Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สอนรักลูกสาวท่านประธาน

สอนรักลูกสาวท่านประธาน

ลิลเอง

5.0
ความคิดเห็น
786
ชม
44
บท

ไม่เลย...เธอไม่ชอบเขาสักนิด ถึงสาวๆ จะลงคะแนนเอกฉันท์ว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ากินก็เถอะ เหตุนี้เธอถึงโมโหนัก เมื่อเขาทำให้เธอได้แต่ครวญครางอยู่ใต้ร่างหนาแกร่งด้วยมัดกล้ามที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คงพากันตาลุกวาว ---สปอย--- “รู้ใช่มั้ยว่าพี่รัก” เขาถาม ดวงตาคู่งามเหลือบขึ้นสบตาเขาถามเสียงที่พยายามปั้นปึ่งเท่าที่จะทำได้ “ก็รักใครล่ะ” “รักแม่สาวจอมหยิ่งแสนพยศคนนี้นะสิ” เขาใช้นิ้วคีบปลายจมูกโด่งรั้นสั่นเบาๆ “เรื่องอะไรมาว่าเค้าหยิ่ง” “ก็หยิ่งจริงๆ หรือจะว่าหัวสูง นี่ถ้าพี่เป็นแค่พนักงานบริษัทต๊อกต๋อยสงสัยว่าชาตินี้คงไม่มีได้สมหวังที่บังอาจมาหลงรักลูกสาวท่านประธาน” “ก็ไม่แน่” “หมายความว่าทิเองเริ่มมีใจให้พี่ตั้งแต่ยังคิดว่าพี่เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนบริษัทคนหนึ่งงั้นเหรอ” ทิราภาไม่ตอบ แต่การไม่ยอมสบตาเขา และมือเรียวขาวก็ง่วนอยู่กับการเล่นดุมเชิ้ตน่าจะเป็นคำตอบได้แล้วสำหรับสาวคนนี้ ภานนท์ยิ้มออกมา แววตาเขาอ่อนโยน และเต็มไปด้วยความรักยามเชยคางเรียวเพื่อให้คนที่เคยปากเก่งชอบจิกกัดเขาบ่อยๆ เงยหน้าขึ้น ตากลมโตในกรอบขนตางอนฉายแววทำเอาดอกเตอร์หนุ่มไม่คิดจะปล่อยเวลาให้หมดไปกับการพูดคุย ในเมื่อเขาเองก็ปรารถนาที่จะแสดงออกถึงความรักด้วยการกระทำผ่านร่างกายมากกว่าลมปากอยู่แล้ว ภานนท์ช้อนอุ้มร่างบางอิ่มไปวางบนเตียง ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นทิราภาก็ต้องเผชิญกับความทรมานที่แสนหวาน หล่อนร้อนรุ่มอยู่ใต้ไฟรักโหมกระหน่ำ จวนเจียนจะทะยานสู่จุดสุดยอดด้วยนิ้วมือปรนเปรอของเขา ขณะยอดสีชมพูเครียดครัดอยู่ภายใต้การครอบครองของปากอุ่นชื้น กว่าเขาจะยอมเติมเต็มอย่างแท้จริงตามคำเรียกร้องแทบจะเป็นวิงวอนของหล่อน ทิราภาก็แทบสะอื้นไห้ยามลิ้นกระด้างปักล้วงลึกเข้าไปในร่องรัก ภานนท์ใช้สองนิ้วแยกกลีบเพื่อควานลิ้นไซ้แทรก กลิ่นกายสาว น้ำหวานรสทิพย์หลั่งรินให้เขาดื่มดูดสร้างความทรมานแก่เขาไม่น้อยไปกว่าที่เขาทำกับร่างงามละมุน ทิราภาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อลิ้นสากเลียวนรอบปุ่มกระสันและปาดอย่างรวดเร็ว หล่อนครางดังแหลม กายเกร็งแอ่นค้าง ภานนท์ขยับตัวยันกายลุกจากท่าหมอบ ลงนั่งกลางหว่างขาที่อ้ากว้าง จังหวะตอดขมิบมีน้ำหวานสีใสหลั่งรินแทบจะทำเอาเขาถึงจุดสุดยอด ก่อนเขาจะใช้กลยุทธ์เพลงกามที่ฝึกมาช่ำชองจัดการให้หล่อนเป็นของเขา หล่อนยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ทำให้เขายิ่งภูมิใจที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของหล่อน แม้เขาจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรหมจารีเท่าใดนัก และแน่นอนว่าต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เหนือร่าสงงามยั่วยวนใจนี้ เขาถึงกับสูดปาก หน้าเหยขณะดันแก่นกายอวบหนาแข็งขึงเข้าในร่องรักคับแน่นและระอุจัด สะโพกงอนงามแอ่นหยัดราวจะดูดดึงท่อนลำเขาเข้าไปไว้ข้างใน แต่เขาค่อยๆ สอดแทรก ถอนออกแล้วเสียดส่ายเข้าไปใหม่ มากขึ้นกว่าเดิม ทิริภาร้องครางไม่เป็นส่ำเมื่อสองมือหนาสอดเข้าใต้สะโพกหล่อนในลักษณะจองจำพร้อมกันนั้นคนที่กำลังสร้างความทรมานแก่หล่อนก็กดดันตัวเองจนลำรักจมมิด ภานนท์หยุดนิ่งเพียงเพื่อจะเริ่มต้นบุกไม่ยั้ง ทิราภาได้แค่ครางขณะเนื้อตัวสะเทือนเลื่อนตามแรงโยกแรงตวัดสะโพกแกร่ง มือใหญ่จับหล่อนพลิกบอกเสียงห้าวแหบให้หล่อนใช้สองมือยึดหัวเตียงเอาไว้ก่อนเขาจะบุกตะลุยเข้าหาหนักหน่วง “พี่รักเธอ พี่รักเธอ พี่รักเธอ!”

บทที่ 1 Chapter 1

บทนำ

เด็กชายสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ มือเล็กป้อมยกขึ้นขยี้ตาขับไล่ความง่วงงุน เขานั่งตัวแข็งทันทีที่หายงัวเงีย เมื่อได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดแฝงความโหดเหี้ยมเย็นชา

“บอกมา เบรนดอน อินวิซิเบิลแมนอยู่ที่ไหน?”

“ไม่มีอินวิซิเบิลแมน”

เด็กชายได้ยินบิดาตอบ

“โกหก!”

เสียงแหบห้าวเหมือนถูกบีบออกมาจากหลอดเสียงแห้งผากที่เด็กชายไม่เคยได้ยินมาก่อนตวาดลั่น ฟังว่าใกล้คลั่งเต็มที

“คนของฉันที่แฝงตัวเข้าไปรายงานว่าการทดลองโครงการอินวิซิเบิลที่กองทัพเป็นตัวตั้งตัวตีให้เงินสนับสนุนประสบความสำเร็จ แล้วจะไม่มีอินวิซิเบิลแมนได้ยังไง?”

“คนของแกโกหกน่ะสิ”

“ไม่! คนของฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิดโกหกฉัน บอกมาเถอะ เบรนดอน แล้วฉันจะไว้ชีวิตแกกับเมียแก”

“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีอินวิสเบิลแมน ข่าวการทดลองสร้างมนุษย์ล่องหนเป็นแค่ข่าวลือ”

“บอก!”

เสียงออกคำสั่งฟังห้าวและต่ำลึก

“ถ้าไม่อย่างนั้น แกจะได้เห็นว่าความปากแข็งของแกได้พรากชีวิตเมียของแกไปจากแกยังไง!”

เด็กชายได้ยินเสียงผู้หญิงอุทาน หรืออาจจะเป็นเสียงครางด้วยความตื่นตระหนก เขาไม่แน่ใจนัก แต่จำได้ว่าเสียงนั้นคือเสียงมารดา

“มอมมี่” เขาเรียกมารดาด้วยเสียงกระซิบ

สัญชาตญาณของเด็กน้อยบอกเขาว่าทั้งพ่อและแม่ของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย มีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านกลางดึก และมันก็กำลังจะทำร้ายแม่ที่รักของเขา

เด็กชายตัวสั่นเทา เขากลัว แต่เขาก็จะต้องลงไปช่วยพ่อกับแม่

ร่างเล็กปีนลงจากเตียง แต่ขาเด็กสี่ขวบสั้นกว่าความสูงของเตียง เขาจึงพลิกตัวคว่ำหลังจากเลื่อนมาที่ริมเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนตัวลงสู่พื้น

เขาได้ยินเสียงมาดาร้องกรี๊ดขึ้นตามด้วยเสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของบิดา

“ปล่อยเธอ เมียฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!”

“ถ้าอยากให้ปล่อยก็บอกมาสิวะ อินวิซิเบิลแมนถูกเก็บไว้ที่ไหน”

“บอกแล้วว่าไม่มีอินวิซิเบิลแมนบ้าบออะไรทั้งนั้น!”

“ยังจะปากแข็ง แปลว่าแกอยากเห็นเมียสุดที่รักของแกตายไปต่อหน้าต่อตายอย่างนั้นใช่มั้ย?”

เด็กชายรีบวิ่งออกจากห้องหลังจากขยื้อเขย่งจนมือถึงตัวลูกบิดบนประตู และสามารถเปิดออกได้สำเร็จ

เท้าเล็กในถุงเท้าขาววิ่งออกไปที่ชานพักชั้นบน ชะงักนิดหนึ่งเมื่อพบว่าคนร้ายไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีถึงสามคน

คนหนึ่งยึดต้นแขนมอมมี่ของเขาเอาไว้มั่น อีกคนกดมือลงบนต้นคอพ่อของเขาที่นั่งคุกเข่าบนพื้น แล้วเขาก็รู้ว่าเสียงที่ได้ยินมาจากชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพ่อของเขา

ในมือของชายคนนั้นมีปืน เขารู้จักมันดี

พ่อของเขาสะสมปืนโบราณไว้หลายกระบอก เวลาพ่อเอาปืนที่มีลวดลายสวยงามที่ด้ามเหล่านั้นออกมาทำความสะอาด เขามักจะเข้าไปนั่งดูอยู่ใกล้ๆ พ่อก็จะสอนเขาให้ระวัง ยังบอกให้รู้ถึงอันตรายของมันที่สามารถทำให้คนหรือสัตว์ตายได้ถ้าถูกยิง

เวลานี้ชายร่างใหญ่ที่ส่งเสียงเกรี้ยวกราดข่มขู่พ่อของเขา ก็กำลังหันปลายกระบอกปืนไปทางแม่ของเขา

ปืนนั้นกระบอกสั้นและเล็กกว่าปืนสะสมของพ่อ แต่ก็คงยิงคนตายได้เช่นกัน

“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกยังปากแข็งเมียของแกจะลงไปรอแกอยู่ในนรก! หนึ่ง...”

เด็กชายวิ่งลงบันใดอย่างไม่คิดชีวิต เสียงเล็กๆ ตะโกนนำไปก่อน

“อย่าทำอะไรมอมมี่นะ!”

เขาลงไปถึงพื้นเบื้องล่าง ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของแม่

“พอลอย่าลงมาลูก กลับขึ้นไป!”

พร้อมกันนั้นพ่อของเขาก็โผนมาข้างหน้า คนร้ายที่คุมตัวตัวพ่อคงคาดไม่ถึงว่าพ่อจะตัดสินใจเช่นนั้น

แรงโถมปะทะของพ่อทำให้ชายที่มีปืนในมือเสียหลัก ปืนหลุดจากมือตกสู่พื้น พ่อพยายามจะก้มลงเก็บ แต่ชายคนนั้นใช้เท้าเตะเพื่อไม่ให้พ่อของเขาได้เข้าถึง จากนั้นก็ใช้เข่าข้างหนึ่งกระทุ้งใส่บริเวณหน้าอกของพ่อ จนพ่อของเขาตัวงอ

เด็กชายมองปืนที่มาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า หูได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธจัดของคนร้าย

พ่อของเขาถูกเตะ ต่อย ลงไปกองกับพื้น

“แกอยากตายนักใช่มั้ย เอาล่ะ ฉันจะให้แกได้สมใจ!”

เสียงคนร้ายพูดเป็นคำรามหอบๆ

เด็กชายรู้ว่าพ่อของเขาจะต้องถูกฆ่าตาย มอมมี่ของเขาก็ด้วย แล้วจากนั้นพวกมันก็คงจะฆ่าเขาอีกคน

เขาก้มลงหยิบปืนขึ้นมา มันค่อนข้างหนักสำหรับมือเล็กป้อมของเขา นอกจากหนักยังเย็นเยียบราวกับหิมะ

เด็กชายได้เสียงคลิก เมื่อนิ้วเล็กของเขาสอดผ่านเข้าไปในวงกลม แขนทั้งสองเหยียดไปข้างหน้าสั่นๆ

เขาจะต้องช่วยพ่อกับมอมมี่ เด็กชายบอกตัวเองขณะเล็งมือไปทางชายร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะยกเท้ากระทืบลงไปบนร่างนอนคุดคู้บนพื้นของพ่อของเขาซ้ำอีกครั้ง

เขาเหลือบมองมารดา ทันเห็นมอมมี่มองเขาด้วยดวงตาเบิกโต

“อย่าลูก พอล! หนีไป!”

ปัง!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปรารถนาเมียในเงา

ปรารถนาเมียในเงา

โรแมนติก

3.0

“เธอแน่ใจหรือดาวว่าเธอท้องกับฉันไม่ใช่คนอื่น” ‘ดาว’ คือชื่อที่เขารู้จัก และเขาก็ไม่เคยพยายามจะถามหล่อนซอกแซก ไปกว่ายอมรับในชื่อที่หล่อนบอกเขา “แน่ใจค่ะ ดิฉัน...ดาวไม่มีใครอื่นนอกจากคุณ” เขาหัวเราะเสียงกระด้างอย่างไม่นึกขัน พูดเสียงบาดลึกหัวใจคนฟัง “ตลกไปหน่อยมั้งสาวน้อย มีอย่างหรือที่ผู้หญิงอาชีพอย่างเธอจะมีแค่ฉันคนเดียว จู่ๆ หล่อนก็เงยหน้าขึ้น มองสบตาเขาด้วยแววตาเอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามจะไม่ให้ไหลรินออกมาสร้างความขายหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ “คุณเข้าใจผิดนะคะ” หล่อนตอบเสียงดังขึ้นคล้ายลืมตัว ก่อนรีบลดเสียงลงเท่าเดิม “ดาว... ดิฉัน ไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณคิด” “ยิ่งแย่ไปใหญ่” อภิศรส่ายหน้า พยายามจะพูดกับสาวน้อยตรงหน้าเขาอย่างใจเย็น แต่น้ำเสียงยังออกกังวานหยันเยาะ “นี่แน่ะดาว เธอคงไม่ลืมใช่มั้ยว่าที่ฉันได้ตัวเธอไปนอนด้วยในคืนนั้น ก็เพราะเธอเป็น... เธอขายความสาวของเธอให้กับฉันมีคุณวิมลฉวีเป็นตัวกลางในการซื้อขายระหว่างเรา เธอคงไม่ลืมเธอได้เงินจากฉันขณะที่ฉันได้ความสุขจากเธอด้วยธุรกิจประเภทอย่างว่า” “ค่ะ” หล่อนรับ ปากสั่น แก้มซีดซับสีเรื่อ “ดิฉันมะ...ไม่เคยลืม เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันต้องบากหน้ายอมทนอายเพราะไม่มีทางเลือกดีไปกว่านั้นด้วยความจำเป็นบีบบังคับ” เขามองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นแล้ว ก็คิดว่าหล่อนพูดจริง เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องมาทำอาชีพที่ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดเฉียดกรายไปใกล้ถ้ามีทางเลือกอื่น “สามหมื่น” เขาบอกจำนวนเงินที่ต้องแลกกับความสุขที่ได้จากหล่อน “ไม่ถึงหรอกค่ะ คุณวิมลฉวีหักค่านายหน้าไปเจ็ดพันบาท” นัยน์ตาเข้มคมวาบขึ้นแล้วก่อนแสงเมื่อเกิดความเวทนาสายน้อยเบื้องหน้าจับใจ แต่แค่เวทนาจะเพียงหรือไม่ที่เขาจะต้องแต่งงานรับหล่อนเป็นเมียตามกฎหมาย

สัมผัสรักลวงใจ

สัมผัสรักลวงใจ

โรแมนติก

5.0

เขา...พ่อเลี้ยงผู้แสนลึกลับ รูปลักษณ์หน้าตาไม่เคยปรากฏบนสื่อต่างๆ ทั้งที่กิตติศัพท์ทั้งทางบวกและลบเป็นที่เลื่องลือในแวดวงธุรกิจทั้งสีขาวและสีเทา เธอ...คือผู้ได้รับมอบหมายให้กระชากหน้ากาก และเผยแพร่ตัวตนของบุคคลลึกลับที่ผู้คนเรียกขาน 'พ่อเลี้ยง' โดยไม่มีโอกาสรู้เลยว่า เป้าหมายที่เธอกำลังพุ่งเขาหาจะนำพาย้อนคืนอดีตในวัยเยาว์ <> สองเมตรครึ่ง... สองเมตร เมตรครึ่ง...หนึ่ง สอง....สาม! สิ้นเสียงนับคำนวณระยะในใจ นักข่าวสาวหัวเห็ด ก็กระโดดออกจากมุมที่หลบอยู่ พุ่งปราดเข้าหาร่างสูงๆ ของคนเดินกลาง มือถือเทปยื่นนำไปก่อน ตามด้วยคำแนะนำตัวและคำถามติดๆ กัน “พ่อเลี้ยงคะ... ดิฉัน มนิลา นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ ‘ไทยรายสัปดาห์’ มีคำถามจะถามค่ะเกี่ยวกับโครงการนำเที่ยวทางเรือสำราญ ล่องแม่น้ำโขงที่พ่อเลี้ยง...โอ๊ย!” เสียงร้องดังเกิดจากการที่จู่ๆ เทปสัมภาษณ์ถูกกระชากไปจากมือนั่นเอง ไม่ใช่โดยคนที่หล่อนตั้งใจจะสัมภาษณ์ แต่จากองครักษ์หนึ่งในสี่ของเขา พอหันขวับ ก็เจอเข้ากับสีหน้ากระด้างของนายยักษ์ ที่เคยปะทะกันมาแล้วหนึ่งในสองเต็มตา ที่ยังไม่รู้ว่าระหว่างนายคนนี้ กับอีกคนที่คุมเชิงอยู่ คนไหนชื่อกร และคนไหนชื่อตรี “เชิญพ่อเลี้ยงขึ้นรถเถอะครับ ผมจะคุมคุณนักข่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ตามตอแยพ่อเลี้ยงให้รำคาญ” พร้อมกับที่บอกเจ้านาย มือแข็งๆ ก็จับไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนไว้มั่น “ปล่อย...เธอเถอะ ตรี” เสียงห้าวมีกังวานทุ้มนุ่มพูดขึ้น อ้อ! นายยักษ์ที่จับไหล่หล่อนไว้ ชื่อตรี ตรีทำท่าลังเล หน้านิ่วคิ้วขมวดไปทีเดียวกับคำสั่งเรียบๆ ของเจ้านายหนุ่ม แต่ยังไม่ยอมละมือจากไหล่โปร่งบาง กระทั่งเสียงห้าวเริ่มจะฟังห้วน สำทับขึ้นอีก “บอกให้ปล่อย... คุณนักข่าวยังไงล่ะ ตรี ไม่ได้ยินหรือ?” เมื่อนายจะเอาอย่างนี้ ตรีก็ยอมละมือจากไหล่เล็กๆ อย่างอดไม่ได้ โดยนิสัยที่ชอบวางท่ายียวนกวนประสาทคน จึงแกล้งกระดิกนิ้วปัดฝุ่นที่มองไม่เห็นตรงหัวไหล่ทั้งสองข้าง ที่ถูกมือแข็งๆ จับมั่นเมื่อสักครู่ เกือบจะคิดว่าหูฝาด เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากคนตัวสูง เจ้าของดวงตาคมจัดๆ ที่ทำเอาหล่อนเกิดอาการประหลาด เมื่อเผลอสบเข้าอย่างจังครั้งแรก ทั้งนี้เพราะไม่คิดว่าในสถานการณ์เยี่ยงนี้ เขาจะยังมีอารมณ์ขัน แต่เสียงหัวเราะทุ้มๆ ก็ฟังว่าเจ้าตัวเกิดอารมณ์ขันขึ้นมาจริงๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงถามที่ฟัง...ถ้า จะใช้คำว่าอบอุ่น และเป็นกันเอ๊ง-กันเอง คงจะไม่เกินไป “อยากสัมภาษณ์ผมนักหรือ มนิลา” ความที่มัวแต่ตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำถามที่ก่อให้เกิดความหวังมากขึ้นว่า งานที่รับมอบหมายจะเรียบร้อย ทำให้ไม่ทันได้จับกระแสเสียงที่ค่อนข้างจะอ่อนโยนในยามปล่อยชื่อหล่อนพ้นริมฝีปากงามได้รูปที่ดูแข็งแรง “ค่ะ ดิฉันต้องการสัมภาษณ์คุณจริงๆ ค่ะ พ่อเลี้ยง และหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธถ้าหากคุณแน่ใจว่าธุรกิจนำเที่ยว โครงการล่าสุดของคุณไม่มีอะไรแอบแฝง” บอกออกไปแล้วก็รออยู่ว่าจะมีคำตอบมากลับอย่างไร “ตกลงว่าอยากสัมภาษณ์ผม และต้องสัมภาษณ์ให้ได้” “ค่ะ และถ้าเป็นไปได้ ดิฉันก็อยากให้คุณ เอ้อ...พ่อเลี้ยง นัดวันเวลาและสถานที่มาเลยจะดีมาก คุณ...พ่อเลี้ยงยอมให้ดิฉันได้สัมภาษณ์เร็วเท่าไหร่ ดิฉันก็จะไปพ้นหูพ้นตาพ่อเลี้ยงเร็วเท่านั้น” “ก็ไม่แน่ บางทีผมอาจจะอยากเห็นใบหน้าคุณอีกนานๆ ก็ได้” “เอ๊ะ! ตกลงคุณจะเอายังไงแน่? จะยอมให้ดิฉันสัมภาษณ์ดีๆ หรือว่าต้องคอยตามสะกดรอยไปเรื่อยๆ ก็ว่ามา พูดจาวกวนอยู่ได้” บรรดาองครักษ์พิทักษ์นายที่ล้วนแต่ร่างใหญ่โต เกือบลืมตัวเผลอทำคอย่น เพราะแน่ใจว่า โดนวาจาลักษณะนี้เข้า พ่อเลี้ยงของพวกเขา ปรี๊ดแน่ เลยอ้าปากค้างไปตามๆ กัน เมื่อนายของพวกเขายังกลั้วหัวเราะน้อยๆ คล้ายๆ จะเอ็นดูคนตัวเล็กที่ขึ้นเสียงอย่างฉุนเฉียว “ใจร้อนจริง แล้วพูดจาท่าทางอย่างนี้ ไม่กลัวหรือว่าจากที่คิดอนุญาตให้สัมภาษณ์ได้ ผมอาจเปลี่ยนใจ” “หมาย...หมายความว่า คะ... คุณ เอ่อ... พ่อเลี้ยงยอมให้ดิฉันสัมภาษณ์?” “ครับ” “พูดแล้วไม่กลับคำนะ?” “ผมพูดคำไหนคำนั้น” “เมื่อไหร่ ที่ไหนคะ? อ้อ ถ้าจะกรุณา ดิฉันต้องขอถ่ายรูปประกอบคำสัมภาษณ์ด้วยนะคะ” “อย่างนี้เขาเรียกได้คืบจะเอาศอก” เสียงว่าขันๆ มาก่อนตอบคำถาม “พรุ่งนี้ สัก...สิบโมงครึ่ง คงไม่เช้าเกินไป รอที่ล็อบบี้โรงแรมที่คุณพัก ผมจะให้คนของผมเอารถไปรับ” “คุณ...พ่อเลี้ยงรู้ด้วยว่าฉันพักที่ไหน?” “ผมยังรู้อีกหลายอย่างที่... คุณอาจคิดไม่ถึง เป็นอันตกลงนะครับ พรุ่งนี้เจอกัน อ้อ คุณเรียกผมตามสบายเถอะ ไม่จำเป็นต้องเรียกพ่อเลี้ยงตามคนอื่นๆ ก็ได้ จะว่าไป ผมยังมีอีกหลายชื่อให้คุณเรียก ถ้าคุณสนใจวันหลังผมจะบอก” “บอกตอนนี้ไม่ได้หรือคะ ฉันจะยังไม่เปิดเทปบันทึกเสียงคุณก็ได้” “พรุ่งนี้ครับ” “สถานที่สัมภาษณ์ละคะ พอจะบอกได้มั้ยว่าที่ไหน” “คุณอยากรู้เรื่องเรือสำราญของผมไม่ใช่หรือ ผมก็จะพาคุณไปที่นั่นแหละ นั่งสัมภาษณ์กันบนเรือเลยให้ได้บรรยากาศ” ส้มหล่นทั้งเข่งขนาดนี้ ปฏิเสธก็โง่แล้ว!

เล่ห์รักร่ายริษยา

เล่ห์รักร่ายริษยา

โรแมนติก

3.0

หัวใจที่เคยแกร่งกร้าวของเขามีอาการไหววาบ แรงจนเขารู้สึก ชายหนุ่มบอกตัวเอง....ต่อให้เขาสูญเสียความทรงจำ ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง แต่จะไม่มีวันลืมดวงตาดำใหญ่ งามยิ่งกว่าดาวบนฟ้าคู่นั้น ....คนธรรพ์ เทวาธร <> หน้าคมสันของเขาชวนมอง แก้มคางที่ปรากฏเงาเขียวจางๆ ใต้ผิวท่าจะสากมือนุ่มของหล่อน เครื่องหน้าทุกชิ้นของเขา เริ่มเจนตาและเจนใจหล่อน ไม่ว่าจะเป็นจมูกโด่งขึ้นสัน ดวงตาคมลึกในวงล้อมแผงขนตาดกหนาเป็นตับ ปากได้รูปบางตึงมุมปากหยักขึ้นหุบสนิทแต่ก็พร้อมที่ยิ้มทุกเมื่อด้วยรอยยิ้มเก๋บาดใจ ในสายตาของอคิราภ์เห็นว่าผู้ชายคนนี้ทั้งสง่า ภาคภูมิย่างหาตัวจับยาก ไม่ว่าขณะอยู่ในชุดทำงานประจำวัน คือกางเกงยีนส์เป็นหลัก กับเชิ้ตแขนยาวที่มีทั้งแบบลายสลับสีและที่เป็นสีพื้น สอดชายกางเกงไว้ในบู้ทยาวถึงใต้เข่า หรือแต่งสูททั้งเต็มยศและลำลอง เขาไม่ใช่ผู้ชายสำรวย ไม่ถึงกับหล่อเฟี้ยวอย่างดาราพระเอกหน้าสวยบางคน แต่ก็คมสันชวนมอง ออกลักษณะชายชาตรีขนานแท้ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างดีมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแต่งกายอย่างไหนก็มองเห็นไหล่กว้าง อก แขน ล่ำสัน ลำขายาวตรง แข็งแรง สะโพกเพรียวแกร่งไปหมดตลอดสัดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีมาด มีบุคลิก น่าเกรงขาม ออกลักษณะชวนศรัทธา ก่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ผู้ใกล้ชิด เขาไม่ดูน่ากลัวสำหรับมิตร แต่เชื่อได้เลยว่ากับศัตรูที่หมายเข่นฆ่าให้อาสัญ เขาจะร้ายกาจได้น่ากลัวชวนขนหัวลุกทีเดียว ....อคิราภ์ <> “คุณว่าเอ๋ยต่างๆ ที่ท้อแท้และยอมรับความสิ้นหวังง่ายๆ ตัวคุณเองละคะ ไม่ทันไรก็จะ...ยอมแพ้ ไม่ยอมตั้งความหวังอะไรเสียแล้ว” “อคิราภ์...” เสียงคนธรรพ์ฟังคล้ายสำลัก “พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า?” “รู้สิคะ ดิฉันไม่ได้กำลังเพ้อเพราะพิษไข้นี่นาจะได้ไม่รู้ตัว” “แต่ก็ยังพูด...” “ที่พูด เพราะอยากบอกคุณว่า... บอกว่า...” “ว่าอะไร?” “บอกว่า... คุณไม่ควรสิ้นหวังแต่เริ่มต้น คุณเป็นคนดี มีน้ำใจ ใครจะอยากเห็นคุณดีๆ อย่างคุณผิดหวังคะ” “ถ้าเธอจะพยายามตอบแทนบุญคุณฉัน...” เสียงห้าวกลับห้วนขึ้นอีก หน้าก็ขึงตึง “ก็ขอบอกว่าฉันไม่ต้องการ!” “แล้วถ้าไม่ใช่เป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่เป็น... เป็นการทำตามที่หัวใจตัวเองเรียกร้องเหมือนกันละคะ คุณจะว่ายังไง” หน้าคมสันที่เมินจากหน้าหล่อนหยกๆ หันขวับมา “เธอเด็กเท่านี้จะไปรู้อะไรเรื่องหัวใจ? จะรู้ได้ยังไงว่าหัวใจตัวเองเรียกร้องอะไร อย่ามาพูด...” “ทำไมจะไม่รู้!” คนถูกกล่าวหาว่ายังเด็กเกินกว่าจะเรื่องเกี่ยวกับหัวใจเถียงคอขึ้นเอ็น “คุณคิดว่าคุณเป็นคนเดียวหรือไง ที่เที่ยวปล่อยใจรักคนอื่นทั้งที่เห็นว่าไม่สมควร ยังไม่ถึงเวลา และทั้งๆ ที่มองเห็นความแตกต่างจนไม่กล้าแม้แต่จะคิด ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงกับตนบ้าง” หน้าเชิดๆ สะบัดไปยังทิศทางที่ไม่มีร่างสูง “เอาล่ะค่ะ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เชื่อเอาจริงๆ ว่าคนอายุขนาดดิฉันไม่น่าจะรู้ใจตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองมีใจผูกพันอยู่กับใคร ดิฉันก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว และจะไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ อีกต่อไป แม้แต่ทุนการศึกษาจากผู้ใจบุญที่ไม่ประสงค์จะออกนามที่ช่วยให้ดิฉันได้เรียนต่ออย่างสบายๆ นั่นด้วย ดิฉันจะกลับไปบอกแม่อธิการว่าดิฉันไม่ขอรับ” “เกเรใหญ่แล้ว!” เสียงพูดมาฟังกลั้วหัวเราะ “แล้วใครบอกเรื่องทุนการศึกษา ฉันจำได้ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอเลยนะ” “ถึงคุณไม่บอก ดิฉันก็รู้ คนที่บอกก็ไม่ใช่แม่อธิการด้วยละ” “งั้นก็ต้องยายวิ ไม่ไหว ไม่รู้จักรักษาความลับซะมั่งเลย น่าถูกงดค่าขนมพิเศษนักเชียว” “ใครว่าวิบอก คุณคันธรสต่างหากที่บอก” เห็นว่าเพื่อนกำลังถูกเข้าใจผิด ทำให้โพล่งออกไป คนธรรพ์นิ่งไปพักใหญ่จึงพูดขึ้น “เพราะอย่างนี้เองหรือ ถึงไม่อยากเห็นฉันผิดหวัง ความสำนึกในบุญคุณ?” “ถ้าคุณยังเข้าใจอย่างนั้น ก็ไม่ขอพูดด้วยแล้ว!” ว่าแล้วก็หันหลังให้ แต่ไม่ทันก้าวได้สักกี่ก้าว ร่างโปร่งบางก็ปลิวกลับ ก่อนถูกมัดแน่นด้วยสองแขนที่ทั้งแข็งแรงและทรงพลัง

กลลวงอสูรซ่อนใจ

กลลวงอสูรซ่อนใจ

โรแมนติก

5.0

หลังจากเข้าสู่โหมดครอบครัวแสนสุข ดร.ทรงพิชิต ธันยธร กับภรรยาสุดที่รักก็มีทายาทที่เป็นดั่งสายเลือดรักด้วยกันสองคน “กลลวงอสูรซ่อน” เป็นเรื่องของลูกสาวคนโตของพระ-นางในเรื่อง “อุบัติรักใต้เงาอสูร” (มีทั้งอีบุ๊กและหนังสือเสียงให้โหลด ท่านใดยังไม่เคยผ่านตาก็ลองเข้าไปโหลดฟังหรืออ่านตัวอย่างได้ฟรีในMebค่ะ) สำหรับเรื่องราวของพชรดนัย หรือ เพชร น้องชายนางเอกเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องยาว ออกแนวทะเลทราย ถ้าชีวิตราบรื่นก็คงได้อ่านกันภายในปีนี้ ตอนนี้อ่านเรื่องราวของหนูจุ๋ม ลูกสาวสุดที่รักของพ่อทรงแม่พจีไปก่อนนะคะ ด้วยรักและขอบคุณ ^^__^^ พันแสงจันทร์ <>สปอย<> “ปากจุ๋มดูน่าจูบจัง” “อะ...อะไรนะคะ?” “อยู่ใกล้กันแค่นี้ยังไม่ได้ยินอีก พี่ไม่ได้พูดเป็นกระซิบซะหน่อย” “ได้ยินค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกต้อง” “ถ้าจุ๋มได้ยินพี่ชมปากจุ๋มน่าจูบ ก็ถือว่าเป็นการได้ยินที่ถูกต้องแล้วล่ะ อะไร? ไม่เคยมีใครบอกเลยเหรอว่าปากจุ๋ม...” “พอแล้วค่ะ ไม่ต้องย้ำอีกก็ได้” หล่อนค้อนเขาตรงๆ ตามด้วยเสียงเสียงบ่นอุบ “จริงๆ เลยนะ คุณนี่ ทำไมถึงชอบพูดให้จุ๋มตีหน้าไม่ถูกเรื่อยเลย แล้วสุภาพบุรุษน่ะเขาไม่พูดหรือแสดงอะไรให้ผู้หญิงขัดเขินหรอกนะคะ” “พี่ยังไม่เคยพูดสักทีว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แล้วถ้าการเป็นสุภาพบุรุษจะทำให้ชมผู้หญิงสักคนตามความรู้สึกไม่ได้ พี่ก็ไม่อยากเป็นหรอก” “ไม่อยากเป็นสุภาพบุรุษ แล้วอยากเป็นคนเถื่อนอย่างนั้นหรือคะ อันที่จริงมาดคุณก็ให้อยู่นะ ถ้าจะแสดงตัวเป็นมนุษย์ยุคหินอาศัยอยู่ตามถ้ำ นุ่งหนังสัตว์แทนเสื้อผ้าอย่างคนศิวิไลซ์แล้ว” “เป็นได้ก็ดีสิ ชอบผู้หญิงคนไหนก็เอากระบองตีหัวลากเข้าถ้ำไปเลยไม่มีความผิด” “แหม! คิดอยู่เรื่องเดียวเองหรือคะ” “ใครบอก พี่คิดหลายเรื่องเลยละ แต่พูดไปจุ๋มก็จะยิ่งว่าพี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษนะสิ”

อุบัติรักใต้เงาอสูร

อุบัติรักใต้เงาอสูร

โรแมนติก

5.0

**ฝากคู่พี่ทรงกับหนูพจีด้วยนะคะ ท่านใดชอบแนวรักโรแมนติกผจญภัยน่าจะชอบเรืองนี้ อารัมภบท หลังการการหายตัวไปของบิดา ชีวิตอบอุ่น เต็มไปด้วยความสงบสุขของพจีจำเรียงไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนไป แต่ยังเป็นจุดเริ่มนำพาเธอสู่วังวนที่เต็มไปด้วยภยันตราย แล้วใครล่ะ จะเข้ามาช่วย? เขา...หรือ? ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักทว่าเธอกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว แม้จะยังวางใจเขาได้ไม่สนิท เพราะรู้สึกว่าเขายังปิดบังตัวตนที่แท้จริง และที่น่าคลางแคลง ดูเหมือนภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอจะมาพร้อมกับเขา <>สปอย<> พจีจำเรียงมีความสุขที่ได้เต้นรำกับคนที่หล่อนรัก และดูเหมือนว่าเขาเองก็มีความรู้สึกระดับเดียวกับหล่อน แม้จะยังไม่พูดออกมาตรงๆ ทรงพิชิตกอดหล่อนแน่นขึ้น เมื่อเป็นเพลงวอลซ์ หล่อนเองเลื่อนมือที่แตะต้นแขนเขา เป็นสอดโอบรอบเอวเขาตอบ แต่แล้วก็นิ่วหน้า เมื่อมือสะดุดสะดุดเข้ากับอะไรแข็งๆ ซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอกบริเวณสีข้างเขา หล่อนเงยมองเขาขวับ เมื่อบอกตัวเองว่า สิงที่มือของหล่อนบังเอิญไปสัมผัสเข้านั้นคือ...ปืน! ศีรษะหล่อนกระแทกปลายคางเขาดังกึก ทำเอาทรงพิชิตผงะเล็กน้อย “มีอะไร?” เขาถาม เมื่อมองตาหล่อน คงเห็นหล่อนเผยอปากแต่ไม่มีเสียง “คุณพกปืน?” หล่อนตอบเป็นกระซิบ มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ พจีจำเรียงมาคิดย้อนหลังดูแล้ว ก็เห็นว่าทรงพิชิตอาจจะทำตัวเปิดเผย หล่อนถามอะไรเขาก็ตอบอย่างไม่ลังเล แต่สิ่งที่เขาบอกแก่หล่อนนั้น อยู่ในอดีตของเขาทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่องครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง และงานที่เขาทำ และดูเหมือนว่าเขาจะเลี่ยง ไม่พูดถึงงานปัจจุบันของเขา เขาบอกว่าเขาได้พัก เลยคิดจะมาพักผ่อนเงียบๆ สบายๆ คนตั้งใจมาพักผ่อนเฉยๆ ทำไมจึงมีคนคอยสะกดรอยตาม? หล่อนเคยพยายามจะถามเขา เขาก็พูดปัดๆ ไป แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับพกปืนติดตัว ซึ่งออกจะขัดกันอยู่กับการแสดงออกของเขาที่ดูจะไม่กังวลอะไรเลย “อย่ามองผมอย่างนั้น” เขาพูด ปากเม้มเข้าหากันก่อนคลาย “คุณโกหกฉัน?” หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาเขาเลย แต่ดูเหมือนคำพูดฟังกล่าวหาของหล่อนจะทำให้เขาสะเทือนไม่น้อย เพราะคลายแขนที่โอบรัดรอบตัวหล่อนออกทันที สีหน้าสุขสงบ เปลี่ยนเป็นขรึมเครียด “เรากันกลับกันเถอะ อยู่ไปก็ไม่สนุก” เขาบอกด้วยสุ้มเสียงฟังว่ากำลังพยามระงับอารมณ์ แต่จะเป็นอารมณ์ชนิดใดก็บอกไม่ถูก ที่แน่ๆ เห็นจะไม่ใช่อารมณ์รักอารมณ์ใคร่ “แหม! ใจตรงกันเลยค่ะ” หล่อนต่อตาเขาไม่หลบอย่างท้าทาย เขาขบฟัน จนเห็นรอยนูนของสันขากรรไกรที่ข้างแก้ม เมื่อกลับออกมาจากคลับกันนั้น พจีจำเรียงไม่มีอารมณ์ใส่ใจกับสิ่งใด เดินนำหน้าชายหนุ่มกระทั่งถึงห้องพัก หล่อนเดินผ่านห้องนั่งเล่นกะทัดรัด ไม่คิดจะหยุดบอกราตรีสวัสดิ์เขา แต่ก่อนที่หล่อนจะทันเอื้อมมือเปิดประตูห้องนอน ก็ถูกกระชากกลับ ร่างโปร่งบางหมุนเป็นครึ่งวงกลม ก่อนส่วนหน้าทั้งหมดจะปะทะเข้าร่างสูงแข็งแรง หล่อนได้สำนึกว่า ไม่บังควรเล่นกับไฟ ก็เมื่อถูกเขาจูบเหมือนจะดูดลมหายใจไปจากหล่อนจนหมด หล่อนตัวอ่อนระทวย อย่างคนไร้เรี่ยวแรง เมื่อเขาถอนจุมพิต ถอยใบหน้าออกห่างเพื่อมองหน้าหล่อนชัดๆ “พจีควรจะรู้นะ ไม่ควรทำให้ผมลืมตัว” “แค่นี้เองหรือคะที่คุณพูดได้?” หล่อนสบตาเขาอย่างน้อยใจระคนกล่าวหากึ่งตัดพ้อ ที่เขากำลังทำเอาหล่อนสับสนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะไว้ใจเขา หรือไม่พึงไว้ใจดี “ก็พจีจะเอาแค่ไหนล่ะ หรือถึงขั้นผมต้องเปิดเปลือยวิญญาณ ถึงจะเชื่อใจว่าผมไม่เคยคิดร้าย หรือแม้แต่หวังร้ายต่อพจี?” “ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกค่ะ แค่คุณตรงไปตรงมา ไม่มีลับคมนัยก็พอแล้ว” “บางอย่างก็ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องพูด หรือบอก” “เมื่อไหร่ละคะ จึงจะถึงเวลาที่ว่า เวลาที่คุณจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?” “ผมก็ไม่ได้ปิดบังอะไรนี่ ความเป็นมายังไงก็บอกไปหมดแล้ว” พจีจำเรียงส่ายหน้า “ไม่หรอก คุณยังไม่ได้บอกอะไรเลย” “จะไม่บอกอะไรเลยได้ยังไง อะไรที่ถามผมไม่เคยไม่ตอบ” ทรงพิชิตนิ่วหน้า มือจับไหล่โปร่งไว้มั่น “งั้นช่วยตอบคำถามอีกสักคำถามซีคะ” “คำถามอะไร?” “คนระดับศาสตราจรย์ มีพีเอช. ดี อย่างคุณ ทำไมจะต้องมีคนสะกดรอย ถ้าที่คุณบอกเป็นความจริง คือแค่สอนหนังสือ หรืออาจจะได้รับเชิญไปเล็คเชอร์ตามมหาลัยต่างๆ ไม่มีอะไรลึกลับ?” ทรงพิชิตไม่ตอบ ปล่อยมือจากไหล่โปร่ง โดดผึงไปที่บานหน้าต่างขวามือของห้องนั่งเล่น ที่เปิดแง้มนิดๆ ซึ่งก่อนออกไปยังปิดอยู่ มืดกำหมัดของเขาพุ่งไปก่อน เพื่อกระแทกบานหน้าให้เปิดกว้าง จากนั้นตัวเขาก็โจนเหยียบกรอบหน้าต่าง แล้วโดดลงสู่พื้นดิน ซึ่งไม่สูงเท่าไหร่ ออกวิ่งตามเจ้าของใบหน้าวอบแวบทางหน้าต่าง

กับดักเสน่หาอาญาอสูร

กับดักเสน่หาอาญาอสูร

โรแมนติก

5.0

ทันทีที่ลิ้นนุ่มของหล่อนถูกแตะสัมผัสโดยลิ้นแปลกปลอมของชายหนุ่มและถูกกระหวัดรัดดูด หล่อนก็แทบไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว แม้แต่ชื่อตัวเองก็ยังนึกไม่ออก ร่างอรชรนุ่มนิ่มแอ่นโค้งขึ้นราวคันศรเมื่อมือหนาอุ่นซ่านข้างหนึ่งของชายหนุ่มคลำเปะปะจากแผ่นหลังวกมาข้างหน้ามุ่งเข้าเนินคู่ครัดเคร่งแห่งวัยสาวขณะมือหนาอีกข้างยังกางออกรองรับแผ่นหลังบอบบางเอาไว้อย่างมั่นคง ขวัญณภัทรไม่แน่ใจนักว่าเสียงครางรัญจวนที่ได้ยินเกิดจากชายหนุ่มหรือมาจากหล่อน แต่อย่างไรก็ตามเสียงประหลาดฟังแปร่งหูนี้ก็ช่วยกระชากสติสัมปชัญญะที่กำลังเตลิดเปิดเปิงคืนมาได้ “พอแล้วค่ะ” แทบไม่น่าเชื่อว่านั่นคือเสียงของหล่อนเพราะสั่นทั้งพร่า วินภวัตชะงัก มองสบตากลมโตที่แม้จะมีแววตื่นตระหนกแต่เขาก็ยังเล็งเห็นแววรัญจวนของความปรารถนาระคนอยู่ เขาถอนใจ ยอมปล่อยมือจากกายนุ่ม จากนั้นก็ขยับออกห่าง ถอนใจอีกเฮือกเมื่อเห็นหญิงสาวดึงเสื้อผ้าตัวเองให้เข้ารูปเข้ารอยวุ่นวายขณะใบหน้าแดงก่ำไปหมด <> “การที่ผมคิดถึงผู้หญิงแปลกหน้าที่บังเอิญได้สบตาด้วยไม่ถึงสิบวินาที ได้แตะหลังมือไม่ถึงอึดใจมาเป็นเดือนๆ ดีใจแทบลุกขึ้นร้องไชโยโห่ฮิ้วเมื่อได้เจออีกครั้งราวปาฏิหาริย์ถ้าเพียงเจ้าหล่อนจะไม่เนื้อตัวอาบเลือด หมดสติจากการโดนยิง...นี่นะหรือที่คุณว่าอาจจะเป็นแค่อารมณ์หวือหวาวูบวาบ แล้วผู้หญิงอื่นที่ไหน ที่คุณเอามาเปรียบว่าผมอาจจะเห็นคุณแตกต่างไปจากเขา จะบอกให้นะ ผมน่ะ เกือบคิดว่าตัวเองกามชาด้านกระมั่งได้เจอคุณ ตั้งแต่นั้นมาแค่คิดถึงริมฝีปากของคุณ ผิวราวกับกลีบดอกลำดวนของคุณผมก็แข็งขึงพร้อมลุกขึ้นฟัด”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ของเล่น (3P)

ของเล่น (3P)

โรแมนติก

5.0

ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้ชายสองคนในคราเดียว ยิ่งฉันหนี พวกเขาก็ยิ่งตาม! “ไอ้พระรามมันเคยทำกับน้องกูแบบไหน กูก็จะทำกับน้องมันแบบนั้นแหละ!” ปึง! ไดมอนด์วางแก้วเหล้ากระทบกับโต๊ะกระเบื้องอย่างแรงเพื่อระบายความรู้สึก เมื่อนึกย้อนไปยังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต “กูขอเวลาสองเดือน กูจะปิดจ๊อบน้องมันให้ได้” “สองเดือนเลยหรอวะ ระดับคุณไดมอนด์แค่เดือนเดียวก็พอมั้ง?” “ไม่มีปัญหา เดือนเดียวก็เดือนเดียวสิวะ” “แล้วมึงอ่ะไอ้ดิน เห็นด้วยกับไอ้มอนด์หรือเปล่า?” เพื่อนชายในกลุ่มหันไปถามแผ่นดินที่เอาแต่นั่งกอดอกเงียบตั้งแต่มาถึง “เอาดิ! ช่วงนี้กูว่าง ไม่มีอะไรทำ” แผ่นดินแบบไม่ใส่ใจมากนัก “ใครที่ปิดจ๊อบยัยนั่นได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ ตกลงไหม?” ไดมอนด์หันไปกอดคอแผ่นดินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน “ชนะแล้วได้อะไร?” “สามล้าน!” “กูขอห้าล้าน!” แผ่นดินต่อรองพร้อมกับหันไปจ้องหน้าเพื่อนชาย “ถ้าไม่ได้ห้าล้านก็ไม่เล่น เสียเวลา!” สิ้นประโยคนั้นเขาก็หยัดตัวลุกขึ้น แต่ถูกไดมอนด์คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน “ได้ดิ! ไม่มีปัญหา ห้าล้านก็ห้าล้าน”

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

โรแมนติก

4.7

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

พายรักร้ายคุณชายตำรวจ

พายรักร้ายคุณชายตำรวจ

โรแมนติก

5.0

เขาเป็นคนรักใครรักยาก ในเมื่อเธอเข้ามาทำให้รักแล้ว ยากที่จะปล่อยเธอไป "มาทำให้ฉันรัก แล้วคิดจะออกไปจากฉันง่ายๆ งั้นเหรอ ไม่มีวัน" พูดจบ มือหนาก็กระชากคนตัวเล็กเข้ามาระดมจูบเข้าใบหน้าสวย อย่างหนักหน่วง จูบที่ดิบเถื่อน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นคนรักใครรักยาก แต่ในเมื่อยัยตัวแสบเข้ามาทำให้รักแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยเธอไป ปากหยักหนาถอนจูบออกจากคนตัวเล็ก และอุ้มเดินไปยังลานจอดรถ "...พี่ธีร์นี้พี่จะทำอะไร ปะ...ปล่อยฉันนะ" "ของเคยๆ กันอยู่จะกลัวไปทำไม" ธีร์ณัฐจ้องมองคนตรงหน้าที่แสนจะพยศ "อย่านะพี่ธีร์ ไม่..." หึ... รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาที่มุมปากหยัก "เด็กแสบๆ อย่างเธอจะได้ไม่กล้า มาบอกเลิกฉันอีก" ธีร์ณัฐตะเบ่งเสียงด้วยท่าทีโกรธจัด พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจัดการปิดเสียงอันน่ารำคาญที่ออกจากปากคนตัวเล็ก (ธีร์ณัฐ พี่ชายดีเทล เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ) (ข้าวตัง เพื่อนสนิทโรรา เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ)

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

เมืองแฟนตาซี

5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

โรแมนติก

5.0

เพราะชาติก่อนคุณหมอสาวโง่เขลาเชื่อมั่นในความรัก จึงถูกวางยาพิษจนตาย ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเป็นสวีอี้หลิง บุตรสาวของท่านโหวซึ่งนางเองก็ถูกวางยาเช่นกัน การกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้นางจะแก้ไขชะตาของคุณหนูที่น่าสงสารคนนี้ให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้ สวีอี้หลิงคนนี้จะไม่คิดใส่ใจสามีที่ตนเองไม่ได้เต็มใจรับเป็นอันขาด ทว่าต่อให้ไม่สนใจ ถึงอย่างไรนางก็ต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้มากความสามารถ ดังนั้นนางจะเป็นสตรีเรือนหลังที่เอาแต่จมทะเลน้ำตา และอ่อนแอไม่สู้คนไม่ได้! ต่อให้สามีไม่รักนางหรือชิงชังนางก็ช่าง นางเองก็มิได้ต้องการเขาเป็นสามีสักหน่อย แค่เพียงมอบหนังสือหย่าให้เท่านั้น สวีอี้หลิงก็พร้อมจากไปทันที ชีวิตสองชาติภพนางจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกแล้ว!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สอนรักลูกสาวท่านประธาน
1

บทที่ 1 Chapter 1

10/02/2023

2

บทที่ 2 Chapter 2

10/02/2023

3

บทที่ 3 Chapter 3

10/02/2023

4

บทที่ 4 Chapter 4

10/02/2023

5

บทที่ 5 Chapter 5

10/02/2023

6

บทที่ 6 Chapter 6

10/02/2023

7

บทที่ 7 Chapter 7

10/02/2023

8

บทที่ 8 Chapter 8

10/02/2023

9

บทที่ 9 Chapter 9

10/02/2023

10

บทที่ 10 Chapter 10

10/02/2023

11

บทที่ 11 Chapter 11

28/02/2023

12

บทที่ 12 Chapter 12

28/02/2023

13

บทที่ 13 Chapter 13

28/02/2023

14

บทที่ 14 Chapter 14

28/02/2023

15

บทที่ 15 Chapter 15

28/02/2023

16

บทที่ 16 Chapter 16

28/02/2023

17

บทที่ 17 Chapter 17

28/02/2023

18

บทที่ 18 Chapter 18

28/02/2023

19

บทที่ 19 Chapter 19

28/02/2023

20

บทที่ 20 Chapter 20

28/02/2023

21

บทที่ 21 Chapter 21

28/02/2023

22

บทที่ 22 Chapter 22

28/02/2023

23

บทที่ 23 Chapter 23

28/02/2023

24

บทที่ 24 Chapter 24

28/02/2023

25

บทที่ 25 Chapter 25

28/02/2023

26

บทที่ 26 Chapter 26

28/02/2023

27

บทที่ 27 Chapter 27

28/02/2023

28

บทที่ 28 Chapter 28

28/02/2023

29

บทที่ 29 Chapter 29

28/02/2023

30

บทที่ 30 Chapter 30

28/02/2023

31

บทที่ 31 Chapter 31

28/02/2023

32

บทที่ 32 Chapter 32

28/02/2023

33

บทที่ 33 Chapter 33

28/02/2023

34

บทที่ 34 Chapter 34

28/02/2023

35

บทที่ 35 Chapter 35

28/02/2023

36

บทที่ 36 Chapter 36

28/02/2023

37

บทที่ 37 Chapter 37

28/02/2023

38

บทที่ 38 Chapter 38

28/02/2023

39

บทที่ 39 Chapter 39

28/02/2023

40

บทที่ 40 Chapter 40

28/02/2023