Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นางบำเรอดื้อรัก

นางบำเรอดื้อรัก

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
11.2K
ชม
39
บท

“ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ไอ้...” “จุ๊ๆๆ อย่าด่าผัวมากสิจ๊ะเมียจ๋า ด่ามากลูกดกนะ” เขายิ้ม มะปรางยิ้มไม่ออก ได้แต่ร้องฮึ่มๆ ในใจ “มาให้ผัวชื่นใจหน่อยเร็ว เป็นเดือนแล้วนะที่ไม่ได้กกเมีย คิดถึงที่สุดเลย” นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ครั้งนั้น ก้องเกียรติกับมะปรางไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก ทุกครั้งที่เจอหน้ากันมะปรางเป็นฝ่ายเดินหนี หลีกเลี่ยงการพูดคุย พอเกิดเรื่องในไร่กอบกุล ก้องเกียรติก็วิ่งวุ่นดูแลจัดการ ทั้งเรื่องงานศพคนงานในไร่ ให้เงินเยียวยาครอบครัวคนตาย และเรื่องคดีความ ส่วนมะปรางก็ต้องกลับมาเรียนหนังสือ ส่งผลให้ทั้งสองห่างกันโดยปริยาย “ใครเมียแก ฉันไม่ใช่เมียแก” “ทำไมจะไม่ใช่ ลืมแล้วเหรอว่าเราสนุกกันมากแค่ไหน เสียงครางเธอดังจนแก้วหูฉันแทบแตก ดูเธอมีความสุขจนกระอัก” เขาเอาความจริงมาพูด มะปรางหน้าแดงซ่าน อายก็อาย เจ็บใจก็เจ็บใจ “คืนนี้เรามาสนุกกันดีกว่า ฉันอยากเต็มแก่แล้ว” “ไม่นะ อย่าทำอะไรฉัน ถ้าแกฉันทำล่ะก็ ฉันจะแจ้งตำรวจมาลากคอแกเข้าคุก” มะปรางขู่ หวังว่าเขาจะกลัว แต่ไม่เลย ไม่เลยสักนิด “เอาสิ ไปเลย” ก้องเกียรติขยับตัวให้ร่างเล็กเป็นอิสระ มะปรางรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหมายจะออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด ทว่าเสียงหนึ่งที่ดังเข้าหูทำให้เท้าเล็กชะงัก “หนังโป๊เรื่องนี้นางเอกผิวดี๊ดี นมก็ใหญ่ ร้องครางได้อารมณ์ชะมัด” มะปรางหันมามองต้นเสียงที่กำลังดูคลิปในมือถือ ใบหน้าเขาแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกายเสน่หา ก้องเกียรติเงยหน้ามองมะปรางแล้วกระตุกยิ้ม “มาดูหนังโป๊ด้วยกันไหม เธอจะได้เห็นหน้านางเอกไง ส่วนพระเอกไม่ต้องมองหรอก อยู่ตรงหน้าเธอไง” “คุณทำแบบนี้ทำไม ทำไปทำไม” มะปรางถามเสียงสั่น ไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะชั่วมากขนาดนี้ “ทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่บันทึกลีลารักของเราเก็บไว้ดูเท่านั้นเอง” ก้องเกียรติตอบ “แต่ถ้าเธอไม่อยากให้คลิปนี้หลุดออกไปในโลกอินเทอร์เน็ต และไม่อยากให้พ่อแม่เธอรู้ความจริง และยังอยากให้พี่ชายเธอออกจากคุก เธอก็ต้องทำตัวดีๆ เชื่อฟังฉัน ตามใจฉัน ถ้าเธอทำตรงกันข้าม คลิปนี้จะถูกเบลอหน้าพระเอก แต่หน้านางเอกจะเด่นชัด เรื่องคดีของพี่เธอก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ฉันจะสั่งให้ทนายชะลอไว้ก่อน รอไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะยอมฉันอีกครั้งและอีกครั้ง”

บทที่ 1 1

1

รถบีเอ็มดับบลิวรุ่นใหม่ล่าสุดสีน้ำเงินป้ายแดงแล่นมาจอดหน้าคณะบัญชี ในมหาวิทยาลัยชื่อดังเมืองเชียงใหม่ เจ้าของรถก้าวลงมาจากรถ ก่อนเดินอ้อมมายังประตูฝั่งคนขับ เขาเปิดประตูหยิบช่อดอกไม้ช่อใหญ่ออกมา จากนั้นไปนั่งรอสตรีที่เขาตั้งใจมาหาหน้าคณะ

มะปรางชะงักเท้าที่กำลังเดินออกจากคณะเมื่อเห็นชายหน้าตาดีแต่นิสัยเลวนั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหิน หล่อนอยากเบี่ยงเท้าเดินหนีไปที่อื่น เพราะไม่อยากเห็นหน้าตาเฒ่าหัวงูสักเท่าไหร่ ทว่าคงหนีไม่ทันเพราะเขาดันเห็นหล่อนเสียก่อน

ทว่าหญิงสาวอีกคนที่เดินมาพร้อมกับมะปรางยิ้มกว้างเมื่อเห็นก้องเกียรติ เนื้อเต้นทันทีที่เห็นเขาเดินมาหาพร้อมช่อดอกไม้

“ดอกไม้สำหรับคนสวยครับ” ก้องเกียรติยื่นช่อดอกไม้ให้นภาพร เพื่อนร่วมคณะของมะปราง ทว่านัยน์ตาเขากลับมองมะปรางที่เบือนหน้าหนี

“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง” นภาพรรับดอกไม้และกล่าวคำขอบคุณ “พี่ก้องน่ารักจังเลยค่ะ”

“น่ารักแล้วรักหรือเปล่าครับ พี่อยากให้ฟ้ารักพี่จังเลย”

ก้องเกียรติหยอดคำหวาน นภาพรหน้าแดงระเรื่อ บิดตัวไปมาด้วยกิริยาเขินอาย มะปรางเห็นแล้วรู้สึกเลี่ยนจนอยากจะอาเจียน

“ไปกินข้าวด้วยกันนะฟ้า ร้านอาหารเพื่อนพี่เพิ่งเปิด พี่ว่าจะไปอุดหนุนมันซะหน่อย” ก้องเกียรติกล่าวชวนนภาพร ก่อนหันไปพูดกับมะปราง “เธอไปด้วยนะ เพราะเธอต้องไปเอาของที่คอนโดฉัน พ่อกับแม่เธอฝากมาให้”

“ไม่ไป” มะปรางตอบกลับทันที “ไม่ว่าง มีนัดแล้ว”

“มีนัดกับใคร” เสียงถามของก้องเกียรติค่อนข้างเข้ม

“โน่นไง เดินมาโน่นแล้ว” มะปรางชี้ไปทางชายหนุ่มหน้าตาดีที่กำลังเดินมาทางคณะ มะปรางรีบเดินไปหามานพ เพื่อนต่างคณะ “นพวันนี้เรามีนัดไปกินข้าวด้วยกัน ลืมหรือเปล่า”

มานพที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวทำหน้างง แต่พอมะปรางแอบหยิกแขนตนเบาๆ มานพถึงเข้าใจ

“อ๋อๆ ใช่ๆ ลืมเลย” มานพไหลไปตามน้ำ ก้องเกียรติกระตุกยิ้มขยับสายตามองผู้พูด

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ฉันเลี้ยงเอง”

“ไม่ไป ฉันจะไปกินข้าวแกงข้างทาง ฉันไม่ชอบกินของหรู”

มะปรางพูด หล่อนไม่อยากอยู่ใกล้ก้องเกียรติ ไม่แม้แต่อยากเห็นหน้า นึกดีใจที่มหาวิทยาลัยเปิด หล่อนจะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเขา ที่ไหนได้ ก้องเกียรติกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่ มิหนำซ้ำเขายังตามจีบนภาพร เพื่อนร่วมคณะ มาให้มะปรางเห็นหน้าทุกวัน แรกๆ มะปรางไม่รู้สึกอะไร เพราะเกลียดก้องเกียรติเป็นทุนเดิม แล้วยิ่งเขาข่มเหงตนความเกลียดก็ดูจะเพิ่มมากขึ้น แต่พอเห็นภาพหวานบ่อยๆ มะปรางก็เริ่มรู้สึกตงิดๆ ในใจขึ้นมา

“เธอไม่ไปก็ได้” ก้องเกียรติไม่เซ้าซี้ เขามีไม้เด็ดกว่านั้น “แต่ฉันจะบอกความลับของเธอให้พ่อกับแม่รู้”

มะปรางตกใจไม่คิดว่าก้องเกียรติจะขู่ตนต่อหน้านภาพรกับมานพ แน่นอนว่าอีกสองคนหูผึ่ง อยากรู้ขึ้นมาทันใดว่าความลับนั้นคืออะไร

“ความลับอะไรเหรอคะพี่ก้อง” นภาพรรีบถาม มะปรางทำหน้าตามีพิรุธ กลัวเหลือเกินว่าก้องเกียรติจะปากเสีย

“ไม่มี...” มะปรางชิงพูดก่อน ทว่าเสียงของก้องเกียรติที่ดังกว่ากลบ

“ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ปรางทำของที่ไร่พังน่ะ แล้วไม่ได้บอกพ่อกับแม่ พี่เป็นคนจิตใจดีเห็นว่ากำลังเรียนหนังสือ พ่อกับแม่ปรางก็เป็นคนงานเก่าแก่ในไร่พี่ด้วย พี่เลยไม่หักจากเงินเดือน เอาเรื่องนี้ไว้ขู่ปรางเวลาดื้อ ฟ้าก็รู้นี่ว่า ปรางดื้อแค่ไหน ถ้าไม่มีอะไรขู่ ไม่มีใครเอาอยู่จริงไหม” ก้องเกียรติปด มะปรางโล่งใจ

“จริง” นภาพรกับมานพประสานเสียงพูดพร้อมกัน มะปรางมองเพื่อนตาขวาง แทนที่จะพูดแก้ต่าง กลับเห็นด้วยซะงั้น

“แกสองคนนี่นะ” มะปรางกระเง้ากระงอดเพื่อน

“ก็มันจริง แกดื้อมาก ดื้อสุดๆ ดื้อที่สุดในสามโลกเลย” นภาพรรู้ดี

“เรื่องนี้ฉันก็เห็นด้วย” มานพเสริม มะปรางงอนใส่เพื่อนทั้งสอง และไม่ลืมสะบัดหน้าใส่ก้องเกียรติ

“สรุปว่าไปกินข้าวด้วยกันทั้งหมดนะ รีบไปเถอะ พี่หิวแล้ว” ก้องเกียรติพูด

“ค่ะ ไปกันหมดนี่แหละค่ะ” นภาพรตอบกลับ “แกก็ไปด้วยนะปราง ถ้าแกไม่ไปความลับแกถูกเปิดโปงแน่”

มะปรางมองหน้านภาพร ก่อนหันไปมองหน้าก้องเกียรติที่ยืนยิ้มให้ มะปรางไม่อยากไปด้วยแต่ก็กลัวว่าก้องเกียรติเปิดเผยความลับ หล่อนจึงต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ไปก็ได้”

“ไปกันเลยดีกว่าค่ะพี่ก้อง ฟ้าหิ๊วหิว”

นภาพรควงแขนก้องเกียรติก้าวเดินไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก โดยมีมะปรางกับมานพเดินตามไป

แม้ว่าร้านอาหารที่ก้องเกียรติพามากินมื้อเย็นจะเป็นร้านอาหารเปิดใหม่ ทว่ารสชาติอาหารไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะอาหารพิเศษประจำร้านอร่อยจนลืมความอ้วน ตักข้าวเพิ่มไม่ต่ำกว่าสองจาน

ก้องเกียรติ นภาพรและมานพกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พูดคุยอย่างสนุกสนาน จะมีเพียงคนเดียวที่นั่งหน้าง้ำหน้างอ กินอาหารด้วยท่าทางซังกะตาย ลอบมองก้องเกียรติเอาใจนภาพรด้วยความหมั่นไส้ อยากลุกหนีไปให้พ้นๆ ช่างขัดหูขัดตาเหลือเกิน

“กินเยอะๆ นะฟ้า อาหารร้านนี้อร่อยมาก” ก้องเกียรติตักกับข้าวใส่จานนภาพร

“ขอบคุณค่ะพี่ก้อง แต่ถ้ากินมากกว่านี้ ฟ้ากลัวอ้วนค่ะ”

“จะกลัวทำไมครับ ถึงฟ้าจะอ้วนตัวเท่าตุ่มพี่ก็ชอบฟ้า”

นภาพรอายม้วน มะปรางถึงกับเบ้ปาก นึกอยากคายของที่กินเข้าไปออกมาทางปาก

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะปราง เป็นอะไรอาหารไม่อร่อยเหรอ” คนถามคือมานพที่หันมาเห็นใบหน้ามะปรางพอดี

“อาหารอร่อย แต่แกงนี้มันเลี่ยนไปหน่อยเลยอยากจะอ้วก” มะปรางตอบ

“นึกว่าที่อยากอ้วกเพราะท้องซะอีก” ก้องเกียรติพูดมองมะปรางแล้วยิ้มกริ่ม มะปรางอยากลุกขึ้นเอาส้อมทิ่มหน้าเขาเหลือเกิน คนอะไรพูดกวนโมโหได้ทุกเวลา พูดแต่ละประโยคชวนให้คนอื่นคิดไปไกล

“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะ” มะปรางไม่อยากพูดมาก ไม่อยากเถียงก้องเกียรติ เพราะกลัวว่าจะเข้าตัวเองอีก ทางเดียวคือ หนีไปจากตรงนี้ดีที่สุด

“เธอต้องไปเอาของที่พ่อกับแม่ฝากฉันมาให้เธอนะ เพราะฉะนั้นเธอยังกลับไม่ได้” ก้องเกียรติบอกมะปราง

“แล้วทำไมคุณไม่เอามาเลยล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

The devil's Lover  เล่ห์รักยัยตัวร้าย

The devil's Lover เล่ห์รักยัยตัวร้าย

Me'JinJin
5.0

ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หย่าให้รักร้าวราน

หย่าให้รักร้าวราน

คุณธิดา
5.0

หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ