Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สอนรักลูกสาวท่านประธาน

สอนรักลูกสาวท่านประธาน

ลิลเอง

5.0
ความคิดเห็น
763
ชม
44
บท

ไม่เลย...เธอไม่ชอบเขาสักนิด ถึงสาวๆ จะลงคะแนนเอกฉันท์ว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ากินก็เถอะ เหตุนี้เธอถึงโมโหนัก เมื่อเขาทำให้เธอได้แต่ครวญครางอยู่ใต้ร่างหนาแกร่งด้วยมัดกล้ามที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คงพากันตาลุกวาว ---สปอย--- “รู้ใช่มั้ยว่าพี่รัก” เขาถาม ดวงตาคู่งามเหลือบขึ้นสบตาเขาถามเสียงที่พยายามปั้นปึ่งเท่าที่จะทำได้ “ก็รักใครล่ะ” “รักแม่สาวจอมหยิ่งแสนพยศคนนี้นะสิ” เขาใช้นิ้วคีบปลายจมูกโด่งรั้นสั่นเบาๆ “เรื่องอะไรมาว่าเค้าหยิ่ง” “ก็หยิ่งจริงๆ หรือจะว่าหัวสูง นี่ถ้าพี่เป็นแค่พนักงานบริษัทต๊อกต๋อยสงสัยว่าชาตินี้คงไม่มีได้สมหวังที่บังอาจมาหลงรักลูกสาวท่านประธาน” “ก็ไม่แน่” “หมายความว่าทิเองเริ่มมีใจให้พี่ตั้งแต่ยังคิดว่าพี่เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนบริษัทคนหนึ่งงั้นเหรอ” ทิราภาไม่ตอบ แต่การไม่ยอมสบตาเขา และมือเรียวขาวก็ง่วนอยู่กับการเล่นดุมเชิ้ตน่าจะเป็นคำตอบได้แล้วสำหรับสาวคนนี้ ภานนท์ยิ้มออกมา แววตาเขาอ่อนโยน และเต็มไปด้วยความรักยามเชยคางเรียวเพื่อให้คนที่เคยปากเก่งชอบจิกกัดเขาบ่อยๆ เงยหน้าขึ้น ตากลมโตในกรอบขนตางอนฉายแววทำเอาดอกเตอร์หนุ่มไม่คิดจะปล่อยเวลาให้หมดไปกับการพูดคุย ในเมื่อเขาเองก็ปรารถนาที่จะแสดงออกถึงความรักด้วยการกระทำผ่านร่างกายมากกว่าลมปากอยู่แล้ว ภานนท์ช้อนอุ้มร่างบางอิ่มไปวางบนเตียง ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นทิราภาก็ต้องเผชิญกับความทรมานที่แสนหวาน หล่อนร้อนรุ่มอยู่ใต้ไฟรักโหมกระหน่ำ จวนเจียนจะทะยานสู่จุดสุดยอดด้วยนิ้วมือปรนเปรอของเขา ขณะยอดสีชมพูเครียดครัดอยู่ภายใต้การครอบครองของปากอุ่นชื้น กว่าเขาจะยอมเติมเต็มอย่างแท้จริงตามคำเรียกร้องแทบจะเป็นวิงวอนของหล่อน ทิราภาก็แทบสะอื้นไห้ยามลิ้นกระด้างปักล้วงลึกเข้าไปในร่องรัก ภานนท์ใช้สองนิ้วแยกกลีบเพื่อควานลิ้นไซ้แทรก กลิ่นกายสาว น้ำหวานรสทิพย์หลั่งรินให้เขาดื่มดูดสร้างความทรมานแก่เขาไม่น้อยไปกว่าที่เขาทำกับร่างงามละมุน ทิราภาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อลิ้นสากเลียวนรอบปุ่มกระสันและปาดอย่างรวดเร็ว หล่อนครางดังแหลม กายเกร็งแอ่นค้าง ภานนท์ขยับตัวยันกายลุกจากท่าหมอบ ลงนั่งกลางหว่างขาที่อ้ากว้าง จังหวะตอดขมิบมีน้ำหวานสีใสหลั่งรินแทบจะทำเอาเขาถึงจุดสุดยอด ก่อนเขาจะใช้กลยุทธ์เพลงกามที่ฝึกมาช่ำชองจัดการให้หล่อนเป็นของเขา หล่อนยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ทำให้เขายิ่งภูมิใจที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของหล่อน แม้เขาจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรหมจารีเท่าใดนัก และแน่นอนว่าต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เหนือร่าสงงามยั่วยวนใจนี้ เขาถึงกับสูดปาก หน้าเหยขณะดันแก่นกายอวบหนาแข็งขึงเข้าในร่องรักคับแน่นและระอุจัด สะโพกงอนงามแอ่นหยัดราวจะดูดดึงท่อนลำเขาเข้าไปไว้ข้างใน แต่เขาค่อยๆ สอดแทรก ถอนออกแล้วเสียดส่ายเข้าไปใหม่ มากขึ้นกว่าเดิม ทิริภาร้องครางไม่เป็นส่ำเมื่อสองมือหนาสอดเข้าใต้สะโพกหล่อนในลักษณะจองจำพร้อมกันนั้นคนที่กำลังสร้างความทรมานแก่หล่อนก็กดดันตัวเองจนลำรักจมมิด ภานนท์หยุดนิ่งเพียงเพื่อจะเริ่มต้นบุกไม่ยั้ง ทิราภาได้แค่ครางขณะเนื้อตัวสะเทือนเลื่อนตามแรงโยกแรงตวัดสะโพกแกร่ง มือใหญ่จับหล่อนพลิกบอกเสียงห้าวแหบให้หล่อนใช้สองมือยึดหัวเตียงเอาไว้ก่อนเขาจะบุกตะลุยเข้าหาหนักหน่วง “พี่รักเธอ พี่รักเธอ พี่รักเธอ!”

บทที่ 1 Chapter 1

บทนำ

เด็กชายสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ มือเล็กป้อมยกขึ้นขยี้ตาขับไล่ความง่วงงุน เขานั่งตัวแข็งทันทีที่หายงัวเงีย เมื่อได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดแฝงความโหดเหี้ยมเย็นชา

“บอกมา เบรนดอน อินวิซิเบิลแมนอยู่ที่ไหน?”

“ไม่มีอินวิซิเบิลแมน”

เด็กชายได้ยินบิดาตอบ

“โกหก!”

เสียงแหบห้าวเหมือนถูกบีบออกมาจากหลอดเสียงแห้งผากที่เด็กชายไม่เคยได้ยินมาก่อนตวาดลั่น ฟังว่าใกล้คลั่งเต็มที

“คนของฉันที่แฝงตัวเข้าไปรายงานว่าการทดลองโครงการอินวิซิเบิลที่กองทัพเป็นตัวตั้งตัวตีให้เงินสนับสนุนประสบความสำเร็จ แล้วจะไม่มีอินวิซิเบิลแมนได้ยังไง?”

“คนของแกโกหกน่ะสิ”

“ไม่! คนของฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิดโกหกฉัน บอกมาเถอะ เบรนดอน แล้วฉันจะไว้ชีวิตแกกับเมียแก”

“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีอินวิสเบิลแมน ข่าวการทดลองสร้างมนุษย์ล่องหนเป็นแค่ข่าวลือ”

“บอก!”

เสียงออกคำสั่งฟังห้าวและต่ำลึก

“ถ้าไม่อย่างนั้น แกจะได้เห็นว่าความปากแข็งของแกได้พรากชีวิตเมียของแกไปจากแกยังไง!”

เด็กชายได้ยินเสียงผู้หญิงอุทาน หรืออาจจะเป็นเสียงครางด้วยความตื่นตระหนก เขาไม่แน่ใจนัก แต่จำได้ว่าเสียงนั้นคือเสียงมารดา

“มอมมี่” เขาเรียกมารดาด้วยเสียงกระซิบ

สัญชาตญาณของเด็กน้อยบอกเขาว่าทั้งพ่อและแม่ของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย มีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านกลางดึก และมันก็กำลังจะทำร้ายแม่ที่รักของเขา

เด็กชายตัวสั่นเทา เขากลัว แต่เขาก็จะต้องลงไปช่วยพ่อกับแม่

ร่างเล็กปีนลงจากเตียง แต่ขาเด็กสี่ขวบสั้นกว่าความสูงของเตียง เขาจึงพลิกตัวคว่ำหลังจากเลื่อนมาที่ริมเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนตัวลงสู่พื้น

เขาได้ยินเสียงมาดาร้องกรี๊ดขึ้นตามด้วยเสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของบิดา

“ปล่อยเธอ เมียฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!”

“ถ้าอยากให้ปล่อยก็บอกมาสิวะ อินวิซิเบิลแมนถูกเก็บไว้ที่ไหน”

“บอกแล้วว่าไม่มีอินวิซิเบิลแมนบ้าบออะไรทั้งนั้น!”

“ยังจะปากแข็ง แปลว่าแกอยากเห็นเมียสุดที่รักของแกตายไปต่อหน้าต่อตายอย่างนั้นใช่มั้ย?”

เด็กชายรีบวิ่งออกจากห้องหลังจากขยื้อเขย่งจนมือถึงตัวลูกบิดบนประตู และสามารถเปิดออกได้สำเร็จ

เท้าเล็กในถุงเท้าขาววิ่งออกไปที่ชานพักชั้นบน ชะงักนิดหนึ่งเมื่อพบว่าคนร้ายไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีถึงสามคน

คนหนึ่งยึดต้นแขนมอมมี่ของเขาเอาไว้มั่น อีกคนกดมือลงบนต้นคอพ่อของเขาที่นั่งคุกเข่าบนพื้น แล้วเขาก็รู้ว่าเสียงที่ได้ยินมาจากชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพ่อของเขา

ในมือของชายคนนั้นมีปืน เขารู้จักมันดี

พ่อของเขาสะสมปืนโบราณไว้หลายกระบอก เวลาพ่อเอาปืนที่มีลวดลายสวยงามที่ด้ามเหล่านั้นออกมาทำความสะอาด เขามักจะเข้าไปนั่งดูอยู่ใกล้ๆ พ่อก็จะสอนเขาให้ระวัง ยังบอกให้รู้ถึงอันตรายของมันที่สามารถทำให้คนหรือสัตว์ตายได้ถ้าถูกยิง

เวลานี้ชายร่างใหญ่ที่ส่งเสียงเกรี้ยวกราดข่มขู่พ่อของเขา ก็กำลังหันปลายกระบอกปืนไปทางแม่ของเขา

ปืนนั้นกระบอกสั้นและเล็กกว่าปืนสะสมของพ่อ แต่ก็คงยิงคนตายได้เช่นกัน

“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกยังปากแข็งเมียของแกจะลงไปรอแกอยู่ในนรก! หนึ่ง...”

เด็กชายวิ่งลงบันใดอย่างไม่คิดชีวิต เสียงเล็กๆ ตะโกนนำไปก่อน

“อย่าทำอะไรมอมมี่นะ!”

เขาลงไปถึงพื้นเบื้องล่าง ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของแม่

“พอลอย่าลงมาลูก กลับขึ้นไป!”

พร้อมกันนั้นพ่อของเขาก็โผนมาข้างหน้า คนร้ายที่คุมตัวตัวพ่อคงคาดไม่ถึงว่าพ่อจะตัดสินใจเช่นนั้น

แรงโถมปะทะของพ่อทำให้ชายที่มีปืนในมือเสียหลัก ปืนหลุดจากมือตกสู่พื้น พ่อพยายามจะก้มลงเก็บ แต่ชายคนนั้นใช้เท้าเตะเพื่อไม่ให้พ่อของเขาได้เข้าถึง จากนั้นก็ใช้เข่าข้างหนึ่งกระทุ้งใส่บริเวณหน้าอกของพ่อ จนพ่อของเขาตัวงอ

เด็กชายมองปืนที่มาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า หูได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธจัดของคนร้าย

พ่อของเขาถูกเตะ ต่อย ลงไปกองกับพื้น

“แกอยากตายนักใช่มั้ย เอาล่ะ ฉันจะให้แกได้สมใจ!”

เสียงคนร้ายพูดเป็นคำรามหอบๆ

เด็กชายรู้ว่าพ่อของเขาจะต้องถูกฆ่าตาย มอมมี่ของเขาก็ด้วย แล้วจากนั้นพวกมันก็คงจะฆ่าเขาอีกคน

เขาก้มลงหยิบปืนขึ้นมา มันค่อนข้างหนักสำหรับมือเล็กป้อมของเขา นอกจากหนักยังเย็นเยียบราวกับหิมะ

เด็กชายได้เสียงคลิก เมื่อนิ้วเล็กของเขาสอดผ่านเข้าไปในวงกลม แขนทั้งสองเหยียดไปข้างหน้าสั่นๆ

เขาจะต้องช่วยพ่อกับมอมมี่ เด็กชายบอกตัวเองขณะเล็งมือไปทางชายร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะยกเท้ากระทืบลงไปบนร่างนอนคุดคู้บนพื้นของพ่อของเขาซ้ำอีกครั้ง

เขาเหลือบมองมารดา ทันเห็นมอมมี่มองเขาด้วยดวงตาเบิกโต

“อย่าลูก พอล! หนีไป!”

ปัง!

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ