"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก
หญิงสาวก้าวเท้ายาว ๆ วิ่งหนีตายอย่างไม่คิดจะหันกลับมามองหลัง พวกกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ออกตามล่าปลิดชีวิตเพื่อปิดปากหล่อน สภาพชลิดาในเวลานี้เนื้อตัวโชกเลือดสีแดงฉาน ร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้าย หน้าบวม ตาบวมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว ขณะสองเท้าวิ่งแทบไม่คิดชีวิต สายตามองไปข้างหน้าแม้จะพร่ามัวเพราะน้ำตาไม่เคยหยุดไหล ทั้งหัวใจเต้นแรงด้วยความเหนื่อยหอบและตื่นเต้นไปด้วยความกลัวอย่างสุดขีด หญิงสาวมุ่งหน้าไปบ้านพักของนัทธิวชายหนุ่มคนรัก ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่และคงเป็นเพียงเขาที่พอจะมีบารมีช่วยเหลือเธอได้!
ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงกดกริ่งรัวเร็ว แสดงออกมาชัดเจนว่าผู้มาเยือนนั้นท่าทีร้อนรน แต่คนที่มาพบกลับไม่ใช่แฟนหนุ่มอย่างที่ตั้งใจ แต่เป็นศิวะน้องชายร่วมสายเลือดของเขาแทน
“พี่นัทอยู่ไหม?” หญิงสาวหมายถึงนัทธิวชายหนุ่มคนรักที่คบหากันมาสักพักหนึ่งแล้ว เธอไม่ระแคะระคายเลยว่าเขาจะมีใครอื่น
“พี่นัทเหรอ... ไม่อยู่หรอก” คำตอบเรียบเย็นไม่ทุกข์ร้อนกับคนตรงหน้าจะเรียกว่าใจดำก็ไม่ผิด
“พี่นัทจะกลับมาตอนไหน?” ถามเสียงสั่นเจือแววเหนื่อยหอบ
“ใครจะไปรู้ เธอคิดว่าคนที่ไปธุระจัดการเรื่องงานแต่งจะกลับสักกี่โมงดีล่ะ”
“แต่งงาน?”
“ใช่”
“พี่นัทน่ะเหรอจะแต่งงาน?”
“แล้วเธอคิดว่าใครล่ะ?”
“ฉันมีเรื่องเดือดร้อนเกี่ยวกับความเป็นความตาย... อยากขอความช่วยเหลือ” บากหน้ามาเพราะไร้ที่พึ่งแล้วจริงๆ
“เห็นทีจะยากแล้วล่ะนะ พี่ชายของฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณหนูบ้านรวยที่มีอะไรทุกอย่างเหมาะสมกัน”
“ทำไมไม่เคยรู้เลย” น้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลพรากสะท้อนถึงความเจ็บปวด
“งั้นวันนี้เธอก็รู้ซะสิ แล้วก็เลิกยุ่งกับผู้ชายมีเจ้าของแล้วสักที”
“ทำไมเรื่องเป็นแบบนี้ล่ะ?”
“เธอคิดว่าพี่ชายของฉันจะรักเธอจริง แล้วทิ้งทุกอย่างมาแต่งงานกับเธอเหรอ ละครไปมั้ย?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แต่วันนี้ฉันมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจริงๆ” หล่อนอ้อนวอนน้ำตาไหลพราก
“ช่วยงั้นเหรอ...” เขาไม่แม้แต่จะถามว่าสิ่งที่ชลิดาต้องการให้ช่วยคือเรื่องอะไร แต่เขากลับได้ที เสนอข้อแลกเปลี่ยนเสียแล้ว
“ช่วยด้วย...”
“ต้องการความช่วยเหลืองั้นสิ” ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเหมือนๆ กันทั้งโลกมาแบบนี้คงไม่พ้นเรื่องเงิน
“ใช่ ฉะ...” ยังไม่ทันจะเล่าเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาหญิงสาวก็ฟุบลงไปนอนราบกับพื้น ไร้สิ้นเรี่ยว แรงเพราะร่างกายที่ถูกใช้งานอย่างหนักเพื่อหนีเหตุการณ์เฉียดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
“ฉันจะช่วยเธอเอาบุญ แต่มีข้อแม้....” เขาเดาว่าเธอคงต้องการเงินสักก้อน มันก็แน่อยู่แล้ว เพื่อแลกกับการเลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายของเขาที่กำลังจะแต่งงาน ผู้หญิงอะไรน่าสมเพท!
“ข้อแม้งั้นเหรอ?” เสียงนั้นเบาแผ่วราวกระซิบลมหายใจรวยริน...
‘นอนกับฉันสิ!’ สายตาเขามองสบมานั้นช่างดูเย็นชาแข็งกร้าว เขาเห็นเธอเป็นสิ่งไร้ค่า สภาพของเธอตอนนี้มีอะไรน่าปรารถนาอย่างงั้นเหรอ เขามันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ไม่รู้อีกว่านาทีนับจากนี้เธอจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร แต่คิดแล้วก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้อยู่ดี แล้วยิ่งคนตรงหน้าที่ร้ายยิ่งกว่าสัตว์นรกทั้งปวง
หญิงสาวมองสบนัยน์ตาเย็นชาของเขา ภาพในอดีตที่เธอพยายามลืมมันไปก็ฉายภาพย้อนขึ้นมา เธอยิ่งทวีความเจ็บปวด จู่ๆ น้ำตาก็ไหลพรากราวกับทำนบกั้นน้ำได้พังทลายลงไป....
ก่อนนี้ร่วมสามชั่วโมง...
ชลิดา ผดุงนิกรสกุลลูกสาวคนเดียวของ.ธนศาล ผดุงนิกรสกุลและปิ่นพลอย ผดุงนิกรสกุลครอบครัวนักธุรกิจอันร่ำรวย อบอุ่นมีความสุขและสมบูรณ์พร้อมครอบครัวหนึ่ง เธอดีรับการเลี้ยงดูที่ดี มีการศึกษาและสังคมที่ดี วันนี้หญิงสาวเลิกเรียนก็แยกย้ายกับเพื่อนๆ ตามปกติ ก่อนขึ้นรถกลับก็หยอกล้อกับเพื่อนๆ เสียงหัวเราะร่าเริงสดใส สนุกสนานตามประสา วันนี้ชลิดานั่งรถมาเรียนเอง ซึ่งก็ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะเดินทางมาเรียนหรือไปไหนต่อไหนด้วยขนส่งสาธารณะ แต่วันนี้คนขับรถลาเพราะภรรยาใกล้คลอดจะต้องพาไปโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการ ชลิดาจึงบอกกับพ่อแม่ว่าเธอจะไปเรียนเองดูแลตัวเองได้ ปกติมีคนขับรถมาส่งเรียนพิเศษในทุกๆ ครั้ง แต่วันนี้แปลกออกไป เธอคิดว่ามันก็ดีไปอีกแบบไม่ต้องรีบกลับบ้าน ได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ แล้วแวะเดินตามศูนย์การค้าได้เปิดหูเปิดตา กว่าจะกลับบ้านก็เป็นเวลาเกือบมืด
เมื่อกลับมาถึงชลิดาเปิดประตูเข้าบ้านอย่างเช่นเคย หากก็พบกับความผิดปกติ ภายในบ้านเงียบสงัด และเต็มไปด้วยคาวเลือดคละคลุ้งมาเตะจมูก กลิ่นสังหารแรงจนเจียนจะอ้วกถึงขั้นยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เท้าบอบบางยกขึ้นเขย่งเพื่อเดินด้วยปลายเท้าเพื่อเก็บเสียงให้เงียบที่สุดเท่าที่จะมากได้ สายตาเจือแววระวังหวาดเพราะเหมือนเกิดอะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึง ชลิดาปราดสายตาไปพบศพลุงคนขับรถถูกฆ่าตายในบ้าน ลุงนอนกอดเมียที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด ‘ไหนลุงบอกจะพาเมียไปหาหมอ หรือไปโรงพยาบาลแล้วกลับมาเจอพวกโจรเข้าก็เลยพบจุดจบแบบนี้’ หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากเก็บเสียงเอาไว้ให้มิด ในบ้านมีคนตายหลายศพน่าสยดสยองมาก ชลิดากลัวขนหัวลุกขาสั่นไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป แต่พยายามควบคุมสติเอาไว้
ชลิดาไหวตัว จึงค่อยๆ เดินไปดูแต่ละห้องสังเกตเห็นคราบเลือดเลอะเทอะเต็มบ้าน ตามจุดต่างๆ เต็มไปด้วยคราบเลือดและส่งกลิ่นคาวหนักยิ่งขึ้น ตามผนังของบ้านมีคราบเลือดสาดกระเซ็นไปถึงทิ้งไว้ทั้งคราบเกรอะกรังแดงเข้มข้นและคาวคลุ้งอวลชวนอ้วกไปทั่วทั้งบ้าน ระหว่างนั้นก็เดินไปดูว่ามีใครรอดชีวิตหรือไม่ พบว่ากลุ่มคนร้าย กำลังทรมานพ่อของตัวเองให้ตายลงอย่างช้าๆ ชลิดามองไปสบตากับพ่อ นัยน์ตาของพ่อส่งสัญญาณมาว่าให้หนีไป หนีไปให้ไกล...
ติ้ง!!!
เสียงข้อความแชทชลิดาดังขึ้น ทำให้กลุ่มคนร้ายมองหาต้นเสียงว่าดังมาจากไหน ก็เห็นข้างหลังของชลิดาอยู่ไหวๆ หล่อนกำลังวิ่งหนีสุดชีวิตเผ่นเลเวลตีนผีแบบไม่คิดชีวิต!
ชลิดาหนีตายสุดชีวิตขณะที่กลุ่มคนร้ายนับสิบชีวิตตามไล่ล่าฆ่าปิดปากเธอ มันจะเหลือรอดแม้สักชีวิตเดียวก็ไม่ได้มันต้องตายตกตามกันไปทั้งครอบครัว!
บทที่ 0 บทนำ
20/06/2024
บทที่ 1 No.1
20/06/2024
บทที่ 2 No.2
20/06/2024
บทที่ 3 No.3
20/06/2024
บทที่ 4 No.4
20/06/2024
บทที่ 5 No.5
20/06/2024
บทที่ 6 No.6
20/06/2024
บทที่ 7 No.7
20/06/2024
บทที่ 8 No.8
20/06/2024
บทที่ 9 No.9
20/06/2024
บทที่ 10 No.10
20/06/2024
บทที่ 11 บทส่งท้าย
20/06/2024
บทที่ 12 ตอนพิเศษ
20/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ ภัคร์ภัสสร
ข้อมูลเพิ่มเติม