Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดุจตะวันฉันรักเธอ

ดุจตะวันฉันรักเธอ

ลิลเอง

5.0
ความคิดเห็น
4.8K
ชม
46
บท

"ผมแปลกใจจริงๆ นะ ทำไมถึงอยู่เป็นโสดมาจนอายุป่านนี้ ดูเหมือนจะไม่เคยมีข่าวกับผู้ชายด้วยสิ หรือว่ามี?” “ไม่มีหรอกค่ะ ตะวันมีเพื่อนผู้ชายนับคนได้ แล้วก็เป็นเพื่อนกันจริงๆ อีกอย่างตะวันไม่ชอบออกงาน เบื่อสังคมสวมหน้ากากเข้าหากัน ที่ตะวันไปอยู่บ้านสวนกับน้าแหววกระทั่งได้พบคุณ ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะคะ ตะวันไปบ่อยๆ ทีละนานๆ ตะวันมีเพื่อนอยู่กลุ่มหนึ่งที่คอยทำงานช่วยเหลือผู้คน แล้วงานของเราก็ต้องซอกๆ ไปตามแหล่งเสื่อมโทรม หรือชุมชนแออัดมากกว่าเดินไปบนพรม ถือแก้วคอกเทลร่อนไปร่อนมา นี่ตะวันก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเข้าไปช่วยงานที่ศูนย์อิงตะวันขอท่านพ่อเต็มตัวซะที” เธอมองหน้าเขาแล้วยิ้ม “จำได้ไหมคะ ครั้งหนึ่งคุณเคยแนะนำให้ตะวันพาเอื้อยกับแอ๋วไปไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสของท่านพ่อ ตะวันแทบตีหน้าไม่ถูกแน่ะ” “จำได้ แล้วผมก็ไม่ได้เอะใจเลย ที่ชื่อของตะวันไปพ้องกับชื่อศูนย์ช่วยเหลือเด็กของท่านชายรังสิมันต์” คณเทพประคองหน้าเรียวคม ที่ออกมอมนิดๆ ไว้ในอุ้งมือ “ตะวันของผม!” เขาจ้องตาดำโต แสงไฟหน้ารถที่สะท้อนเข้ามาในรถพอทำให้มองเห็นประกายตาแจ่มจำรัสราวดาวรุ่งในคืนแรม “รู้นะว่าถ้าผมขาดตะวันดวงนี้เสียแล้ว ชีวิตผมก็คงมืดสนิทราวกับว่าดวงอาอาทิตย์ ดวงดาวทุกดวงในกาแล็กซี่ได้แตกดับไปพร้อมกัน” “คุณก็เหมือนกันนะคะ ถ้าชีวิตของตะวันไม่มีคุณเป็นประทีปส่องนำทาง ตะวันก็คงมะงุมมะงาหรา ไม่รู้จะเดินไปบนเส้นทางไหน ท้ายที่สุด ก็คงดิ่งลงเหว แล้วทุกอย่างก็จบเพียงเท่านั้น” คณเทพให้รางวัลคำพูดถูกใจ และกินใจเขา ด้วยจุมพิตที่มีทั้งความอ่อนโยนอ่อนหวานออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ เต็มอารมณ์เรียกร้องของความปรารถนาที่มีอยู่ ความรักสำหรับเขา ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่เมื่อรักแล้วจะจีรังยั่งยืนตลอดกาล ต่อให้โลกแหลกสลาย แต่ความรักของเขาจะคงอยู่ ไม่แตกทำลายไปด้วย เขาไม่รู้ว่าชีวิตหลังความตายมีจริงไหม แต่ความรักที่เขามีต่อคุณหญิงดุจตะวัน อติวัณณ์ หรือตะวันในดวงใจของเขาดวงนี้ ไม่มีคำว่าถึงกาลอวสาน

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ท้องฟ้าสีครามใสจู่ๆ ก็ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆสีม่วงดำทะมึนลอยต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนกระจายเป็นเม็ดฝน

ชายหนุ่มที่กำลังพาออดี้ A8 L55 เครื่องยนต์ 2995ccทะยานไปข้างหน้า ให้ถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็ว ถอนใจ

“จะรอให้ถึงก่อนค่อยตกก็ไม่ได้”

“พี่เทพก็ บ่นแล้วได้อะไรขึ้นมาคะ”

สาวน้อยที่นั่งมาข้างๆ ตั้งคำถาม

“ได้ความสบายใจไง” ชายหนุ่มตอบ

เสียงคำรนครืน กัมปนาทแทบจะกลบเสียงเขา สายฟ้าสีเงินเริ่มแลบแปลบตา ตามด้วยเสียงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงเหมือนดังอยู่ไม่ไกล

สายฝนปรอย เทหนัก เหมือนจะไม่ยอมให้ลืมหูลืมตา ไม่กี่พริบตาต่อมา บริเวณท้องถนนเริ่มมีน้ำเจิ่งนอง

ที่ปัดน้ำฝนทำงานหนัก คณเทพต้องตั้งใจใช้สมาธิเป็นพิเศษ แม้ความเร็วของรถ เพื่อมุ่งให้ถึงที่หมายเร็วๆ จะถูกชะลอลงแล้วก็ตาม

“ให้นัญช่วยไหมคะ” เสียงอาสาเต็มอกเต็มใจ

“ช่วยขับรถน่ะ? อย่าดีกว่า”

“แหม! ไม่ไว้ใจกันมั่งเลย”

“อาจไว้ใจ ถ้าไม่รู้มาว่า สองสามวันก่อน เราใช้ประตูหน้าบ้านแทนเบรก”

“ใครปากมากอีกล่ะคะ?”

กิริยากระเง้ากระงอดบอกให้รู้ถึงนิสัยเอาแต่ใจตน คณเทพหัวเราะ ไม่ตอบ

“หัวเราะอะไรคะ?”

“เปล่า”

“พี่เทพ นะ!”

“อะไรอีก”

“บอกมาเดี๋ยวนี้เชียว ใครบอก เรื่องนัญขับรถชนรั้ว”

“ชนประตู ไม่ใช่ชนรั้ว” เขากล่าวแก้

“นั่นละๆ ใคร? บอกมาเดี๋ยวนี้นะ”

ไม่เพียงแต่จะเค้นเสียงเพื่อให้ได้คำตอบ ยังเขย่าแขนล่ำสันเป็นการเร่งเร้า

“เฮ่ย! ทำบ้าๆ” คณเทพเอ็ด “เดี๋ยวได้ลงข้างทางกันพอดี”

“ก็รีบบอกมาสิคะ ใครเล่าให้พี่เทพฟัง”

“ใครเล่าไม่สำคัญเท่ากับว่ามันเป็นเรื่องจริง หรือไม่ใช่”

“ไม่จริงซะหน่อย”

“เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าริอ่านโกหก”

“พี่เทพ!”

“อะไร ร้องตกอกตกใจไปได้”

“นัญโตแล้วนะ!”

“อย่างนั้นเรอะ” คณเทพทำเสียงขัน แต่ไม่สบายใจนัก

เขาพอจะรู้ การที่อนัญญาพรญาติผู้น้องของเขาคนนี้ พยายามทำตัวสาวเกินวัย แก่แดดเกินอายุ ก็เพราะมีจุดประสงค์อยู่ที่ตัวเขา

คณเทพไม่นึกโทษเด็กสาว ที่มีความคิดความอ่านอยากให้เขาเป็นมากกว่าพี่ชาย

ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ที่พากันกรอกหูเสียจนอนัญญาพรฝังหัวว่าจะต้องแต่งงานกับเขาสักวัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำนองเรือล่มในหนอง เงินทองจะไปไหนเสีย แต่บังเอิญว่าเขาไม่เคยเห็นเป็นอื่น นอกจากน้องที่เขาให้ความเอ็นดู มากกว่าจะนึกรักอย่างชายหนุ่มหญิงสาว

เขาเพิ่งอายุสามสิบ ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งหาห่วงแขวนคอ ยังอยากทำงานโดยไม่ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลัง ซึ่งเขาคิดว่า เขาไม่ใช่ผู้ชายคนแรก คนเดียวในโลก ที่เห็นว่าสถานภาพโสด น่ารักษาไว้ให้ยืนยาวเท่าที่จะนานได้

แต่การที่เขายังไม่แต่งงาน ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไร้ไว้ปลดปล่อยอารมณ์ความต้องการ เขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง บางเวลา ก็จำต้องพักผ่อนหย่อนใจบ้าง ด้วยสุรา นารี และกีฬาบัตร ประสาคนหนุ่ม เพียงแต่เขาไม่หมกมุ่น นานๆ จะมีสักครั้ง

ใครๆ ก็บอกว่า เขาเหมือนบิดาทั้งรูปลักษณ์ และอุปนิสัย ตรงที่ชอบอยู่เงียบๆ ชอบความเป็นส่วนตัว หลังหมดภารกิจการงานประจำวัน เขาไม่ชอบออกงานสังคม เลี่ยงได้จะเลี่ยง ผิดกับมารดาของเขา ที่โปรดปราณการได้แต่งตัวสวย สวมเครื่องประดับบ่งบอกฐานะไปร่วมสังสรรค์ต่างๆ ไม่เว้นแต่ละวัน

เขารักมารดา แต่ก็จำต้องยอมรับว่า รสนิยมการใช้ชีวิต รวมไปถึงทัศนคติในการมองโลก มองคน ต่างกันจนแทบจะพูดได้ว่าอยู่คนละขั้ว

มารดาของเขาเป็นคนถือตัว เข้าขั้นเย่อหยิ่ง โดยเฉพาะกับบุคคลที่เห็นว่าต่ำต้อยกว่าในด้านฐานะ ศักดิ์ตระกูล คุณชดช้อยแทบจะแลไม่เห็นหัวนั่นเลย

“พี่เทพ”

“อะไรอีกล่ะ”

“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าคะ”

“ไม่ว่าง” ตอบโดยไม่พักคิด สายตาไม่ละจากถนน

“พี่เทพนะ” อนัญญาพรทำเสียงงอน

“จะไม่คิดสักนิดเลยหรือคะ ก่อนตอบ”

“ทำไมต้องคิด? พรุ่งนี้พี่มีสอนทั้งวัน”

“ใจคอพี่เทพจะหายใจเป็นงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยหรือไง” เด็กสาวทำเสียงขัดอกขัดใจ

“ไม่ถึงหรอก พี่ก็ต้องกันเวลาไว้พักผ่อนหย่อนใจบ้างสิ ขืนทำแต่งานตลอดยี่สิบชั่วโมงต่อวันก็ตายกันพอดี”

“หย่อนใจด้วยการออกต่างจังหวัดกับเพื่อนอีกโขยง ไปตกปลาจับกบกันน่ะหรือคะ?”

“แค่ตกปลา ยังไม่เคยจับกบสักที หมายถึงกบจริงๆ นะ ไม่ใช่สำนวนเวลาหกล้ม”

“ถึงงั้นก็เถอะ นัญไม่เห็นชอบ”

สาวน้อยย่นจมูก

“ก็ดีแล้วที่ไม่ชอบ”

“สู้ชอปปิ้งก็ไม่ได้”

“ก็แค่นั้นแหละ ผู้หญิง”

กังวานเสียงชายหนุ่มไม่เชิงดูถูก ฟังขบขันมากกว่า

“ไม่แค่นั้นจะให้แค่ไหนละคะ หรือพี่เทพคิดว่านัญควรทำอะไรได้ดีกว่านี้”

“ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆ จะได้ออกมาช่วยคุณอาทำงาน นั่นน่ะ ทำได้จะดีมาก”

อนัญญาพรย่นจมูกที่คิดว่าจะทำให้ตัวเองสวย น่ารัก ชวนมองยิ่งขึ้น

“จ้างให้ นัญก็ไม่ทำงานที่บริษัทคุณพ่อเป็นอันขาด”

“ทำไมล่ะ”

“ไม่ทำไม แค่ไม่อยากทำ ก็ไม่ทำ ใครจะมาบังคับ”

“รู้แล้วว่าเราน่ะไม่มีใครบังคับได้ แต่เรื่องงานบริษัท พี่เห็นว่าควรเรียนรู้ไว้บ้างก็ดี อย่าลืมสิ พ่อแม่เรา มีเราเท่านั้นนะ”

“ช่าง! ไม่เห็นจะสน พี่เทพแน่ะ เข้าไปช่วยคุณพ่อแทนนัญสิ”

“ไม่ไหว แค่งานสอนหนังสือที่ทำอยู่ทุกวันนี้ พี่ก็จะแย่อยู่แล้ว”

“ทำไมพี่เทพไม่คิดจะทำงานบริษัทนะ งานสอนหนังสือน่ะ คุณป้ายังบ่นๆ อยู่เลยว่าไม่เห็นจะทำให้รวยขึ้นมาได้ ไม่รู้ว่าพี่เทพจะขยันไปถึงไหน คุณป้ายังพูดอีกนะคะว่า พี่เทพหาเรื่องใส่ตัว อยู่ดีไม่ว่าดี”

“ช่างพี่เถอะ เราน่ะแหละ มีโอกาสแล้วก็ขยันเรียนเข้า คนเราจนอย่างอื่นได้แต่อย่าจนวิชาความรู้”

“ถึงจะจนวิชาความรู้ นัญก็ไม่เดือดร้อนอะไรนี่ คุณพ่อคุณแม่ออกรวย ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด”

คณเทพไม่แน่ใจว่าควรหมั่นไส้ ในแนวความคิดของญาติผู้น้อง หรือควรเศร้าใจดี

น่าจะเป็นประการหลัง

คิดแล้วให้เสียดาย ที่เด็กคนหนึ่ง ซึ่งควรเป็นอีกหนึ่งอนาคตของชาติมีความคิดเยี่ยงนี้ เนื่องจากการบ่มค่านิยมผิดๆ ในฐานะลูกสาวคนเดียวของครอบครัวมีอันจะกิน และยังเป็นบุตรที่บิดามารดาคิดว่าหมดโอกาสจะมีได้แล้ว พอได้มาอย่างไม่คาดฝัน ขณะวัยมากสมควร อนัญญาพรจึงได้รับการตามใจจนเหลิง

คณเทพนึกถึงลูกศิษย์ของเขาบางคนที่มาจากครอบครัวยากจน แต่พ่อแม่ก็พยายามกัดฟันหาเงินส่งเสียเพื่อให้ลูกได้ร่ำเรียนเพื่อจะได้มีวิชาความรู้

แปลกว่า คนบางคนมีโอกาสดีกว่าคนอื่น กลับไม่คิดจะขวนขวาย

ความคิดหมกมุ่นชั่วขณะของเขา นอกจากทำให้ลืมความเอาใจใส่สภาพถนนหนทาง เท้าข้างที่เหยียบคันเร่งยังเผลอออกแรงกดเพิ่มขึ้น แม้จะเห็นป้ายเตือนแวบๆ ว่าให้ระวังคนข้ามถนนบริเวณทางแยกข้างหน้า

“พี่เทพ!”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปรารถนาเมียในเงา

ปรารถนาเมียในเงา

โรแมนติก

3.0

“เธอแน่ใจหรือดาวว่าเธอท้องกับฉันไม่ใช่คนอื่น” ‘ดาว’ คือชื่อที่เขารู้จัก และเขาก็ไม่เคยพยายามจะถามหล่อนซอกแซก ไปกว่ายอมรับในชื่อที่หล่อนบอกเขา “แน่ใจค่ะ ดิฉัน...ดาวไม่มีใครอื่นนอกจากคุณ” เขาหัวเราะเสียงกระด้างอย่างไม่นึกขัน พูดเสียงบาดลึกหัวใจคนฟัง “ตลกไปหน่อยมั้งสาวน้อย มีอย่างหรือที่ผู้หญิงอาชีพอย่างเธอจะมีแค่ฉันคนเดียว จู่ๆ หล่อนก็เงยหน้าขึ้น มองสบตาเขาด้วยแววตาเอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามจะไม่ให้ไหลรินออกมาสร้างความขายหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ “คุณเข้าใจผิดนะคะ” หล่อนตอบเสียงดังขึ้นคล้ายลืมตัว ก่อนรีบลดเสียงลงเท่าเดิม “ดาว... ดิฉัน ไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณคิด” “ยิ่งแย่ไปใหญ่” อภิศรส่ายหน้า พยายามจะพูดกับสาวน้อยตรงหน้าเขาอย่างใจเย็น แต่น้ำเสียงยังออกกังวานหยันเยาะ “นี่แน่ะดาว เธอคงไม่ลืมใช่มั้ยว่าที่ฉันได้ตัวเธอไปนอนด้วยในคืนนั้น ก็เพราะเธอเป็น... เธอขายความสาวของเธอให้กับฉันมีคุณวิมลฉวีเป็นตัวกลางในการซื้อขายระหว่างเรา เธอคงไม่ลืมเธอได้เงินจากฉันขณะที่ฉันได้ความสุขจากเธอด้วยธุรกิจประเภทอย่างว่า” “ค่ะ” หล่อนรับ ปากสั่น แก้มซีดซับสีเรื่อ “ดิฉันมะ...ไม่เคยลืม เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันต้องบากหน้ายอมทนอายเพราะไม่มีทางเลือกดีไปกว่านั้นด้วยความจำเป็นบีบบังคับ” เขามองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นแล้ว ก็คิดว่าหล่อนพูดจริง เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องมาทำอาชีพที่ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดเฉียดกรายไปใกล้ถ้ามีทางเลือกอื่น “สามหมื่น” เขาบอกจำนวนเงินที่ต้องแลกกับความสุขที่ได้จากหล่อน “ไม่ถึงหรอกค่ะ คุณวิมลฉวีหักค่านายหน้าไปเจ็ดพันบาท” นัยน์ตาเข้มคมวาบขึ้นแล้วก่อนแสงเมื่อเกิดความเวทนาสายน้อยเบื้องหน้าจับใจ แต่แค่เวทนาจะเพียงหรือไม่ที่เขาจะต้องแต่งงานรับหล่อนเป็นเมียตามกฎหมาย

สัมผัสรักลวงใจ

สัมผัสรักลวงใจ

โรแมนติก

5.0

เขา...พ่อเลี้ยงผู้แสนลึกลับ รูปลักษณ์หน้าตาไม่เคยปรากฏบนสื่อต่างๆ ทั้งที่กิตติศัพท์ทั้งทางบวกและลบเป็นที่เลื่องลือในแวดวงธุรกิจทั้งสีขาวและสีเทา เธอ...คือผู้ได้รับมอบหมายให้กระชากหน้ากาก และเผยแพร่ตัวตนของบุคคลลึกลับที่ผู้คนเรียกขาน 'พ่อเลี้ยง' โดยไม่มีโอกาสรู้เลยว่า เป้าหมายที่เธอกำลังพุ่งเขาหาจะนำพาย้อนคืนอดีตในวัยเยาว์ <> สองเมตรครึ่ง... สองเมตร เมตรครึ่ง...หนึ่ง สอง....สาม! สิ้นเสียงนับคำนวณระยะในใจ นักข่าวสาวหัวเห็ด ก็กระโดดออกจากมุมที่หลบอยู่ พุ่งปราดเข้าหาร่างสูงๆ ของคนเดินกลาง มือถือเทปยื่นนำไปก่อน ตามด้วยคำแนะนำตัวและคำถามติดๆ กัน “พ่อเลี้ยงคะ... ดิฉัน มนิลา นักข่าวจากหนังสือพิมพ์ ‘ไทยรายสัปดาห์’ มีคำถามจะถามค่ะเกี่ยวกับโครงการนำเที่ยวทางเรือสำราญ ล่องแม่น้ำโขงที่พ่อเลี้ยง...โอ๊ย!” เสียงร้องดังเกิดจากการที่จู่ๆ เทปสัมภาษณ์ถูกกระชากไปจากมือนั่นเอง ไม่ใช่โดยคนที่หล่อนตั้งใจจะสัมภาษณ์ แต่จากองครักษ์หนึ่งในสี่ของเขา พอหันขวับ ก็เจอเข้ากับสีหน้ากระด้างของนายยักษ์ ที่เคยปะทะกันมาแล้วหนึ่งในสองเต็มตา ที่ยังไม่รู้ว่าระหว่างนายคนนี้ กับอีกคนที่คุมเชิงอยู่ คนไหนชื่อกร และคนไหนชื่อตรี “เชิญพ่อเลี้ยงขึ้นรถเถอะครับ ผมจะคุมคุณนักข่าวไว้ก่อน จะได้ไม่ตามตอแยพ่อเลี้ยงให้รำคาญ” พร้อมกับที่บอกเจ้านาย มือแข็งๆ ก็จับไหล่ทั้งสองข้างของหล่อนไว้มั่น “ปล่อย...เธอเถอะ ตรี” เสียงห้าวมีกังวานทุ้มนุ่มพูดขึ้น อ้อ! นายยักษ์ที่จับไหล่หล่อนไว้ ชื่อตรี ตรีทำท่าลังเล หน้านิ่วคิ้วขมวดไปทีเดียวกับคำสั่งเรียบๆ ของเจ้านายหนุ่ม แต่ยังไม่ยอมละมือจากไหล่โปร่งบาง กระทั่งเสียงห้าวเริ่มจะฟังห้วน สำทับขึ้นอีก “บอกให้ปล่อย... คุณนักข่าวยังไงล่ะ ตรี ไม่ได้ยินหรือ?” เมื่อนายจะเอาอย่างนี้ ตรีก็ยอมละมือจากไหล่เล็กๆ อย่างอดไม่ได้ โดยนิสัยที่ชอบวางท่ายียวนกวนประสาทคน จึงแกล้งกระดิกนิ้วปัดฝุ่นที่มองไม่เห็นตรงหัวไหล่ทั้งสองข้าง ที่ถูกมือแข็งๆ จับมั่นเมื่อสักครู่ เกือบจะคิดว่าหูฝาด เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากคนตัวสูง เจ้าของดวงตาคมจัดๆ ที่ทำเอาหล่อนเกิดอาการประหลาด เมื่อเผลอสบเข้าอย่างจังครั้งแรก ทั้งนี้เพราะไม่คิดว่าในสถานการณ์เยี่ยงนี้ เขาจะยังมีอารมณ์ขัน แต่เสียงหัวเราะทุ้มๆ ก็ฟังว่าเจ้าตัวเกิดอารมณ์ขันขึ้นมาจริงๆ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงถามที่ฟัง...ถ้า จะใช้คำว่าอบอุ่น และเป็นกันเอ๊ง-กันเอง คงจะไม่เกินไป “อยากสัมภาษณ์ผมนักหรือ มนิลา” ความที่มัวแต่ตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าจะได้รับคำถามที่ก่อให้เกิดความหวังมากขึ้นว่า งานที่รับมอบหมายจะเรียบร้อย ทำให้ไม่ทันได้จับกระแสเสียงที่ค่อนข้างจะอ่อนโยนในยามปล่อยชื่อหล่อนพ้นริมฝีปากงามได้รูปที่ดูแข็งแรง “ค่ะ ดิฉันต้องการสัมภาษณ์คุณจริงๆ ค่ะ พ่อเลี้ยง และหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธถ้าหากคุณแน่ใจว่าธุรกิจนำเที่ยว โครงการล่าสุดของคุณไม่มีอะไรแอบแฝง” บอกออกไปแล้วก็รออยู่ว่าจะมีคำตอบมากลับอย่างไร “ตกลงว่าอยากสัมภาษณ์ผม และต้องสัมภาษณ์ให้ได้” “ค่ะ และถ้าเป็นไปได้ ดิฉันก็อยากให้คุณ เอ้อ...พ่อเลี้ยง นัดวันเวลาและสถานที่มาเลยจะดีมาก คุณ...พ่อเลี้ยงยอมให้ดิฉันได้สัมภาษณ์เร็วเท่าไหร่ ดิฉันก็จะไปพ้นหูพ้นตาพ่อเลี้ยงเร็วเท่านั้น” “ก็ไม่แน่ บางทีผมอาจจะอยากเห็นใบหน้าคุณอีกนานๆ ก็ได้” “เอ๊ะ! ตกลงคุณจะเอายังไงแน่? จะยอมให้ดิฉันสัมภาษณ์ดีๆ หรือว่าต้องคอยตามสะกดรอยไปเรื่อยๆ ก็ว่ามา พูดจาวกวนอยู่ได้” บรรดาองครักษ์พิทักษ์นายที่ล้วนแต่ร่างใหญ่โต เกือบลืมตัวเผลอทำคอย่น เพราะแน่ใจว่า โดนวาจาลักษณะนี้เข้า พ่อเลี้ยงของพวกเขา ปรี๊ดแน่ เลยอ้าปากค้างไปตามๆ กัน เมื่อนายของพวกเขายังกลั้วหัวเราะน้อยๆ คล้ายๆ จะเอ็นดูคนตัวเล็กที่ขึ้นเสียงอย่างฉุนเฉียว “ใจร้อนจริง แล้วพูดจาท่าทางอย่างนี้ ไม่กลัวหรือว่าจากที่คิดอนุญาตให้สัมภาษณ์ได้ ผมอาจเปลี่ยนใจ” “หมาย...หมายความว่า คะ... คุณ เอ่อ... พ่อเลี้ยงยอมให้ดิฉันสัมภาษณ์?” “ครับ” “พูดแล้วไม่กลับคำนะ?” “ผมพูดคำไหนคำนั้น” “เมื่อไหร่ ที่ไหนคะ? อ้อ ถ้าจะกรุณา ดิฉันต้องขอถ่ายรูปประกอบคำสัมภาษณ์ด้วยนะคะ” “อย่างนี้เขาเรียกได้คืบจะเอาศอก” เสียงว่าขันๆ มาก่อนตอบคำถาม “พรุ่งนี้ สัก...สิบโมงครึ่ง คงไม่เช้าเกินไป รอที่ล็อบบี้โรงแรมที่คุณพัก ผมจะให้คนของผมเอารถไปรับ” “คุณ...พ่อเลี้ยงรู้ด้วยว่าฉันพักที่ไหน?” “ผมยังรู้อีกหลายอย่างที่... คุณอาจคิดไม่ถึง เป็นอันตกลงนะครับ พรุ่งนี้เจอกัน อ้อ คุณเรียกผมตามสบายเถอะ ไม่จำเป็นต้องเรียกพ่อเลี้ยงตามคนอื่นๆ ก็ได้ จะว่าไป ผมยังมีอีกหลายชื่อให้คุณเรียก ถ้าคุณสนใจวันหลังผมจะบอก” “บอกตอนนี้ไม่ได้หรือคะ ฉันจะยังไม่เปิดเทปบันทึกเสียงคุณก็ได้” “พรุ่งนี้ครับ” “สถานที่สัมภาษณ์ละคะ พอจะบอกได้มั้ยว่าที่ไหน” “คุณอยากรู้เรื่องเรือสำราญของผมไม่ใช่หรือ ผมก็จะพาคุณไปที่นั่นแหละ นั่งสัมภาษณ์กันบนเรือเลยให้ได้บรรยากาศ” ส้มหล่นทั้งเข่งขนาดนี้ ปฏิเสธก็โง่แล้ว!

เล่ห์รักร่ายริษยา

เล่ห์รักร่ายริษยา

โรแมนติก

3.0

หัวใจที่เคยแกร่งกร้าวของเขามีอาการไหววาบ แรงจนเขารู้สึก ชายหนุ่มบอกตัวเอง....ต่อให้เขาสูญเสียความทรงจำ ลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง แต่จะไม่มีวันลืมดวงตาดำใหญ่ งามยิ่งกว่าดาวบนฟ้าคู่นั้น ....คนธรรพ์ เทวาธร <> หน้าคมสันของเขาชวนมอง แก้มคางที่ปรากฏเงาเขียวจางๆ ใต้ผิวท่าจะสากมือนุ่มของหล่อน เครื่องหน้าทุกชิ้นของเขา เริ่มเจนตาและเจนใจหล่อน ไม่ว่าจะเป็นจมูกโด่งขึ้นสัน ดวงตาคมลึกในวงล้อมแผงขนตาดกหนาเป็นตับ ปากได้รูปบางตึงมุมปากหยักขึ้นหุบสนิทแต่ก็พร้อมที่ยิ้มทุกเมื่อด้วยรอยยิ้มเก๋บาดใจ ในสายตาของอคิราภ์เห็นว่าผู้ชายคนนี้ทั้งสง่า ภาคภูมิย่างหาตัวจับยาก ไม่ว่าขณะอยู่ในชุดทำงานประจำวัน คือกางเกงยีนส์เป็นหลัก กับเชิ้ตแขนยาวที่มีทั้งแบบลายสลับสีและที่เป็นสีพื้น สอดชายกางเกงไว้ในบู้ทยาวถึงใต้เข่า หรือแต่งสูททั้งเต็มยศและลำลอง เขาไม่ใช่ผู้ชายสำรวย ไม่ถึงกับหล่อเฟี้ยวอย่างดาราพระเอกหน้าสวยบางคน แต่ก็คมสันชวนมอง ออกลักษณะชายชาตรีขนานแท้ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างดีมากคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแต่งกายอย่างไหนก็มองเห็นไหล่กว้าง อก แขน ล่ำสัน ลำขายาวตรง แข็งแรง สะโพกเพรียวแกร่งไปหมดตลอดสัดส่วน ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีมาด มีบุคลิก น่าเกรงขาม ออกลักษณะชวนศรัทธา ก่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ผู้ใกล้ชิด เขาไม่ดูน่ากลัวสำหรับมิตร แต่เชื่อได้เลยว่ากับศัตรูที่หมายเข่นฆ่าให้อาสัญ เขาจะร้ายกาจได้น่ากลัวชวนขนหัวลุกทีเดียว ....อคิราภ์ <> “คุณว่าเอ๋ยต่างๆ ที่ท้อแท้และยอมรับความสิ้นหวังง่ายๆ ตัวคุณเองละคะ ไม่ทันไรก็จะ...ยอมแพ้ ไม่ยอมตั้งความหวังอะไรเสียแล้ว” “อคิราภ์...” เสียงคนธรรพ์ฟังคล้ายสำลัก “พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า?” “รู้สิคะ ดิฉันไม่ได้กำลังเพ้อเพราะพิษไข้นี่นาจะได้ไม่รู้ตัว” “แต่ก็ยังพูด...” “ที่พูด เพราะอยากบอกคุณว่า... บอกว่า...” “ว่าอะไร?” “บอกว่า... คุณไม่ควรสิ้นหวังแต่เริ่มต้น คุณเป็นคนดี มีน้ำใจ ใครจะอยากเห็นคุณดีๆ อย่างคุณผิดหวังคะ” “ถ้าเธอจะพยายามตอบแทนบุญคุณฉัน...” เสียงห้าวกลับห้วนขึ้นอีก หน้าก็ขึงตึง “ก็ขอบอกว่าฉันไม่ต้องการ!” “แล้วถ้าไม่ใช่เป็นการตอบแทนบุญคุณ แต่เป็น... เป็นการทำตามที่หัวใจตัวเองเรียกร้องเหมือนกันละคะ คุณจะว่ายังไง” หน้าคมสันที่เมินจากหน้าหล่อนหยกๆ หันขวับมา “เธอเด็กเท่านี้จะไปรู้อะไรเรื่องหัวใจ? จะรู้ได้ยังไงว่าหัวใจตัวเองเรียกร้องอะไร อย่ามาพูด...” “ทำไมจะไม่รู้!” คนถูกกล่าวหาว่ายังเด็กเกินกว่าจะเรื่องเกี่ยวกับหัวใจเถียงคอขึ้นเอ็น “คุณคิดว่าคุณเป็นคนเดียวหรือไง ที่เที่ยวปล่อยใจรักคนอื่นทั้งที่เห็นว่าไม่สมควร ยังไม่ถึงเวลา และทั้งๆ ที่มองเห็นความแตกต่างจนไม่กล้าแม้แต่จะคิด ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงกับตนบ้าง” หน้าเชิดๆ สะบัดไปยังทิศทางที่ไม่มีร่างสูง “เอาล่ะค่ะ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ เชื่อเอาจริงๆ ว่าคนอายุขนาดดิฉันไม่น่าจะรู้ใจตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองมีใจผูกพันอยู่กับใคร ดิฉันก็ไม่พูดอะไรอีกแล้ว และจะไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ อีกต่อไป แม้แต่ทุนการศึกษาจากผู้ใจบุญที่ไม่ประสงค์จะออกนามที่ช่วยให้ดิฉันได้เรียนต่ออย่างสบายๆ นั่นด้วย ดิฉันจะกลับไปบอกแม่อธิการว่าดิฉันไม่ขอรับ” “เกเรใหญ่แล้ว!” เสียงพูดมาฟังกลั้วหัวเราะ “แล้วใครบอกเรื่องทุนการศึกษา ฉันจำได้ว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอเลยนะ” “ถึงคุณไม่บอก ดิฉันก็รู้ คนที่บอกก็ไม่ใช่แม่อธิการด้วยละ” “งั้นก็ต้องยายวิ ไม่ไหว ไม่รู้จักรักษาความลับซะมั่งเลย น่าถูกงดค่าขนมพิเศษนักเชียว” “ใครว่าวิบอก คุณคันธรสต่างหากที่บอก” เห็นว่าเพื่อนกำลังถูกเข้าใจผิด ทำให้โพล่งออกไป คนธรรพ์นิ่งไปพักใหญ่จึงพูดขึ้น “เพราะอย่างนี้เองหรือ ถึงไม่อยากเห็นฉันผิดหวัง ความสำนึกในบุญคุณ?” “ถ้าคุณยังเข้าใจอย่างนั้น ก็ไม่ขอพูดด้วยแล้ว!” ว่าแล้วก็หันหลังให้ แต่ไม่ทันก้าวได้สักกี่ก้าว ร่างโปร่งบางก็ปลิวกลับ ก่อนถูกมัดแน่นด้วยสองแขนที่ทั้งแข็งแรงและทรงพลัง

กลลวงอสูรซ่อนใจ

กลลวงอสูรซ่อนใจ

โรแมนติก

5.0

หลังจากเข้าสู่โหมดครอบครัวแสนสุข ดร.ทรงพิชิต ธันยธร กับภรรยาสุดที่รักก็มีทายาทที่เป็นดั่งสายเลือดรักด้วยกันสองคน “กลลวงอสูรซ่อน” เป็นเรื่องของลูกสาวคนโตของพระ-นางในเรื่อง “อุบัติรักใต้เงาอสูร” (มีทั้งอีบุ๊กและหนังสือเสียงให้โหลด ท่านใดยังไม่เคยผ่านตาก็ลองเข้าไปโหลดฟังหรืออ่านตัวอย่างได้ฟรีในMebค่ะ) สำหรับเรื่องราวของพชรดนัย หรือ เพชร น้องชายนางเอกเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องยาว ออกแนวทะเลทราย ถ้าชีวิตราบรื่นก็คงได้อ่านกันภายในปีนี้ ตอนนี้อ่านเรื่องราวของหนูจุ๋ม ลูกสาวสุดที่รักของพ่อทรงแม่พจีไปก่อนนะคะ ด้วยรักและขอบคุณ ^^__^^ พันแสงจันทร์ <>สปอย<> “ปากจุ๋มดูน่าจูบจัง” “อะ...อะไรนะคะ?” “อยู่ใกล้กันแค่นี้ยังไม่ได้ยินอีก พี่ไม่ได้พูดเป็นกระซิบซะหน่อย” “ได้ยินค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกต้อง” “ถ้าจุ๋มได้ยินพี่ชมปากจุ๋มน่าจูบ ก็ถือว่าเป็นการได้ยินที่ถูกต้องแล้วล่ะ อะไร? ไม่เคยมีใครบอกเลยเหรอว่าปากจุ๋ม...” “พอแล้วค่ะ ไม่ต้องย้ำอีกก็ได้” หล่อนค้อนเขาตรงๆ ตามด้วยเสียงเสียงบ่นอุบ “จริงๆ เลยนะ คุณนี่ ทำไมถึงชอบพูดให้จุ๋มตีหน้าไม่ถูกเรื่อยเลย แล้วสุภาพบุรุษน่ะเขาไม่พูดหรือแสดงอะไรให้ผู้หญิงขัดเขินหรอกนะคะ” “พี่ยังไม่เคยพูดสักทีว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แล้วถ้าการเป็นสุภาพบุรุษจะทำให้ชมผู้หญิงสักคนตามความรู้สึกไม่ได้ พี่ก็ไม่อยากเป็นหรอก” “ไม่อยากเป็นสุภาพบุรุษ แล้วอยากเป็นคนเถื่อนอย่างนั้นหรือคะ อันที่จริงมาดคุณก็ให้อยู่นะ ถ้าจะแสดงตัวเป็นมนุษย์ยุคหินอาศัยอยู่ตามถ้ำ นุ่งหนังสัตว์แทนเสื้อผ้าอย่างคนศิวิไลซ์แล้ว” “เป็นได้ก็ดีสิ ชอบผู้หญิงคนไหนก็เอากระบองตีหัวลากเข้าถ้ำไปเลยไม่มีความผิด” “แหม! คิดอยู่เรื่องเดียวเองหรือคะ” “ใครบอก พี่คิดหลายเรื่องเลยละ แต่พูดไปจุ๋มก็จะยิ่งว่าพี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษนะสิ”

อุบัติรักใต้เงาอสูร

อุบัติรักใต้เงาอสูร

โรแมนติก

5.0

**ฝากคู่พี่ทรงกับหนูพจีด้วยนะคะ ท่านใดชอบแนวรักโรแมนติกผจญภัยน่าจะชอบเรืองนี้ อารัมภบท หลังการการหายตัวไปของบิดา ชีวิตอบอุ่น เต็มไปด้วยความสงบสุขของพจีจำเรียงไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนไป แต่ยังเป็นจุดเริ่มนำพาเธอสู่วังวนที่เต็มไปด้วยภยันตราย แล้วใครล่ะ จะเข้ามาช่วย? เขา...หรือ? ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักทว่าเธอกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างรวดเร็ว แม้จะยังวางใจเขาได้ไม่สนิท เพราะรู้สึกว่าเขายังปิดบังตัวตนที่แท้จริง และที่น่าคลางแคลง ดูเหมือนภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอจะมาพร้อมกับเขา <>สปอย<> พจีจำเรียงมีความสุขที่ได้เต้นรำกับคนที่หล่อนรัก และดูเหมือนว่าเขาเองก็มีความรู้สึกระดับเดียวกับหล่อน แม้จะยังไม่พูดออกมาตรงๆ ทรงพิชิตกอดหล่อนแน่นขึ้น เมื่อเป็นเพลงวอลซ์ หล่อนเองเลื่อนมือที่แตะต้นแขนเขา เป็นสอดโอบรอบเอวเขาตอบ แต่แล้วก็นิ่วหน้า เมื่อมือสะดุดสะดุดเข้ากับอะไรแข็งๆ ซ่อนอยู่ใต้เสื้อนอกบริเวณสีข้างเขา หล่อนเงยมองเขาขวับ เมื่อบอกตัวเองว่า สิงที่มือของหล่อนบังเอิญไปสัมผัสเข้านั้นคือ...ปืน! ศีรษะหล่อนกระแทกปลายคางเขาดังกึก ทำเอาทรงพิชิตผงะเล็กน้อย “มีอะไร?” เขาถาม เมื่อมองตาหล่อน คงเห็นหล่อนเผยอปากแต่ไม่มีเสียง “คุณพกปืน?” หล่อนตอบเป็นกระซิบ มองเขาอย่างไม่ไว้ใจ พจีจำเรียงมาคิดย้อนหลังดูแล้ว ก็เห็นว่าทรงพิชิตอาจจะทำตัวเปิดเผย หล่อนถามอะไรเขาก็ตอบอย่างไม่ลังเล แต่สิ่งที่เขาบอกแก่หล่อนนั้น อยู่ในอดีตของเขาทั้งสิ้น ไม่ว่าเรื่องครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง และงานที่เขาทำ และดูเหมือนว่าเขาจะเลี่ยง ไม่พูดถึงงานปัจจุบันของเขา เขาบอกว่าเขาได้พัก เลยคิดจะมาพักผ่อนเงียบๆ สบายๆ คนตั้งใจมาพักผ่อนเฉยๆ ทำไมจึงมีคนคอยสะกดรอยตาม? หล่อนเคยพยายามจะถามเขา เขาก็พูดปัดๆ ไป แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับพกปืนติดตัว ซึ่งออกจะขัดกันอยู่กับการแสดงออกของเขาที่ดูจะไม่กังวลอะไรเลย “อย่ามองผมอย่างนั้น” เขาพูด ปากเม้มเข้าหากันก่อนคลาย “คุณโกหกฉัน?” หล่อนไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวหาเขาเลย แต่ดูเหมือนคำพูดฟังกล่าวหาของหล่อนจะทำให้เขาสะเทือนไม่น้อย เพราะคลายแขนที่โอบรัดรอบตัวหล่อนออกทันที สีหน้าสุขสงบ เปลี่ยนเป็นขรึมเครียด “เรากันกลับกันเถอะ อยู่ไปก็ไม่สนุก” เขาบอกด้วยสุ้มเสียงฟังว่ากำลังพยามระงับอารมณ์ แต่จะเป็นอารมณ์ชนิดใดก็บอกไม่ถูก ที่แน่ๆ เห็นจะไม่ใช่อารมณ์รักอารมณ์ใคร่ “แหม! ใจตรงกันเลยค่ะ” หล่อนต่อตาเขาไม่หลบอย่างท้าทาย เขาขบฟัน จนเห็นรอยนูนของสันขากรรไกรที่ข้างแก้ม เมื่อกลับออกมาจากคลับกันนั้น พจีจำเรียงไม่มีอารมณ์ใส่ใจกับสิ่งใด เดินนำหน้าชายหนุ่มกระทั่งถึงห้องพัก หล่อนเดินผ่านห้องนั่งเล่นกะทัดรัด ไม่คิดจะหยุดบอกราตรีสวัสดิ์เขา แต่ก่อนที่หล่อนจะทันเอื้อมมือเปิดประตูห้องนอน ก็ถูกกระชากกลับ ร่างโปร่งบางหมุนเป็นครึ่งวงกลม ก่อนส่วนหน้าทั้งหมดจะปะทะเข้าร่างสูงแข็งแรง หล่อนได้สำนึกว่า ไม่บังควรเล่นกับไฟ ก็เมื่อถูกเขาจูบเหมือนจะดูดลมหายใจไปจากหล่อนจนหมด หล่อนตัวอ่อนระทวย อย่างคนไร้เรี่ยวแรง เมื่อเขาถอนจุมพิต ถอยใบหน้าออกห่างเพื่อมองหน้าหล่อนชัดๆ “พจีควรจะรู้นะ ไม่ควรทำให้ผมลืมตัว” “แค่นี้เองหรือคะที่คุณพูดได้?” หล่อนสบตาเขาอย่างน้อยใจระคนกล่าวหากึ่งตัดพ้อ ที่เขากำลังทำเอาหล่อนสับสนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าควรจะไว้ใจเขา หรือไม่พึงไว้ใจดี “ก็พจีจะเอาแค่ไหนล่ะ หรือถึงขั้นผมต้องเปิดเปลือยวิญญาณ ถึงจะเชื่อใจว่าผมไม่เคยคิดร้าย หรือแม้แต่หวังร้ายต่อพจี?” “ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกค่ะ แค่คุณตรงไปตรงมา ไม่มีลับคมนัยก็พอแล้ว” “บางอย่างก็ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะต้องพูด หรือบอก” “เมื่อไหร่ละคะ จึงจะถึงเวลาที่ว่า เวลาที่คุณจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?” “ผมก็ไม่ได้ปิดบังอะไรนี่ ความเป็นมายังไงก็บอกไปหมดแล้ว” พจีจำเรียงส่ายหน้า “ไม่หรอก คุณยังไม่ได้บอกอะไรเลย” “จะไม่บอกอะไรเลยได้ยังไง อะไรที่ถามผมไม่เคยไม่ตอบ” ทรงพิชิตนิ่วหน้า มือจับไหล่โปร่งไว้มั่น “งั้นช่วยตอบคำถามอีกสักคำถามซีคะ” “คำถามอะไร?” “คนระดับศาสตราจรย์ มีพีเอช. ดี อย่างคุณ ทำไมจะต้องมีคนสะกดรอย ถ้าที่คุณบอกเป็นความจริง คือแค่สอนหนังสือ หรืออาจจะได้รับเชิญไปเล็คเชอร์ตามมหาลัยต่างๆ ไม่มีอะไรลึกลับ?” ทรงพิชิตไม่ตอบ ปล่อยมือจากไหล่โปร่ง โดดผึงไปที่บานหน้าต่างขวามือของห้องนั่งเล่น ที่เปิดแง้มนิดๆ ซึ่งก่อนออกไปยังปิดอยู่ มืดกำหมัดของเขาพุ่งไปก่อน เพื่อกระแทกบานหน้าให้เปิดกว้าง จากนั้นตัวเขาก็โจนเหยียบกรอบหน้าต่าง แล้วโดดลงสู่พื้นดิน ซึ่งไม่สูงเท่าไหร่ ออกวิ่งตามเจ้าของใบหน้าวอบแวบทางหน้าต่าง

กับดักเสน่หาอาญาอสูร

กับดักเสน่หาอาญาอสูร

โรแมนติก

5.0

ทันทีที่ลิ้นนุ่มของหล่อนถูกแตะสัมผัสโดยลิ้นแปลกปลอมของชายหนุ่มและถูกกระหวัดรัดดูด หล่อนก็แทบไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว แม้แต่ชื่อตัวเองก็ยังนึกไม่ออก ร่างอรชรนุ่มนิ่มแอ่นโค้งขึ้นราวคันศรเมื่อมือหนาอุ่นซ่านข้างหนึ่งของชายหนุ่มคลำเปะปะจากแผ่นหลังวกมาข้างหน้ามุ่งเข้าเนินคู่ครัดเคร่งแห่งวัยสาวขณะมือหนาอีกข้างยังกางออกรองรับแผ่นหลังบอบบางเอาไว้อย่างมั่นคง ขวัญณภัทรไม่แน่ใจนักว่าเสียงครางรัญจวนที่ได้ยินเกิดจากชายหนุ่มหรือมาจากหล่อน แต่อย่างไรก็ตามเสียงประหลาดฟังแปร่งหูนี้ก็ช่วยกระชากสติสัมปชัญญะที่กำลังเตลิดเปิดเปิงคืนมาได้ “พอแล้วค่ะ” แทบไม่น่าเชื่อว่านั่นคือเสียงของหล่อนเพราะสั่นทั้งพร่า วินภวัตชะงัก มองสบตากลมโตที่แม้จะมีแววตื่นตระหนกแต่เขาก็ยังเล็งเห็นแววรัญจวนของความปรารถนาระคนอยู่ เขาถอนใจ ยอมปล่อยมือจากกายนุ่ม จากนั้นก็ขยับออกห่าง ถอนใจอีกเฮือกเมื่อเห็นหญิงสาวดึงเสื้อผ้าตัวเองให้เข้ารูปเข้ารอยวุ่นวายขณะใบหน้าแดงก่ำไปหมด <> “การที่ผมคิดถึงผู้หญิงแปลกหน้าที่บังเอิญได้สบตาด้วยไม่ถึงสิบวินาที ได้แตะหลังมือไม่ถึงอึดใจมาเป็นเดือนๆ ดีใจแทบลุกขึ้นร้องไชโยโห่ฮิ้วเมื่อได้เจออีกครั้งราวปาฏิหาริย์ถ้าเพียงเจ้าหล่อนจะไม่เนื้อตัวอาบเลือด หมดสติจากการโดนยิง...นี่นะหรือที่คุณว่าอาจจะเป็นแค่อารมณ์หวือหวาวูบวาบ แล้วผู้หญิงอื่นที่ไหน ที่คุณเอามาเปรียบว่าผมอาจจะเห็นคุณแตกต่างไปจากเขา จะบอกให้นะ ผมน่ะ เกือบคิดว่าตัวเองกามชาด้านกระมั่งได้เจอคุณ ตั้งแต่นั้นมาแค่คิดถึงริมฝีปากของคุณ ผิวราวกับกลีบดอกลำดวนของคุณผมก็แข็งขึงพร้อมลุกขึ้นฟัด”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

มหาเศรษฐี

5.0

“คุณช่วยสอนเรื่องอย่างว่าให้ฉันได้ไหม?” “ห๊ะ?!” ทันทีที่เธอพูดจบ ออสตินก็อย่างตกใจจนเกือบจะพลัดตกเก้าอี้แล้วด้วย ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขา ออสติน เบรเดน ปิศาจหนุ่มผู้เจนจัดในเรื่องเริงรัก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินคำขอสุดพิศดารพันลึกจากปากของดรัลพร แก้วกานต์ เมื่ออยู่ๆ เธอก็บุกมาถึงห้องทำงานแล้วขอให้เขาช่วยรับหน้าที่ “ติวเตอร์” เพื่อสอน “บทเรียนพิศวาส” ให้เธอเป็น “ผู้หญิงเร่าร้อน” ในแบบที่เขาชอบ และเขาคงจะรับหน้าที่ดังกล่าว หากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนสนิท และเป็นคนที่เขาพยายามเก็บไม้เก็บมือให้อยู่ห่างจากเธอมาตลอด เพราะเขาดันรู้สึกอยากครอบครองเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น! ทว่าคนอย่างดรัลพรผู้มุทะลุมีหรือจะยอมให้เขาปฏิเสธคำขอเธอง่ายๆ เมื่อเธอยั่วยวนเขาด้วยท่าทีไม่ประสีประสาจนเขาต้องหลวมตัวตกปากรับคำว่าจะเป็น “คุณครูกิตติมศักดิ์” สอนบทเรียนแสนพิเศษนั้นให้กับเธอ เพียงแต่เธอต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว ด้วย “พรหมจรรย์” ที่เพียรรักษามานานของเธอ “คราวหลัง... อย่าได้คิดจะอ่อยผู้ชายคนอื่นอีก เข้าใจไหม?!” เขาถามเมื่อฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง “แยกขาออกเดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” ดรัลพรร้องอีกครั้งเมื่อเขาฟาดแส้ลงมาเพื่อเป็นการทำโทษและตักเตือนถึงผลของการขัดคำสั่งของเขา

 เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

โรแมนติก

5.0

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

เมืองแฟนตาซี

5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

สมัยใหม่

5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

โรแมนติก

5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

พายรักร้ายคุณชายตำรวจ

พายรักร้ายคุณชายตำรวจ

โรแมนติก

5.0

เขาเป็นคนรักใครรักยาก ในเมื่อเธอเข้ามาทำให้รักแล้ว ยากที่จะปล่อยเธอไป "มาทำให้ฉันรัก แล้วคิดจะออกไปจากฉันง่ายๆ งั้นเหรอ ไม่มีวัน" พูดจบ มือหนาก็กระชากคนตัวเล็กเข้ามาระดมจูบเข้าใบหน้าสวย อย่างหนักหน่วง จูบที่ดิบเถื่อน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นคนรักใครรักยาก แต่ในเมื่อยัยตัวแสบเข้ามาทำให้รักแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยเธอไป ปากหยักหนาถอนจูบออกจากคนตัวเล็ก และอุ้มเดินไปยังลานจอดรถ "...พี่ธีร์นี้พี่จะทำอะไร ปะ...ปล่อยฉันนะ" "ของเคยๆ กันอยู่จะกลัวไปทำไม" ธีร์ณัฐจ้องมองคนตรงหน้าที่แสนจะพยศ "อย่านะพี่ธีร์ ไม่..." หึ... รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาที่มุมปากหยัก "เด็กแสบๆ อย่างเธอจะได้ไม่กล้า มาบอกเลิกฉันอีก" ธีร์ณัฐตะเบ่งเสียงด้วยท่าทีโกรธจัด พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจัดการปิดเสียงอันน่ารำคาญที่ออกจากปากคนตัวเล็ก (ธีร์ณัฐ พี่ชายดีเทล เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ) (ข้าวตัง เพื่อนสนิทโรรา เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ดุจตะวันฉันรักเธอ
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

19/03/2023

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

19/03/2023

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

19/03/2023

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

19/03/2023

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

19/03/2023

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

19/03/2023

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

19/03/2023

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

19/03/2023

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

19/03/2023

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

19/03/2023

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

19/03/2023

12

บทที่ 12 ตอนที่12

04/04/2023

13

บทที่ 13 ตอนที่13

04/04/2023

14

บทที่ 14 ตอนที่14

04/04/2023

15

บทที่ 15 ตอนที่15

04/04/2023

16

บทที่ 16 ตอนที่16

04/04/2023

17

บทที่ 17 ตอนที่17

04/04/2023

18

บทที่ 18 ตอนที่18

04/04/2023

19

บทที่ 19 ตอนที่19

04/04/2023

20

บทที่ 20 ตอนที่20

04/04/2023

21

บทที่ 21 ตอนที่21

04/04/2023

22

บทที่ 22 ตอนที่22

04/04/2023

23

บทที่ 23 ตอนที่23

04/04/2023

24

บทที่ 24 ตอนที่24

04/04/2023

25

บทที่ 25 ตอนที่25

04/04/2023

26

บทที่ 26 ตอนที่26

04/04/2023

27

บทที่ 27 ตอนที่27

04/04/2023

28

บทที่ 28 ตอนที่28

04/04/2023

29

บทที่ 29 ตอนที่29

04/04/2023

30

บทที่ 30 ตอนที่30

04/04/2023

31

บทที่ 31 ตอนที่31

04/04/2023

32

บทที่ 32 ตอนที่32

04/04/2023

33

บทที่ 33 ตอนที่33

04/04/2023

34

บทที่ 34 ตอนที่34

04/04/2023

35

บทที่ 35 ตอนที่35

04/04/2023

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

04/04/2023

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

04/04/2023

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

04/04/2023

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

04/04/2023

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

04/04/2023