Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หลงกลรักมาเฟีย (สิมิลัน-วิลเซอร์)

หลงกลรักมาเฟีย (สิมิลัน-วิลเซอร์)

ญาตาวีมินทร์

5.0
ความคิดเห็น
7
ชม
10
บท

"เธอมาหาน้องชายฉันเพราะอยากขายตัวแลกหนี้ใช่ไหม .. เสียใจด้วยนะเพราะฉันไม่ใช่ไอ้วิลเซนต์ แล้วผู้หญิงอย่างเธอน่ะ อย่าว่าแต่เอาตัวแลกหนี้หลักล้านเลย แค่หลักร้อยฉันยังเสียดายเงิน" วิลเซอร์ หนุ่มหล่ออายุ 24 ปี เป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นหนึ่งในลูกชายแฝดสาม ที่รู้จักกันในนามทริปเปิลวิล เขาเป็นแฝดคนกลางของพี่น้องฝาแฝดชายสามคน หรือบางคนเรียกเขาว่า V2. ครอบครัวพวกเขาเป็นมาเฟียกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ย่าตาทวด มีกิจการตั้งแต่ขาวไปจนถึงเทา เขาเป็นคนเงียบๆ เนี้ยบ และเฉียบขาด สิมิลัน หรือ เก้า เด็กสาวอายุ 22 ปี ที่ชีวิตอาภัพเหลือเกิน เพราะตั้งแต่สูญเสียพ่อไป ชีวิตของเธอก็เริ่มเสียศูนย์และดิ่งลงเหว ชีวิตตกอับขั้นสุดแม้กระทั่งคนที่เธอเรียกว่าแม่ ยังทำให้เธอผิดหวังและเจ็บปางตาย เธอพยายามรักษาบ้าน ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อไว้เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่สุดท้ายก็ถูกทริปเปิลวิลล์ยึดไป สิมิลันขอเข้าพบเจ้าหนี้ หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากพวกเขาบ้าง แต่เธอคิดผิดถนัด เพราะนอกจากเขาจะไม่ช่วยแล้ว ชีวิตเธอกลับยุ่งวุ่นวายมากกว่าเดิมเสียอีก ชีวิตเธอจะขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงเหว มาลุ้นไปด้วยกันค่ะ "ญาตาวีมินทร์" นิยายเซ็ทมาเฟียตระกูลทริปเปิลวิลล์ แฝดสามสุดหล่อที่มีบุคลิกและนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง มีทั้งหมดสามเรื่องตามแผนผังดังนี้ค่ะ แผนผังตัวละคร ชุดทริปเปิลวิลล์ สุภาพบุรุษมาเฟีย (คู่หลัก) วิลสัน+พุทธมิกา = วินเนอร์ - วินนี่ / วิโอร่า - วีโอเล็ต (คู่รอง) จอนนี่-วันมาตา = มาร์ติน – มารียา หลงกลรักมาเฟีย (คู่หลัก) วิลเซอร์+สิมิลัน = สมิหลา – อันดามัน / วิคเตอร์ – พีพี - ลันตา (คู่รอง) อัลเฟรด-ดาหลา = ลีออง – รีอัล ผัวมาเฟียเมียกำมะลอ (คู่หลัก) วิลเซนต์+ไอด้า = วิลตัน-วิลแฮม-วิลล์ด้า-วิลลาเบลล์ (คู่รอง) นาวิน+ยิปซี = ราเชลล์ – ดาวินซี คำเตือน - นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริงอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ขอองนามปากกา "ญาตาวีมินทร์" แต่เพียงผู้เดียว ห้ามเผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดละเมิดถือว่าทำผิดกฏหมายตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 มาตรา 15 17 31 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

บทที่ 1 ตอนที่ 1 พ่อ

“พ่อคะ พ่ออย่าเป็นอะไรไปนะคะ พ่อได้ยินเสียงเก้ามั้ยพ่อ ฮือ ๆๆ “ ฉันวิ่งตามรถเข็นของโรงพยาบาลที่กำลังเข็นพาพ่อไปที่ห้องฉุกเฉิน โดยมีฉันและแม่วิ่งตามไปติด ๆ

“ญาติคนไข้รอที่ด้านนอกก่อนนะคะ” ฉันถูกพยาบาลกันเอาไว้ไม่ให้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน ร่างเล็กทรุดลงนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่หน้าห้องเพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่ารอคอยให้ประตูห้องนั้นเปิดออกมาเท่านั้น

“ฮึก ฮืออออ” ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นจนแม่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พยุงฉันให้ลุกขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือให้มานั่งบนเก้าอี้แทน

“ใจเย็น ๆ เก้า พ่อต้องไม่เป็นอะไร ทำใจดี ๆ ไว้ก่อน” แม่บอกกับฉันพร้อมกับลูบไหล่ฉันเบา ๆ ฉันจ้องมองแม่ที่ตอนนี้สีหน้าและแววตาของท่านดูปกติมาก ๆ ไม่ได้ร้องไห้ปานจะขาดใจเหมือนฉันเลยสักนิด ถ้าใครมาเห็นตอนนี้ต้องไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินคนนี้คือภรรยาของผู้ชายที่เพิ่งถูกเข็นเข้าไปด้วยอาการเพียบหนักขนาดนั้น ต้องเข้มแข็งขนาดไหนกัน ถึงได้เฉยชาได้ขนาดนี้

“แม่ไม่เป็นห่วงพ่อเหรอ ทำไมแม่ไม่ร้องไห้เลย” ฉันเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ แม่มองหน้าฉันแล้วถอนหายใจแรง ๆ แต่ไม่ตอบคำถาม

ฉันนั่งรอด้วยความทุกข์ทรมาน เวลาที่ผ่านไปแต่ละนาทีมันช่างเนิ่นนานเหลือเกิน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น สักพักหนึ่งประตูห้องฉุกเฉินก็ถูกเปิดออกพร้อมกับคุณหมอสาวสวยที่เดินออกมาหยุดยืนที่หน้าประตูห้อง

“เชิญญาติคุณนาธัสด้านในด้วยค่ะ” ฉันเด้งออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วถลันเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที พร้อมกับมองหาพ่อ แต่ไม่เห็นท่านเลย

“เชิญญาตินั่งก่อนค่ะ” คุณหมอผายมือให้ฉันกับแม่นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า

“หมอไม่อยากแจ้งให้ญาติทราบข่าวแบบนี้เลย แต่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ญาติทำใจดี ๆ นะคะ ตอนนี้คุณนาธัสเสียแล้ว ด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน หมอและทีมแพทย์พยายามช่วยคนไข้อย่างสุดความสามารถแล้ว หมอเสียใจด้วยนะคะ” คุณหมอกล่าวด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจ

“มะ..ไม่จริงใช่ไหมคะคุณหมอ ไม่จริงใช่ไหมแม่ พ่อยังไม่ตาย ฮือ ๆๆๆ” ฉันก้มหน้าลงร้องไห้ เอามือกุมหน้าอก ความรู้สึกตอนนี้มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจถูกกรีดด้วยของมีคมซ้ำๆ จนไม่เหลือชิ้นดี

“ตอนนี้หมอย้ายคุณนาธัสไปไว้ที่ห้องด้านในสักสองชั่วโมงก่อนนะคะ เดี๋ยวทางโรงพยาบาลจะออกเอกสารรับรองการเสียชีวิตให้ ทางญาติจะได้นำไปแจ้งทำใบมรณะบัตร” ฉันได้ยินคุณหมอพูดกับแม่ และชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ แต่ฉันไม่ได้สนใจฟังมันเลย

ฉันเดินเข้าไปยังห้องด้านใน เห็นพ่อนอนอยู่บนเตียงเข็นของคนไข้ ฉันโผเข้าไปกอดท่านแล้วร้องไห้ จะให้ฉันเชื่อว่าท่านตายแล้วได้ยังไง ในเมื่อสามชั่วโมงก่อนหน้านี้เราสองคนพ่อลูกยังพูดคุยหยอกล้อเล่นกันที่บ้านอยู่เลย ฉันมองหน้าของท่านแล้วใช้นิ้วมืออังที่ปลายจมูก แต่ท่านก็ไม่หายใจแล้วจริง ๆ

“พ่อจ๋า พ่อทิ้งเก้าไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แล้วเก้าจะอยู่ยังไง ฮือๆๆ” ฉันพร่ำรำพันกับศพของพ่ออยู่แบบนั้น จนแม่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับมองใบหน้าของพ่อแล้วเอื้อมมือมาลูบแก้มที่ซีดเซียวของท่านเบาๆ

“ฉันรักคุณนะคะคุณนาธัส ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เคยรักฉัน แต่ฉันก็รักคุณคนเดียวมาตลอด อโหสิกรรมให้กันและกันนะคะ” ฉันหันไปมองหน้าแม่เพราะแปลกใจกับคำพูดที่ออกมาจากปากท่าน แม่ก้มหน้าลง น้ำตาไหลริน แต่ท่านไม่สะอื้นและไม่ส่งเสียงใด ๆ ออกมาอีกเลย

งานศพของพ่อฉันถูกจัดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพ โดยมีเพื่อนๆ และหุ้นส่วนของพ่อ รวมถึงลูกน้องที่บริษัทมาร่วมงานกันมากมาย เพราะพ่อเป็นที่รักของทุกคน ท่านใจดีและมีเมตตากับลูกน้องมาก ทำให้ลูกน้องต่างก็รักและอาลัยที่ท่านมาด่วนจากไปกระทันหันแบบนี้

หนึ่งเดือนผ่านไป

ฉันเดินเข้ามาในบ้านก็พบกับจดหมายและใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่วางกองอยู่บนโต๊ะ มีทั้งใบแจ้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์และใบแจ้งชำระค่าประกันชีวิตรายปีของฉันที่พ่อทำไว้ให้ด้วย

"แม่คะ ใบแจ้งหนี้ทำไมมันเยอะขนาดนี้ล่ะคะ?” ฉันเอ่ยถามแม่ที่ตอนนี้ท่านนั่งเงียบ ๆ อยู่บนโซฟาแล้วมองมาที่ฉัน

“ก็ปกติพ่อแกเป็นคนจ่าย นี่พ่อแกตายไปแล้วก็เลยไม่มีคนจ่ายน่ะสิ ฉันจะไปเอาที่ไหนมาจ่ายให้ตั้งเยอะแยะขนาดนี้” ฉันหันหน้ากลับไปมองแม่ทันที .. ใช่ค่ะ ฉันกำลังงง

ตั้งแต่ฉันจำความได้พ่อทำงานคนเดียวมาตลอด โดยแม่มีหน้าที่เป็นแม่บ้านเท่านั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อจึงเป็นคนจ่ายเพียงคนเดียว แต่ที่ฉันงงคือตอนนี้พ่อตายไปแล้ว แต่แม่ไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ แล้วพวกเราจะอยู่ต่อกันได้ยังไง เพราะตอนนี้ฉันเพิ่งเรียนแค่ปีสอง จะให้ฉันออกมาทำงานหาเงินกลางคันก็คงจะไม่ได้แน่นอน

“ตอนนี้พ่อไม่อยู่แล้ว เราจะทำยังไงกันดีคะ แม่พอจะมีเงินสะสมบ้างไหม หนูพอมีเงินเก็บอยู่บ้างแม่อยากลงทุนทำอะไรสักอย่างไหมคะ เผื่อว่าแม่อยากจะทำ....”

"มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันนะ มันเป็นหน้าที่ของพ่อแก ถ้าพ่อแกไม่อยู่ แกก็ต้องรับผิดชอบต่อสิ” แม่พูดจบก็เดินขึ้นชั้นบนไป ทิ้งฉันยืนอึ้งเป็นรอบที่สอง

ฉันกับแม่ไม่ค่อยสนิทกันมากนักหรอก จำความได้ว่าตั้งแต่เด็ก ฉันจะสนิทกับพ่อมากกว่า ในความทรงจำของฉันจึงมีพ่ออยู่เสมอ ถึงแม่จะเลี้ยงดูและอยู่กับฉัน แต่ก็มีความผูกพันกันแปลก ๆ เหมือนมีเส้นบาง ๆ กั้นระหว่างฉันกับแม่อยู่ แต่ถ้าใครคิดว่าฉันไม่ใช่ลูกของแม่ คิดผิดนะคะ เพราะฉันเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อกับแม่จริง ๆ ในใบเกิดและสำเนาทะเบียนบ้านก็บอกชื่อของบิดามารดาอย่างชัดเจนว่า นางสาว “สิมิลัน หิรัญเมฆาสกุล” เป็นบุตรสาวของนายนาธัส และนางเจนจิรา หิรัญเมฆาสกุล

พ่อกับแม่ของฉันเป็นคนจังหวัดพังงา และเคยอาศัยอยู่ที่เกาะสิมิลันมาก่อน พอฉันเกิดมาพ่อกับแม่จึงตั้งชื่อว่า สิมิลัน ซึ่งเป็นภาษายาวี หรือมลายู แปลว่า เก้า ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเล่นของฉัน เพราะเกาะสิมิลันจะมีหมู่เกาะน้อยใหญ่อยู่รวมกันทั้งหมดเก้าเกาะ จึงเรียกกันว่า หมู่เกาะสิมิลัน

พ่อเล่าว่าพบรักกับแม่ที่นี่ เวลาที่พ่ออยู่กับฉันสองคน ท่านมักจะเล่าเรื่องราวสมัยตอนหนุ่ม ๆ ให้ฟัง พ่อจะพูดถึงแม่ด้วยความรักเสมอ พ่อบอกว่าฉันได้รับมรดกความสวยมาจากแม่ ไม่ว่าจะเป็นผิวขาวอมชมพู ผมตรงดกดำยาวสลวย เครื่องหน้าสวยคมชัด ริมฝีปากกระจับ รูปร่างสูงโปร่ง หุ่นดี รวมถึงน้ำเสียงที่ไพเราะของฉันด้วย

แต่น่าแปลกที่ความรู้สึกของฉันกลับคิดว่าทั้งหมดที่พ่อบรรยายถึงแม่กับความเป็นจริงที่ฉันเห็น มันไม่มีอะไรตรงกันเอาเสียเลย

Write Talk: เมื่อเจ็ดปีก่อนคุณพ่อมินทร์ท่านจากไปด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ความรู้สึกสูญเสียรวมถึงเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉินและคำพูดของคุณหมอในวันนั้นมินทร์ยังจำได้ทุกคำจนถึงทุกวันนี้ เมื่อมีโอกาสจึงได้นำมาถ่ายทอดลงในนิยายเรื่องนี้ด้วย แต่ถึงแม้ว่าท่านจะจากเราไปแล้ว แต่พ่อยังอยู่ในใจของลูกคนนี้เสมอค่ะ 🖤

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ญาตาวีมินทร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ