เพราะความไว้ใจทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม

เพราะความไว้ใจทำให้ข้ากลายเป็นสตรีโง่งม

moonlight-mini

5.0
ความคิดเห็น
3.3K
ชม
31
บท

ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

หากจะกล่าวถึงคู่รักที่ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างอิจฉาและอยากประสบพบเจอกับคนรักที่ดีเช่นนี้บ้างสักครา ก็คงไม่พ้นจะต้องเอ่ยถึงบุตรสาวของท่านราชครูเหลียง เหลียงลู่จื้อ และอดีตคุณชายน้อยแห่งจวนหยุน หยุนหลิวเหว่ย แม้ท่านราชครูจะไม่ได้เอ่ยออกมาตรง ๆ และยังไม่ได้ทำพิธีหมั้นหมายอย่างเป็นทางการ นั่นก็คงเป็นเพราะฐานะของอดีตคุณชายน้อยแห่งจวนหยุนที่แม้จะเป็นบุตรของขุนนางใหญ่ แต่บิดามารดากลับต้องใช้ชีวิตของตนสังเวยการเมืองของราชวงศ์

การเปลี่ยนผ่านของราชบัลลังก์แต่ละครั้ง จะเลือกข้างก็ดีไม่เลือกข้างก็ช่างล้วนมีปัญหาทั้งหมดทั้งสิ้น ยิ่งอยู่ในตำแหน่งที่น่ากังวลและถูกเล่นงานได้ง่ายอย่างขุนนางขั้นสามรองเสนาบดีกรมพระคลังแล้ว สุดท้ายก็ต้องจากไปทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร

สิบวันสิบคืนที่ทุกคนในกรมพระคลังถูกทรมาน บ้างก็พิการ บ้างก็บาดเจ็บหนัก แต่รองเสนาบดีกรมพระคลังทนการทรมานไม่ไหวสุดท้ายก็สิ้นใจก่อนที่ความจริงจะเปิดเผย ว่าเขานั้นไม่ได้ร่วมทำความผิดอะไรแม้แต่นิด ทั้งหมดเป็นเพียงกลอุบายของคนที่ไม่ต้องการให้องค์รัชทายาทขึ้นครองราชย์ก็เท่านั้น แต่คนก็สิ้นไปแล้วจะผิดหรือถูกก็คงไม่สนแล้วอีกทั้งฮูหยินตระกูลเจ้าผู้แต่งเข้ามาในตระกูลหยุนก็สิ้นใจหลังจากรู้ข่าวการจากไปของสามี ทิ้งบุตรชายเพียงคนเดียวเอาไว้

ราชครูซึ่งเคยเป็นสหายร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้กับใต้เท้าหยุนอยู่ประจำจึงรับบุตรชายคนเดียวของสหายมาเลี้ยงดู

แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังเจียมตัวไม่ได้ทำตัวเสมอกับเจ้าของบ้าน มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่สายตาของหยุนหลิวเหว่ยบอกชัดว่าสนใจและต้องการนั่นก็คือยามที่เขามองคุณหนูของจวนเหลียง

แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ทั้งสองก็ประพฤติตนในแบบที่ไม่สามารถจะหาคำติฉินได้ แต่เพราะบรรยากาศของทั้งคู่ที่ชาวเมืองต่างเห็นมาตั้งแต่ทั้งสองยังวัยเยาว์จวบจนปัจจุบัน ชีวิตของทั้งสองราวกับลำนำเลื่องชื่อในโบราณ เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ที่เอ่ยถึงคู่รักที่เป็นเพื่อนเล่นกันยามเด็กเอาไว้อย่างไร ก็คงไม่ต่างอะไรกับความรักของทั้งคู่ เด็กสาวชายหนุ่มหยอกล้อเล่นปาเหมยเขียว ขี่ม้าไม่ไผ่แวะทักทาย ช่างเป็นความรักที่ไร้เดียงสาชวนฝันยิ่งนัก

เพราะความเป็นจริงชีวิตมิได้งามเหมือนช่วงต้นลำนำ แต่กลับเหมือนช่วงท้ายเสียมากกว่า

“จะต้องไปจริง ๆ น่ะหรือ” ลู่จื้อเอ่ยถามคนที่นางรัก แม้คนทั่ว ๆ ไปจะเล่าลื่อเช่นไรไม่สำคัญ คนที่นางรักมีเพียงหลิวเหว่ย และเขาก็รักนาง

“หากไปแล้วได้ตำแหน่งที่ดีกลับมาเมื่อยามแต่งเจ้าจะได้ไม่มีใครกล้านินทาอย่างไรเล่า” ดวงตาคมเข้มมองคนที่เขารักหวานหยด ลู่จื้อก็เหมือนกับดอกไม้ที่งดงาม และหอม และหวาน ภมรเช่นเขาจะไปที่ใดได้

ไม่แปลกที่ทุกคนจะเห็นเขาติดตามหญิงสาวไปในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะนอกหรือในจวน ที่ใดมีนางย่อมมีเขาไม่เคยห่าง

“อย่ากังวลไปเลยเสี่ยวจื้อข้าจะเขียนจดหมายหาเจ้าให้มากเท่าที่โอกาสจะอำนวย แม้จะลำบากไปบ้างแต่ชายแดนนั่นเหมาะสำหรับพิสูจน์ตนเองที่สุดแล้ว ท่านราชครูและฮูหยินจะได้ไม่ลำบากใจ”

ลู่จื้อฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดี ต้องห่างกันไกล แม้จะเพื่อวันข้างหน้าแต่ก็อดกังวลไม่ได้

“จะไปเมื่อไรหรือ” หลิวเหว่ยเอื้อมมือไปจับนิ้วเรียวที่เนียนดั่งแท่งหยก

“เรียกรวมตัวหลังวันเทศกาลโคมไฟ” ลู่จื้อมิรู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดีที่ได้เที่ยวงานเทศกาลกับอีกฝ่าย แต่อีกวันเจ้าตัวก็จะต้องเดินทางไปไกลเสียแล้ว

“อย่าเศร้าไปเลยนะ” หลิวเหว่ยเอ่ยบอกกับคนรักของตน

คนมีอายุมองภาพสองหนุ่มสาวพูดคุยกันอยู่กลางเรือนด้วยสีหน้ากังวล แม้จะไม่ได้รังเกียจหลิวเหว่ยแต่ก็มิได้เต็มใจมากนัก

“ท่านพี่ดูอะไรอยู่หรือเจ้าคะ” ฮูหยินหลี่ผู้แต่งเข้าตระกูลเหลียงชะโงกไปมองแล้วก็เห็นบุตรีของตนกับหลิวเหว่ยแล้วก็ถอนหายใจน้อย ๆ

“แม้หลิวเหว่ยจะเป็นคนดี แต่เพราะยามนั้นตระกูลหยุนไม่มีใครรับราชการต่อ จวนและสมบัติจึงถูกยึดไปบางส่วน ถ้าทั้งสองชอบพอกันข้าคิดว่า...”

“เอาไว้ให้เป็นเรื่องของวันข้างหน้า” ราชครูเหลียงเอ่ยบอกกับภรรยาตน จริงอยู่สมบัติถูกยึดไปบ้าง จวนถูกปิดเอาไว้ แต่ฮ่องเต้ก็มิได้รังแกถึงขนาดนั้น หากวันใดชายหนุ่มกลับมาเป็น เป็นขุนนางขั้นสูงได้อีกครั้งคิดว่าฝ่าบาทก็คงจะตกรางวัลให้อย่างงาม เพียงแต่ระหว่างนั้นคงต้องเสี่ยงชีวิตมาก เพราะเจ้าตัวเลือกจะเป็นทหาร เป็นทหารประจำในเมืองหลวงย่อมมิสู้ไปพิสูจน์ตนที่ชายแดนห่างไกลสร้างผลงานกลับมา

คนเป็นพ่อได้แต่คิดกังวลแทนบุตรสาวที่รักยิ่ง เพราะรู้ว่าการจะต้องนั่งรออย่างไม่รู้อะไรเลยอยู่ที่เมืองหลวง ทั้ง ๆ ที่คนที่รักกำลังเผชิญกับเรื่องอันตรายอยู่นอกเมืองนั่นเป็นเช่นไร ถึงจะไม่เคยประสบพบเจอกับตัวเอง แต่เพียงแค่ฟังมาก็รู้สึกเจ็บปวดแทนเสียแล้ว

“ลู่จื้อเจ้าจะทนความเจ็บปวดเช่นนั้นได้หรือไม่” และถึงแม้จะกังวลแต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแบบที่บอกกับฮูหยินของตน ปล่อยให้เป็นเรื่องของวันข้างหน้า เพราะบางทีมันอาจจะดีกว่าการเดาสุ่มไปอย่างนี้ก็เป็นได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ moonlight-mini

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

l3oonm@
5.0

ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ

ท่านประธานคลั่งสวาท

ท่านประธานคลั่งสวาท

กาสะลอง
4.9

“อ๊ะ… ซี้ดดดดดดด… ” เสียงร้องครางหลุดออกมาจากริมฝีปากของยาดาที่ต้องเผยออ้าทุกครั้งที่ลิ้นของเขาปาดเสยเข้าใส่กลีบสาว ไม่เพียงแค่เลีย แต่ยังสอดนิ้วเข้ามาบดคลึงเม็ดกระสัน ยิ่งทำให้หล่อนเสียวซ่านสุดจะบรรยาย “อู้ววว… กลีบอวบอูมดีจัง” น้ำเสียงสะใจ หลังจากจู่โจมด้วยปลายลิ้นจนน้ำคาวสวาทของหญิงสาวหลั่งไหลออกมาอาบชุ่มสองกลีบ ขมิบสู้ลำนิ้ว “ว้าว… เยิ้มเร็วมากหนูจ๋า” ท่านประธานชอบใจที่เห็นร่างกายของหล่อนตอบสนองการปลุกเร้า ค่อยๆ หงายฝ่ามือสอดเข้ามาระหว่างง่ามก้นด้านหลัง ตะล่อมโอบพูเนื้อโหนกนูนเหมือนกับหลังเต่าคว่ำลงมาประกบกับอุ้งมือพอดี “อ๊า… ซี้ดดดดดด… ” ยาดาร้องครวญครางออกมาด้วยความสยิว นิ้วของเขาไม่เพียงแค่ไล้ลูบ แต่ยังตวัดรัวแหวกร่องแล้วสอดใส่เข้ามาในความฝืดคับ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer
5.0

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ