Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ท่านแม่ทัพ หยุดแทงข้าเสียที

ท่านแม่ทัพ หยุดแทงข้าเสียที

Bunmeebooks

5.0
ความคิดเห็น
19.6K
ชม
24
บท

บิดามันเถอะ ! ข้าหนีการอภิเษกแต่กลับต้องมาเป็นทาสบำเรอกามแม่ทัพเถื่อน เรื่องราวขององค์ชายผู้ดื้อรั้นหนีการแต่งงาน จนถูกจับไปขายในหอนายโลม แล้วแม่ทัพก็นำตัวเขาไปเป็นทาสกาม เขาจะหนีพ้นจากความโชคร้ายนี้ได้หรือไม่ ไปติดตามกัน ................................................................................ ❌ จับมาเป็นทาส ✅ จับมาทำเมีย ——————————————— 😈“ข้าซื้อเจ้ามาก็เพื่อสิ่งนี้ ‼️ เจ้าจะเล่นตัวไปไย แต่ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าเจ็บ เจ้าต้องรับผิดชอบ” สิ้นคำมือแกร่งก็กระชากเสื้อคลุมขององค์ชายน้อยออก แล้วผลักร่างบางเข้าชิดผนังห้อง 😡“จะทำอะไรข้า ถ้าท่านแตะต้องตัวข้าอีก ข้าฆ่าท่านแน่‼️” องค์ชายน้อยขู่ฟ่อ มือทั้งสองถูกเขารวบตรึงไว้เหนือหัว ร่างกายท่อนล่างแทบทุกสัดส่วนถูกเรือนร่างกำยำร้อนฉ่าทาบทับเอาไว้ 😈“ฮ่า ฮ่า คนที่ขู่ฆ่าข้า ไม่เคยมีใครตายดีสักคน แต่สำหรับเจ้า...” แม่ทัพหนุ่มมองสบตาหนุ่มน้อย เขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากบางด่าทอเขาไม่หยุด 😈 “ข้าจะทรมานจนต้องร้องขอชีวิตเชียวหล่ะ” เขาไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม แล้วลูบต่ำลงมาจนถึงเม็ดทับทิมสีสวย จากนั้นก็ลูบคลึงหัวทับทิมเล่นอย่างหยอกล้อ 🥴“อื้อ อา เจ้าคนชั่วช้า งื้ออ อา” ฝ่ามือร้ายของท่านแม่ทัพทำให้เสียงองค์ชายน้อยเริ่มสั่นพร่าด้วยความเสียวซ่าน ทุกอณูสัมผัสของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม 😈“ชั่วช้าอย่างไร ก็เป็นสามีเจ้า”

บทที่ 1 เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว

ณ เมืองหลวง แคว้นฉาง

องค์ชายรัชทายาทหลี่จื่ออิงรู้เรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้นฉางกับแคว้นเป่ยหนาน เขาก็ย่ำเท้าตึก ๆ ตรงมายังห้องทรงงานของฮ่องเต้ทันที

อาภรณ์สีทองสะบัดตามแรงเคลื่อนไหว ความกังวลในพระทัยมิทำให้ใบหน้าหล่อเหลาขององค์ชายรัชทายาทหลี่จื่ออิงหมองลงแม้แต่น้อย

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปก็พบฮ่องเต้หลี่อี้เทียนมีสีพระพักตร์เคร่งเครียดกับราชกิจตรงหน้า

“เสด็จพ่อ !”

องค์ชายหลี่จื่ออิงถลาเข้ามาในห้องทรงงานโดยไม่รอให้ขันทีหน้าห้องประกาศให้เข้าพบเสียก่อน เพราะเขาอยู่เหนือกฎเกณฑ์ทุกอย่างในวังหลวงแห่งนี้

“รีบร้อนมาหาพ่อถึงที่นี่ มีเรื่องใดรึ”

ฮ่องเต้แย้มสรวลน้อย ๆ เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่ตนมีพระบัญชาให้องค์ชายรัชทายาทอภิเษกกับองค์หญิงต่างแคว้น

“ลูกได้ยินข่าวมาว่าลูกที่จะต้องอภิเษกกับองค์หญิงต่างแคว้นใช่หรือไม่”

องค์ชายหลี่จื่ออิงถามขึ้นอย่างร้อนใจ เขาเพิ่งจะอายุได้เพียงสิบแปดหนาว ยังเที่ยวเล่นไม่เต็มที่เลย จู่ ๆ จะต้องแต่งงานมีพระชายาเสียแล้ว มิเท่ากับว่าส่งเขาไปเข้าคุกหรอกหรือ

“ผู้ใดช่างปากมากนัก”

ฮ่องเต้คำรามอยู่ในลำคอ สีหน้าโกรธเกรี้ยว

“เป็นใครไม่สำคัญ ลูกอยากรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ที่เสด็จพ่อจะให้ลูกแต่งงานกับองค์หญิงแคว้นเป่ยหนาน”

องค์ชายหลี่จื่ออิงรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“เรื่องจริง”

ฮ่องเต้ตอบเสียงเบา ราวกับกลัวว่าคำตอบนั้นจะกระทบกระเทือนจิตใจบุตรสุดรักของตน

“ลูกยังไม่แต่งงาน !”

องค์ชายหลี่จื่ออิงแผดเสียงออกมา

เขาถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เขามีนิสัยดื้อรั้น ไม่รู้จักโต อีกทั้ง ยังถูกเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมยิ่งกว่าไข่ในหิน รูปร่างจึงอรชรอ้อนแอ้นราวกับเทพธิดา ทำให้เขาดูเป็นเด็กหนุ่มมากกว่าบุรุษโตเต็มวัย

“หลี่จื่ออิง เจ้าโตแล้ว อีกหน่อยเจ้าก็ต้องครองราชย์แทนพ่อ การที่เจ้าอภิเษกกับองค์หญิงเป่ยหนาน นอกจากจะมีตำแหน่งสูงศักดิ์เท่าเทียมกันแล้ว เจ้ายังจะได้ฐานอำนาจสนับสนุนบัลลังก์มังกรจากต่างแคว้นมิให้สั่นคลอน”

“แต่...”

องค์ชายหลี่จื่ออิงเสียงแหบแห้งอยากจะคัดค้าน

“ไม่มีแต่ นับตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าจะต้องเตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว”

ฮ่องเต้เสียงเข้มขึ้น

“เสด็จพ่อ”

องค์ชายหลี่จื่ออิงโอดครวญ

....................................................................................

เช้าตรู่ของวันต่อมา

องค์ชายรัชทายาทหลี่จื่ออิงเร้นกายในเงามืดสลัว สองแขนกอดห่อผ้าไว้ในอ้อมอก เขาเคยหนีออกนอกวังหลายหน แต่ไม่ตื่นเต้นเท่าครั้งนี้

เพราะคราวนี้ เขาไม่ได้หนีเที่ยว แต่เขาจะหนีการแต่งงาน !

เขาเก็บเสื้อผ้า และเงินจำนวนมากใส่ห่อผ้าไว้ตั้งแต่เมื่อคืน จากนั้น ก็อาศัยช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบฟ้า มาที่ประตูหลังวัง แล้วเดินปะปนไปกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มาจัดส่งสินค้าให้กับวังหลวงออกนอกประตูไป

หลี่จื่ออิงเหลียวมองดูด้านหลังแล้วพบว่า ตนออกมาพ้นสายตาของทหารยามประตูท้ายวังแล้ว ก็กวาดตามองหาขบวนเกวียนสินค้าของพ่อค้า

เขาเดินสำรวจเกวียนคันแล้วคันเล่า

“หนุ่มน้อย เจ้ากำลังหาอะไรรึ”

พ่อค้าหนุ่มคนหนึ่งส่งเสียงถามขึ้น

“ข้าต้องการเดินทางไปเมืองนอกด่าน มิทราบว่ารถม้าบรรทุกสินค้าคันใดมาจากทางเหนือข้าจะขอติดรถม้าไปด้วย”

หลี่จื่ออิงวางแผนเอาไว้ว่าจะหลบไปอยู่เมืองนอกด่านสักระยะ รอให้ฮ่องเต้ทรงล้มเลิกการแต่งงานแล้ว ตนจึงจะกลับมาเมืองหลวง

พ่อค้าหนุ่มตอบ “ข้ามาจากทางเหนือ ส่งสินค้าเสร็จพอดี เจ้าไปกับข้าก็ได้”

“ขอบคุณท่านมาก”

หลี่จื่ออิงกระชับห่อผ้าแน่นด้วยความตื่นเต้นยินดี แล้วปีนขึ้นไปนั่งบนรถม้า

พ่อค้าหนุ่มยิ้มที่มุมปาก ส่งสายตาให้เพื่อนในมุมมืดอีกคนอย่างชั่วร้าย

......................................

ณ ชายแดนแคว้นฉาง

องค์ชายหลี่จื่ออิงไม่ทราบว่าตนเองเผลอหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ตอนที่พ่อค้าหนุ่มเข้ามาเขย่าตัว

“เจ้าหนุ่ม ถึงที่หมายแล้วลงมาเถอะ”

“เมืองหน้าด่านรึ”

องค์ชายหลี่จื่ออิงงัวเงียคว้าเอาห่อผ้าตามหลังพ่อค้าหนุ่มลงไปจากรถม้า เขาหันมองรอบด้านแล้วพบว่า บัดนี้เป็นเวลาพลบค่ำ รถม้าจอดอยู่ที่หน้าอาคารไม้แห่งหนึ่ง ตกแต่งด้วยโคมประดับสวยเด่น และที่สุดตาคือ หน้าอาคารแห่งนั้นมีบุรุษสวมอาภรณ์บางเบาออกมาต้อนรับแขก

“ใช่แล้ว นี่แหละเมืองที่เจ้าต้องการมา ตามข้ามาสิ ข้าจะหาที่พักให้เจ้าเอง”

พ่อค้าหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเมตตา แต่แววตาเขากลับวาววับอย่างเจ้าเล่ห์

องค์ชายน้อยไม่ทันสังเกต เห็นว่าอีกฝ่ายช่วยเหลืออย่างใจดี ก็ฉีกยิ้มกว้าง

“ขอบคุณพี่ชายมาก”

“ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก เจ้าจะได้ตอบแทนข้าอย่างสาสมแน่นอน”

พ่อค้าหนุ่มงึมงำเบา ๆ ขณะที่เดินนำองค์ชายหลี่จื่ออิงเข้าไปในอาคารไม้แห่งนั้น และมีพ่อค้าใบหน้าเหี้ยมเกรียม รูปร่างสูงใหญ่อีกคนเดินตามหลังองค์ชายหลี่จื่ออิงไปห่าง ๆ

องค์ชายหลี่จื่ออิงกวาดสายตามองดูอย่างตื่นเต้น ภายในอาคารไม้แห่งนั้น มีการแสดงรื่นเริงทั้งร้องทั้งร่ายรำจากบุรุษแต่งกายคล้ายกับสตรี ท่วงท่าแม้ไม่อ่อนช้อย แต่กลับมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก

บรรดาแขกเหรื่อก็นั่งกินนั่งดื่ม แต่ละโต๊ะล้วนมีบุรุษหน้าหวานคอยปรนนิบัติ คล้าย ๆ กับหอคณิกา

“ที่นี่คือที่ใด”

องค์ชายน้อยถามขึ้น ขณะที่กระชับห่อผ้าในอ้อมแขนแน่น เมื่อเขาเดินผ่านบุรุษคนใด บุรุษคนนั้นต่างก็มองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ชวนให้รู้สึกอึดอัด

สายตาเหล่านั้นคล้ายกับสายตาบุรุษที่กำลังโลมเลียสตรีแรกแย้ม

“หอไป๋หลัน สวรรค์บนดินที่ชายแดนแห่งนี้”

พ่อค้าตอบขณะที่เร่งฝีเท้าไปยังชั้นบนของหอ

“ท่านจะให้ข้าพักที่นี่หรือ”

“นอกจากจะพักแล้ว เจ้ายังสามารถกินดื่มหลับนอนได้อย่างเต็มที่ตราบนานเท่านาน”

พ่อค้ายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Bunmeebooks

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

โรแมนติก

4.9

หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า  “ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง” และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย"  รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ’ เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว “ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้” ‘อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ’ เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ

ประกาศหาแฟน

ประกาศหาแฟน

โรแมนติก

5.0

คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก “เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว” เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ “คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?” หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ท่านแม่ทัพ หยุดแทงข้าเสียที
1

บทที่ 1 เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าว

06/09/2023

2

บทที่ 2 บุรุษขับควบอาชาทมิฬ

06/09/2023

3

บทที่ 3 หยกงาม

07/09/2023

4

บทที่ 4 บุรุษถือพรหมจรรย์สินะ

07/09/2023

5

บทที่ 5 ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่

07/09/2023

6

บทที่ 6 ข้าจะแทงเจ้าให้ร้องขอชีวิต

07/09/2023

7

บทที่ 7 เรียกชื่อข้าสิ

07/09/2023

8

บทที่ 8 พรากความบริสุทธิ์

07/09/2023

9

บทที่ 9 คนของข้า

07/09/2023

10

บทที่ 10 จองหองนัก

07/09/2023

11

บทที่ 11 ข้าจะขอสู้ตาย

07/09/2023

12

บทที่ 12 เจ้าแม่ทัพบ้ากาม

07/09/2023

13

บทที่ 13 ข้าจะทำโทษเจ้า

07/09/2023

14

บทที่ 14 น้องชายบุญธรรม

07/09/2023

15

บทที่ 15 ปล่อยให้ตาย ๆ ไปไม่ดีกว่ารึ

07/09/2023

16

บทที่ 16 ศัตรูหัวใจ

07/09/2023

17

บทที่ 17 ชายบำเรอชั้นต่ำ

07/09/2023

18

บทที่ 18 กินเจ้า เพิ่มพละกำลัง

07/09/2023

19

บทที่ 19 กลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า

07/09/2023

20

บทที่ 20 ครางเรียกข้าสามีซ้ำ ๆ

07/09/2023

21

บทที่ 21 จวนเจียนจะสิ้นลม

07/09/2023

22

บทที่ 22 หมดเวลาเล่นสนุกแล้วท่านพี่

07/09/2023

23

บทที่ 23 สามีหยุดทรมานข้าสักที

07/09/2023

24

บทที่ 24 โหมกระหน่ำแก่นมังกร

07/09/2023