หัวใจที่เคยแกร่งกร้าวของเขามีอาการไหววาบ แรงจนเขารู้สึก ชายหนุ่มบอกตัวเอง....ต่อให้เขาสูญเสียความทรงจำ ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง แต่จะไม่มีวันลืมดวงตาดำใหญ่ งามยิ่งกว่าดาวบนฟ้าคู่นั้น ....คนธรรพ์ เทวาธร <> หน้าคมสันของเขาชวนมอง แก้มคางที่ปรากฏเงาเขียวจางๆ ใต้ผิวท่าจะสากมือนุ่มของหล่อน เครื่องหน้าทุกชิ้นของเขา เริ่มเจนตาและเจนใจหล่อน ไม่ว่าจะเป็นจมูกโด่งขึ้นสัน ดวงตาคมลึกในวงล้อมแผงขนตาดกหนาเป็นตับ ปากได้รูปบางตึงมุมปากหยักขึ้นหุบสนิทแต่ก็พร้อมที่ยิ้มทุกเมื่อด้วยรอยยิ้มเก๋บาดใจ ในสายตาของอคิราภ์เห็นว่าผู้ชายคนนี้ทั้งสง่า ภาคภูมิย่างหาตัวจับยาก ไม่ว่าขณะอยู่ในชุดทำงานประจำวัน คือกางเกงยีนส์เป็นหลัก กับเชิ้ตแขนยาวที่มีทั้งแบบลายสลับสีและที่เป็นสีพื้น สอดชายกางเกงไว้ในบู้ทยาวถึงใต้เข่า หรือแต่งสูททั้งเต็มยศและลำลอง เขาไม่ใช่ผู้ชายสำรวย ไม่ถึงกับหล่อเฟี้ยวอย่างดาราพระเอกหน้าสวยบางคน แต่ก็คมสันชวนมอง ออกลักษณะชายชาตรีขนานแท้ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างดีมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแต่งกายอย่างไหนก็มองเห็นไหล่กว้าง อก แขน ล่ำสัน ลำขายาวตรง แข็งแรง สะโพกเพรียวแกร่งไปหมดตลอดสัดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีมาด มีบุคลิก น่าเกรงขาม ออกลักษณะชวนศรัทธา ก่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ผู้ใกล้ชิด เขาไม่ดูน่ากลัวสำหรับมิตร แต่เชื่อได้เลยว่ากับศัตรูที่หมายเข่นฆ่าให้อาสัญ เขาจะร้ายกาจได้น่ากลัวชวนขนหัวลุกทีเดียว ....อคิราภ์ <> “คุณว่าเอ๋ยต่างๆ ที่ท้อแท้และยอมรับความสิ้นหวังง่ายๆ ตัวคุณเองละคะ ไม่ทันไรก็จะ...ยอมแพ้ ไม่ยอมตั้งความหวังอะไรเสียแล้ว” “อคิราภ์...” เสียงคนธรรพ์ฟังคล้ายสำลัก “พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า?” “รู้สิคะ ดิฉันไม่ได้กำลังเพ้อเพราะพิษไข้นี่นาจะได้ไม่รู้ตัว” “แต่ก็ยังพูด...” “ที่พูด เพราะอยากบอกคุณว่า... บอกว่า...” “ว่าอะไร?” “บอกว่า... คุณไม่ควรสิ้นหวังแต่เริ่มต้น คุณเป็นคนดี มีน้ำใจ ใครจะอยากเห็นคุณดีๆ อย่างคุณผิดหวังคะ” “ถ้าเธอจะพยายามตอบแทนบุญคุณฉัน...” เสียงห้าวกลับห้วนขึ้นอีก หน้าก็ขึงตึง “ก็ขอบอกว่าฉันไม่ต้องการ!” “แล้วถ้าไม่ใช่เป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่เป็น... เป็นการทำตามที่หัวใจตัวเองเรียกร้องเหมือนกันละคะ คุณจะว่ายังไง” หน้าคมสันที่เมินจากหน้าหล่อนหยกๆ หันขวับมา “เธอเด็กเท่านี้จะไปรู้อะไรเรื่องหัวใจ? จะรู้ได้ยังไงว่าหัวใจตัวเองเรียกร้องอะไร อย่ามาพูด...” “ทำไมจะไม่รู้!” คนถูกกล่าวหาว่ายังเด็กเกินกว่าจะเรื่องเกี่ยวกับหัวใจเถียงคอขึ้นเอ็น “คุณคิดว่าคุณเป็นคนเดียวหรือไง ที่เที่ยวปล่อยใจรักคนอื่นทั้งที่เห็นว่าไม่สมควร ยังไม่ถึงเวลา และทั้งๆ ที่มองเห็นความแตกต่างจนไม่กล้าแม้แต่จะคิด ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงกับตนบ้าง” หน้าเชิดๆ สะบัดไปยังทิศทางที่ไม่มีร่างสูง “เอาล่ะค่ะ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เชื่อเอาจริงๆ ว่าคนอายุขนาดดิฉันไม่น่าจะรู้ใจตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองมีใจผูกพันอยู่กับใคร ดิฉันก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว และจะไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ อีกต่อไป แม้แต่ทุนการศึกษาจากผู้ใจบุญที่ไม่ประสงค์จะออกนามที่ช่วยให้ดิฉันได้เรียนต่ออย่างสบายๆ นั่นด้วย ดิฉันจะกลับไปบอกแม่อธิการว่าดิฉันไม่ขอรับ” “เกเรใหญ่แล้ว!” เสียงพูดมาฟังกลั้วหัวเราะ “แล้วใครบอกเรื่องทุนการศึกษา ฉันจำได้ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอเลยนะ” “ถึงคุณไม่บอก ดิฉันก็รู้ คนที่บอกก็ไม่ใช่แม่อธิการด้วยละ” “งั้นก็ต้องยายวิ ไม่ไหว ไม่รู้จักรักษาความลับซะมั่งเลย น่าถูกงดค่าขนมพิเศษนักเชียว” “ใครว่าวิบอก คุณคันธรสต่างหากที่บอก” เห็นว่าเพื่อนกำลังถูกเข้าใจผิด ทำให้โพล่งออกไป คนธรรพ์นิ่งไปพักใหญ่จึงพูดขึ้น “เพราะอย่างนี้เองหรือ ถึงไม่อยากเห็นฉันผิดหวัง ความสำนึกในบุญคุณ?” “ถ้าคุณยังเข้าใจอย่างนั้น ก็ไม่ขอพูดด้วยแล้ว!” ว่าแล้วก็หันหลังให้ แต่ไม่ทันก้าวได้สักกี่ก้าว ร่างโปร่งบางก็ปลิวกลับ ก่อนถูกมัดแน่นด้วยสองแขนที่ทั้งแข็งแรงและทรงพลัง
คนผ่านไปมาก็คงพากันนึกสงสัยว่า คฤหาสน์หลังใหญ่ กำลังมีงานอะไรกัน
แต่สำหรับผู้ตั้งใจโดยสารรถยนต์ส่วนตัวแต่ละคัน ที่พากันวิ่งทยอยเข้าไปจอดภายใน และยังมีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังเก้าโมงเศษ ไม่สงสัยแม้แต่สักนิด เนื่องจากทราบดีอยู่แล้วว่ามีงานเลหลังสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่นี่
การเลหลังครั้งนี้ ทำกันเงียบๆ แต่กระนั้นก็ยังมีผู้มาร่วมงานหนาตา
ผู้ที่จะดำเนินการเลหลังครั้งนี้ มาจากบริษัทที่เชื่อถือได้
พรต วัลลภ ผู้รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ กำลังมองดูผู้คนที่มาร่วมงานอย่างหนาตาด้วยความยินดี เมื่อเหลือบไปเห็นบุรุษร่างสูงสะดุดตา
เขาผู้นั้นหันมาคล้ายกับรู้ตัวว่ามีคนจ้องมองอยู่
ดวงหน้าของเขาเห็นตรงๆ เช่นนี้คมสันและกร้าวแกร่งด้วยส่วนประกอบที่คมเฉียบ
พรตยิ้มออกมาทันทีเมื่อจำได้ เดินรี่เข้าไปหา
“คุณธรรพ์ สวัสดีครับ ไม่คิดว่าจะมา”
ฝ่ายที่ถูกทัก ยิ้มรับ ทำให้ดวงหน้าคมสันชวนมองยิ่งขึ้น
“สวัสดี พรต... มาซี ลงได้รู้ว่างานไหนมีม้าร่วมรายการ ฉันหรือจะพลาด”
เสียงตอบมาห้าวทุ้มฟังนุ่มหู
พรตรู้จัก คนธรรพ์ มาหลายปี
ทราบว่าบุรุษวัยหนุ่มฉกรรจ์ผู้นี้ ไม่สนใจข้าวของอื่นใดในงานประเภทนี้นอกจากสัตว์เลี้ยงราคาแพงของคนรวย
คนธรรพ์ เทวาธร เป็นเจ้าของธุรกิจหลายแขนง ทั้งรับมาอีกต่อหนึ่งจากที่บุพการีสร้างเอาไว้ และที่ตัวเขาเป็นผู้บุกเบิกด้วยตัวเอง
ชีวิตของเขาส่วนใหญ่อยู่ที่ไร่ในต่างจังหวัด
ไร่ขวัญเทวัญ เป็นไร่ขนาดใหญ่ มีทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
โคเนื้อถือเป็นสัตว์เลี้ยงหลักของที่นี่ มาตั้งแต่ คเชนทร์ เทวาธร บิดาของเขายังมีชีวิต
พอมารับช่วงเต็มตัวหลังจากบิดาสิ้น คนธรรพ์ได้ลงทุนซื้อ พ่อ แม่พันธุ์ม้าดีๆ มาทดลองเพาะขยายพันธุ์อย่างจริงจัง
ในปัจจุบัน ม้าจากคอกขวัญเทวัญเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทั้งในด้านคุณภาพม้าใช้งาน และม้าแข่งฝีเท้าเยี่ยม
ในวัยย่างสามสิบสี่ เขายังครองสถานภาพโสด จะเป็นเพราะยังหาผู้หญิงที่ถูกใจจริงๆ คนเดียวไม่ได้ หรือว่าเป็นเพราะยังมีผู้หญิงถูกใจหลายคน ก็ไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม มีหญิงสาวจากครอบครัวดี ฐานะ ตระกูล ทัดเทียมใกล้เคียงกันอยู่มากหน้า พยายามหาหนทางยุติความเป็นชายหนุ่มโสดเนื้อหอมของเขา โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้เป็นพ่อแม่ แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีสตรีใดจุดไฟรักอันอบอุ่นขึ้นในหัวใจกร้าวแกร่งของเขาได้สำเร็จ แม้รายเดียว
“คุณธรรพ์เห็นจะเพิ่งมา ไปดูม้าก่อนดีมั้ยครับ ผมสั่งให้เด็กเอาออกจากคอกมาไว้ที่ข้างตึกนี้เอง คุณอำรุงสะสมม้าสายพันธุ์ดีๆ ทั้งนั้น” พรตชวนเชิญ
“ประเดี๋ยวก็ได้ ยังไม่เริ่มรายการเดี๋ยวนี้ไม่ใช่หรือ ว่าแต่ที่ว่าดีๆ นั่นดีจริงหรือเปล่า”
“ถามผม ซึ่งก็ไม่เจนจบเรื่องดูรูปลักษณะม้าเท่าไรนักก็ว่าดีละครับ” พรตตอบยิ้มๆ
“ได้ยินมาว่าว่ามีม้าสายพันธุ์อาหรับแท้อยู่ด้วย เห็นจะแพงเอาการ ”
“ไม่แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ แค่สามในสี่เท่านั้นที่เป็นอาเรเบียน”
“ส่วนหนึ่งที่เหลือสายพันธุ์อะไร”
“เห็นว่าเป็นควอเตอร์ครับ”
“ก็ไม่เลว...ควอเตอร์ ฮอส จัดว่าเป็นม้าที่มีคุณสมบัติพิเศษ นอกจากฝีเท้าดี เรียนรู้อะไรง่ายยังอารมณ์เย็น ไม่เหมือนพวก ทรูเบรด ตัวอื่น ๆ ล่ะ”
“มีปาโซ ฟีโนส อยู่ตัวหนึ่ง นอกนั้นก็พันธุ์ผสมนั่นนิดนี่หน่อย แต่ดูเหมือนจะมีเลือดอาหรับปนอยู่ไม่มากก็น้อยทุกตัว
“ธรรมดา ม้าที่ว่าดีๆ มักมีสายพันธุ์อาหรับปน ดูอย่าง อเมริกัน แซดเดิ้ล...สแตนดาร์ด เบรด...แฮ็คนี่ล้วนมีสายเลือดอาหรับแทบทั้งนั้น แม้กระทั่ง แปร์เชร็อง ของฝรั่งเศส ว่าแต่ตัวไหนน่าสนใจมากที่สุด”
“เจ้าดำดินปืน เลือดผสมอาเรเบียนกับควอเตอร์ ฮอส ตัวนี้แหละครับ ขนาดว่าผมเองไม่ใช่นักเลงม้าที่จะดูม้าเป็นอย่างสายตามืออาชีพยังอดชื่นชมความสง่าของมันไม่ได้ ”
“ม้าดำงั้นหรือ” กิริยาเลิกคิ้วข้างเดียวเป็นอย่างเก๋ไก๋ “น่าสนจริงๆ มาจากไหน พอจะรู้มั้ย”
“เท็กซัส ครับ คุณอำรุงซื้อเป็นของขวัญวันเกิดลูกสาว ลูกที่เกิดจากเมียที่ตายนะครับ ไม่ใช่เมียปัจจุบัน”
“ตอนนี้กี่ขวบแล้วล่ะ”
“ลูกสาวคุณอำรุง หรือม้า ครับ”
“บ๊ะ ! ฉันจะไปถามอายุเด็กนั่นทำไมกัน อายุม้าซิ” คนธรรพ์พูดเสียงบอกว่าขัน
พรตหัวเราะก่อนตอบ
“ถือว่าเพิ่งจะรุ่น”
“ขนาดว่ายังไม่หนุ่มเต็มที่ก็สูงเกือบเกือบสิบหกแฮนด์เข้าไปแล้วละครับ เจ้าเจงกีสข่านตัวนี้”
“ตั้งชื่อตามขุนทัพมองโกล ซะด้วย!”
คนธรรพ์พึมพำ นึกขันจนต้องหัวเราะออกมา มองไปรอบๆ ก่อนหันกลับมาถาม
“จะเริ่มรายการกันกี่โมง”
“สักสิบโมงครึ่งครับ รอให้คนมาพร้อมเพรียงกันกว่านี้อีกหน่อย ของเยอะเหลือเกิน เลยต้องเริ่มกันตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่งั้นจะไปเสร็จเอามืดค่ำดีไม่ดีอาจต้องมาต่อกันพรุ่งนี้อีกวัน”
“ได้ยินว่าตัวบ้านกับที่ทั้งหมด ขายไปเรียบร้อยแล้วนี่”
“ครับ”
บทที่ 1 ตอนที่ 1
08/05/2023
บทที่ 2 ตอนที่ 2
08/05/2023
บทที่ 3 ตอนที่ 3
08/05/2023
บทที่ 4 ตอนที่ 4
08/05/2023
บทที่ 5 ตอนที่ 5
08/05/2023
บทที่ 6 ตอนที่ 6
08/05/2023
บทที่ 7 ตอนที่ 7
08/05/2023
บทที่ 8 ตอนที่ 8
08/05/2023
บทที่ 9 ตอนที่ 9
08/05/2023
บทที่ 10 ตอนที่ 10
08/05/2023
บทที่ 11 ตอนที่ 11
11/05/2023
บทที่ 12 ตอนที่ 12
11/05/2023
บทที่ 13 ตอนที่ 13
11/05/2023
บทที่ 14 ตอนที่ 14
11/05/2023
บทที่ 15 ตอนที่ 15
11/05/2023
บทที่ 16 ตอนที่ 16
11/05/2023
บทที่ 17 ตอนที่ 17
11/05/2023
บทที่ 18 ตอนที่ 18
11/05/2023
บทที่ 19 ตอนที่ 19
11/05/2023
บทที่ 20 ตอนที่ 20
11/05/2023
บทที่ 21 ตอนที่ 21
11/05/2023
บทที่ 22 ตอนที่ 22
11/05/2023
บทที่ 23 ตอนที่ 23
11/05/2023
บทที่ 24 ตอนที่ 24
11/05/2023
บทที่ 25 ตอนที่ 25
11/05/2023
บทที่ 26 ตอนที่ 26
11/05/2023
บทที่ 27 ตอนที่ 27
11/05/2023
บทที่ 28 ตอนที่ 28
11/05/2023
บทที่ 29 ตอนที่ 29
11/05/2023
บทที่ 30 ตอนที่ 30
11/05/2023
หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม