Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อัลฟ่าริมบึง

อัลฟ่าริมบึง

ElGSi

5.0
ความคิดเห็น
564
ชม
15
บท

เมื่อคู่แห่งโชคชะตา4ขวบ อัลฟ่าพัมธุ์แท้คนสุดท้าย ผู้เพรียบพร้อมด้วยเงินและอำนาจ วันหนึ่งลูกน้องก็พังประตูเข้ามาบอกว่า เจอคู่โชคชะตาเขาแล้ว ทว่า จะป้ำลูกยังไง ก็เนื้อคู่เขาใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยกอดตุ๊กตา

บทที่ 1 อัลฟ่าริมบึง

ตุบ!

"ไปทำมาใหม่"

ไอ้พวกสวะพวกนี้ให้เป็นเด็กฝึกงานก็ยังไม่ผ่านโปรด้วยซ้ำ คงจะมายืนจุดนี้ได้ด้วยเส้นสายกับฟีโรโมนบ้าๆ อีกตามเคย

พวกไร้น้ำยา เสียเวลาจริงๆ

ภายในห้องประชุมยามบ่าย ผู้ชายสองคนนายบ่าว คนหนึ่งยืนซ้อนหลังตามระเบียบ อีกคนนั่งหน้าซีดเขียวอยู่ที่โต๊ะประชุมตัวใหญ่

"กล้าดียังไง ถึงปัดงานของท่านเจ้าเมืองลงพื้นแบบนี้ แค่ท่านเจ้าเมืองออกปาก… (พูดต่อไม่หยุด) ..."

จู่ๆ ไอ้ผู้ชายหน้าอ่อนมันก็ก้าวมาเอ่ยเสียงดัง หึ ไร้มารยาทสิ้นดี

ขณะที่ไอ้ตัวบ่าวแผดเสียงแว้ดๆ คนใส่สูทที่ถูกพูดถึงยังนั่งทำทองไม่รู้ร้อนอยู่เลย แต่ก็ดีที่ไม่บ้าไปอีกคน ไม่งั้นผมคงต้องแสดงอำนาจให้พวกสวะมันรู้หน่อย

"เหรอ ก็แค่อัลฟ่ากลายพันธุ์" ผมจิบชาในแก้ว ก่อนขยับปากกากลับมาเหน็บที่กระเป๋าหน้าอกสูทสีน้ำเงิน แล้วปัดแก้วที่ใช้แล้วทิ้ง

เพล้ง!

"ถ้าจะทำงานนี้ ก็ไปทำตามที่สั่ง" เอ่ยเสียงเย็น

ตัวบ่าวมันกัดฟันกำหมัดแน่นอย่างกับจะมาชกผมอย่างนั้น ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ แค่ผมปรายตามองคนใส่สูทที่นั่งอยู่ คนที่ทำให้ผมเสียเวลาก็ดูเหมือนจะพอสำเหนียกตัวเองได้บ้าง

"ได้ครับ ท่านราชัน"

“ท่านเจ้าเมือง!”

ก็แค่นี้ ทำอ้อยอิ่งยืดเยื้ออยู่ได้ ผมลุกขึ้นเดินออกให้พ้นๆ สองนายบ่าวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นน่ารังเกียจ

พอเปิดประตูออกมา บอดี้การ์ดคนสนิทก็ทำหน้าตายเหมือนจะตายจริงๆ ทำเอาผมไม่สบอารมณ์ไปด้วย

ผมสั่งคนที่เฝ้าหน้าประตูมาตลอดสองชั่วโมง

"ภูผา รายงานมา"

คนกล้ามโตในชุดเครื่องแบบแอบจิ๊ปากอย่างกับผมจะไม่เห็น ก้มหน้าตอบให้หงุดหงิด

"ไม่พบขอรับ"

"กะอีแค่ปั๊มลูก ทำไมมันยากเย็นแบบนี้" พูดไม่ทันจบกลิ่นน่าสะอิดสะเอียนก็ลอยลอดบานประตูออกมา

“หึ น่าขยะแขยง” ผมมองค้อนคนด้านในที่กำลังทำกิจกามโดยมีบานประตูกั้นอยู่

ไอ้โลกเฮงซวยใบนี้มันน่าทำลายให้หมดสิ้น ไม่รู้ว่าจะสร้างกฎบ้าๆ นี่ขึ้นมาทำไม เพราะไอ้เงื่อนไขธรรมชาติห่วยแตกนี่แท้ๆ ที่ทำให้ชีวิตผมต้องยากลำบาก

ผมถอดสูทตัวนอกส่งให้คนข้างๆ ภูผาก็รับไปถืออย่างว่าง่าย

"ที่อัลฟ่าต้นกำเนิดเหลือแค่ท่านคนเดียวก็คงเพราะเหตุผลนี้ พวกสวะนี่เป็นสัตว์ป่าหรือไง"

ถึงจะได้รับรายงานว่าไม่พบ ไม่พบแบบนี้ทุกครั้ง แต่คนรายงานก็ยังทำหน้าไม่สู้ดีทุกครั้ง เหมือนที่ผมหงุดหงิดอยากขยำโลกทิ้งทุกครั้งเช่นกัน

"ช่างเถอะ รีบหาให้พบ เตรียมรถให้พร้อม ฉันจะเข้าผับ"

"ขอรับ"

……..

ผับชื่อดังอันดับ1ช่วงหัวค่ำบรรยากาศอย่างกับคอกหมู! พลังทำลายล้างยิ่งกว่าอัลฟ่ายีนเด่นสิบคนรุมผมซะอีก อยากล้างบางไอ้พวกที่เอาแต่เต้นแร้งเต้นกาให้หมด

"ท่านราชัน เอาสำลีอุดจมูกไหมขอรับ"

ผมยืนในชุดสบายๆ เสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คดำ พอเปิดประตูลงรถที่หน้าผับ คนสนิทที่ยืนสแตนบายกับพวกทหารเฝ้าประตูก็ปรี่เข้ามาถาม แต่นั่นเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์

"ไร้สาระ"

พวกลูกกระจ๊อกเปิดประตู 2 บานออกกว้างอย่างต้อนรับ ทว่ายังไม่ต้องก้าวเดินแค่เปิดประตูผมก็อยากจะอ้วกออกมา

กลิ่นฟีโรโมนของอัลฟ่าและโอเมก้าชายหญิงน่าสะอิดสะเอียน!

"ท่านราชัน หน้าเขียวแล้วนะขอรับ ไหวไหมขอรับ"

ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเพราะไอ้คนถามไม่ออกอาการอะไรสักนิด แน่นอนว่าระดับคนธรรมดาคงไม่รู้สึกอะไร ไอ้กฎธรรมชาติเฮงซวยนั่นแหละที่มันทำให้เป็นแบบนี้

ผมรีบเดินจ้ำขึ้นไปห้องทำงานชั้น2แล้วปิดประตู

"ทำไมมีแต่ฉันที่ต้องเจอเรื่องบ้าๆ นี่ ขนาดนายเป็นอัลฟ่ายีนเด่นสุดๆ อย่างมากก็คงรู้ว่ามีคนปล่อยฟีโรโมนเมื่อมันเข้มข้นถึงระดับหนึ่ง"

คนถูกถามรีบโค้งตัวตอบทำอย่างกับเพิ่งเคยฟังประโยคนี้เป็นครั้งแรกอย่างนั้น น่าเบื่อจริงๆ

"กระผมไม่บังอาจตีเสมอท่านราชันขอรับ! ท่านราชันเป็นถึงยีนเด่นพันธุ์แท้ที่เกิดจากคู่แห่งโชคชะตาทั้งสองท่าน ดังนั้นต่อให้คนทั่วไปไม่ได้ปล่อยฟีโรโมนออกมา แต่ฟีโรโมนจางๆ ก็ไม่อาจหลุดรอดสายตาท่านราชันได้"

หมอนี่มันมองว่าเรื่องนี้เป็นข้อดีได้ยังไงนะถึงทำหน้าตาภูมิใจแทนแบบนั้น ผมไม่อ้วกตายก็ถือว่าแกร่งขนาดไหนแล้ว ลองมาได้กลิ่นนับร้อยที่ปนกันเหมือนถังขี้หมูดูสิ

"เฮ้อ” ผมเดินไปทิ้งตัวที่เก้าอี้บุหนังตรงโต๊ะทำงาน “พวกอัลฟ่าไม่เท่าไหร่ แต่กลิ่นพวกโอเมก้าชวนอ้วกสุดๆ ไปเลย นายต้องเร่งมือหน่อยแล้ว"

"ขอรับ"

แอ้ด

“ท่านราชันขอรับ!”

ผมเพิ่งหย่อนก้นไม่ถึงสองนาที ไอ้พวกกระจอกมันก็พรวดพราดเปิดประตูเข้ามาหน้าตาตื่น แต่เหมือนเจ้านี่จะนึกได้เลยหน้าซีดเหงื่อแต่พลักๆ ตรงปากประตู

กล้าเสียมารยาทต่อหน้าผม คงไม่อยากหายใจ

"มีอัลฟ่าคลุ้มคลั่งอาละวาดอยู่ข้างล่างขอรับ"

"บังอาจ กล้าดียังไงเปิดประตูเข้ามาตามอำเภอใจ" ภูผายกปืนเล็งคนมาใหม่ตามสัญชาตญาณ

แม้สถานการณ์จะหน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหน แต่คนที่ยืนตรงหน้าผมก็ยังเหนี่ยวไกปืนทำท่าจะยิง จนไอ้คนที่เข้ามาใหม่มันยืนขาสั่นริกๆ

จบงานนี้คงต้องตบรางวัลให้ภูผาหน่อยแล้ว

"ขะ…ขออภัยขอรับ ขออภัยขอรับท่านราชัน ได้โปรดไว้ชีวิตกระผม"

ก็แค่อัลฟ่าอาละวาดแท้ๆ ลูกน้องผมทั้งหมดก็เป็นอัลฟ่า เวลาอาละวาดไม่เห็นมีใครตื่นตูมแบบหมอนี่

โทษฐานที่ก่อความวุ่นวายโดยใช่เหตุ คงต้องให้ภูผายิงแขนไม่ก็ขาสักข้าง

"ทะ ท่านราชัน"

อัลฟ่าขาล้มพับลงไปคุกเข่า เขกหัวลงพื้นราวกับว่าโยนศักดิ์ศรีของความเป็นอัลฟ่าทิ้งไปหมดแล้ว ภูผาก็กำลังรอรับคำสั่ง ถ้าผมไม่ให้อภัยเขาก็จะลั่นไกทันที

"อะ อัลฟ่ายีนเด่นขอรับ”

"ภูผา" สิ้นคำบอดี้การ์ดคนสนิทก็เก็บอาวุธกลับเข้าไป

คนตัวสั่นก็ยังสั่นไม่หยุด แม้กระทั่งเสียงที่พูดต่อก็ยังสั่น “คนที่อาละวาดเป็นอัลฟ่ายีนเด่น เลยไม่มีใครหยุดเขาได้เลยขอรับ”

"หึ ก็แค่พวกกลายพันธุ์ ต่อให้เป็นยีนเด่นพิเศษก็แค่พวกสวะ"

ผมบ่นก่อนจะลุกเดิน ก้าวข้ามหัวไอ้คนไม่ได้เรื่องออกไป

โครม!

พอลงมาชั้นล่างก็เห็นผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งกำลังทำเรื่องไร้สาระปัญญาอ่อนอย่างการเอาโต๊ะใหญ่ๆ ทุ่มลงพื้น แววตาเป็นประกายสีน้ำเงิน

แบบนี้คลั่งชนิดไร้สติ300%

น่ารำคาญ

"เฮ้ย!" ผมตะโกนเรียกความสนใจจากเจ้าตัวน่ารำคาญ รอบข้างตกอยู่ในความเงียบทันที ก่อนผมจะเอ่ยบอก "ทุกคนปิดจมูก"

บอดี้การ์ดกับเด็กในร้านต่างพากันเอาสำลีที่เหน็บไว้ตามจุดต่างๆ ของร่างกายออกมาปิดปากทางหายใจของตัวเอง

ช่วยไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ไปบ่นกับยมบาลเอาเองแล้วกัน

ผมปล่อยฟีโรโมนพี่กักเก็บไว้ในยามปกติออกมา ทันใดนั้นอาณาเขตรอบข้างก็ปกคลุมไปด้วยควันสีม่วง ไอ้ตัวที่บอกว่าคลุ้มคลั่งน่ารำคาญนั่นสลบเหมือดลงไปอย่างไร้พิษสง

ทั้งที่กากขนาดนี้แท้ๆ

“น่าเบื่อ”

ไม่ใช่แค่คนที่อาละวาด แต่คนอื่นๆ ตั้งแต่หน้าประตูมาจนถึงในร้านแม้แต่คนที่อุดจมูกแล้วก็พากันสลบล้มพับ ผมเอือมระอากับภาพนี้เต็มทน

ตอนนี้คนที่ยังมีสติอยู่ภายในร้าน ก็เหลือแต่ผมกับภูผาเท่านั้น

"ดีนะครับที่ผมอุดจมูกทัน" ภูผาแอบบ่น เขาเดินตามลงมาสมทบทั้งที่รูจมูกสองข้างยังมีก้อนสีขาวๆ คาอยู่ แต่ก็ยังทำหน้าตาดูทึ่งนิดๆ “ท่านราชันโอเคไหมขอรับ”

"นี่แหละเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกพันธุ์แท้ถึงเหลือน้อย ถ้าได้เสียกับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตา ไม่ใช่แค่เด็กที่เกิดมาจะเป็นพวกกลายพันธุ์ แต่พลังอำนาจของฟีโรโมนตัวเองก็จะลดลง ต่อให้ตอนนั้นเจอคู่แห่งโชคชะตาก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้ว"

"กระผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อหาคนคนนั้นให้พบขอรับ ท่านราชันโปรดวางใจ ถ้าเป็นคำสั่งของท่านราชัน ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟหรือตัดแขนตัดขาคนคนนั้นกระผมก็จะลากตัวมาให้ได้"

ถ้าไม่มีกฎบ้าๆ นี่ละก็ ชีวิตผมคงไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้ บางทีถ้าหาตัวมันยาก การล้างบางพวกคนในอาณาจักรอาจจะง่ายกว่าก็ได้

“ถ้าวันหนึ่งฉันฆ่าคนสักล้านคนจะเป็นยังไงนะ”

…….

">

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ElGSi

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบียร์จะกินไวน์

เบียร์จะกินไวน์

นิยายวาย

5.0

ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

โรแมนติก

5.0

เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

นิยายวาย

5.0

เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ