เพื่อปกป้องชีวิต... คุณทวดของบุหงาจึงเขียนยันต์วิเศษไว้คุ้มครองหลานสาวผู้ที่จะสืบทอดวิชาเขียนยันต์ แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เจ้าหล่อนจึงย้อนอดีตไปสมัยทวารวดี เพื่อหนีการตามล่า บุหงาจึงต้องสวมรอยเป็น ‘แม่นาย’ ทำให้ทุกคนในเรือนรัก เพื่อความอยู่รอด กลับไปยุคเดิมที่จากมาอย่างปลอดภัย นั่นก็คือ... ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดวิชาเขียนยันต์เก่าแก่โบราณของต้นตระกูล
ถึงวันนี้ฉันก็เริ่มชินกับการใช้ชีวิตในดินแดนทวารวดี เอาจริงๆ นะในชีวิตของฉันไม่มีโปรแกรมทัวร์ข้ามภพข้ามชาติมาไกลขนาดนี้หรอก วันแรกที่ฉันแตะดินแดนแห่งนี้ก็ยืนซื่อบื้ออยู่นาน เข้าใจไปอีกว่าอยู่ท่ามกลางกองถ่ายทำภาพยนตร์ แต่พอตั้งสติได้ กองถ่ายอะไรกันถ่ายทั้งวันทั้งคืน พอสอบถามใครต่อใคร ก็กลายว่าฉันเป็นตัวประหลาดใช้ภาษาพูดไม่เหมือนชาวบ้านแถวนี้
โชคดีชาติภพนี้ที่ฉันหลุดเข้ามา น่าจะเป็นครอบครัวผู้รากมากดีมีฐานะในยุคนั้นกระมัง มารู้ภายหลังว่าคนในครอบครัวออกตามหาฉันเพราะฉันมีอาการป่วยเพิ่งฟื้นไข้จากจมน้ำ เห็นนางทาสเล่าว่าฉันความจำเสื่อมด้วยนะ ในภพนี้มีครอบครัวสมบูรณ์จึงมีหมอยา หมอผีและพราหมณ์ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ต่างๆ ที่นับว่าเป็นความก้าวล้ำของยุคนั้นล่ะ ฉันจึงได้รู้ว่าที่นี่คือยุคทวาราวดี
‘โห... เก่าแก่ย้อนไปไกลกว่ายุคกรุงศรีฯ อีก’
ฉันพยายามนึกทบทวนการหลุดมายุคนี้ได้อย่างไร จากความทรงจำที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดชาตินี้จึงได้ข้อสันนิษฐานว่า อาจจะด้วยตำราเขียนยันต์เล่มนั้นเป็นแน่ ที่ส่งฉันมาที่นี่
บุหงาคือชื่อของฉัน เป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น มีชีวิตในยุคปีพุทธศักราช ๒๕๗๔ ฉันได้รับการถ่ายทอดวิชาเขียนยันต์มาตั้งแต่รุ่นคุณทวดเลย แต่ด้วยความที่ฉันเป็นหลานเพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ แล้วยังเป็นผู้หญิงอีกประหนึ่งว่าโชคชะตาเล่นตลกใช่ไหมล่ะ คุณปู่เคยบอกว่าวิชาเหล่านี้เข้มขลังยิ่งนัก หากเป็นหญิงแล้วเรียนๆ ไปแล้วเกิดพลั้งเผลอที่ทำอะไรผิดครูบาอาจารย์ขึ้นมาอาจจะเกิดความเดือดร้อนได้
ตำราเขียนยันต์โบราณที่ต้นตระกูลสืบทอดไว้ให้นั้นอายุร่วมหลายร้อยปีทีเดียว แต่อัศจรรย์ใจว่าหนังสือไม่มีรอยฉีกขาดเลยแม้แต่น้อย อาจจะมีกระดาษเหลืองไปบ้างตามกาลเวลา มันเก่าชนิดที่กลัวมันจะเปื่อยติดมือเวลาเราจับ พลิกหน้ากระดาษแต่ละหน้า ฉันจะต้องพลิกหน้ากระดาษเพียงเบาๆ ไม่เช่นนั้นเสี่ยงที่กระดาษจะขาดได้
ฉันยังจำได้ไม่ลืม คืนนั้นเองฉันกำลังเรียนเขียนยันต์จากตำราโบราณ จู่ๆ เสี้ยนจากโต๊ะเขียนหนังสือมันก็ตำมือจนเลือดไหลออกมาซิบๆ ฉันรีบควานหาพลาสเตอร์ปิดแผลเพื่อปฐมพยาบาลตัวเองกลางดึก แต่ก็ช้ากว่าเลือดหยดลงไปโดนหนังสือ
ทันใดนั้นฉันก็ไม่ได้สติอีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็หลุดมาอยู่ที่นี่แล้ว
ถึงวันนี้นับเวลาได้หลายเดือนแล้ว ยังหาทางกลับบ้านในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนปลายไม่ถูกเลย แต่จะว่าไปฉันก็มีเพื่อนพี่น้องและครอบครัวที่นี่แล้วนะ
ที่นี่ บุหงาเป็นแม่หญิงสูงศักดิ์ผู้งดงาม มีทาสรับใช้เป็นขบวน แล้วยังได้อยู่ในครอบครัวอบอุ่นครบพร้อม มีแม่ผู้ให้กำเนิดที่รักและเอาใจใส่ มีความงดงามตามประเพณี สอนงานบ้านงานเรือนไม่มีพร่อง อีกทั้งมีพ่อเลี้ยงที่เฝ้าประคบประหงมประดุจว่าเจ้าหล่อนเป็นลูกในไส้ บุหงามีพี่เขยและพี่สาวซึ่งทั้งคู่ก็อาทรห่วงใยหล่อนเป็นอย่างดี พี่ชายคอยปกป้องดูแล ที่สำคัญเหนืออื่นใด ก็คือสามีอันเป็นที่รัก ผู้ชายโบราณยุคทวารวดีรูปร่างงดงามล่ำแซ่บสมกับเป็นชายชาติทหาร เดิมทีชาติภพที่แล้ว เธอเป็นสาวสวยก็จริงๆ แต่เธอเลือกที่จะโสด เพราะเคยมีแฟนแต่แล้วเขาก็นอกใจ อีกทั้งทำแต่งานไม่มีเวลาเสาะแสวงหาคู่ชีวิต มารู้ตัวอีกทีก็โสดนานเกินไปหน่อย แต่จะว่าไปการติดปีกข้ามเวลามาแบบไม่ตั้งใจในชาติภพนี้ ถ้ามีสามีสำเร็จรูปมาให้ ก็ดีไปอีกแบบ
หลังจากบุหงาปรับตัวได้ เธอก็ไม่ใส่ใจว่าจะข้ามเวลากลับไปยังที่ที่จากมาได้หรือไม่ กลับได้ก็ดี กลับไม่ได้ก็คงไม่เป็นไรกระมัง อยู่ที่นี่ก็มีสิ่งเจริญตาอยู่มิใช่น้อย แต่สิ่งที่ก่อกวนใจจนถึงทุกวันนี้คือ การหลุดข้ามภพมาแบบนี้ตกลงมันเป็นความผิดของใครกันแน่ หรือแท้ที่จริงแล้วมีใครอยู่เบื้องหลัง ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรบุหงาก็มิอาจรู้ได้
เรือนนอน
แสงสีทองนวลลออของพระจันทร์งดงามยิ่ง หากเป็นยุคที่เจ้าหล่อนจากมา วันนี้อาจจะเป็นวันขอเงินพระจันทร์ก็เป็นได้ พระจันทร์เต็มดวง มองเห็นรูปกระต่ายบนดวงจันทร์ชัดเจน แสงสีเหลืองทองทาบทาท้องฟ้าขับไล่ความมืดมิดไปสิ้นกลายเป็นรัศมีสีทองเรืองรองที่มีจุดกำเนิดมาจากพระจันทร์ดวงเด่น บุหงาแหงนหน้ามองดวงจันทร์จากหน้าต่างเรือนไทยโบราณนี้ด้วยความเย็นใจ อากาศในยุคทวารวดีนี้ช่างดียิ่งหายใจเข้าออกปลอดโปร่งโล่งสบาย สายลมเอื่อยอ่อนให้ความรู้สึกผ่อนคลายดียิ่งนัก ระหว่างที่บุหงาชมแสงจันทร์อยู่เพลินๆ ไม่นานจากนั้น...
หนังสืออื่นๆ ของ ภัคร์ภัสสร
ข้อมูลเพิ่มเติม