนี้เป็นรูปที่พี่เป็นเจ้าบ่าว และซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาว” คำตอบของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบทำเอาเด็กชายวัยสิบขวบอ้าปากค้าง

“พี่เป็นเจ้าบ่าว น้องซูหนี่ว์เป็นเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอคะ”

ซือลู่ชิงเอ่ยถามออกมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด ถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งสิบขวบแต่เขานั้นมีอีคิวและไอคิวดีเลิศ เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของผู้ใหญ่ทำไมเขาจะไม่รู้ เพียงแต่เขาสงสัยว่าน้องน้อยตรงหน้านี้รู้ความหมายของมันหรือเปล่า

“ใช่ค่ะ ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิง ถ้าไม่ใช่พี่ลู่ชิง ซูหนี่ว์ก็ไม่ยืนกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้” น้ำเสียงจริงจังทำเอาเด็กชายแทบสะอึก

‘นี่น้องน้อยของเขาไม่ได้พูดเล่น หากแต่กำลังคิดแบบที่วาดจริงๆ หรอกหรือ’

“แล้วเรารู้หรือเปล่าว่าคนที่เขาจะแต่งงานกันได้เขาต้องรักกันมาก่อน”

เด็กชายค่อยๆ อธิบายให้น้องสาวตัวน้อยฟัง เด็กหญิงพยักหน้าราวกับรู้เรื่อง ซือลู่ชิงตกใจอ้าปากค้างไปอีกรอบก่อนที่จะหันไปมองมารดากับน้าซือซือที่กำลังทำปิ้งย่างกันอยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ อีกด้านซือลู่เหลียนกับซือลู่จื้อก็กำลังวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน

“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอถามน้องน้อยหน่อยนะคะ ความรักที่น้องน้อยเข้าใจมันคืออะไรหรอ”

เด็กชายลองถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งว่าน้องน้อยของเขาเข้าใจเรื่องแบบนี้ผิดไป ถึงแม้ในใจของเขาจะรู้สึกคันยุบยิบแต่ด้วยวัยที่ยังไม่โตมากพอก็ทำให้เขารู้จัก

“ก็หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดด้วย รู้สึกมีความสุขแค่มองเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย เวลาไม่เห็นหน้าก็คิดถึง”

เด็กหญิงตัวน้อยวัยเจ็ดขวบพยายามที่จะไล่เรียงความคิดและความรู้สึกที่เกี่ยวกับความรักออกมาให้พี่ชายสุดหล่อที่เธอนั้นคิดว่าเธอนั้นรักเขาให้ฟัง ซือลู่ชิงฟังไปใจเต้นไป เธอยังเด็ก แต่ทำไมเธอถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ดีนัก

“แก่แดด”

เด็กชายเอ่ยออกมาเสียงเบาโดยที่เด็กสาวไม่ได้ยิน

“พี่ลู่ชิงคะ ถ้าพี่โตและซูหนี่ว์โตแล้ว เรามายืนข้างกันแบบนี้นะคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาพร้อมทั้งกะพริบตาปริบๆ เขาได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับเธอ ตอนนี้เธอยังเด็กอาจจะเข้าใจเรื่องความรักแบบผิดๆ เธออาจจะรักเขาแบบพี่ชายก็ได้

“ได้สิ โตมาแล้วห้ามเปลี่ยนใจไปจากพี่ก็แล้วกัน”

ซือลู่ชิงตัดสินใจเอ่ยออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้น้องน้อย ราวกับว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องจริงจังอะไร หากแต่มารดาของทั้งคู่กลับมาได้ยินเข้าพอดี เด็กหญิงเลยบอกมารดาของเธอทันที

“แม่ซือซือคะ พี่ลู่ชิงจะแต่งงานกับซูหนี่ว์ค่ะ” คุณแม่ทั้งสองหันไปมองหน้ากันก่อนที่จะยิ้มแหยๆ ออกมา

“จริงหรือครับน้องลู่ชิง ไม่ได้โกหกน้องน้อยใช่ไหม” ซือซือเอ่ยถามบุตรชายของเพื่อนรัก

“จริงครับ ถ้าน้องไม่เปลี่ยนไปใจไปจากผมเสียก่อน ผมก็ไม่ขัดข้องอะไร”

ซือลู่ชิงตอบออกมาตามที่ใจคิด ก็แค่เรื่องของเด็กๆ พวกผู้ใหญ่คงจะไม่ได้คิดจริงจังอะไร และเมื่อแม่น้องน้อยเติบโตเป็นสาว เธอก็ต้องมองหาผู้ชายคนใหม่เข้ามาในชีวิตอยู่ดี หากแต่ซือลู่ชิงนั้นคิดผิด ซูหนี่ว์นั้นดีใจจนร้องไชโยออกมา ทั้งซือซือและถิงถิงได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างหนักใจ

ตกเย็นทั้งสองครอบครัวก็มานั่งล้อมวงรับประทานปิ้งย่างกันที่สวน ซือลู่เหลียนและซือลู่จื้อที่วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยก็พากันหิวโหยจนถิงถิงอดที่จะเอ็นดูลูกๆ ไม่ได้ เธอจัดแจงตักเนื้อย่างใส่จานให้ซือลู่จื้อที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบ ส่วนสองแฝดนั้นดูแลตนเองได้แล้ว เธอจึงไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก

พอรับประทานปิ้งย่างกันจนอิ่ม ซือซือก็เอ่ยแซวซือมู่อันเรื่องที่ซือลู่ชิงยินยอมที่จะแต่งงานกับซูหนี่ว์เมื่อเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ บิดาทั้งสองฝ่ายถึงกับหันมามองหน้ากันอย่างตกใจ เด็กวัยเพียงสิบขวบกับเจ็ดขวบถึงขั้นพูดคุยเรื่องแต่งงานกันแล้วหรือนี่

“ซูหนี่ว์ หนูอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงจริงๆ หรอลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามบุตรสาวของเพื่อนสนิทถิงถิง

“ใช่ค่ะคุณลุง ซูหนี่ว์รักพี่ชาย และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของพี่ชาย เวลาที่ซูหนี่ว์ไม่เห็นหน้าพี่ชาย ซูหนี่ว์ก็รู้สึกคิดถึง ซูหนี่ว์อยากเป็นเจ้าสาวของพี่ลู่ชิงค่ะ”

คำตอบของเด็กหญิงทำเอาคนเป็นบิดามารดาถึงกับอ้าปากค้าง ซือซือนึกถึงละครที่เธอเคยแสดงขึ้นมาทันที หรือว่าซูหนี่ว์บุตรสาวของเธอจะเลียนแบบมาจากละคร ที่พระนางหมั้นหมายกันไว้ต้งแต่เด็ก พอโตมาจึงตกลงปลงใจแต่งงานกัน ซุปตาร์สาวส่งยิ้มแหยๆ ให้กับสามี เขาก็น่าจะพอดูออกเหมือนกันว่าบุตรสาวได้ความคิดแบบนี้มาจากที่ใด

“แล้วลู่ชิง อยากจะแต่งงานกับน้องน้อยไหมล่ะลูก” ซือมู่อันเอ่ยถามความเห็นของบุตรชายบ้าง

“ผมบอกแม่ไปแล้วครับ ว่าถ้าโตมาแล้วน้องไม่เปลี่ยนใจไปจากผม ผมก็ยินดีที่จะแต่งงานกับเธอ”

คำตอบที่ไม่ปฏิเสธของเด็กชายวัยสิบขวบทำเอาผู้ใหญ่ทุกคนในวงถึงกับตกใจ แต่ในเมื่อซือลู่ชิงไม่ปฏิเสธ ผู้เป็นบิดาอย่างซือมู่อันจึงได้ตัดสินใจเอ่ยปากออกมา

“เอาแบบนี้ ลุงขอจองน้องซูหนี่ว์ให้เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงไว้ก่อนดีไหมลูก พอหนูกับพี่ชายโตมาแล้วเราค่อยมาคุยกันอีกทีว่าหนูยังอยากจะแต่งงานกับพี่เขาอยู่ไหม”

ซือมู่อันเสนอขึ้น ถ้าเด็กทั้งสองจะลงเอยกันจริงๆ เขาก็ไม่ขัดข้อง เขาไม่เคยต้องการสะใภ้หรือบุตรเขยที่มาช่วยเรื่องธุรกิจ และเขาไม่เคยมองคนที่ฐานะ ขอแค่ลูกๆ รักใครชอบใคร คนเป็นพ่ออย่างเขาก็ต้องรักด้วยอย่างแน่นอน

“ดีค่ะ ต่อไปนี้ซูหนี่ว์เป็นคู่หมั้นของพี่ลู่ชิงแล้วใช่ไหมคะ”

เด็กหญิงเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ทั้งบิดามารดาของเธอต่างพากันปวดศีรษะให้กับความคิดที่เกินเด็กของบุตรสาวเพียงคนเดียว แต่นี่อาจจะเป็นเพราะซูหนี่ว์ยังเด็กก็เป็นได้ รอดูถ้าเธอเติบโตขึ้นมาความคิดที่จะแต่งงานกับซือลู่ชิงอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ ซูหนี่ว์มองไปที่ใบหน้าที่ส่อเค้าความหล่อของพี่ชายแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ ส่วนซือลู่ชิงก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับบิดามารดาพรางคิดอยู่ภายในใจว่านี่เขาตัดสินใจทำเรื่องบ้าอะไรลงไป

“คู่หมั้นคืออะไรหรอครับ”

ซือลู่จื้อในวัยห้าขวบเอ่ยถามขึ้นมาทันทีด้วยความอยากรู้

“ก็หมายถึงคนที่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วจะต้องได้แต่งงานกันยังไงล่ะคะ”

ผู้เป็นพี่สาวคนกลางตอบแทนผู้ใหญ่ทั้งสี่ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา เธอพอใจถ้าน้องซูหนี่ว์จะมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอในอนาคต เพราะเธอดูๆ แล้วพี่ชายฝาแฝดของเธอก็น่าจะพอใจในตัวน้องน้อยอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ยอมเล่นเกมผู้ใหญ่แบบนี้แน่ๆ

ผู้ใหญ่ทั้งสี่นั่งพูดคุยกันต่อที่ภายในสวน ซือมู่อันนั้นนั่งดื่มและพูดคุยกับหลินเจียอีเรื่องอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นวิศวกรมือหนึ่งของเมืองแอล ส่วนภรรยาของทั้งสองก็นั่งพูดคุยถึงเรื่องราววัยสาว สมัยที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เสียงหัวเราะจากสองสาวดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ซือลู่จื้อเริ่มที่จะง่วงนอน พี่สาวแสนดีอย่างซือลู่เหลียนจึงอาสาพาน้องชายไปอาบน้ำและส่งเข้านอน เธอทำหน้าที่แทนมารดาได้เป็นอย่างดี และดูน้องชายตัวน้อยจะเปลี่ยนจากที่ติดมารดามาเป็นพี่สาวคนสวยแทน

ซือลู่ชิงที่นั่งมองเด็กหญิงตัวน้อยที่กลายมาเป็นว่าที่คู่หมั้นในวัยเด็กของเขาวาดรูปในไอแพดอยู่สักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงนอนเช่นกัน พอผู้ใหญ่เห็นว่าเด็กๆ เริ่มที่จะไม่ไหวกันแล้วจึงตกลงแยกย้ายกันโดยที่ไม่ลืมสัญญาที่ให้กันไว้ว่า ถ้าหากซูหนี่ว์และซือลู่ชิงโตขึ้นแล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังไม่เปลี่ยนใจไปมีคนอื่น เด็กทั้งคู่ก็จะยังเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันอยู่ และในเมื่อไม่มีใครคัดค้านสัญญาเรื่องนี้จึงเป็นสัญญาที่สมบูรณ์โดยรับรู้กันทั้งสองครอบครัว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลงเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

คำสาปรักท่านชายแวมไพร์

คำสาปรักท่านชายแวมไพร์

Minseoltang
5.0

'เจ้าเป็นว่าที่ชายาของข้า จะต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง หรือต้องให้ข้าเสกทายาทเข้าท้องเสียก่อน’ ใครจะไปคิด ว่าการบังเอิญไปเก็บดอกไม้ที่ใครบางคนเผลอทำตกเอาไว้จะมีแวมไพร์มา 'จองรัก' จองผลาญไปตลอดกาล หากกล่าวถึงกุหลาบ หลายคนอาจนึกถึงเรื่องราวโรแมนติกประหนึ่งนิยายหวานซึ้งเพียงเท่านั้น แต่สำหรับหญิงสาวอย่าง ลินิน การได้มาพบกุหลาบดอกหนึ่งเข้าโดยบังเอิญกลับทำให้ชีวิตของเธอพลิกผันไปตลอดกาล เมื่อมันนำพาเธอไปพานพบกับเจย์เดน แวมไพร์ ที่มีอยู่มานานหลายศตวรรษ นอกจากนี้ เขายังหวงของรักมากเสียด้วยสิ แต่การมาของเขานั้นก็นำคำสาปรักมาสู่เธอด้วย

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ยัยคู่หมั้นตัวร้าย ของคุณชายเย็นชา
1

บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของสัญญาหมั้นหมาย

22/06/2022

2

บทที่ 2 จุดเปลี่ยนของหลินซูหนี่ว์

22/06/2022

3

บทที่ 3 นักแสดงนำหญิงยอดนิยม

22/06/2022

4

บทที่ 4 เผชิญหน้า

22/06/2022

5

บทที่ 5 พี่ชายขี้หวง

22/06/2022

6

บทที่ 6 คู่แข่งตั้งแต่วัยเด็ก

22/06/2022

7

บทที่ 7 เด็กดื้อไม่รักษาคำพูด

22/06/2022

8

บทที่ 8 แสดงตัว

22/06/2022

9

บทที่ 9 หุ้ยหรูหรู

22/06/2022

10

บทที่ 10 มาเยี่ยมหรือมาป่วน

22/06/2022

11

บทที่ 11 อยากจะหมั้นกันอยู่ไหม

22/06/2022

12

บทที่ 12 ไม่มีวันเปลี่ยนใจ

22/06/2022

13

บทที่ 13 เอะอะก็เอาแต่จูบ

22/06/2022

14

บทที่ 14 อนุญาตให้น้องสาวมีแฟน

22/06/2022

15

บทที่ 15 แผนของหลินซูหนี่ว์

22/06/2022

16

บทที่ 16 แผนที่ดูเหมือนจะได้ผล

22/06/2022

17

บทที่ 17 สงสัย

23/06/2022

18

บทที่ 18 แผนแตกเพราะเพื่อนเมา

23/06/2022

19

บทที่ 19 บอกความในใจแบบฉบับคนเย็นชา(ครั้งแรก)

25/06/2022

20

บทที่ 20 รู้หรือยังว่าพี่รู้สึกกับเธอแบบไหน(ครั้งที่สอง)

25/06/2022

21

บทที่ 21 ไม่เคย...แล้วทำเป็นด้วยหรือ

26/06/2022

22

บทที่ 22 การพบปะในวันสำคัญ

28/06/2022

23

บทที่ 23 ดินเนอร์มื้อแรกในฐานะคู่หมั้นอย่างเป็นทางการ

30/06/2022

24

บทที่ 24 อาหารคาวเสร็จก็ต้องตามด้วยอาหารหวาน

30/06/2022

25

บทที่ 25 ของหวานที่ไม่ได้แปลว่าขนม

30/06/2022

26

บทที่ 26 เยี่ยมเยือนคู่แข่งทางธุรกิจ

02/07/2022

27

บทที่ 27 ทำความสะอาดก่อนที่เมืองแอลจะสกปรกไปมากกว่านี้

03/07/2022

28

บทที่ 28 ตามติดชีวิตคู่หมั้น

06/07/2022

29

บทที่ 29 เอาความคิดถึงมาฝาก

08/07/2022

30

บทที่ 30 ความคิดถึงที่ทำให้...ขาสั่น

09/07/2022

31

บทที่ 31 ง้อคนเย็นชาแถมขี้งอน

11/07/2022

32

บทที่ 32 คนเย็นชาอยากแต่งงานแต่ไม่เอ่ยปากขอแต่งงาน

13/07/2022

33

บทที่ 33 แผนการที่บังเอิญล่วงรู้

14/07/2022

34

บทที่ 34 โดนวางยา

15/07/2022

35

บทที่ 35 บทลงโทษที่ต้องจดจำไปจนวันตาย

15/07/2022

36

บทที่ 36 บทเรียนที่เธอควรจะได้รับเช่นกัน

22/07/2022

37

บทที่ 37 มีคนสมหวังก็ย่อมมีคนผิดหวัง

26/07/2022

38

บทที่ 38 งานแต่งงานสายฟ้าแลบ

27/07/2022

39

บทที่ 39 ท้องนี้ได้ฝาแฝด

28/07/2022

40

บทที่ 40 บทบาทใหม่ในฐานะพ่อกับแม่

30/07/2022