อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
โชคชะตาของพระชายา
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
รักใหม่พันล้าน
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
ในค่ำคืนอันมืดมิด
แสงไฟภายในคฤหาสน์ของตระกูลยู่ยังส่องสว่างไสว เสียงหัวเราะครื้นเครงดังออกมาเรื่อย ๆ จากทางห้องนั่งเล่น
เจียงซุ่ยยืนอยู่เพียงผู้เดียวภายในห้องครัว ใบหน้าของหญิงสาวขึ้นสีแดงอย่างผิดปกติ เธอมองหม้อซุปด้วยความวิงเวียน ไอจากหม้อที่ลอยขึ้นมาปะทะใบหน้าทำให้เธอมองอะไรไม่ค่อยชัด
หญิงสาวมีไข้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
แต่เธอไม่มีแม้แต่เวลาจะออกไปหาซื้อยามากิน เธอมัวแต่สาละวนอยู่กับงานบ้านพวกนี้จนไม่ได้ออกไปไหนเลย
“นี่ เสร็จหรือยังวะ! เธอขนาดแค่ทำกับข้าวก็ช้าขนาดนี้ นี่พี่ชายของฉันไปคว้าเอาขยะอย่างเธอมาแต่งงานด้วยได้ยังไงเนี่ย!”
ยู่โหลเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เจียงซุ่ยได้แต่เลียริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง หญิงสาวคุ้นชินกับท่าทีเช่นนี้ของน้องสามีตนเองแล้ว
“อีกไม่นานก็เสร็จแล้วค่ะ”
“งั้นก็เร็ว ๆ เข้า พี่ชายของฉันกับพี่เมิ่งหนิงกำลังรออยู่” ยู่โหลออกคำสั่งให้อีกคนเร่งมือ “พี่เมิ่งหนิงน่ะไม่เหมือนกับสาวบ้านนอกคอกนาอย่างเธอหรอกนะ พี่เขาเพิ่งจะกลับมาจากการรักษาที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นจะปล่อยให้พี่เขาหิวไม่ได้ เพราะถ้าพี่เขาหิวขึ้นมา พี่ชายของฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
เจียงซุ่ยกำช้อนในมือของตนเองแน่น เธอรู้สึกเหมือนถูกแทงทะลุหัวใจ มันเจ็บปวดเหลือเกิน
เธอคอยดูแลยู่จินเฉินและตระกูลยู่ด้วยกำลังทั้งหมดที่เธอมีมาตลอดระยะเวลาสามปี ไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้คนหนึ่ง แต่ในสายตาของสามี เธอเทียบอะไรกับเสิ่นเมิ่งหนิงไม่ได้แม้แต่ปลายเส้นผมด้วยซ้ำ
ยู่โหลหัวเราะเยาะใส่
“คนเราก็ควรต้องรู้จักเจียมตัวบ้างนะ ถ้าคุณย่าไม่รีบอยากจะอุ้มหลานไว ๆ และถ้าพี่เมิ่งหนิงไม่ไปต่างประเทศ ผู้หญิงน้ำหน้าแบบเธอคงไม่มีทางได้เข้ามาเหยียบในบ้านของฉันได้หรอก แต่ยังไงขยะก็ยังเป็นได้แค่ขยะอยู่วันยันค่ำ สามปีที่ผ่านมาเธอไม่ท้องเลยด้วยซ้ำ ทำอาหารก็แย่ กวาดถูพื้นก็ไม่ได้เรื่อง เธอรีบไสหัวออกจากบ้านนี้ไปจะดีกว่า!”
เจียงซุ่ยมองตามยู่โหลที่เดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นแล้วกำมือแน่น
ข้างนอกมีเสียงดังแผ่ว ๆ
“จินเฉิน การที่ฉันกลับมามันรบกวนคุณกับเจียงซุ่ยมากไหมคะ เธอคงไม่โกรธฉันใช่ไหม?”
เป็นเสียงของผู้หญิงที่พูดจาด้วยน้ำเสียงน่าฟังเหมือนกับหยาดน้ำทิพย์
“ไม่เป็นไรหรอก ก็ธุระของคุณเป็นเรื่องสำคัญนี่”
เสียงผู้ชายที่นุ่มทุ้มและไพเราะเต็มไปด้วยความอ่อนโยนดังขึ้น
มันเป็นสิ่งที่เจียงซุ่ยเฝ้ารอคอยและปรารถนาจะได้ยิน แต่เธอไม่เคยได้รับมันเลย
เจียงซุ่ยยืนอยู่เพียงลำพังในห้องครัว ภายในใจของเธอจมดิ่งลึกลงไปทุกขณะ หญิงสาวเหลือบไปมองเทียนและกล่องของขวัญที่อยู่ในถังขยะด้วยความรู้สึกสมเพช
นี่เป็นชีวิตคู่ที่เธอยังคงทุ่มเทและพยายามรักษามาตลอดสามปี
แต่ผู้ชายที่เธอรักอย่างสุดหัวใจมาตลอดสามปี กลับจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนี้คือวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของทั้งคู่