Warning! เตือนแล้วนะ

Warning! เตือนแล้วนะ

Roypercent

4.7
ความคิดเห็น
741
ชม
11
บท

ฉันเผลอไปเหยียบเท้ารุ่นพี่ปีสี่ที่ขึ้นชื่อว่า ‘ขาโหดของคณะวิศวะ’ เข้าโดยบังเอิญ ก่อนที่พี่เขาจะหันมายิ้มพร้อมกับประโยคนิ่งๆแต่สิงไปด้วยไอสังหารว่า “เหยียบตีนพี่..อยากลองดีเหรอครับน้อง? :) ”

บทที่ 1 WARNING! Round 00 :: บทนำ

[หอเป็นยังไงบ้างลูก?]

เสียงของหญิงวัยกลางคนถามผ่านสายโทรศัพท์ซึ่งคนถือกำลังใช้มันแนบกับหูพร้อมกับใช้ไหล่หนีบเอาไว้กันมันร่วงลงพื้นอยู่ ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วมหาวิทยาลัยที่ตัวเองสอบเข้าได้ ก่อนจะเอ่ยตอบปลายสาย

“ก็โอเคค่ะแม่ หอสะอาดมากกกกก”

มือข้างหนึ่งของเธอถือกองหนังสือกองโตที่เพิ่งไปซื้อมาจากบรรณสาร ส่วนมืออีกข้างก็กำลังถือกระเป๋าสะพายพะรุงพะรังของตัวเอง

[อยู่ได้ใช่ไหมฟิล์ม?] คนในสายถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

เป็นธรรมดาที่คนเป็นแม่จะห่วงลูก ยิ่งเป็นลูกสาวคนเดียวที่ต้องออกไปเผชิญโลกอันโหดร้ายด้วยตัวเอง คนเป็นแม่ก็ยิ่งห่วงมากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

“อยู่ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวฟิล์มไปเรียนก่อนนะคะแม่ มันจะสายแล้ว” เธอรีบบอกอย่างว่องไวเมื่อสายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้อมือ

08 : 19 น.

หัวใจของสาววัยแรกแย้มกระหน่ำเต้นด้วยความรัวเร็ว เธอมีเรียนตอนแปดโมงยี่สิบ แต่นี่แปดโมงสิบเก้า แค่วิ่งไปได้ไม่ถึงสิบก้าวก็หมดเวลาแล้ว แถมตอนนี้ตึกเรียนอยู่ที่ไหนเธอยังไม่รู้แน่ชัดเลยด้วย

[โอเค ดูแลตัวเองด้วยนะลูก] เสียงปลายสายบอกทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดไป

สาวน้อยรีบยัดโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงกระเป๋าสะพายด้วยความเร็วแสง ก่อนที่เท้าจะติดสปริงแล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต เธอตายเพราะหายใจไม่ทันน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าวันแรกไปเรียนสายมีปัญหาแน่นอน

เพราะกฎของมหาวิทยาลัยที่นี่คือคะแนนความประพฤติหนึ่งร้อยคะแนนเต็ม ถ้ามีคะแนนสะสมน้อยกว่ายี่สิบคะแนนเตรียมโดนไล่ออกได้เลย!

เข้าเรียนสายก็โดนหักไปห้าสิบคะแนน!

“แฮ่กๆ!” เสียงหอบหายใจหนักหน่วงดังออกมาเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงสับฝีเท้าที่ดังตุบตับอยู่ตลอดเวลาก่อนที่จะหยุดวิ่งลงเมื่อถึงหน้าโรงอาหาร

ดวงตากลมโตกวาดมองไปยังตึกที่อยู่รอบๆ ตัว เธอเดินไปด้านหน้าสามก้าวพร้อมกับถอยหลังอีกสี่ก้าวก่อนจะหยิบช็อตโน้ตที่รุ่นพี่เขียนไว้ให้ขึ้นมาดู

‘เลี้ยวขวาหน้าโรงอาหาร มีต้นไม้ใหญ่อยู่หน้าตึกตรงข้ามกับโรงอาหาร เดินไปประมาณสามสิบก้าวจะเจอโต๊ะม้าหินอ่อน หมุนตัวสามร้อยหกสิบองศา เดินหน้าอีกร้อยก้าว ตรงหน้าจะเป็นตึก CL’

คิ้วเรียวขมวดมุ่นพลางมองไปยังโรงอาหารที่ตัวเองเดินมาถึง และถ้าจำไม่ผิด วันปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ รุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยบอกว่าโรงอาหารมีถึงสามโรง!

เธอเลี้ยวขวาตามที่รุ่นพี่เขียนโน้ตไว้ให้เผื่อจะโชคดีไปถูกทางก็เป็นได้ พอเลี้ยวมาได้ก็กวาดตามองต้นไม้ใหญ่ที่หน้าตึกก่อนจะมองลาดยาวไปอีกสามสี่ตึกถัดไป ต้นไม้ใหญ่ที่ว่ามีทุกตึกเลยนะ!

ร่างเล็กเริ่มถอนหายใจ เธอเริ่มมองรอบๆ ตัวอีกครั้ง โต๊ะม้าหินอ่อนที่ว่ามันมีกระจายอยู่แทบจะทุกตารางกิโลเมตรในมหาวิทยาลัย!

นี่รุ่นพี่เขียนอะไรให้เธอเนี่ย!!!

เธอเดินถอยหลังอย่างเหนื่อยหน่าย

กึก!

ก่อนที่รองเท้าจะเหยียบลงบนอะไรแข็งแต่ทว่ามันกลับยืดหยุ่นจนรู้สึกได้ เธอหันกลับไปอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ปรากฏตรงหน้าคือแผงอกล่ำกำยำในแบบชายฉกรรจ์ ส่วนอย่างที่สองเธอเลือกที่จะก้มลงมองพื้น เท้าของคนตรงหน้าถูกเธอเหยียบเอาไว้ ร่างเล็กรีบผละออกมาด้วยความรวดเร็ว

เท้าของคนตรงหน้าแดงเถือกเนื่องจากถูกเธอเหยียบเข้าอย่างจัง แถมเขายังใส่รองเท้าแตะแบบหนีบ!

โอ้พระเจ้า!

“ขะ..ขอโทษค่ะ ขอโทษ” เธอรีบพนมมือไหว้คนตรงหน้าทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง

รอยยิ้มพิฆาตถูกสาดใส่จนเธอแทบจะยืนทรงตัวไม่ไหวเนื่องจากถูกเสน่ห์ของคนตรงหน้าเล่นงาน

“เหยียบตีนพี่..อยากลองดีเหรอครับน้อง? :)”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Roypercent

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

เมียเด็ก Honey (I hate you)

เมียเด็ก Honey (I hate you)

ลำเจียก
5.0

เกริ่น.... ....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~ ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว ผม: เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า ...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ !! ผมกดท่อนเอ็นเข้าไปที่ช่องเสียวสีชมพูชวนหลงไหลนั้น กึด~ “อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ “เชี้ย...เลือด !!” ผมมองหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอนอนน้ำตาคลอ ตัวสั่นไปหมด "อยากได้เท่าไหร่...แลกกับเซ็กส์ครั้งนี้" เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้น "กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง"

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ