ไม่เลย...เธอไม่ชอบเขาสักนิด ถึงสาวๆ จะลงคะแนนเอกฉันท์ว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่ากินก็เถอะ เหตุนี้เธอถึงโมโหนัก เมื่อเขาทำให้เธอได้แต่ครวญครางอยู่ใต้ร่างหนาแกร่งด้วยมัดกล้ามที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คงพากันตาลุกวาว ---สปอย--- “รู้ใช่มั้ยว่าพี่รัก” เขาถาม ดวงตาคู่งามเหลือบขึ้นสบตาเขาถามเสียงที่พยายามปั้นปึ่งเท่าที่จะทำได้ “ก็รักใครล่ะ” “รักแม่สาวจอมหยิ่งแสนพยศคนนี้นะสิ” เขาใช้นิ้วคีบปลายจมูกโด่งรั้นสั่นเบาๆ “เรื่องอะไรมาว่าเค้าหยิ่ง” “ก็หยิ่งจริงๆ หรือจะว่าหัวสูง นี่ถ้าพี่เป็นแค่พนักงานบริษัทต๊อกต๋อยสงสัยว่าชาตินี้คงไม่มีได้สมหวังที่บังอาจมาหลงรักลูกสาวท่านประธาน” “ก็ไม่แน่” “หมายความว่าทิเองเริ่มมีใจให้พี่ตั้งแต่ยังคิดว่าพี่เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือนบริษัทคนหนึ่งงั้นเหรอ” ทิราภาไม่ตอบ แต่การไม่ยอมสบตาเขา และมือเรียวขาวก็ง่วนอยู่กับการเล่นดุมเชิ้ตน่าจะเป็นคำตอบได้แล้วสำหรับสาวคนนี้ ภานนท์ยิ้มออกมา แววตาเขาอ่อนโยน และเต็มไปด้วยความรักยามเชยคางเรียวเพื่อให้คนที่เคยปากเก่งชอบจิกกัดเขาบ่อยๆ เงยหน้าขึ้น ตากลมโตในกรอบขนตางอนฉายแววทำเอาดอกเตอร์หนุ่มไม่คิดจะปล่อยเวลาให้หมดไปกับการพูดคุย ในเมื่อเขาเองก็ปรารถนาที่จะแสดงออกถึงความรักด้วยการกระทำผ่านร่างกายมากกว่าลมปากอยู่แล้ว ภานนท์ช้อนอุ้มร่างบางอิ่มไปวางบนเตียง ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นทิราภาก็ต้องเผชิญกับความทรมานที่แสนหวาน หล่อนร้อนรุ่มอยู่ใต้ไฟรักโหมกระหน่ำ จวนเจียนจะทะยานสู่จุดสุดยอดด้วยนิ้วมือปรนเปรอของเขา ขณะยอดสีชมพูเครียดครัดอยู่ภายใต้การครอบครองของปากอุ่นชื้น กว่าเขาจะยอมเติมเต็มอย่างแท้จริงตามคำเรียกร้องแทบจะเป็นวิงวอนของหล่อน ทิราภาก็แทบสะอื้นไห้ยามลิ้นกระด้างปักล้วงลึกเข้าไปในร่องรัก ภานนท์ใช้สองนิ้วแยกกลีบเพื่อควานลิ้นไซ้แทรก กลิ่นกายสาว น้ำหวานรสทิพย์หลั่งรินให้เขาดื่มดูดสร้างความทรมานแก่เขาไม่น้อยไปกว่าที่เขาทำกับร่างงามละมุน ทิราภาถึงจุดสิ้นสุดเมื่อลิ้นสากเลียวนรอบปุ่มกระสันและปาดอย่างรวดเร็ว หล่อนครางดังแหลม กายเกร็งแอ่นค้าง ภานนท์ขยับตัวยันกายลุกจากท่าหมอบ ลงนั่งกลางหว่างขาที่อ้ากว้าง จังหวะตอดขมิบมีน้ำหวานสีใสหลั่งรินแทบจะทำเอาเขาถึงจุดสุดยอด ก่อนเขาจะใช้กลยุทธ์เพลงกามที่ฝึกมาช่ำชองจัดการให้หล่อนเป็นของเขา หล่อนยังบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน ทำให้เขายิ่งภูมิใจที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของหล่อน แม้เขาจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับพรหมจารีเท่าใดนัก และแน่นอนว่าต้องเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เหนือร่าสงงามยั่วยวนใจนี้ เขาถึงกับสูดปาก หน้าเหยขณะดันแก่นกายอวบหนาแข็งขึงเข้าในร่องรักคับแน่นและระอุจัด สะโพกงอนงามแอ่นหยัดราวจะดูดดึงท่อนลำเขาเข้าไปไว้ข้างใน แต่เขาค่อยๆ สอดแทรก ถอนออกแล้วเสียดส่ายเข้าไปใหม่ มากขึ้นกว่าเดิม ทิริภาร้องครางไม่เป็นส่ำเมื่อสองมือหนาสอดเข้าใต้สะโพกหล่อนในลักษณะจองจำพร้อมกันนั้นคนที่กำลังสร้างความทรมานแก่หล่อนก็กดดันตัวเองจนลำรักจมมิด ภานนท์หยุดนิ่งเพียงเพื่อจะเริ่มต้นบุกไม่ยั้ง ทิราภาได้แค่ครางขณะเนื้อตัวสะเทือนเลื่อนตามแรงโยกแรงตวัดสะโพกแกร่ง มือใหญ่จับหล่อนพลิกบอกเสียงห้าวแหบให้หล่อนใช้สองมือยึดหัวเตียงเอาไว้ก่อนเขาจะบุกตะลุยเข้าหาหนักหน่วง “พี่รักเธอ พี่รักเธอ พี่รักเธอ!”
บทนำ
เด็กชายสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ มือเล็กป้อมยกขึ้นขยี้ตาขับไล่ความง่วงงุน เขานั่งตัวแข็งทันทีที่หายงัวเงีย เมื่อได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดแฝงความโหดเหี้ยมเย็นชา
“บอกมา เบรนดอน อินวิซิเบิลแมนอยู่ที่ไหน?”
“ไม่มีอินวิซิเบิลแมน”
เด็กชายได้ยินบิดาตอบ
“โกหก!”
เสียงแหบห้าวเหมือนถูกบีบออกมาจากหลอดเสียงแห้งผากที่เด็กชายไม่เคยได้ยินมาก่อนตวาดลั่น ฟังว่าใกล้คลั่งเต็มที
“คนของฉันที่แฝงตัวเข้าไปรายงานว่าการทดลองโครงการอินวิซิเบิลที่กองทัพเป็นตัวตั้งตัวตีให้เงินสนับสนุนประสบความสำเร็จ แล้วจะไม่มีอินวิซิเบิลแมนได้ยังไง?”
“คนของแกโกหกน่ะสิ”
“ไม่! คนของฉันไม่กล้าแม้แต่จะคิดโกหกฉัน บอกมาเถอะ เบรนดอน แล้วฉันจะไว้ชีวิตแกกับเมียแก”
“ฉันบอกแล้วว่าไม่มีอินวิสเบิลแมน ข่าวการทดลองสร้างมนุษย์ล่องหนเป็นแค่ข่าวลือ”
“บอก!”
เสียงออกคำสั่งฟังห้าวและต่ำลึก
“ถ้าไม่อย่างนั้น แกจะได้เห็นว่าความปากแข็งของแกได้พรากชีวิตเมียของแกไปจากแกยังไง!”
เด็กชายได้ยินเสียงผู้หญิงอุทาน หรืออาจจะเป็นเสียงครางด้วยความตื่นตระหนก เขาไม่แน่ใจนัก แต่จำได้ว่าเสียงนั้นคือเสียงมารดา
“มอมมี่” เขาเรียกมารดาด้วยเสียงกระซิบ
สัญชาตญาณของเด็กน้อยบอกเขาว่าทั้งพ่อและแม่ของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย มีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านกลางดึก และมันก็กำลังจะทำร้ายแม่ที่รักของเขา
เด็กชายตัวสั่นเทา เขากลัว แต่เขาก็จะต้องลงไปช่วยพ่อกับแม่
ร่างเล็กปีนลงจากเตียง แต่ขาเด็กสี่ขวบสั้นกว่าความสูงของเตียง เขาจึงพลิกตัวคว่ำหลังจากเลื่อนมาที่ริมเตียง จากนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนตัวลงสู่พื้น
เขาได้ยินเสียงมาดาร้องกรี๊ดขึ้นตามด้วยเสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของบิดา
“ปล่อยเธอ เมียฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!”
“ถ้าอยากให้ปล่อยก็บอกมาสิวะ อินวิซิเบิลแมนถูกเก็บไว้ที่ไหน”
“บอกแล้วว่าไม่มีอินวิซิเบิลแมนบ้าบออะไรทั้งนั้น!”
“ยังจะปากแข็ง แปลว่าแกอยากเห็นเมียสุดที่รักของแกตายไปต่อหน้าต่อตายอย่างนั้นใช่มั้ย?”
เด็กชายรีบวิ่งออกจากห้องหลังจากขยื้อเขย่งจนมือถึงตัวลูกบิดบนประตู และสามารถเปิดออกได้สำเร็จ
เท้าเล็กในถุงเท้าขาววิ่งออกไปที่ชานพักชั้นบน ชะงักนิดหนึ่งเมื่อพบว่าคนร้ายไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีถึงสามคน
คนหนึ่งยึดต้นแขนมอมมี่ของเขาเอาไว้มั่น อีกคนกดมือลงบนต้นคอพ่อของเขาที่นั่งคุกเข่าบนพื้น แล้วเขาก็รู้ว่าเสียงที่ได้ยินมาจากชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพ่อของเขา
ในมือของชายคนนั้นมีปืน เขารู้จักมันดี
พ่อของเขาสะสมปืนโบราณไว้หลายกระบอก เวลาพ่อเอาปืนที่มีลวดลายสวยงามที่ด้ามเหล่านั้นออกมาทำความสะอาด เขามักจะเข้าไปนั่งดูอยู่ใกล้ๆ พ่อก็จะสอนเขาให้ระวัง ยังบอกให้รู้ถึงอันตรายของมันที่สามารถทำให้คนหรือสัตว์ตายได้ถ้าถูกยิง
เวลานี้ชายร่างใหญ่ที่ส่งเสียงเกรี้ยวกราดข่มขู่พ่อของเขา ก็กำลังหันปลายกระบอกปืนไปทางแม่ของเขา
ปืนนั้นกระบอกสั้นและเล็กกว่าปืนสะสมของพ่อ แต่ก็คงยิงคนตายได้เช่นกัน
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกยังปากแข็งเมียของแกจะลงไปรอแกอยู่ในนรก! หนึ่ง...”
เด็กชายวิ่งลงบันใดอย่างไม่คิดชีวิต เสียงเล็กๆ ตะโกนนำไปก่อน
“อย่าทำอะไรมอมมี่นะ!”
เขาลงไปถึงพื้นเบื้องล่าง ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของแม่
“พอลอย่าลงมาลูก กลับขึ้นไป!”
พร้อมกันนั้นพ่อของเขาก็โผนมาข้างหน้า คนร้ายที่คุมตัวตัวพ่อคงคาดไม่ถึงว่าพ่อจะตัดสินใจเช่นนั้น
แรงโถมปะทะของพ่อทำให้ชายที่มีปืนในมือเสียหลัก ปืนหลุดจากมือตกสู่พื้น พ่อพยายามจะก้มลงเก็บ แต่ชายคนนั้นใช้เท้าเตะเพื่อไม่ให้พ่อของเขาได้เข้าถึง จากนั้นก็ใช้เข่าข้างหนึ่งกระทุ้งใส่บริเวณหน้าอกของพ่อ จนพ่อของเขาตัวงอ
เด็กชายมองปืนที่มาหยุดอยู่ตรงปลายเท้า หูได้ยินเสียงคำรามอย่างโกรธจัดของคนร้าย
พ่อของเขาถูกเตะ ต่อย ลงไปกองกับพื้น
“แกอยากตายนักใช่มั้ย เอาล่ะ ฉันจะให้แกได้สมใจ!”
เสียงคนร้ายพูดเป็นคำรามหอบๆ
เด็กชายรู้ว่าพ่อของเขาจะต้องถูกฆ่าตาย มอมมี่ของเขาก็ด้วย แล้วจากนั้นพวกมันก็คงจะฆ่าเขาอีกคน
เขาก้มลงหยิบปืนขึ้นมา มันค่อนข้างหนักสำหรับมือเล็กป้อมของเขา นอกจากหนักยังเย็นเยียบราวกับหิมะ
เด็กชายได้เสียงคลิก เมื่อนิ้วเล็กของเขาสอดผ่านเข้าไปในวงกลม แขนทั้งสองเหยียดไปข้างหน้าสั่นๆ
เขาจะต้องช่วยพ่อกับมอมมี่ เด็กชายบอกตัวเองขณะเล็งมือไปทางชายร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะยกเท้ากระทืบลงไปบนร่างนอนคุดคู้บนพื้นของพ่อของเขาซ้ำอีกครั้ง
เขาเหลือบมองมารดา ทันเห็นมอมมี่มองเขาด้วยดวงตาเบิกโต
“อย่าลูก พอล! หนีไป!”
ปัง!
บทที่ 1 Chapter 1
10/02/2023
บทที่ 2 Chapter 2
10/02/2023
บทที่ 3 Chapter 3
10/02/2023
บทที่ 4 Chapter 4
10/02/2023
บทที่ 5 Chapter 5
10/02/2023
บทที่ 6 Chapter 6
10/02/2023
บทที่ 7 Chapter 7
10/02/2023
บทที่ 8 Chapter 8
10/02/2023
บทที่ 9 Chapter 9
10/02/2023
บทที่ 10 Chapter 10
10/02/2023
บทที่ 11 Chapter 11
28/02/2023
บทที่ 12 Chapter 12
28/02/2023
บทที่ 13 Chapter 13
28/02/2023
บทที่ 14 Chapter 14
28/02/2023
บทที่ 15 Chapter 15
28/02/2023
บทที่ 16 Chapter 16
28/02/2023
บทที่ 17 Chapter 17
28/02/2023
บทที่ 18 Chapter 18
28/02/2023
บทที่ 19 Chapter 19
28/02/2023
บทที่ 20 Chapter 20
28/02/2023
บทที่ 21 Chapter 21
28/02/2023
บทที่ 22 Chapter 22
28/02/2023
บทที่ 23 Chapter 23
28/02/2023
บทที่ 24 Chapter 24
28/02/2023
บทที่ 25 Chapter 25
28/02/2023
บทที่ 26 Chapter 26
28/02/2023
บทที่ 27 Chapter 27
28/02/2023
บทที่ 28 Chapter 28
28/02/2023
บทที่ 29 Chapter 29
28/02/2023
บทที่ 30 Chapter 30
28/02/2023
บทที่ 31 Chapter 31
28/02/2023
บทที่ 32 Chapter 32
28/02/2023
บทที่ 33 Chapter 33
28/02/2023
บทที่ 34 Chapter 34
28/02/2023
บทที่ 35 Chapter 35
28/02/2023
บทที่ 36 Chapter 36
28/02/2023
บทที่ 37 Chapter 37
28/02/2023
บทที่ 38 Chapter 38
28/02/2023
บทที่ 39 Chapter 39
28/02/2023
บทที่ 40 Chapter 40
28/02/2023
หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม