ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight]

ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight]

สนพ. อิ่มรัก

5.0
ความคิดเห็น
73.3K
ชม
132
บท

ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight] ------------------------------------------------ ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ ได้แรงบันดาลใจจากคนกลุ่มหนึ่งในเมืองหลวงอันแสนจะทันสมัย เจริญด้วยสรรพสิ่งรอบด้าน และคนกลุ่มหนึ่งที่ประกาศให้สังคมรับรู้ว่าได้พลีกายใจให้กับงานด้านสังคมสงเคราะห์ ซึ่งถือเป็นเปลือกนอกที่สวยงาม เป็นที่น่าชื่นชมแกผู้พบเห็น แต่น้อยคนนักที่จะมองถึงแก่นแท้ภายใจว่าแอบซุกซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง บางคนหวังจะได้ชื่อเสียงอันเลื่องลือตามติดมา บางคนหวังให้ได้ผลประโยชน์ทางอ้อมทางธุรกิจ บางคนหวังส่งตัวเองให้ขยับสูงขึ้นอีกชั้น อีกชั้น และอีกชั้น หรือถ้ามีก็น้อยคนนักที่จะกล้าป่าวประกาศให้คนเหล่านี้ได้รู้ แต่กลับทำเป็นเมิน ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเป็นไม่สนใจในความทุเรศทุรังของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่นี้ อาทิตยา พุทธิรักษุ์ ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวด้วย และพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากผู้คนในสังคมนี้ ทุกวิถีทาง แต่ก็ไปไม่รอด หลีกหนีไม่ได้ เมื่อมีบ่วงบุญคุณเข้ามาค้ำคออยู่ หญิงสาวได้แต่บอกับตัวเองว่าจะหันหลังให้คนกลุ่มนี้เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมจริงๆ เท่านั้น ทว่ากลับทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ เมื่อมีบ่วงอย่างเช่น จิณณวัตร วัชราเวโรจน์ บุตรชายคนโตของเจ้านายที่เป็นหนึ่งในหลายคนของสังคมไฮโซจอมปลอมนี้ และเขาจะเป็นบ่วงเป็นโซ่ล่ามเธอไว้ให้ติดแหงกอยู่ในที่ๆ เธออยากหลีกหนีหรือไม่ และเธอจะลบเลี่ยงหรือถอนตัวออกจากวังวนบุญคุณได้ได้ยังไง เพราะอะไรเธอจึงต้องหนี เพราะอะไรเขาจึงต้องอยากล่ามเธอไว้ เธอจะหนีไปได้ยังไง ด้วยเหตุผลกลใด เขาจะต้องทำยังไง จะต้องใช้อะไรเพื่อจะเก็บเธอไว้ให้ได้อยู่ข้างกายตลอดกาล คำตอบทั้งหมดมีใน ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ เล่มนี้ที่ผ่านผู้อ่านถืออยู่ในมือแล้วค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ สำหรับกำลังใจที่มีให้ ‘กันเกรา’ ด้วยดีเสมอมาและจะตลอดไป สัญญาค่ะว่าจะใช้มันสมองและสองมือกลั่นกรองผลงานดีๆ ออกมาให้ท่านได้ติดตามต่อไปค่ะ แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้

บทที่ 1 1

ตอนที่ 1 คู่ปรับเก่า

“ต๊าย!!! มันอะไรกันแม่ผ่อน นี่สายโด่งเด่งจนป่านนี้แล้ว แม่เลขาทูนเกล้าของฉันยังไม่ตื่นอีกเหรอ ให้ใครก็ได้ขึ้นไปปลุกเดี๋ยวนี้ แล้วบอกหล่อนด้วยว่าฉันจ้างมาทำงานไม่ใช่จ้างมานอนตื่นสายๆ แข่งกับเจ้านาย โอ๊ย!!! มันอะไรนักหนานะคนทุกวันนี้”

แม่ครัวใหญ่นามว่า ‘ผ่อน’ ต้องรีบพาผิวกายดำปี๋เดินแบกน้ำหนักเกือบแปดสิบกิโลกรัมของตัวเองเข้าครัวเพื่อบอกเด็กรับใช้อีกคนอย่างเร่งด่วน ให้วิ่งขึ้นไปปลุกเลขาคนที่สามในรอบสี่เดือนของเจ้านาย ทำเอาคนถูกปลุกหัวเสียไม่น้อย แต่ก็จำต้องรีบลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วรีบลงมาชั้นล่างด้วยใบหน้าบึ้งตึง เพราะไม่สบอารมณ์นัก

“ว่าไงยะหล่อน! จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน! งานการไม่ลุกขึ้นมาทำ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้หล่อนจะต้องทำอะไรบ้าง ฉันจ้างหล่อนไม่ใช่น้อยๆ นะ กรุณาทำงานให้คุ้มค่าเงินฉันด้วย”

ชมจันทร์ วัชราเวโรจน์ ยืนเท้าสะเอวด่าด้วยใบหน้าบึ้งตึงกว่า และไม่สบอารมณ์กว่า อรนภาทนไม่ได้ต้องเถียงกลับทันที

“คุณผู้หญิงคะ อรเพิ่งจะได้นอนตอนตีสี่เองนะคะ และนี่ก็เพิ่งจะเก้าโมงเท่านั้น จะให้รีบตื่นไปไหนคะ”

“อย่าริมาเถียงฉันนะ บอกไม่จำ! ว่าถ้ารักจะอยู่ด้วยกันยืดๆ หุบปากของหล่อนแล้วก็รีบไปทำงานตามที่ฉันสั่งไว้ตั้งแต่เมื่อวานด้วย ไปสิ จะมัวมายืนเสนอหน้าอยู่ทำไม”

ผู้เป็นเลขาอยากจะอ้าปากเถียงอีกยก แต่ก็คิดได้ว่าเปล่าประโยชน์ จึงเดินเข้าห้องทำงานด้วยท่าทีสงบ ผิดกับผู้เป็นเจ้านายที่หัวเสียไม่หายเพราะไม่ชอบให้ใครมาเถียงแม้แต่คำเดียว

หรือแอะเดียวก็ยอมไม่ได้ แต่ที่ยอมๆ อยู่ทุกวันนี้ก็เพราะตระหนักดีว่า กว่าจะหาคนให้ตรงกับงานได้นั้นยากและใช้เวลาไม่น้อย ทว่าก็ไม่วายบ่น

“นี่มันกรรมเวรอะไรของฉันนักหนานะ ถึงต้องมารบรากับคนในบ้านตั้งแต่เช้าขนาดนี้ ไม่ได้เรื่อง ไม่เข้าท่า โอ๊ย!!! เบื่อๆ ๆ ๆ ๆ”

“เบื่ออะไรกันนักหนาครับคุณแม่! นี่ยังเช้าอยู่เลยนะครับ!”

ชมจันทร์และคนในบ้านต่างงวยงงไม่แพ้กันกับเจ้าของเสียงที่ดังเข้ามาในบ้านก่อนคนพูดจะโผล่มาให้เห็นด้วยซ้ำ และเมื่อร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเทา ตัวเสื้อพูดพาดไว้กับแขนแข็งแรง พร้อมส่งยิ้มกว้างให้เพียงเท่านั้น

“ตาจิณ!!! กลับตั้งแต่เมื่อไหร่! ทำไมไม่โทรบอกแม่จะส่งรถไปรับ แล้วมาได้ยังไง ทำไมไม่บอกล่วงหน้าบ้าง...”

“ใจเย็นๆ ครับคุณแม่ ผมตอบไม่ทันแล้วนะครับ”

จิณณวัตร วัชราเวโรจน์ เลิกคิ้วใส่แม่ด้วยใบหน้าเจือยิ้มก่อนจะทักท้วง

“งั้นก็ไม่ต้องตอบ แต่มาให้แม่กอดก่อนเร็ว”

สิ้นคำ คนเป็นแม่ก็พาร่างอรชรตรงไปอ้าแขนกอดลูกชายคนโตเสียเต็มรักด้วยความคิดถึง และคาดไม่ถึงว่าลูกจะโผล่มาแบบเซอไพรส์ตั้งแต่เช้าอย่างนี้

“ไปไหนกันหมดครับบ้านเงียบเชียว”

เมื่อแม่ละวงแขนออกแล้วเขาถึงได้มีเวลากวาดมองไปรอบบ้าน

“พ่อเราก็ไปทำงาน ยัยแอ๊ฟยังไม่ตื่น ตาเจกับยัยแอ๊นคงจะไปเรียนมั้ง ส่วนแม่ก็กำลังจะออกไปข้างนอก จะกลับอีกทีก็เย็นๆ แล้วต้องไปงานเลี้ยงอีก แซยิดคุณหญิงพรเพ็ญไงล่ะจำได้หรือเปล่า จิณไปกับแม่นะ จะได้มีเวลาคุยกัน แต่ตอนนี้สายมากแล้วแม่ไปอาบน้ำก่อน”

“ครับคุณแม่ ผมก็จะขอขึ้นไปงีบเหมือนกัน เพราะถ้าอยู่โน่นป่านนี้ผมคงหลับปุ๋ยแล้วล่ะครับ”

“งั้นไปเลย ห้องเราน่ะแม่ให้คนไปทำความสะอาดไว้ตลอดเวลา เหมือนรู้ว่าเราจะมาเลยล่ะ ว่าแต่ทำไมถึงมาแบบไม่บอกล่วงหน้าล่ะลูก แล้วทำไมถึงตัดสินใจปุบปับทั้งที่แม่ก็....”

ผ่อนได้แต่แหงนหน้ามองเจ้านายเดินโอบไหล่หนุ่มหล่อผิวขาว สูง ขณะเดินขึ้นไปตามบันไดไป ในที่สุด ‘คุณจิณ’ ก็กลับบ้านสักทีหลังจากไปเรียนอเมริกาตั้งแต่จบมัธยม พอจบก็ขอทำงานหาประสบการณ์อยู่อีก

“ป้าผ่อนไม่ไปหาคุณอรในห้องเหรอ”

‘แหม่ม’ เด็กรับใช้ในชุดกางเกงเอวยืด เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเขียวมรกต มีผ้ากันเปื้อนผูกเอวไว้ ยื่นนิ้วไปสะกิดแม่ครัวใหญ่ในเรื่องเพราะผ่อนสั่งไว้ให้เตือนถ้าเกิดลืมขึ้นมา เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญมาก

“เอ่อๆ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ป้ามัวดูคุณจิณเพลินไปหน่อย ก็ทั้งสูงทั้งหล่อ สงสัยสาวๆ คนจะเรียงคิวเข้ามาให้จีบแน่เชียว”

ผ่อนหันไปหาแหม่มแล้วเดินอุ้ยอ้ายตรงไปยังห้องทำงานประจำของเลขาคนที่สามของชมจันทร์ เพื่อเตือนให้ขึ้นไปเบิกเงินค่าอาหารมาให้

“ไม่เอาหรอกป้า คุณผู้หญิงอารมณ์ไม่ดีขนาดนั้นอรไม่ยุ่งด้วยหรอก” แต่กลับได้คำตอบอันไม่ชอบใจนัก

“อ้าว! ถ้าคุณอรไม่เบิกแล้วป้าจะเอาอะไรไปซื้อของล่ะค่ะ ทั้งของสดของแห้งหมดเกลี้ยงแล้วนะคะ ป้าเตือนคุณอรตั้งแต่เมื่อวานแล้วด้วย ถ้าไม่มีเงินวันนี้ก็จะไม่มีของมาทำขึ้นโต๊ะนะคะ”

ผ่อนให้เหตุผล แต่อีกคนกลับยักไหล่อย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญอะไร

“เอาไว้เย็นๆ รอคุณผู้หญิงอารมณ์ดีกว่านี้แล้วอรจะเบิกให้แล้วกันนะคะ ส่วนวันนี้คนในบ้านไม่อยู่สักคน ไม่ต้องทำของขึ้นโต๊ะนี่คะ”

ผ่อนทำหน้าไม่พอใจให้เห็นอย่างไม่เกรงใจเมื่อได้คำตอบแบบนี้

“แต่เวลาคุณผู้หญิงกลับมาเหนื่อยๆ ก็จะเรียกหาของบำรุง พวกรังนก ซุปไก่ หรือขนมน้ำแข็งพวกแปะก๊วย บ๊วยเกี๊ยะ หรือบัวลอยน้ำขิงพวกนี้เป็นประจำนะคะป้ารู้ดี ถ้าเรียกหาแล้วไม่มีให้จะเป็นเรื่องเปล่าๆ นะคะคุณอร ป้าน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่แม่ครัว แต่คุณอรต้องรับผิดชอบทั้งหมดนะคะ ลองคุณผู้หญิงได้เดือดขึ้นมาใครก็...”

“ป้าคะ!!! อรมีงานเยอะแยะกองเต็มโต๊ะเลยนะคะ และจะต้องรีบทำให้เสร็จก่อนออกไปจัดการเรื่องชุดให้คุณๆ ทั้งสองสำหรับงานเย็นนี้อีก ไม่มีเวลามาจำหรอกค่ะว่าคุณผู้หญิงจะทานอะไรเวลาเหนื่อยๆ อีกอย่างท่านไปงานเลี้ยงของกินเยอะแยะ คืนนี้คงไม่คิดจะเรียกหาหรอกมั้งคะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สนพ. อิ่มรัก

ข้อมูลเพิ่มเติม
เจ้าสาวแสงตะวัน [Affection of The Sun ]

เจ้าสาวแสงตะวัน [Affection of The Sun ]

สมัยใหม่

5.0

ชายหนุ่มผู้ที่วิ่งหนีข้อผูกมัด แต่ต้องมาเจอหญิงสาวที่สุดแสนธรรมดาผูกมัดและล่ามเขาไว้ในสถานะ'สามีที่ถูกต้องตามกฏหมาย' คราแรกรังเกียจนักหนา แต่เอาไปเอามากลับเป็นเขาที่วิ่งตามล่า&มัดเธอไว้กับเขาตลอดกาล ------------------------------ แสงตะวัน หนุ่มใหญ่วัยสามสิบหก เจ้าของฟาร์มแสงตะวัน ซึ่งเป็นฟาร์มม้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ผู้มากด้วยเงินทองและเสน่ห์ --------- เหมือนดาว สาวแสนสวย เปรี้ยว เฉี่ยวและน่ารัก ผู้มีมาดมั่น และไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ êตัวอย่างสักเล็กน้อย [น้ำจิ้ม] ê "ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่หย่า ผมแค่บอกว่าจะยืดเวลาหย่าไปอีกสามปี เพื่อเหมือนดาวจะได้พิสูจน์ให้ผมเห็นก่อนว่าสามารถดูแลอะไรต่อมิอะไรได้เอง ไม่ใช่เอาไปทำโดยไม่มีประสบการณ์ไม่นานเดี๋ยวก็เจ้ง หรือไม่ก็ขาดทุนเหมือนครั้งก่อนจนผมต้องเหนื่อยมาทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีก” แสงตะวันเลยอธิบายด้วยความใจเย็นอีกครั้งหลังจากทนายบอกไปในรอบแรก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีใครอยากเชื่อ “ถ้าถึงสามปีแล้วคุณเห็นว่าฉันยังไม่พร้อมเหมือนวันนี้ล่ะ”คนไม่ยอมใครเลยรีบยิงคำถามตรงๆ “คุณก็คงต้องไปฟ้องเอาแล้วล่ะ และผมขอแนะนำให้หาทนายเก่งๆ ไว้ด้วยนะ เพราะคุณสุทินฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แล้วค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาเบิกจากผมแม้แต่บาทเดียว” “ว่ายังไงล่ะ จะเอายังไงก็บอกมา คุณสุทินจะได้ทำข้อตกลงร่วมกันอีกรอบ” แสงตะวันไม่ใคร่จะแยแสนักว่าเด็กสาวตรงหน้าจะคิดยังไง เพราะรู้ดีว่าไม่อาจจะปล่อยทุกอย่างให้พังลงมาอีกรอบได้แน่ “ฉันจะไม่หย่าและจะทำงานที่นี่อย่างที่คุณต้องการ ถ้าคุณตกลงจะจัดงานแต่งงานระหว่างเราให้ทุกคนรอบข้างคุณและฉันรับรู้ ฉันจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านของคุณในฐานะภรรยาไม่ใช่ฐานะพนักงานธรรมดาๆ ทุกคนรอบข้างคุณจะต้องให้ความนับหน้าถือตาว่าฉันที่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆ กับคุณในทุกๆ เรื่อง พอครบสามปีหรืออาจจะช้าหรือเร็วกว่านั้นที่คุณเห็นว่าฉันมีความสามารถจะบริหารงานเองได้ เราถึงจะหย่ากัน” “ผมไม่ได้อยากมีเมีย และไม่คิดว่าจะมีด้วย โดยเฉพาะเมียเด็กที่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดด้วยซ้ำ” “ฉันเป็นเพียงภรรยาในนามของคุณเท่านั้น เราจะไม่เกี่ยวข้องกันใดๆ เหมือนที่เคยเป็นมา ยกเว้นให้คนรอบข้างรับรู้ และฉันเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ร่วมกับคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเหนือบรรดาคู่นอนของคุณเท่านั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ว่าอะไรในเรื่องนี้หรอก เพราะฉันเองก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน เราจะให้อิสระกันและกันในเรื่องนี้ คุณจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ฉันไม่สน และในทางเดียวกันคุณก็ต้องไม่สนด้วยว่าฉันจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ แฟร์ไหมคะวิธีนี้” “ทำไมผมต้องยอมด้วยล่ะ ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่อยากจะได้อำนาจบริหารคืนเหมือนคุณนี่”

สายธารรักซาตาน [โลลิคอน/กินเด็ก/ท้องแล้วหนี]

สายธารรักซาตาน [โลลิคอน/กินเด็ก/ท้องแล้วหนี]

มหาเศรษฐี

5.0

อสมา อิศรานุกล เขาและน้อง ๆ ทั้งสี่คน คือนันทินี นันทิตา และสรนันท์ต่างไม่มีใครลืมอดีตอันแสนขมขื่นจากน้ำมือพ่อได้ แม้ทั้งพ่อและแม่จะจากไปหลายปีแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอสมาซึ่งเป็นพี่คนโตและจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำนั้นไม่มีวันลืมเลย บวกกับที่ชีวิตคู่ของเขาต้องพบกับความล้มเหลว ด้วยตัวเขาเองเป็นคนทำลายลงอย่างไม่น่าให้อภัย จนภรรยาคือเจนนิเฟอร์ขอหย่าขาดมาเป็นสิบปีแล้ว และหนีกลับไปอยู่อเมริกาตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ยังเฝ้าตามง้องอนขอคืนดีกับเธอและขอโอกาสแก้ตัวกับเธอมาตลอดเช่นกัน ------------------------------- ปาลิตา พฤกษาชาติ นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน ------------------------------------- แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ไฟล้อมน้ำ [Alternative Bride]

ไฟล้อมน้ำ [Alternative Bride]

สมัยใหม่

5.0

พลาธิป ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดาส่วนปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา ---------------------------------- พลาธิป พงษ์พันธุ์สถาพร ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดา ศรีสวัสดิ์วัฒนา ที่สลัดเขาทิ้งอย่างไม่เสียดาย แล้วหันหน้าเข้าสู่ประตูวิวาห์กับเพื่อนรักของเขา ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ที่ว่า ‘เขามีพ่อที่เจ้าชู้ หลายลูกหลายเมีย ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เขาได้เลือดแย่ๆ จากพ่อมาด้วยล้านเปอร์เซ็น และโอกาสที่เขาจะทำให้คนรักต้องกลายเป็นเมียหลวงมีมากมายจนอาจจะทำให้ชีวิตครอบครัวพินพังลง’ นั่นทำให้เขาไม่เข้าใจ ขุ่นเคืองใจ และแค้นเคืองแฟนสาว กับเพื่อนสนิทที่พิชิตใจหญิงคนรักของเขาไปได้ในเวลาอันเฉียดฉิว ก่อนที่เขาจะคว้าชัยชนะได้ไม่กี่อึดใจ ปราณปริยาวดี ศรีสวัสดิ์วัฒนา ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา และทันทีที่คิดได้ เขารีบส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอและแต่งงงานด้วยทันที ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคาดหวังจะให้คนรัก ถูกหยิบยื่นให้ปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นลูกเมียน้อยและเป็นผู้หญิงที่อดีตคนรักของเขาเกลียดชังมาก นั่นทำให้เขาสะใจที่ได้เห็นอดีตแฟนเต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความเสียดายที่สลัดคนอย่างเขาไป แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดที่ดึงเธอเข้ามาในชีวิต เพราะจากเดิมที่เขาเกลียดลูกเมียน้อยเข้าไส้ กลับกลายเป็นว่าเขาเผลอใจรักเธอเข้าเต็มๆ หากก็ยังปากหนักปากแข็งอยู่นั่นเอง ปรานปริยากรเองก็ไม่คิดจะมอบหัวใจให้เขาง่ายๆ ทั้งสองจะลงเอยกันด้วยดีได้หรือไม่ เพราะอะไร เพราะใคร และทำไม ‘ไฟล้อมน้ำ’ มีคำตอบรอให้ท่านค้นหาแล้ว แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้ ด้วยรักและมิตรไมตรี / กันเกรา ---------------------------------- “ถ้าคุณเสียดายมันมาก ฉันจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ปล่อย!!! ฉันจะกลับไปนอนบ้าน คุณพร้อมเมื่อไหร่นัดวันหย่ามาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ” “คิดเหรอว่าผมจะอยากได้เงินคืน แล้วคิดเหรอว่าผมจะปล่อยคุณให้ไปออเซาะกับไอ้มือระนาดนั่นได้ง่ายๆ แล้วคิดเหรอว่าคืนนี้ผมจะปล่อยให้คุณก้าวออกจากห้องนี้ได้ง่ายๆ โดยที่ผมไม่ได้ทำหน้าที่ผัวให้สมบูรณ์ก่อน มานี่!!! อยากหย่านักใช่มั้ย” ร่างสูงเพรียวปลิวไปหาเตียงด้วยแรงเหวี่ยงของเขาจนชุดนอนเปิดไปถึงไหนๆ มือบางต้องรีบดึงชายชุดลงและพยายามจะพาตัวเองหนีให้รอดพ้นเขา แต่มีหรือที่คนโกรธจัดจะยอมให้ทำอย่างนั้นได้ง่ายๆ “จะไปไหน!!! คืนนี้คุณต้องเป็นเมียผมสักที หลังจากที่ผมปล่อยให้คุณไปอ่อยใครต่อใครๆ หรืออาจจะไปเอากับใครๆ มาหลายเดือนแล้ว หรืออาจจะนานหลายปีแล้วก็ได้ใครจะไปรู้” “อย่านะ!!! ออกไป!!! อื้มมมมมมม” สองแขนเล็กเรียวถูกตึงไว้กับที่นอนเมื่อร่างสูงกระโดดไปขึ้นคร่อมไว้ ใบหน้าสวยก็สบัดหลบใบหน้าคมที่ก้มลงไปหาอย่างเร่งรีบ “อย่า....” ปากบางก็ร้องห้าม ขาขาวเรียวก็ถีบไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจจะทัดทานแรงมหาศาลของอีกคนได้ “ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยคุณไว้อีกแล้ว ต่อให้ผมเกลียดและขยะแขยงลูกเมียน้อยอย่างคุณมากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีทางเก็บคุณไว้จนถึงวันที่เราจะหย่ากันโดยไม่คิดจะทำอะไรแน่ และคนที่จะเอ่ยปากเรื่องหย่าได้จะต้องเป็นผมเท่านั้นไม่ใช่คุณ จำเอาไว้” ริมฝีปากที่กำลังเผยอขึ้นไปต่อว่าเขาถูกอีกปากบดเบียดลงไปหา แม้ใบหน้าจะสบัดซ้ายขวาสักแค่ไหน แต่เขาก็ช้อนมือขวาลงไปใต้ท้ายทอยแล้วล็อกไว้เพื่อให้ได้ก้มไปครอบครองสะดวกขึ้น อีกมือมือก็ออกแรงกดสองแขนลงบนที่นอนอีก เมื่อรับรู้ว่ากำลังจะยกขึ้นมาขัดขืน ช่วงขายาวและหนักอึ้งก็ยกไปทับสองขาที่ถีบที่นอนไปมาจนไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้อีก นานหลายนาทีกว่าเขาจะสยบคนอยู่เบื้องล่างให้สงบลงด้วยแรงจุมพิต จนมั่นใจว่าแขนเรียวจะไม่ยกขึ้นมาฟาดฟันเขาอีก ถึงได้ปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเลื่อนมาหาอกตั้งตรงแล้วบีบเค้นอย่างหนักหน่วง ปลายนิ้วชำนาญการสบัดหยอกเย้าไปมาตรงปลายยอดเพื่อหมายให้อีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจไปกับบทรักที่กำลังจะเริ่มต้น มือบางที่ว่างเว้นจากการรัดตรึงรีบยกขึ้นมาปัดป้อง แม้จะหวั่นไหวกับการกระทำของเขาสักแค่ไหนก็ตาม แต่เขาไม่สนใจจะหยุดยั้ง แถมยังยกขึ้นไปดึงสายเดี่ยวออกจากไหล่ลากไล่ลงไปจนเลยอกสวย แล้วถลกบราผ้าเนื้อนุ่มขึ้นทันที ตามด้วยบีบขยี้ตรงปลายให้ตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วปากก็ยังคงลิ้มลองของหวานบนเรียวปากไม่ยอมห่าง “อย่าค่ะคุณหนึ่ง ปล่อยฉันนะ” ปากบางได้อิสระเมื่อเขาละลงมาหาอกอิ่ม “ไม่มีทาง คุณต้องทำหน้าที่เมียให้ผมสักที หลังจากที่คนอื่นทำงานแทนคุณมานานแล้ว” นั่นคือคำยืนยันของเขา ก่อนจะก้มลงไปลิ้มลองยอดอกนุ่ม แล้วสอดมือไปใต้แผ่นหลังนุ่มปลดตะขอบราดึงออกจากร่างอรชร ก่อนจะดึงชุดนอนหวานแว๋วลงไปกรอม์อยู่ปลายเท้า ลูบไล้เรียวขานุ่มขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงแพนตี้สีหวานที่ปกปิดสิ่งหวงแหนเอาไว้ เขาวนฝ่ามืออุ่นไปมาก่อนจะหยอกเย้ากลีกกุหลาบจนเจ้าของสะดุ้งสุดตัวเมื่อก้อนความสุขแล่นเข้าไปเล่นงานอย่างไม่เคยมีมาก่อน เรื่องที่คุณน่าจะสนใจ ----------------------------------

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

มหาเศรษฐี

4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

ในรอยรักร้าว [ดราม่าหนัก พระเอกถูกเอาคืนสาสมมาก]

ในรอยรักร้าว [ดราม่าหนัก พระเอกถูกเอาคืนสาสมมาก]

โรแมนติก

5.0

เพื่อเอาชนะและเพื่อทวงคืนให้ตัวเองและครอบครัว เขาขอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งหัวใจและความรัก เพื่อให้ได้ความรัก เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อบ้านเกิด เธอยอมแลกด้วยทุกอย่าง แม้กระทั่งร่างกาย --------------------------------- คฑาธร ไวทยาพาณิชย์ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้สร้างตัวเองด้วยมันสมอง สองมือกับหนึ่งหัวใจ เขามีอัตตาของความไม่ยอมแพ้ใคร โดยเฉพาะสตรีเพศ และเมื่อก็ตามที่ผู้หญิงคนไหนมาลบอัตตาเขาลง เขาก็จะเอาคืนให้สาสม ผสมกับความแค้นครอบครัวเข้าด้วยกันแล้ว เขาคือชายที่อันตรายสุดขีด “ผมบอกว่าผมจะไม่ทำ แต่ไม่ได้หมายความว่า คนในบริษัทผมจะทำไม่ได้นี่ แล้วผมพูดหรือทำอะไรผิดไม่ทราบ” “ทำไมผมจะต้องจ่ายด้วย ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าคุณอยากไปก็เชิญตามสบาย แต่ก่อนไป ช่วยคิดให้ดีๆ หน่อยนะ ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ ช่วยคิดถึงตัวเองและคนรอบข้างให้มากๆ” “ผมแค่อยากบอกว่า ถ้าคุณก้าวออกจากชีวิตผมไปเมื่อไหร่ คุณก็จะเหมือนคนไม่เหลืออะไรทันที แม้แต่คนในครอบครัวของคุณ ค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่าเลี้ยงดูที่ผมจ่ายให้จะถูกยกเลิก และถ้าคุณเห็นว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนมากพอล่ะก็ คุณคงจะคิดผิด เพราะผมสามารถทำให้พ่อค้าทุกคน เมินผลไม้ในสวนคุณได้อย่างสบาย น้องๆ ของคุณที่เรียนอยู่ ผมก็สามารถทำให้มีปัญหาการเรียน หรือแม้แต่ด้านความประพฤได้ไม่ยาก เพื่อนบ้านร้านตลาดที่เป็นพวกพ้องพ่อของคุณ ผมก็ทำให้คนพวกนั้นเกลียดพ่อคุณ เกลียดคุณและคนในบ้านคุณได้สบายมาก ทีนี้คุณยังอยากจะไปจากผมอีกหรือเปล่า” --------- พิมพ์ภิษา วัฒนากรณ์ หญิงสาวผู้โหยหาความรักและอ้อมกอดของพ่อผู้ให้กำเนิด เมื่อพ่อไม่เคยหยิบยื่นให้ เธอจึงยอมใช้ร่างกายเข้าแลก เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อ เพื่อครอบครัว และเพื่อเพื่อนร่วมสังคมเล็กๆ ที่คุ้นเคย แต่สุดท้าย เธอก็พบว่า สิ่งที่ได้มาคือความว่างเปล่า “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม แล้วคุณสัญญากับฉันทำไม ในเมื่อคุณไม่เคยคิดจะรักษาสัญญาอยู่แล้ว” “รักเหรอ! ไม่มีทางที่ฉันจะรักคนใจร้ายอย่างคุณได้ มีเพียงความรู้สึกเดียวที่ฉันจะให้ได้ นั่นก็คือ ความเกลียด...” “ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อฉันไม่เคยรู้สึกอย่างที่คุณว่าเลยสักนิดเดียว ช่วยกรุณาฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าฉันไม่มีวันจะรักคุณ ในใจของฉันมีแต่ความเกลียดเท่านั้น ฉันเกลียดคุณตั้งแต่แรกเห็น กระทั่งเดี๋ยวนี้ ความรู้สึกฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ตรงกันข้าม ฉันกลับเกลียดคุณมากกว่าเดิมอีกร้อยเท่าพันเท่า ได้ยินมั้ยว่าฉันกละ...” --------- อดีต ไพรัช กองทอง หนุ่มผู้ด้อยเงินแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก ปัจจุบัน ไพทัช ไวทยาพาณิชย์ ผู้มากด้วยเงินแต่ไร้รัก --------- ขจร วัฒนากรณ์ อดีตคือหนุ่มมากด้วยเงินแต่ไร้รัก ปัจจุบันคือผู้ไร้เงินและไร้รัก --------- ศุภิษา วัฒนากรณ์ อดีตคือหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมรัก ปัจจุบันคือผู้หล่อหลอมสองดวงใจให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยรัก ---------------------------------

เก็บดวงใจไว้ให้เธอ [พระเอกร้ายสุดๆ ท้องแล้วหนี]

เก็บดวงใจไว้ให้เธอ [พระเอกร้ายสุดๆ ท้องแล้วหนี]

สมัยใหม่

5.0

เก็บดวงใจ...ไว้ให้เธอ. เพราะบุญคุณจะมีอานุภาพอยู่เหนือคำว่า รัก... แม้จะเจ็บปวดเพียงใด แต่หัวใจก็ไม่อาจฝืนให้ รัก...ได้ เพียงเพราะรัก ที่ถูกกีดกันด้วยฐานันดรที่ต่างกัน ทำให้เอกลัวที่จะพบกับรักครั้ง --------------------------------------- ปลาย อภิรัชโยธิน ชายผู้บีบบังคับให้เธอต้องรักอย่างไร้ทางเลือกและไม่รู้เนื้อรู้ตัว ------------- เทียมหทัย 'ขิม' หญิงสาวผู้ได้รับบาดเจ็บจากรักแรกและรักสุดท้าย อย่างไร้ทางเลือก -------------- ธรรทร ชายหนุ่มผู้จำต้องเลือกระหว่างความรักกับความกตัญญู และไม่มีหนทางหลีกเลี่ยงได้ ------------------------------------- “เอ่อ! มันเป็นของฉัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีอะไรกับคุณพ่อนี่” เธอเถียงเขา “งั้นเหรอ! เธอนี่มันหน้าด้านที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย ฉันจะต้องหากล้องที่เธอกับพ่อฉันมีอะไรกันมาเปิดให้เธอดูเลยหรือยังไงเธอถึงจะยอมรับ ว่าเธอมันเลวทรามแค่ไหน ไร้ซึ่งยางอาย กินบนเรือน อึรดบนหลังคา นี่ถ้าแม่ฉันมาเห็น ท่านคงจะช๊อกตายไปเลยมั้ง เธอถึงจะสะใจ” เขาพูดเสียงเดือดดาลด้วยความโมโห และฤทธิ์ เหล้าที่ดื่มไป “คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่เคยทำอย่างที่คุณคิด” “ฉันต้องเชื่อคนไร้ยางอายอย่างเธอด้วยเหรอเทียมหทัย ฉันชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่า ลีลาบนเตียงของเธอ มันเด็ดขนาดไหน ไม่ว่าพ่อฉัน หรือไอ้ธรรทรนั่นมันถึงได้หลงเธอหัวปรักหัวปรำยอมทุ่มเงินซื้อเพลงที่เธอร้องตั้งเพลงละล้าน แล้วยังไม่รวมกับเพื่อนรักฉันด้วย นี่ถ้ามันรู้ว่าผู้หญิงที่มันรักนัก รักหนามีอดีตที่โสมมมันจะทำยังไง หรือว่ามันรู้แล้ว และก็ติดใจจนปล่อยเธอไปไม่ได้ งั้นฉันขอมีส่วนร่วมด้วยคนนะ เธอจะได้เอาไว้เลือกเยอะขึ้นไง” เขาพูดพลางเดินมาที่เธอ และกระชากชุดราตรีที่เกาะไว้เพียงช่วงเนินอกจนขาดวิ่น พร้อมทั้งเหวี่ยงร่างบางๆ จนถลาไปที่เตียงนอนหนานุ่ม “นี่คุณจะทำอะไรฉัน คุณจะบ้าเหรอ” เธอตะโกนใส่เขาพร้อมทั้งรีบพยุงตัวเองให้ขึ้นลุกจากเตียง แต่ก็สายเสียแล้วเพราะร่างกำยำนั้น ผลักเธอลงไปที่เตียงและนาบทับร่างเธอจนรู้สึกอึดอัด “เธอจะคร่ำครวญทำไม อีกไม่นานเธอก็จะได้รู้ว่ารสรักของฉันน่ะ ล้ำเลิศกว่าของพ่อฉันเพียงไหน ไม่แน่นะเธออาจจะเปลี่ยนจากพ่อฉันและลืมคนอื่นๆ มาเป็นจับฉันแทนก็ได้ แต่ยากหน่อยนะ เพราะฉันรู้ไส้ผู้หญิงอย่างเธอดี” ---------------------------------------

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

Silas Thorn
5.0

ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.8

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ