Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
108
ชม
13
บท

"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก

บทที่ 0 บทนำ

หญิงสาวก้าวเท้ายาว ๆ วิ่งหนีตายอย่างไม่คิดจะหันกลับมามองหลัง พวกกลุ่มคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ออกตามล่าปลิดชีวิตเพื่อปิดปากหล่อน สภาพชลิดาในเวลานี้เนื้อตัวโชกเลือดสีแดงฉาน ร่างกายเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้าย หน้าบวม ตาบวมเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียว ขณะสองเท้าวิ่งแทบไม่คิดชีวิต สายตามองไปข้างหน้าแม้จะพร่ามัวเพราะน้ำตาไม่เคยหยุดไหล ทั้งหัวใจเต้นแรงด้วยความเหนื่อยหอบและตื่นเต้นไปด้วยความกลัวอย่างสุดขีด หญิงสาวมุ่งหน้าไปบ้านพักของนัทธิวชายหนุ่มคนรัก ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่และคงเป็นเพียงเขาที่พอจะมีบารมีช่วยเหลือเธอได้!

ติ้งต่อง ติ้งต่อง ติ้งต่อง!!!!!!!!!!!!!!!!!

เสียงกดกริ่งรัวเร็ว แสดงออกมาชัดเจนว่าผู้มาเยือนนั้นท่าทีร้อนรน แต่คนที่มาพบกลับไม่ใช่แฟนหนุ่มอย่างที่ตั้งใจ แต่เป็นศิวะน้องชายร่วมสายเลือดของเขาแทน

“พี่นัทอยู่ไหม?” หญิงสาวหมายถึงนัทธิวชายหนุ่มคนรักที่คบหากันมาสักพักหนึ่งแล้ว เธอไม่ระแคะระคายเลยว่าเขาจะมีใครอื่น

“พี่นัทเหรอ... ไม่อยู่หรอก” คำตอบเรียบเย็นไม่ทุกข์ร้อนกับคนตรงหน้าจะเรียกว่าใจดำก็ไม่ผิด

“พี่นัทจะกลับมาตอนไหน?” ถามเสียงสั่นเจือแววเหนื่อยหอบ

“ใครจะไปรู้ เธอคิดว่าคนที่ไปธุระจัดการเรื่องงานแต่งจะกลับสักกี่โมงดีล่ะ”

“แต่งงาน?”

“ใช่”

“พี่นัทน่ะเหรอจะแต่งงาน?”

“แล้วเธอคิดว่าใครล่ะ?”

“ฉันมีเรื่องเดือดร้อนเกี่ยวกับความเป็นความตาย... อยากขอความช่วยเหลือ” บากหน้ามาเพราะไร้ที่พึ่งแล้วจริงๆ

“เห็นทีจะยากแล้วล่ะนะ พี่ชายของฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณหนูบ้านรวยที่มีอะไรทุกอย่างเหมาะสมกัน”

“ทำไมไม่เคยรู้เลย” น้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาไหลพรากสะท้อนถึงความเจ็บปวด

“งั้นวันนี้เธอก็รู้ซะสิ แล้วก็เลิกยุ่งกับผู้ชายมีเจ้าของแล้วสักที”

“ทำไมเรื่องเป็นแบบนี้ล่ะ?”

“เธอคิดว่าพี่ชายของฉันจะรักเธอจริง แล้วทิ้งทุกอย่างมาแต่งงานกับเธอเหรอ ละครไปมั้ย?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แต่วันนี้ฉันมีเรื่องจะขอความช่วยเหลือจริงๆ” หล่อนอ้อนวอนน้ำตาไหลพราก

“ช่วยงั้นเหรอ...” เขาไม่แม้แต่จะถามว่าสิ่งที่ชลิดาต้องการให้ช่วยคือเรื่องอะไร แต่เขากลับได้ที เสนอข้อแลกเปลี่ยนเสียแล้ว

“ช่วยด้วย...”

“ต้องการความช่วยเหลืองั้นสิ” ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงเหมือนๆ กันทั้งโลกมาแบบนี้คงไม่พ้นเรื่องเงิน

“ใช่ ฉะ...” ยังไม่ทันจะเล่าเหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาหญิงสาวก็ฟุบลงไปนอนราบกับพื้น ไร้สิ้นเรี่ยว แรงเพราะร่างกายที่ถูกใช้งานอย่างหนักเพื่อหนีเหตุการณ์เฉียดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

“ฉันจะช่วยเธอเอาบุญ แต่มีข้อแม้....” เขาเดาว่าเธอคงต้องการเงินสักก้อน มันก็แน่อยู่แล้ว เพื่อแลกกับการเลิกยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายของเขาที่กำลังจะแต่งงาน ผู้หญิงอะไรน่าสมเพท!

“ข้อแม้งั้นเหรอ?” เสียงนั้นเบาแผ่วราวกระซิบลมหายใจรวยริน...

‘นอนกับฉันสิ!’ สายตาเขามองสบมานั้นช่างดูเย็นชาแข็งกร้าว เขาเห็นเธอเป็นสิ่งไร้ค่า สภาพของเธอตอนนี้มีอะไรน่าปรารถนาอย่างงั้นเหรอ เขามันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ไม่รู้อีกว่านาทีนับจากนี้เธอจะเอาชีวิตรอดได้อย่างไร แต่คิดแล้วก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้อยู่ดี แล้วยิ่งคนตรงหน้าที่ร้ายยิ่งกว่าสัตว์นรกทั้งปวง

หญิงสาวมองสบนัยน์ตาเย็นชาของเขา ภาพในอดีตที่เธอพยายามลืมมันไปก็ฉายภาพย้อนขึ้นมา เธอยิ่งทวีความเจ็บปวด จู่ๆ น้ำตาก็ไหลพรากราวกับทำนบกั้นน้ำได้พังทลายลงไป....

ก่อนนี้ร่วมสามชั่วโมง...

ชลิดา ผดุงนิกรสกุลลูกสาวคนเดียวของ.ธนศาล ผดุงนิกรสกุลและปิ่นพลอย ผดุงนิกรสกุลครอบครัวนักธุรกิจอันร่ำรวย อบอุ่นมีความสุขและสมบูรณ์พร้อมครอบครัวหนึ่ง เธอดีรับการเลี้ยงดูที่ดี มีการศึกษาและสังคมที่ดี วันนี้หญิงสาวเลิกเรียนก็แยกย้ายกับเพื่อนๆ ตามปกติ ก่อนขึ้นรถกลับก็หยอกล้อกับเพื่อนๆ เสียงหัวเราะร่าเริงสดใส สนุกสนานตามประสา วันนี้ชลิดานั่งรถมาเรียนเอง ซึ่งก็ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะเดินทางมาเรียนหรือไปไหนต่อไหนด้วยขนส่งสาธารณะ แต่วันนี้คนขับรถลาเพราะภรรยาใกล้คลอดจะต้องพาไปโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการ ชลิดาจึงบอกกับพ่อแม่ว่าเธอจะไปเรียนเองดูแลตัวเองได้ ปกติมีคนขับรถมาส่งเรียนพิเศษในทุกๆ ครั้ง แต่วันนี้แปลกออกไป เธอคิดว่ามันก็ดีไปอีกแบบไม่ต้องรีบกลับบ้าน ได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ แล้วแวะเดินตามศูนย์การค้าได้เปิดหูเปิดตา กว่าจะกลับบ้านก็เป็นเวลาเกือบมืด

เมื่อกลับมาถึงชลิดาเปิดประตูเข้าบ้านอย่างเช่นเคย หากก็พบกับความผิดปกติ ภายในบ้านเงียบสงัด และเต็มไปด้วยคาวเลือดคละคลุ้งมาเตะจมูก กลิ่นสังหารแรงจนเจียนจะอ้วกถึงขั้นยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้ เท้าบอบบางยกขึ้นเขย่งเพื่อเดินด้วยปลายเท้าเพื่อเก็บเสียงให้เงียบที่สุดเท่าที่จะมากได้ สายตาเจือแววระวังหวาดเพราะเหมือนเกิดอะไรบางอย่างที่คาดไม่ถึง ชลิดาปราดสายตาไปพบศพลุงคนขับรถถูกฆ่าตายในบ้าน ลุงนอนกอดเมียที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด ‘ไหนลุงบอกจะพาเมียไปหาหมอ หรือไปโรงพยาบาลแล้วกลับมาเจอพวกโจรเข้าก็เลยพบจุดจบแบบนี้’ หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากเก็บเสียงเอาไว้ให้มิด ในบ้านมีคนตายหลายศพน่าสยดสยองมาก ชลิดากลัวขนหัวลุกขาสั่นไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป แต่พยายามควบคุมสติเอาไว้

ชลิดาไหวตัว จึงค่อยๆ เดินไปดูแต่ละห้องสังเกตเห็นคราบเลือดเลอะเทอะเต็มบ้าน ตามจุดต่างๆ เต็มไปด้วยคราบเลือดและส่งกลิ่นคาวหนักยิ่งขึ้น ตามผนังของบ้านมีคราบเลือดสาดกระเซ็นไปถึงทิ้งไว้ทั้งคราบเกรอะกรังแดงเข้มข้นและคาวคลุ้งอวลชวนอ้วกไปทั่วทั้งบ้าน ระหว่างนั้นก็เดินไปดูว่ามีใครรอดชีวิตหรือไม่ พบว่ากลุ่มคนร้าย กำลังทรมานพ่อของตัวเองให้ตายลงอย่างช้าๆ ชลิดามองไปสบตากับพ่อ นัยน์ตาของพ่อส่งสัญญาณมาว่าให้หนีไป หนีไปให้ไกล...

ติ้ง!!!

เสียงข้อความแชทชลิดาดังขึ้น ทำให้กลุ่มคนร้ายมองหาต้นเสียงว่าดังมาจากไหน ก็เห็นข้างหลังของชลิดาอยู่ไหวๆ หล่อนกำลังวิ่งหนีสุดชีวิตเผ่นเลเวลตีนผีแบบไม่คิดชีวิต!

ชลิดาหนีตายสุดชีวิตขณะที่กลุ่มคนร้ายนับสิบชีวิตตามไล่ล่าฆ่าปิดปากเธอ มันจะเหลือรอดแม้สักชีวิตเดียวก็ไม่ได้มันต้องตายตกตามกันไปทั้งครอบครัว!

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ภัคร์ภัสสร

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ