Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คลั่งรักยัยแว่นข้างห้อง

คลั่งรักยัยแว่นข้างห้อง

มะนาวสีชมพู

5.0
ความคิดเห็น
4K
ชม
30
บท

เรื่อง...คลั่งรักยัยแว่นข้างห้อง คำโปรย ความสัมพันธ์(รัก)ระหว่างเขากับเธอ เกิดสะดุด เมื่อเขามีตัวจริงที่ไม่ใช่เธอ แนะนำตัวละคร อิทธิพล (คุณอิท) อายุ 28 ปี สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เขาหล่อ สายเปย์ ขี้แกล้ง อารมณ์ดี ถึงเขาจะเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็จริงใจ มัทนา (มาย) อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 เธอสวย ขี้กลัว หัวใจที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ต้องจำยอมต่อความดีที่เขามีให้ @@@@@@ นิยายเรื่องนี้ : โรมานซ์ ฟีลกู๊ด เหมือนเดิมนะคะ

บทที่ 1 ตอนที่ 1 พบเจอ

ตอนที่ 1 พบเจอ

อิทธิพล สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว มีบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง รับออกแบบตกแต่งทั่วไป ตั้งแต่งานเล็กไปจนถึงงานขนาดกลาง ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้

“ไปคิดมาใหม่ ผมว่าแบบที่คุณทำมามันยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ผมคิดว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ” มาตรฐานเรื่องงานสำหรับเขาแล้วค่อนข้างสูง งานทุกชิ้นต้องออกมาดีที่สุด รายละเอียดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็แทบไม่มีให้เห็น ลูกน้องที่นี่อาจจะทำงานลำบากหน่อย แต่เงินดีมาก

“ครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาแบบมาเสนอใหม่ครับ”

“อือ...ได้เวลาเลิกงานแล้ว แยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”

“ครับ/ค่ะ” อิทธิพลเดินออกจากบริษัทฝ่ารถติดบนท้องถนน กว่าจะมาถึงที่พักก็ใช้เวลาพอสมควร เขาพักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก คอนโดที่เขาอยู่เขาซื้อไว้นานแล้ว อยู่มาหลายปีตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ

มัทนา หรือ มาย แต่เพื่อนๆมักจะเรียกเธอว่าไอ้แว่น เธอสายตาสั้น ใส่แว่นหนา ถ้าไม่มีแว่นเธอจะมองไม่ชัดเลย แว่นสายตาจึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ

มัทนามีเพื่อนที่สนิทมากๆอยู่สามคน คนแรกชื่อมด คนที่สองชื่อน้ำ และคนที่สามชื่อฟ้า รวมตัวเธอด้วยเป็นสี่คน กำลังนั่งรถมาด้วยกัน โดยมีมดเป็นคนขับรถให้เพื่อนๆนั่ง

“ไอ้แว่น...เพื่อนๆมีแฟนกันหมดแล้ว เมื่อไหร่มึงจะยอมมีสักที” น้ำนั่งอยู่ที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ หันหลังไปคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ฟ้านั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังกับมัทนา พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่น้ำพูด

“แม่กูบอกว่าเรียนให้จบก่อน” มัทนาไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เธอจึงไม่เคยมองผู้ชายคนไหนมาก่อน ถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอเป็นจำนวนมากแต่เธอก็ไม่เคยสนใจใคร แว่นสายตาที่เธอสวมใส่อยู่ ไม่สามารถปิดบังความสวยของเธอได้

“เป็นเด็กดีเชื่อแม่ แหม...กูจะบอกอะไรให้นะ ถ้ามึงพ้นจากรั้วมหาลัยไปแล้ว ผู้หญิงอย่างเราอาจจะขึ้นคานได้เลยนะ” มดที่กำลังทำหน้าที่ขับรถอยู่ในขณะนี้ขอพูดขึ้นมาบ้าง

“ทำไม...”

“อ้าวอินี่...มึงคิดว่าผู้ชายเขาจะอยู่รอมึงเหรอ เห็นเดินๆอยู่เนี่ยมีเจ้าของเกือบหมด ที่เหลือจริงๆก็ไม่ไหวจะเอา” พวกเธอมีความเชื่อที่ว่า ผู้ชายวัยทำงานส่วนมากมักจะมีครอบครัวกันเกือบหมดแล้ว ผู้ชายยังอยากได้ผู้หญิงมือหนึ่ง ผู้หญิงอย่างเธอก็เช่นกัน มือสองไม่ว่าแต่ถ้ามีของแถมด้วยนี่สิ!

“ช่างเถอะ กูอยู่คนเดียวได้”

“มึงอยู่คนเดียวไม่ได้!!!” เพื่อนๆทั้งสามคน ผสานเสียงกันดังขึ้นทันที เนื่องจากว่ามัทนาเป็นคนขี้กลัว อะไรนิดอะไรหน่อยก็กลัว ทุกคนที่สนิทกับเธอจะรู้ดี

“เออน่า...ถึงคอนโดกูแล้ว ขอบใจพวกมึงมากที่มาส่งพรุ่งนี้เจอกัน”

“มีอะไรโทรหาได้ตลอด หรือถ้าอยากให้พวกกูมานอนเป็นเพื่อนก็บอกได้นะ”

“กูจะเลิกกลัวแล้ว แล้วกูก็จะต้องนอนคนเดียวให้ได้ พวกมึงคอยดู” เมื่อก่อนอยู่ห้องเช่าที่เดิมเพื่อนๆมักจะพลัดกันมานอนเป็นเพื่อนมัทนาอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าช่วงไหนเพื่อนๆของเธอติดผู้ชาย เธอก็จะกลับไปนอนกับแม่ที่บ้าน แต่ระยะทางมาเรียนค่อนข้างไกล ต้องตื่นแต่เช้า ซึ่งเธอขี้เกียจตื่น

"ย่ะ! พวกกูไปก่อนนะ"

“บ๊ายบาย...” มัทนาเปิดประตูรถลงมายืนโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนๆด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมดก็ได้ทำหน้าที่ขับรถออกไป มัทนาจึงหมุนตัวเดินเข้าคอนโดที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่

มัทนาย้ายมาอยู่ห้องใหม่ได้สองสามวันแล้ว เนื่องจากว่าห้องเก่าเสียงรบกวนค่อนข้างดัง ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษา ซึ่งเธอจะต้องอ่านหนังสือหนักมากๆ เธอจึงเลือกที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโด ได้ทั้งความเงียบสงบและความปลอดภัย

“รอด้วยค่ะ รอด้วย” ลิฟต์กำลังจะปิดลง เธอจึงร้องขอให้คนที่อยู่ด้านในลิฟต์ช่วยกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง แต่แล้วประตูก็ปิดลงต่อหน้าต่อตา

“แล้งน้ำใจ!” เธอบ่นออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก สิ่งที่เห็นคือผู้ชายตัวสูงแต่งตัวดีใบหน้าหล่อเหลายืนอยู่ที่ด้านในลิฟต์คนเดียว...เขาน่าจะได้ยิน!

“จะเข้ามั้ย” เสียงทุ่มเอ่ยถาม นั่นจึงทำให้มัทนาได้สติ

“อ๋อๆ ไปค่ะ” เธอก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ เธอแอบมองไปยังชั้นที่คนข้างๆเธอกำลังจะขึ้นไป...มันคือชั้นเดียวกันกับเธอ

“อยู่ชั้นไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง เขาคงเห็นว่ามัทนายังไม่ได้กดเลือกชั้นที่จะต้องขึ้นไปสักที

“ชั้นเก้าค่ะ” ชั้นเดียวกัน! หลังจากตอบคำถามเสร็จ ทั้งสองก็ยืนเงียบจนประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้งที่ชั้นเก้า

อิทธิพลรอให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวในลิฟต์เดินออกไปก่อน ตามมารยาทที่สุภาพบุรุษควรจะทำ

ซึ่งมัทนาเองก็รู้สึกได้ว่าเขารอให้เธอเดินออกไปก่อน ขาเรียวก้าวเดินออกไป โดยมีชายหนุ่มสาวเท้าก้าวตามไปติดๆ

มัทนาเริ่มใจคอไม่ค่อยดี รู้สึกเหมือนเขาคนนี้ กำลังเดินตามเธอยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งในขณะนี้ไม่มีคนอื่นเลยนอกจากเธอกับเขาแค่สองคน บรรยากาศวังเวงน่ากลัว เคยอยู่แต่ที่มีผู้คนพลุกพล่านจนเคยชิน พอมาเจอเงียบๆแบบนี้มัทนารู้สึกไม่ค่อยชิน

ด้วยความที่เธอรู้สึกกลัว เธอจึงไม่กล้าที่จะหันหลังไปมอง แต่ก็พยายามก้าวเท้าเดินเร็วๆ ซึ่งเธอก็ยังคงรู้สึกว่าเขาคนนี้ยังคงเดินตามเธอไม่ยอมเลิก

จนเธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของตัวเอง ห้อง 923 เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง ก้มหน้าหาคีย์การ์ดในกระเป๋า ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกว่าฝีเท้าที่เดินตามเธอมานั้น ได้หยุดลงแล้ว ตอนนี้เธอเริ่มกลัวมากขึ้นไปอีก มือไม้เริ่มสั่น เธอเงยหน้าขึ้นแล้วกำลังจะอ้าปากด่า แต่!! ประตูห้องข้างๆก็ได้เปิดออก เขาคนที่เดินตามเธอมา ได้หายเข้าไปในห้องนั้น

“อ้าว...อยู่ห้องติดกับเราเหรอวะเนี่ย ใจหายใจคว่ำหมด!” หัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัวเมื่อสักครู่ค่อยๆเริ่มดีขึ้น

ห้องเธอ 923 ห้องเขา 922 ถ้าเดินเข้ามาห้องเขาจะถึงก่อนห้องเธอ มัทนาเปิดประตูห้องด้วยคีย์การ์ดแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไปเช่นกัน

ห้องที่มัทนาอยู่เป็นห้องเช่า ส่วนห้องที่อิทธิพลอยู่เป็นห้องซื้อ ทั้งสองไม่เคยเห็นหน้าหรือเจอกันมาก่อน

“คนอะไรวะ น่ากลัวจัง” เธอเดินเข้ามาในห้อง บ่นพึมพำอยู่คนเดียว เธออาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เตรียมตัวอ่านหนังสือ จับหนังสือกำลังจะอ่าน แต่แล้วในสมองของเธอกลับนึกถึงผู้ชายข้างห้องไม่ยอมเลิก ใบหน้าและน้ำเสียงของเขาดูดุ จนเธอนึกกลัวไม่หาย มัทนาสะบัดศีรษะแรงๆไล่สิ่งที่คิดอยู่ในหัว จากนั้นเธอจึงลงมืออ่านหนังสือต่อ...

ทางด้านอิทธิพล เขากำลังนั่งนึกถึงผู้หญิงสวมชุดนักศึกษารัดรูปใส่แว่น ที่เจอกันในลิฟต์เมื่อสักครู่ เธอว่าเขาเสียงดังที่หน้าลิฟต์ ทำไมเขาจะไม่ได้ยิน ในใจนึกไม่ค่อยพอใจเธอสักเท่าไหร่ อีกใจก็ไม่อยากถือสาเด็ก

แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยของหญิงสาวตัวเล็กคนนั้น ถึงได้กวนใจเขาไม่เลิก สลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด ในใจบอกว่าไม่ถือสาเด็ก แต่ทำไมถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มะนาวสีชมพู

ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณหมอสะดุดรัก

คุณหมอสะดุดรัก

โรแมนติก

5.0

เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@

พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง

พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง

โรแมนติก

5.0

เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้

คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย

คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย

โรแมนติก

5.0

เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

Moritz Hearsum
5.0

ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คลั่งรักยัยแว่นข้างห้อง
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 พบเจอ

30/10/2023

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 คู่หมั้น

30/10/2023

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 สงสัยก็ต้องถาม

30/10/2023

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 ดักรอหน้าห้อง

30/10/2023

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 แผนสูง

30/10/2023

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 เจ้าเล่ห์ที่หนึ่ง

30/10/2023

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 ของฝากแทนใจ

30/10/2023

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 เข้าห้องผิด

30/10/2023

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 เข้าห้องผิด Nc+

30/10/2023

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 เข้าห้องผิด Nc+

30/10/2023

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 ยอมรับ Nc+

30/10/2023

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 ยังเด็กอยู่

30/10/2023

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 ชวนมาอยู่ด้วยกัน

30/10/2023

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14 ไม่มีอะไรจะให้ Nc+

30/10/2023

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15 ไปส่งเมียกลับบ้าน

30/10/2023

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16 ทะเลหวาน

30/10/2023

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17 บอกรัก Nc+

30/10/2023

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18 ช่วงเวลาดีๆ

30/10/2023

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19 เซอร์ไพรส์

30/10/2023

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20 เข้าใจ(ถูก)ผิด

30/10/2023

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21 เมียหาย

30/10/2023

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22 ตาม

30/10/2023

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23 ปรับความเข้าใจ

30/10/2023

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24 สายตาผู้ใหญ่

30/10/2023

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25 แหวนวงนี้เป็นของมาย

30/10/2023

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26 เปิดตัว

30/10/2023

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27 พาเข้าบ้าน

30/10/2023

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28 คืนวิวาห์ Nc+

30/10/2023

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29 ตอนพิเศษ

30/10/2023

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ (จบ)

30/10/2023