ถึงเฮียจะร้าย…หนูก็จะรัก (Jay & Aeng Aei )

ถึงเฮียจะร้าย…หนูก็จะรัก (Jay & Aeng Aei )

Inyun

5.0
ความคิดเห็น
24.1K
ชม
52
บท

"ไหนบอกไม่ชอบผู้หญิงไงคะทำไมรู้ทุกจุดเลยล่ะ" "อย่าพูดมากแล้วอ้าขาให้พี่สิครับเด็กดี"

บทที่ 1 Jay & Aeng Aei - Intro

“เอิงเอยแกดูอะไรอยู่ได้ทั้งวี่ทั้งวัน” เสียงเรียกจากเพื่อนสาว ทำให้หญิงสาวเจ้าของชื่อเอิงเอย หันไปหาเพื่อนสนิทก่อนจะส่งยิ้มให้

เธอชื่อเอิงเอย อายุ 22 ปี ตัวเล็กผอมบางหน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ น้ำหนักเพียง 43 กิโลกรัม อาศัยอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ไม่มีญาติพี่น้อง พ่อและแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ แต่ท่านก็ทิ้งเงินค่าประกันไว้ให้เธอคนละหนึ่งร้อยล้านบาท

ตอนนี้ผ่านมากว่าสามปีแล้วที่ทั้งสองจากไป เอิงเอยใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ ด้วยการเขียนนิยาย แต่เป็นนักเขียนนิยายวายนะ ไม่ได้ดังมากเท่าไหร่แถมรายได้ก็น่ารัก พอได้ค่าปกที่เอฟมาไม่หยุด แต่ก็นะ ยังไงเธอก็มีเงินเก็บจากเงินค่าประกันของพ่อแม่ด้วยเงินสดในบัญชีรวมกันถึงสองร้อยล้านบ้าน เรียกว่าสบายไปทั้งชาติ“แก้~ ฉันชอบผู้ชายคนนี้”

เอิงเอยส่งมือถือให้กับเพื่อนสนิทดู ที่เห็นเธอเอาแต่นั่งจ้องมือถือก็เพราะว่า ในขณะที่กำลังอ่านนิยายวายจากแอปชื่อดัง

จู่ ๆ ภาพมุมจอขวาด้านล่างก็ปรากฏหนุ่มหล่อขึ้นมา เธอเลยลองกดคลิกไปดู และพบว่าทางเว็บกำลังโปรโมทนิยายวายเรื่องนึง ซึ่งในหน้าจอมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหล่อมาก เป็นไทป์ของเธอเลย เขาแต่งตัวเป็นพระเอกของเรื่อง ยืนถ่ายรูปคู่กับนายเอกของเรื่องอยู่

“แกพลาดแล้วเอิง นั่นพี่เจย์เขาไม่มองหญิงจ้ะ!”

“หา...”

O _ O

เหมือนมีสายฟ้าผ่าลงกลางใจเอิงเอย เธอนิ่งไปชั่วครู่

แต่แล้วยังไงผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้จะหาจากไหนได้อีก เขาหล่อเหมือนคังซึงฮยอนจากเรื่องเธอคือดาวกลางใจ เป็นผู้ชายที่ตรงไทป์เธอทุกอย่างเธอจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ไงกัน

“แล้วแกรู้จักเขาด้วยเหรอ?”

เอิงเอยเอ่ยถามก่อนจะยื่นมือถือกลับ สายตายังคงมองใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายที่อยู่ในมือถือด้วยความหลงใหล หัวใจของเธอเต้นรัวเร็วจนเกือบจะทะลุออกมาข้างนอก ทั้งที่ยังไม่เคยได้เห็นตัวจริงของผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ

“รู้สิ ก็พี่เจย์น่ะดังจะตาย”

“เหรอจริงดิ เขาเป็นนายแบบเหรอ” เธอถามอีกครั้งด้วยความสนใจ ปกติติเอิงเอยติดอ่านนิยายมากกว่าดูซีรีส์หรือละครไทย เธอเลยไม่ค่อยได้ตามข่าว แต่ถ้าเป็นซีรีส์เกาหลีก็ไม่แน่

“พี่เขาเป็นโฮสต์จ๊ะ”

คำตอบของเพื่อนทำเอาเอิงเอยหน้าเหวอ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนหล่อขนาดนี้จะไปทำงานแบบนั้นได้

“โฮสต์ที่หมายถึง ...อ่า?”

“ใช่ โฮสต์ที่เป็นเหมือนเพื่อนกินเหล้านะแหละ..แบบต้องไปดูแลไปเอนเตอร์เทนคนที่ซื้อตัวเองไป..เรียกง่ายๆ ว่าเหมือนเด็กดริ้งแหละ สรุปที่พูดไปนี่แกจะเข้าใจงี้?”

คำถามของเพื่อนทำเอาเอิงเอยยิ้มแห้ง ๆ เธอพอรู้อยู่บ้างเรื่องโฮสต์ แต่ไม่เคยสนใจหรือมีข้อมูลเรื่องพวกนี้ในหัวเลย วัน ๆ อยู่แต่บ้านแต่งนิยายกับอ่านนิยายได้ทั้งวันทั้งคืน ส่วนเพื่อนสาวก็มาหาเป็นครั้งคราว

ถามว่าเคยเหงาไหม ก็ไม่ได้เหงาสักเท่าไหร่ วัน ๆ ก็ดูซีรี่ส์แต่งนิยายหรืออ่านการ์ตูนแป๊บ ๆ ก็หมดไปหนึ่งวันแล้ว

“แกฉันอยากไปดูหน้าเจย์ตัวเป็น ๆ อะ”

“แต่ที่นั่นมันเป็นบาร์โฮสต์เกย์เลยนะ แกจะไปเหรอ?”

เอิงเอยพยักหน้าทำตาปริบ ๆ ถามได้เธออยากไหม อยากไปสิ อยากไปเจอผู้ชายที่ตรงไทป์ใจจะขาด

“เค ได้เลยงั้นก็ไปแต่งตัวกัน”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Inyun

ข้อมูลเพิ่มเติม
Start Up เล่ห์ร้าย…เดิมพันรัก

Start Up เล่ห์ร้าย…เดิมพันรัก

โรแมนติก

5.0

เมื่อคนที่เพิ่งจะวันไนต์กันเมื่อคืน! ดันเป็นศัตรูทางธุรกิจของตัวเอง ลลิน - ลลินา เตชะศิรัล หญิงสาว นั่งธุรกิจ Start Up หน้าใหม่ไฟแรง เธอมีค่ำคืนสุดพิเศษ กับชายหนุ่มสุดหล่อในคืนวันเลี้ยงฉลองที่ผับ เธอปิ๊งเขา-เขาปิ๊งเธอ จนตกเป็นคืนวันไนต์ที่แสนหวาน ทว่า!! หลายวันต่อมา ฝันที่แสนหวานของเธอ กลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะบริษัทของเธอกำลังถูกคนหยามธุรกิจ Start Up หน้าใหม่ของเธอ ด้วยการขอเทคโอเวอร์ แถมคนที่จะมาขอเทคโอเวอร์บริษัทของเธอ ดันเป็นผู้ชายที่เธอมีอะไรด้วยในคืนก่อน ไทม์ - แทนไท ภาคเวคินทร์ ประธานหนุ่มสุดหล่อที่เพิ่งจะผ่านคืนอันเร่าร้อนที่แสนจะลงตัวกับลลิน เธอกับเขาดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีไปหยก ๆ แต่ไหงวันต่อมา เขาดันกลายเป็นพวกฉวยโอกาสทางธุรกิจไปได้เสียนี้ ในทางธุรกิจ หญิงสาวเกลียดพวกฉวยโอกาสอย่างที่เขาทำอยู่เข้าไส้ ทว่าในทางลีลารักบนเตียง เธอกับเขาดันเข้ากันได้ดีมาก เห็นทีคราวนี้เธอจะต้องแยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกัน แล้วเธอจะทำได้ไหมนะ! เมื่อศัตรูทางธุรกิจ กับ คนที่หัวใจต้องการเป็นคนเดียวกัน!!

ไซเรน…มาเฟียร้ายคลั่งรัก (Siren & Tier)

ไซเรน…มาเฟียร้ายคลั่งรัก (Siren & Tier)

โรแมนติก

5.0

ไซเรน เสียงสัญญาณเตือนของความอันตรายผู้ชายดิบเถื่อนแต่ทว่ากับมีใบหน้าหล่อเหลาดั่งพระเจ้าปั้น แม้ใบหน้าจะหล่อแต่นิสัยของเขาก็ไม่ได้ดีตามหน้าตาเลยสักนิด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้ปฏิญาณตนว่าไซเรนผู้โหดดิบเถื่อนคนนี้จะเป็นเด็กดีของน้องเทียร์แต่เพียงผู้เดียว ไซเรน อายุ29ปี มาเฟียผู้ดิบเถื่อนโหดให้กับคนทั้งโลกแต่ใจดีให้กับเธอผู้เดียว “ขอบคุณนะครับที่ช่วยชีวิตผม ไม่ทราบว่าผมขอตอบแทนเป็นการให้ผมได้เป็นสามีคุณจะได้ไหมครับ” เทียร์ อายุ23ปี เด็กสาวที่กำลังจะเรียนจบได้เข้าไปช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งไว้หลังจากนั้นชีวิตของเธอก็ไม่มีความสงบสุขอีกเลย “ไหนลองคลานมาอ้อนหน่อยสิคะ” “ถ้าอยากให้รักก็ช่วยทำตัวเป็นปกติได้ไหมคะ?” “แล้วตอนนี้พี่ไม่ปกติตรงไหน” “ทุกตรง!!” “เทียร์ครับอยากเลีย” “เลียอะไรคะ?” “พูดได้หรือครับ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ถึงเฮียจะร้าย…หนูก็จะรัก (Jay & Aeng Aei )
1

บทที่ 1 Jay & Aeng Aei - Intro

11/01/2024

2

บทที่ 2 Jay & Aeng Aei - 1 สาวน้อยพร้อมเปย์

11/01/2024

3

บทที่ 3 Jay & Aeng Aei -1 (2) 5พันดื่มค่ะ

11/01/2024

4

บทที่ 4 Jay & Aeng Aei – 2 (1) พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ

11/01/2024

5

บทที่ 5 Jay & Aeng Aei - 2 (2) ขอย้ำ พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ

11/01/2024

6

บทที่ 6 Jay & Aeng Aei - 2 (3) เซอร์วิสพิเศษ

11/01/2024

7

บทที่ 7 Jay & Aeng Aei - 3 (1) เซอร์วิสพิเศษ ส่งที่บ้าน 

11/01/2024

8

บทที่ 8 Jay & Aeng Aei - 3 (2) เซอร์วิสพิเศษเลี้ยงข้าว

11/01/2024

9

บทที่ 9 Jay & Aeng Aei – 4 โดนทิ้ง

11/01/2024

10

บทที่ 10 Jay & Aeng Aei – 4 (2) โดนทิ้ง

11/01/2024

11

บทที่ 11 Jay & Aeng Aei – 5 โดนรถชน

11/01/2024

12

บทที่ 12 Jay & Aeng Aei – 5 (2) เอิงเอยโดนรถชน

11/01/2024

13

บทที่ 13 Jay & Aeng Aei – 6 รู้สึกผิด

11/01/2024

14

บทที่ 14 Jay & Aeng Aei – 6 (2) รู้สึกผิด

11/01/2024

15

บทที่ 15 Jay & Aeng Aei – 7 (1) วันนี้เจย์เป็นของเมย่า

11/01/2024

16

บทที่ 16 Jay & Aeng Aei – 7 (2) วันนี้เจย์เป็นของเมย่า

11/01/2024

17

บทที่ 17 Jay & Aeng Aei – 8 พี่เจย์เป็นห่วงเอิงหรือคะ

11/01/2024

18

บทที่ 18 Jay & Aeng Aei – 8 (2) พี่เจย์เป็นห่วงเอิงหรือคะ

11/01/2024

19

บทที่ 19 Jay & Aeng Aei – 9 อยู่รับผิดชอบด้วยกันสิ

11/01/2024

20

บทที่ 20 Jay & Aeng Aei – 9 (2) อยู่รับผิดชอบด้วยกันสิ

11/01/2024

21

บทที่ 21 Jay & Aeng Aei – 10 (1) โรคจิต NC++

11/01/2024

22

บทที่ 22 Jay & Aeng Aei – 10 (2) โรคจิต NC++

11/01/2024

23

บทที่ 23 Jay & Aeng Aei – 11 ร่องรอยของความบอบช้ำ

11/01/2024

24

บทที่ 24 Jay & Aeng Aei – 11 (2) ร่องรอยของความบอบช้ำ

11/01/2024

25

บทที่ 25 Jay & Aeng Aei – 12 เอิงเอยไม่ใช่คนแบบนั้น

11/01/2024

26

บทที่ 26 Jay & Aeng Aei – 12 (2) เอิงเอยไม่ใช่คนแบบนั้น

11/01/2024

27

บทที่ 27 Jay & Aeng Aei – 13 นายเปลี่ยนไปนะรู้ตัวไหม

11/01/2024

28

บทที่ 28 Jay & Aeng Aei – 13 (2) นายเปลี่ยนไปนะรู้ตัวไหม

11/01/2024

29

บทที่ 29 Jay & Aeng Aei – 14 แล้วชอบใครมากกว่าล่ะ

11/01/2024

30

บทที่ 30 Jay & Aeng Aei – 14 (2) แล้วชอบใครมากกว่าล่ะ

11/01/2024

31

บทที่ 31 Jay & Aeng Aei – 15 ก็แค่คนที่เคยนอนด้วยกัน

11/01/2024

32

บทที่ 32 Jay & Aeng Aei – 15 (2) แกเป็นอะไรของแกเจย์

11/01/2024

33

บทที่ 33 Jay & Aeng Aei – 16 (1) หวั่นไหวแปลก ๆ

11/01/2024

34

บทที่ 34 Jay & Aeng Aei – 16 (2) เด็กดีของเฮียเจย์  NC++

11/01/2024

35

บทที่ 35 Jay & Aeng Aei – 17 ไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน

11/01/2024

36

บทที่ 36 Jay & Aeng Aei – 17 (2) หรือเอิงเอยจะไปแปลงเพศดีนะ

11/01/2024

37

บทที่ 37 Jay & Aeng Aei – 18 (1) พี่เจย์มีข่าว

11/01/2024

38

บทที่ 38 Jay & Aeng Aei – 18 (2) อย่าเข้ามานะคะ

11/01/2024

39

บทที่ 39 Jay & Aeng Aei – 19 (1) เอิงเอยอยู่ไหน

11/01/2024

40

บทที่ 40 Jay & Aeng Aei – 19 (2) มาเป็นแฟนกันไหมครับ

11/01/2024