Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คืนนั้น..ฉันลืมไม่ลง

คืนนั้น..ฉันลืมไม่ลง

Xmaniac

5.0
ความคิดเห็น
27.6K
ชม
17
บท

เมื่อหญิงสาวบริสุทธิ์ผู้อ่อนต่อโลก ตกไปอยู่ในเงื้อมมือเจ้านาย ซึ่งเป็นบุรุษผู้หล่อเหลาและจัดเจนในเชิงรัก ขณะที่เธอมียาปลุกกำหนัดเป็นตัวกระตุ้น ผสมผสานกับส่วนลึกในกายสาวที่ต้องการเขาอยู่แล้ว ความเร่าร้อนรุนแรงชนิดที่ใจและกายนารีต้องสะท้านจึงเกิดขึ้น…จนลืมไม่ลง   ตัวอย่าง : พลันนั้นไฟก็ถูกดับพรึ่บ มีเพียงไฟหรี่ดวงเล็ก ๆ ที่เปิดไว้ ดีเจเปิดเพลงสุดมันส์เร้าอารมณ์ เอริคล้วงควักมือใหญ่เข้าไปในกระโปรงฉันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะสอดนิ้วใหญ่เข้าสู่เรือนกายสาว ขยับเขยื้อนเข้าออกรวดเร็วอย่างทำเวลา ปากร้อนขบเม้มติ่งหูแล้วห่อลิ้นเข้าไปไล้ด้านใน อีกมือบีบคลึงเต้าเต่งตึงทั้งสองข้างสลับไปมา “โอ้ว เอริคขา” ฉันครางออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อโดนโจมตีจากหลายจุดพร้อมกัน เอริคเอ่ยบอกฉันดัง ๆ “ที่รัก ครางดัง ๆ เลยถ้าคุณเสียว เสียงเพลงดังกว่าเสียงเราอยู่แล้ว คุณสามารถปลดปล่อยออกมาได้โดยที่ไม่ต้องกลัวใครจะมาสนใจ” เขาบอกพร้อมกับก้มลงขย้ำขบเม้มที่ต้นคอ ก่อนจะถอดถอนนิ้วออกจากร่องรักแล้วยกฉันจากตักครู่หนึ่ง สักพักเขาก็อุ้มฉันไปไว้ที่ตักเหมือนเดิม แต่มีสิ่งที่ต่างไปคือความใหญ่ยาวแข็งขึงมันผงาดง้ำอยู่ใต้ตัวฉัน! “เอริค !” ฉันเรียกชื่อเขาเพราะความตื่นกลัวที่จะมีคนมาเห็น แต่อีกใจมันก็ตื่นเต้นอยากลอง ไฟก็มืด ดนตรีก็มันส์ ทุกอย่างปลุกเร้าให้อยากรู้อยากลอง เขาถลกกระโปรงฉันขึ้นแล้วจับจ่อสิ่งนั้นเข้าที่ช่องทางรักเร่าร้อน ก่อนจะกดมันลงให้ดูดกลืนความยิ่งใหญ่ลงไปจนหมดสิ้น แล้วเขาก็ยกกระโปรงลงมาปิดไว้เหมือนเดิม “ขยับสิคะที่รัก ขยับตามจังหวะเพลง เราจะรักกันต่อหน้าผู้คน” คำพูดของเขากระตุ้นให้ฉันทั้งตื่นเต้นและเสียวซ่านจนระทดระทวยไปหมด ริมฝีปากอุ่นร้อนขบเม้มดูดดึงเล้าโลมไปทั่วต้นคอ มือใหญ่ตะโบมบีบเคล้นคลึงหน้าอกคู่อวบ ก่อนจะหมุนวนสะโพกให้ความยิ่งใหญ่เสียดสีกับร่องรักให้ยิ่งซ่านเสียว มันช่างเร่าร้อนกระทั่งแผดเผาให้กายฉันแทบหลอมละลาย “นะครับที่รัก ทำให้ผมรู้ว่าคุณรักผมแค่ไหน” เสียงทุ้มนุ่มสั่นพร่าเพราะอารมณ์เร่าร้อนเว้าวอนอยู่ข้างหู *************************************************  

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

ฉันชื่อนิดา อายุยี่สิบปี ตอนนี้เรียนอยู่ปีสอง เป็นเด็กต่างจังหวัดที่สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองหลวงได้ จึงได้เข้ามาใช้ชีวิตเด็กหอ ที่บ้านฉันขายของชำ รายได้ก็พอกินพอใช้ ไม่ได้เหลือเก็บเท่าใดนัก ฉันจึงหารายได้พิเศษโดยการทำงานหลังเวลาเรียนตามร้านอาหารฟาสท์ฟู้ดทั่วไปอย่างที่เพื่อนคนอื่น ๆ ทำกัน ประกอบกับที่ฉันเป็นเด็กดี ไม่เที่ยวเตร่ ไม่ใช้จ่ายฟุ้งเฟ้อ ทำให้ฉันไม่ต้องขอเงินจากทางบ้าน

พอขึ้นปีสอง เพื่อนเรียนเอกภาษาอังกฤษเหมือนกัน คณะเดียวกัน อยู่หอเดียวกัน ชื่อ เฟิร์น เธอมีโอกาสได้ไปทำงานที่ผับหรูหราแห่งหนึ่งที่รุ่นพี่ชักนำไปแล้วเธอก็เอามาเล่าให้ฉันฟังว่ารายได้ดีมาก และเขาต้องการพนักงานเพิ่มเติม โดยเฉพาะหากพูดภาษาอังกฤษได้บ้างจะดีมาก เพราะร้านนั้นอยู่ใน ทำเลทองที่มีแขกต่างชาติทุกวัน ฉันพอสื่อสารได้บ้างเพราะเรียนเอกภาษาโดยตรงเช่นเดียวกับเฟิร์น “ ทำงานหกโมงถึงตีสอง เขาให้คืนละสามร้อย ทิปจากแขกต่างหากนะนิดา เฉลี่ยแล้วคืนหนึ่งไม่ต่ำกว่าพัน บางคืน ฟลุ้ค ๆ เป็นหมื่นเลยนะ ” ฉันตาลุกวาว ทำงานในร้านฟาสท์ฟู้ด เหนื่อยและวุ่นวายตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ยังไม่ได้ครึ่งนี้เลย แต่อีกใจหนึ่งก็ กล้า ๆ กลัว ๆ “ เหรอ ดีจังเลย แล้วเราต้องทำอะไรบ้างล่ะ ” “ ก็แค่ไปรับออเดอร์แล้วเอาเครื่องดื่มหรือไม่ก็อาหารไปเสิร์ฟแค่นั้น จบเลย แขกที่นี่แบบมีระดับหน่อยไง มันหรูพอสมควร ” “ แค่เสิร์ฟจริง ๆ นะแก ” เฟิร์นหัวเราะ “ นี่ แกคิดว่าฉันชวนไปทำบาร์อะโกโก้แล้วต้องขึ้นไปเต้นโชว์ด้วยหรือไง นี่มันผับธรรมดา ก็มีดีเจเปิดเพลง มีคนเต้น แค่หรูหราขึ้นมาหน่อย พวกคนมีตังค์เขาไปกัน ฝรั่งก็เยอะ ทิปเลยหนักหน่อย ” ฉันนั่งคำนวณเวลาเรียนว่าจะตื่นไหวไหม เฟิร์นมีรถจักรยานยนต์ซึ่งฉันคงจะได้อาศัยซ้อนท้ายไปกับเธอแล้วหารค่าน้ำมันเอา ผับเลิกตีสอง ใช้เวลาขับรถประมาณสี่สิบนาที อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็น่าจะได้นอนตีสาม ฉันมีเรียนเช้าทุกวันที่เวลาเก้าโมง นอนวันละห้าชั่วโมงน่าจะพอวะ เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อเงิน ต้องไหวสิ แต่แล้วฉันก็นึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนเงยหน้ามองเฟิร์นแล้วยิ้มแหย ๆ “ แก ทำงานในผับต้องหน้าตาดีรูปร่างดีหรือเปล่า อย่างฉันเขาจะรับเหรอ ” เฟิร์นหัวเราะดังลั่น “ เขาก็คัดหน้าคัดหุ่นแหละ แกไม่รู้ตัวเหรอว่าแกสวย ” ฉันเป็นฝ่ายหัวเราะออกมาบ้าง ฉันเนี่ยนะสวย ฉันสูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร หนักห้าสิบหกกิโลกรัม หุ่นไม่ได้อ้อนแอ้นบอบบางเหมือนอย่างสมัยนิยม เรียกได้ว่าอวบระยะสุดท้าย ก็ว่าได้ แถมผิวค่อนข้างคล้ำ ไม่ได้ขาวหมวยสวยเอ็กซ์ตาม พิมพ์นิยม แถมใบหน้าคมแบบไทยแท้อีก ผมก็ปล่อยยาวตามธรรมชาติและมักจะรวบไว้ง่าย ๆ ไม่เคยย้อมไม่เคยดัด อีกอย่างเพราะฉันไม่ผอมบางนี่แหละเลยไม่กล้าแต่งตัวโชว์ทรวดทรง อย่างใครเขา เลยชอบใส่เสื้อผ้าใหญ่กว่าตัวเพื่ออำพรางหุ่นเสมอ “ ฉันเนี่ยนะสวยเฟิร์น แกอยากให้ฉันเลี้ยงข้าวล่ะสิถึงได้พูดแบบนี้ ” ฉันบอกเสียงดัง เฟิร์นหัวเราะ “ ถ้าแกไม่สวย ฉันไม่กล้าชวนหรอก แกน่ะต้องเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองเสียใหม่นะนิดา ต้องเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นแกจะหาผัวไม่ได้ ” ฉันสะดุ้ง แต่ก็ตอบเฟิร์นแก้เก้อ “ ฉันยังไม่อยากมีหรอกผัว อยากตั้งใจเรียนให้จบ หาเงินเลี้ยงตัวเอง ส่งทางบ้านได้ด้วยจะดีมาก ” “ หาไปด้วยมีผัวไปด้วยก็ได้ ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ มีผัวน่ะดีจะตาย เพิ่มความมันส์ให้ชีวิตนะเว้ย ” นางพูดได้เพราะนางเป็นคนเซ็กซี่ เปรี้ยวเข็ดฟัน และพาผู้ชายมาผลัดเปลี่ยนเวียนหมุนที่ห้องไม่ซ้ำหน้า ฉันเงียบ หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Xmaniac

ข้อมูลเพิ่มเติม
ขออีกครั้ง (ซีรีส์หลงเมีย)

ขออีกครั้ง (ซีรีส์หลงเมีย)

โรแมนติก

5.0

โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

โรแมนติก

5.0

เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

สมัยใหม่

5.0

" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

Arny Gallucio
5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คืนนั้น..ฉันลืมไม่ลง
1

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

04/03/2023

2

บทที่ 2 คืนแรกก็เจอดี

04/03/2023

3

บทที่ 3 แฉะ

04/03/2023

4

บทที่ 4 เจอของจริง

04/03/2023

5

บทที่ 5 อยากโดนบอสกินสักครั้ง

04/03/2023

6

บทที่ 6 เดี๋ยวผมดูแลนิดาเอง

04/03/2023

7

บทที่ 7 ผมจะทำให้ฝันของคุณเป็นจริง

04/03/2023

8

บทที่ 8 เรียกชื่อผมสิคะที่รัก เรียกเอริค

04/03/2023

9

บทที่ 9 มองดูสิครับที่รัก ดูเวลาที่ผมเข้าออกในตัวคุณสิ

04/03/2023

10

บทที่ 10 ดีใจด้วยซ้ำที่เป็นคุณ

04/03/2023

11

บทที่ 11 คุณคนแรกที่ผมอยากสัมผัสเนื้อแท้

04/03/2023

12

บทที่ 12 หลงใหล

04/03/2023

13

บทที่ 13 ฉันใจเต้นแรงมากเลย

04/03/2023

14

บทที่ 14 ยัวร์เกิร์ลเฟรนด์

04/03/2023

15

บทที่ 15 ทำให้ผมรู้ว่าคุณรักผมแค่ไหน

04/03/2023

16

บทที่ 16 คุณเป็นผู้หญิงของผม

04/03/2023

17

บทที่ 17 ได้โปรดรักฉันแรงกว่านี้นะคะ

04/03/2023