Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ

คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ

พันสิงห์

5.0
ความคิดเห็น
2.5K
ชม
21
บท

คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ ประกอบด้วยนิยาย 6 เรื่องดังนี้ 1. อุ้มรักทายาทท่านประธาน 2. หื่นกว่านี้ก็พี่ไง 3. พี่ขาอย่าหื่น 4. ค่ำคืนนี้มีแต่หื่น 5. คืนนี้มีเสียว 6. คืนนี้วาบหวามซาบซ่านหัวใจ

บทที่ 1 1

อุ้มรักทายาทท่านประธาน เล่ม 1

วันเผด็จทอดสายตามองเลขาคนสวยของมารดาแล้วต้องแตะลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ

เจ้าหล่อนอวบอัดน่าจับขย่มบนเตียงเสียนี่กระไร ในความคิดของเจ้านายหนุ่มเธอเหมือนอาหารหวาน หรืออาหารจานโปรดที่เขาอยากเคี้ยวกินเสียให้อร่อยลิ้น

วันเผด็จ ราชกร หนุ่มหล่อวัยยี่สิบเจ็ด เขาเพิ่งจบการศึกษาจากต่างประเทศมาหมาดๆ ควบตำแหน่งทายาทเจ้าของกิจการอสังหาผู้ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ

จะหาเลขาสาวสวยถูกใจนั้นไม่ยาก แต่เขาหมายตาเลขาของมารดาที่ทำงานเก่งและยิ้มเก่งไม่แพ้กัน จะว่าเธอทอดสายตาให้เขาก็ย่อมได้ หรือจะว่าเขาคิดเข้าข้างตัวเองก็ไม่ผิด

รูปหล่อพ่อรวย การศึกษาดี ย่อมมีสาวๆ หมายปองเป็นของธรรมดา

ถึงเขาจะดูเพลย์บอย แต่เขาก็อยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ โดยเฉพาะคนในครอบครัว เขาจึงต้องการเลขาคู่ใจที่ทำงานเก่ง ไปไหนมาไหนด้วยกันได้โดยไม่มีเรื่องหึงหวงจากแฟนหรือสามีของเจ้าหล่อน

วันเผด็จค่อนข้างเลือกคน เขาไม่ชอบคนมีอายุเพราะแรงกายแรงใจไม่เหมือนคนหนุ่มไฟแรง เพิ่งจบใหม่ก็ไร้ประสบการณ์ ดังนั้นอยากได้ที่มีประสบการณ์แต่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน เพราะเขาคิดว่าจะขยันและตั้งใจทำงานเพราะอยากพิสูจน์ฝีมือเช่นกัน

นอกจากการทำงานแล้ววันเผด็จก็คือเรื่องอื่นด้วยตามประสาผู้ชายเจ้าสำราญ เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนแต่ก็เลือกสรรเป็นอย่างดี คบกันแล้วไม่ผูกมัด วินๆ กันทั้งคู่ แต่ก็ต้องพึงใจต่อกันด้วย การบังคับไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะเขาไม่ได้ไร้หญิงพึงเชยไม่มีใครเอา

การหอบเอาใบปริญญาและประสบการณ์การทำงานจากต่างประเทศทำให้บิดามารดาที่อยากปลดเกษียณตัวเอง มอบหน้าที่ให้ลูกชายคนเดียวอย่างวันเผด็จด้วยความยินดี

วันเผด็จอยากให้บิดามารดาพักผ่อนตามที่ท่านต้องการ

จริงๆ แล้วถ้าจะพูดให้ถูกคือ เลขาที่มารดาหวงแหนรักใคร่นั้นก็เป็นบุตรสาวของเพื่อนรักที่ท่านนั้นเอ็นดูให้มาทำงานด้วยกัน เพราะบิดามารดาของหล่อนได้เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน หล่อนจึงเหลือตัวคนเดียว

ก่อนที่ท่านจะส่งเลขาหน้ามนมาทำงานกับเขา ท่านก็พูดจาดักคอเอาไว้แล้วว่าดูแลกันดีๆ อย่าให้มีเรื่องอะไรไม่ดี ประโยคของมารดาและท่าทีหวงแหนของท่านทำให้เขายิ่งอยากที่จะทำความรู้จักกับเจ้าหล่อนให้มากขึ้นไปอีก

ดาหวัน ตะวันวาดเป็นชื่อของเลขาสาวคนสวย อายุอานามของเธอยี่สิบสามย่างยี่สิบสี่

เธอเรียนเก่งคว้าปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้ โดยจบการศึกษาในวัยเพียงยี่สิบเท่านั้น

หล่อนสวย ดูดี เสื้อผ้าหน้าผม เรือนร่างของหล่อนก็เป็นที่สะดุดตาสำหรับเขายิ่งนัก ยิ่งได้อยู่ใกล้เขาก็ยิ่งรู้สึกพอเศษกับเจ้าหล่อน

เนื้อตัวหอมสะอาด คำพูดคำจาแถมการทำงานยังดีเยี่ยม เขาจึงไม่สงสัยเลยว่าทำไมมารดาถึงได้รักใคร่บุตรสาวของเพื่อนรักเช่นนี้

ยิ่งมารดาหวงแหน เขายิ่งอยากชิดใกล้ อยากยัดเยียดตัวเองให้เธอ มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ มากมายแต่ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกปรารถนาได้เช่นเธอ

“ท่านประธานเมาแล้วนะคะ” ดาหวันเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่มอย่างห่วงใย วันนี้เขาเอาแต่เมามายเพราะเจรจางานกับลูกค้าไม่สำเร็จ เธอก็นึกเห็นใจเขาเพราะเขาจริงจังกับงานและอยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับ

“ผมอยากเมา อยากเมาให้ลืมความผิดหวังเสียใจ”

“เรื่องเล็กน้อยสำหรับการทำงานค่ะ ทำงานก็ต้องมีผิดพลาดหรือผิดหวังไม่สมหวังกันบ้าง” เธอปลอบเขาไปตามประสา

“คุณรำคาญคนเมาแบบผมเหรอ” เขาเอ่ยถาม เธอจึงรีบส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มให้เขาอย่างปลอบประโลม

เธอช่างเป็นคนดีในความคิดของเขา ไม่เคยถือสาหาความอะไรกับใคร มีน้ำใจกับคนอื่น ขนาดผู้ชายจีบยังไม่รู้

นี่แหละ! ขนาดผู้ชายจีบยังไม่รู้ ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย

วันเผด็จจับมือของเธอมากุมเอาไว้ เขานำมือน้อยๆ มาแนบกับใบหน้า บอกเลยว่ามือของเธอหอมมาก น่าจับ น่าจูบ น่าลูบ น่าคลำ

เธอไร้เดียงสาแบบนี้แหละ เขาถึงได้ตกหลุมรักเลขาสาวของตัวเอง หลังจากที่ทำงานด้วยกันมาพักใหญ่

วันเผด็จมองสองเต้าเต่งตึงที่ดันเสื้อสูทที่เธอสวมใส่อยู่นั้นอย่างหักห้ามใจไม่ไหว เขาไม่ได้คิดจะลามกกับเธอเลย แต่เขาคิดอยากจะลากเธอขึ้นเตียงเสียตอนนี้เลย

ในหัวสมองของเขาคิดเรื่องเซ็กซ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขายอมรับกับตัวเองว่าพิศวาสเธอเป็นที่สุด

เขาว่าผู้ชายทุกคนก็ย่อมคิดเรื่องเซ็กซ์เป็นธรรมดา เขากะขนาดสองเต้าทรวงของเธอไม่กว่าสามสิบหกนิ้ว และมันก็อวบอัดจนเขาอยากขยำเคล้นคลึงเสียเหลือเกินแล้วในตอนนี้

รสนิยมของเขาไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไปคือชอบของใหญ่และอวบอัด

ปากของเขาอยากจะดูดรวบกอดรัดและขยำให้มันมือไปเลยหากได้สัมผัสแตะต้องทรวงอกอวบอิ่มของเจ้าหล่อน

“คุณรู้ไหมว่าคุณน่ารักมากนะ มีน้ำใจแล้วก็ทำให้ผมรู้สึกมีแรงกายแรงใจในการทำงาน” คนเมาพร่ำเพ้อออกมา ทำให้ดาหวันยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก

หุ่นของเธอเท่ทันสมัยดูดีแล้วยังน่าฟัดอีกด้วย วันเผด็จแอบไล้สะโพกผายของเธอเบาๆ เมื่อไม่ได้รับการปฏิเสธอันใด เขาก็ขยับเข้าไปใกล้

เขาคิดว่าหนุ่มๆ ในบริษัทไม่ว่าจะใครๆ ก็อยากลิ้มรสของเจ้าหล่อน ผู้หญิงน่ารัก อ่อนเดียงสา ทำงานเก่งแต่ไม่คิดเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แบบหล่อนทำให้ดูมีเสน่ห์เสียยิ่งกว่าอะไร

เขาอยากจะลิ้มรสอาหารหวานอันโอชะอย่างหล่อนเช่นกัน

“ผมบอกคุณแม่แล้วนะครับว่าจะดูแลคุณอย่างดี”

“ดาเป็นเลขาของท่านประธาน ก็ต้องดูแลท่านประธานสิคะ จะให้ท่านประธานมาดูแลดาได้ยังไงกัน” เธอบอกเขายิ้มๆ

ความน่ารักอ่อนหวานและมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขาเผลอยกมือขึ้นจับแก้มสาวของเธอเบาๆ

“อุ๊ย! สงสัยท่านประธานจะเมาแล้วค่ะ” เธออุทานเบาๆ เมื่อเขาสัมผัสแก้มของเธอ

“ก็น่าจะเมาแหละครับ ดื่มเข้าไปเยอะ” เขาไม่ได้บอกเธอหรอกว่าลูกค้าพึงพอใจกับงานที่เขาเสนอแค่ไหน แต่บอกเธอไปว่าลูกค้าปฏิเสธ

คืนนี้เขาได้กินเธอเมื่อไหร่ ค่อยบอกว่าลูกค้าเปลี่ยนใจชอบงานที่เสนอไปก็ยังไม่สายจนเกินไป

เขาบอกตัวเองเลยว่า เขาตั้งใจที่จะกินเธอให้สำเร็จในค่ำคืนนี้ จึงพาเธอมาที่คอนโดฯ ส่วนตัว และแกล้งเมามายไม่ได้สติแบบนี้

ยอมรับว่าแผนการมันช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน แต่ในเมื่อเธอไม่ได้ปฏิเสธที่จะมากับเขา แล้วเหตุไฉนเขาต้องปล่อยเธอไปด้วย

“ท่านประธานควรจะพักผ่อนได้แล้วนะคะ”

“คุณจะกลับแล้วเหรอ” เขาเอ่ยถามเธอ

“ท่านประธานมีอะไรจะเรียกใช้อีกไหมคะ” เธอไม่ได้รีบกลับเพราะนึกเป็นห่วงเขาอยู่มาก

“ถ้าผมอยากให้คุณอยู่ต่อ คุณก็จะอยู่ใช่ไหม”

“ได้สิคะ ดายินดีอยู่ดูแลท่านประธานค่ะ”

น้ำเสียงนุ่มนวลของหล่อนทำให้วันเผด็จกระหยิ่มในใจขึ้นมาทันที

วันนี้เขาจะติววิชาสวาทให้กับเลขาสาวคนสวยอย่างชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อกายแนบกายกันเลยทีเดียว

เธอเก่งกาจเรื่องงาน เขาก็อยากให้เธอเก่งกาจเรื่องบนเตียงด้วยเช่นกัน

“คุณดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ” เขายกแก้วเหล้ายื่นมาตรงหน้าของเธอ

“จะดีเหรอคะ”

“ทำไมล่ะ หรือคุณรังเกียจผม”

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ดาแค่คิดว่าถ้าเมาแล้วจะขับรถกลับบ้านไม่ไหวน่ะค่ะ” เธอขับรถมาส่งเขา เพราะว่ารถของเขาดันเสีย เขาเสียใจจนเมา เธอก็นั่งเป็นเพื่อน คอยดูแลเขา พยายามห้ามปรามไม่ให้เขาดื่มเข้าไปเยอะ

“ถ้าคุณเมาก็นอนค้างที่คอนโดฯ ผมก็ได้ ผมนอนข้างนอกเอง คุณนอนในห้อง แต่ถ้าคุณไม่สะดวก อึดอัดใจ และรังเกียจไม่อยากดื่มกับผมก็ไม่เป็นไร” เขายังพูดต่อ

“ไม่ได้รังเกียจเลยค่ะ แต่ดาดื่มไม่ค่อยเก่ง อาจจะดื่มได้ไม่มากนะคะ” เธอแบ่งรับแบ่งสู้ไม่อยากให้เขาอยู่คนเดียว อาจเพราะว่ามารดาของเขามีบุญคุณกับเธอค่อนข้างมาก

เขาชนแก้วกับเธอแก้วแล้วแก้วเล่า คะยั้นคะยอให้เธอดื่มอย่างมีแผนการ ไม่ว่าเช่นไรในค่ำคืนนี้เขาก็ต้องได้เธอ เขาค่อยๆ โอบกอดเธอเอาไว้ ดาหวันพยายามถอยหนี เขาก็รีบรั้งเธอเอาไว้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พันสิงห์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คลั่งรักสามีเถื่อน

คลั่งรักสามีเถื่อน

โรแมนติก

5.0

ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”

คลั่งรักเมียทาส

คลั่งรักเมียทาส

โรแมนติก

5.0

โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน

อ้อมกอดมาเฟียเถื่อน

อ้อมกอดมาเฟียเถื่อน

โรแมนติก

5.0

"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!

สามีท่านประธาน

สามีท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”

กลีบบัวแย้มสวาท

กลีบบัวแย้มสวาท

โรแมนติก

5.0

ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

วิวาห์สายฟ้าแลบ

วิวาห์สายฟ้าแลบ

กวินท์
5.0

เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ซีไซต์
5.0

เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ