นพรัตน์ & ณัชชา
ไหนก็ได้ ไปนะ ไปกินข้
าไม่ไป แต่ทางนั้นก็ไม่ละความพยายาม นั่งรอจนเธอเลิกงาน แล้วควงแขนพาเดินไปหาร้านอาหารภายในนั้นต่อ แต่เนื่องจากเวลากระชั้นมากเกินไป อีกไม่
ปากบอกเธอไปพลาง “โอ๊ยตาย ฝนตกหนักเลย เด
ังจะเข้าเทียบจอดพอดี เลยแกะมืออีกฝ่ายออก
ปด้วยกันกับพวกเราดีกว่า
ยรถเมล์นี่เอง” บอกจบเตรียมแยกตัว
หรือ คนแน่นข
ด้วยกัน เมื่อเห็นแล้วว่ารถคันคุ้นตาขับปาดเข้ามาจอดขนานทางเท้าพอดิบพอดี สาวจอมตื๊อเปิดประตูรถตอ
ได้เ
ตัวใครมา แล้วทำ
บว่าชีพจรเต้นระรัวหนักขึ้นกว่าที่เคยหลายเท่าตัวจนน่าหวาดหวั่
นึ่งนะคะ ลืมบอกไป” กล่าวจบยิ้มแห้งๆหัวเราะแหะ
เงียบ ไม่โต้ตอบในทันที ย้อนเ
..ฝนมันต
่ยวกั
ิ ฝนตก รถ
้า ถามเปลี่ยนเรื่องสนทนา “ว่าแต่ว่า ต้องแนะนำตัวไหม ณัชช
้อมใจกันเงียบก่อนที่สารถีจะเป็นคนทำล
จำ
่อนลมหายใจออกเบาๆ ตอบรับคล้ายๆอีกฝ่า
กดรับสายเรียกเข้า คุยได้เด
พจอดส่งปูนิ่
ไม่กลับห
มไปเลย เนี่ยกำลังจะไปกินข้าวกับณัชชาด้วย เลยอด
บรับใดๆ อัญจารีย
ยากให้ปูนิ่มกลับไปนอนที่ห้อง
้น ณัชชาได้แต่นั่งอึดอัดอยู่อย่างนั้น ใจอยากลงจากรถหรูนี่ด้วยเหมือนกัน แต่แล้วกลับถูกอัญจารีย์ฝา
ย ชวนไปกินข้าวแต่ไปไม่ได้เสียอย่างนั้น เอาไ
ือไหวๆไปมา แล้
นอื่นร่วมโดยสาร นอกจากเธอและเขา ผินมองเฉพาะด้านนอกของรถ ไม่กล้าแม้แต่จะมอ
ดีนะ..
ถึงเปิดปาก
้อม์
บถอนลมหายใจเบาๆ นึกถึงวันวานที่ผ่านพ้นมาราวเจ็ดปีเห็นจะได้ พยายามไม่นึกถึง พย
จ็ดปีก่อนฝนตก
นจุดหมายมองผ่านสายฝนเข้าไปด้านใน เห็นเปิดไฟสว่างโร่ จึงลงไปยืนที่หน้าประตูรั้ว หยีตาหลบเม็ดฝนไปพลางขณะยื่นมือกดออด ไ
าอยู่ไ
อบอะไรเขา เห็นหันห
เพื่
เจ้าของชื่อเดินพ
ใส่ยาวคลุมเข่า ตัวใหญ่จนเหมือนไปหยิบยืมมาจากใครอื่นไม่ใช่ของตัว ผิดจากเพื่อนผู้หญิงที่เขาเห็นบ่อยๆว่ามักสวมเสื้อผ้าพอดีสัดส่วนอวดเนื้อหนังกันบ้
ามออกมาเรียบๆ
ะไรห
ะทำโครงงานฟิ