หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!

หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!

ธีรเธียร

5.0
ความคิดเห็น
5.7K
ชม
20
บท

เรื่องราวความรักตามหน้าที่ของหญิงสาวตระกูลขุนนางใหญ่ที่ยอมลดศักดิ์ศรีแต่งงานกับผู้ที่ไม่ได้รักเพื่อครอบครัว แต่เรื่องราวการเสียสละเพื่อครอบครัวนั้นกลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะนางกลายเป็นหมากในกระดานเกมการเมืองที่หมดประโยชน์ ซึ่งย่อมถูกเขี่ยทิ้ง นางจะทำเช่นไรต่อไป ยืดหยัดในการแต่งงานที่ว่างเปล่าเพื่อศักดิ์ศรีและหน้าตาของวงศ์ตระกูล หรือพลิกเกมกระดานนี้ให้คว่ำ โดยไม่สนว่าใครจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

บทที่ 1 น้ำตาที่ไหลริน

สายลมหนาวแห่งวังหลวงพัดผ่านม่านหรูหราที่ประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมลวดลายวิจิตรบรรจง ม่านสีทองสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ยามเช้า ดูเหมือนเป็นสัญญาณแห่งความรุ่งเรืองที่องค์ชายรองจินเจิงจื่อปรารถนา หลังจากพิธีสมรสอันยิ่งใหญ่ระหว่างเขาและไป๋เสวี่ยหนี่ กาลเวลาผ่านไปได้ไม่นาน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนางกลับรู้สึกถึงความแปลกแยกและเงียบงันกว่าที่คาดไว้

ไป๋เสวี่ยหนี่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกเหมยของตำหนัก ความหนาวเย็นกระทบเข้ากับร่างกาย แต่จิตใจของนางกลับเย็นยะเยือกยิ่งกว่า แม้ว่านางจะได้รับการยกย่องในฐานะพระชายาขององค์ชายรอง แต่กลับไม่มีความสุขเลยในชีวิตหลังแต่งงาน สายตาของนางทอดยาวออกไปไกล ทอดตามเงาของต้นเหมยที่บานสะพรั่ง บานสะท้อนกับเกล็ดหิมะที่เพิ่งโปรยปรายลงมา ความเงียบสงบยามเช้านี้ช่างขัดกับความรู้สึกสับสนและหนักอึ้งในใจนาง

ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในฐานะชายาขององค์ชายรอง นางรู้สึกถึงความห่างเหินในความสัมพันธ์ ทั้ง ๆ ที่องค์ชายไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือละเลยอะไรนางเลย แต่ก็ชัดเจนว่าเขามองนางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมแห่งอำนาจ ท่ามกลางบรรดาผู้คนที่เขาต้องการควบคุมและบงการ

"พระชายาเพคะ…" เสียงเรียกจากแม่นมหลินปลุกนางออกจากความคิด นางเหลียวกลับไปหาผู้สูงวัยที่ยืนอยู่ด้านหลัง แม่นมหลินสังเกตเห็นความกังวลในแววตาของคุณหนูของนาง แม้บัดนี้นางจะเป็นพระชายาขององค์ชายรองแล้วก็ตาม แต่ท่าทีแห่งความห่วงใยของนางที่มีต่อไป๋เสวี่ยหนี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"ท่านแม่ทัพหลี่ได้รับตำแหน่งใหม่หรือไม่เจ้าคะ?" เสียงของแม่นมหลินถามอย่างอ้อม ๆ นางรู้ว่าไป๋เสวี่ยหนี่มักคิดถึงแม่ทัพหลี่อยู่เสมอ แม้ว่านางจะปิดบังความรู้สึกเอาไว้ก็ตาม

ไป๋เสวี่ยหนี่นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะตอบเสียงเบา "เขาคงอยู่ห่างไกลจากเรามากแล้ว… แต่หัวใจของข้า…กลับไม่อาจปล่อยวางได้เลย" นางยิ้มเศร้าและหันไปมองดอกเหมยที่กำลังร่วงหล่นอย่างเงียบงัน

แม่นมหลินเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะรู้ดีว่าความรู้สึกของไป๋เสวี่ยหนี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าจะคลายด้วยคำพูดง่าย ๆ

ในขณะที่ความเงียบปกคลุมไปทั่วสวน พระราชรถขององค์ชายรองได้เคลื่อนเข้ามายังตำหนัก สายตาของเหล่าข้าราชบริพารเฝ้าระวัง องค์ชายรองก้าวลงจากรถอย่างทรงอำนาจ ชุดคลุมสีทองเข้มที่ประดับด้วยลายมังกรขลิบเงินของเขายิ่งเน้นย้ำถึงตำแหน่งและอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน

"เสวี่ยหนี่ เจ้าอยู่ที่นี่เองหรือ?" เสียงของเขาดังกังวานและชัดเจน เขาเดินตรงเข้ามาหาภรรยาของตน โดยไม่ทันได้เห็นสายตาของนางที่พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไว้

"เพคะ ฝ่าบาท" เสวี่ยหนี่ลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทีนอบน้อม องค์ชายรองมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา รอยยิ้มบาง ๆ ของเขาไม่อาจซ่อนความจริงที่ว่า นางเป็นเพียงเครื่องมือที่สำคัญในแผนการของเขา

"ข้าได้รับข่าวจากพระราชาแล้ว อีกไม่นานเราจะได้รับตำแหน่งใหญ่ขึ้นในราชสำนัก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำหน้าที่พระชายาได้ดีเหมือนเช่นเคย" องค์ชายกล่าวเสียงเข้ม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการแสวงหาอำนาจ

ไป๋เสวี่ยหนี่พยักหน้ารับ "หม่อมฉันจะทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเพคะ"

"ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งที่เรากำลังทำ" องค์ชายรองย้ำด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเย็นชา ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้นางยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวอย่างโดดเดี่ยว

เมื่อไป๋เสวี่ยหนี่รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่สุด นางจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังจวนตระกูลไป๋ เพื่อเยี่ยมเยียนบิดามารดาของตน เมื่อมาถึงจวน นางได้พบกับไป๋เจิ้ง บิดาผู้มีอิทธิพลในราชสำนัก และเสวี่ยชุน มารดาผู้มีจิตใจอ่อนโยน เสวี่ยหนี่น้อมคำนับอย่างเคารพก่อนจะกล่าวทักทายบิดามารดาด้วยความคิดถึง

"ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกกลับมาเยี่ยมแล้วเจ้าค่ะ" เสียงนางสั่นเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาความสงบในแววตา

"เจ้าคงเหนื่อยมากสินะ" เสวี่ยชุนกล่าว พลางจับมือนางอย่างอบอุ่น

"มานั่งคุยกันก่อนสิ ลูกสาวพ่อ" ไป๋เจิ้งพูดพลางหันไปส่งสายตาสื่อความหมายให้เสวี่ยชุน เพื่อให้รู้ว่าเสวี่ยหนี่คงต้องการเวลาสนทนาอย่างจริงจัง

ระหว่างการสนทนา เสวี่ยหนี่ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ท่วมท้นภายในใจ ความอึดอัดจากชีวิตสมรสที่ไม่ได้เป็นอย่างที่นางคาดหวัง อีกทั้งนางเองก็รู้สึกว่านางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกระดานเกมการเมืองและอำนาจ

เมื่อทั้งไป๋เจิ้ง และไป๋เสวี่ยชุนได้ยินดังนั้นก็หันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะตัดสินใจเล่าเรื่องราวให้ลูกสาวของตนได้ฟัง

ในยามที่เสียงระฆังในวังหลวงดังแว่วไปทั่วบรรยากาศของราชสำนักก็เต็มไปด้วยความกดดัน ขุนนางและข้าราชบริพารต่างเดินกันไปมาอย่างเร่งรีบ ข่าวลือเกี่ยวกับอาการป่วยขององค์ชายใหญ่สะพัดไปทั่ว โดยเฉพาะในเหล่าตระกูลที่มีอำนาจทางการเมือง ซึ่งต่างก็เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ในตำหนักของตระกูลไป๋ ขุนนางที่มีอิทธิพลในราชสำนักอย่างไป๋เซี่ยเฉิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของไป๋เจิ้ง กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่อย่างเงียบขรึม สายตาของเขาทอดมองออกไปยังนอกหน้าต่าง พลางใช้ความคิดเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับ

“น้องสอง เซี่ยเฉิง ข่าวจากในวังเป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงของไป๋เจิ้งที่เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบงัน เขามองน้องชายด้วยความเป็นกังวล นับตั้งแต่การแต่งงานของลูกสาวกับองค์ชายรอง ลูกสาวของเขาก็ยิ่งถูกดึงเข้าสู่เกมการเมืองที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เขาเคยคิดไว้

ไป๋เซี่ยเฉิงหันมามองพี่ใหญ่ เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า “ข่าวที่ข้าได้รับนั้นไม่ดีเลย องค์ชายใหญ่ทรงประชวรหนัก และข้าเกรงว่าอาจจะไม่สามารถฝืนทนต่อไปได้อีกนาน”

แววตาของไป๋เจิ้งเต็มไปด้วยความกังวล “หากองค์ชายใหญ่สวรรคต… แล้วตำแหน่งองค์รัชทายาทจะเป็นของผู้ใดเล่า?”

ไป๋เซี่ยเฉิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ในเวลานี้ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าองค์ชายรอง จินเจิงจื่อ เขยใหญ่ของท่าน ในราชสำนักตอนนี้ต่างก็จับตาดูการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิ หากองค์ชายใหญ่สวรรคตเมื่อใด ราชสำนักจะต้องรีบแต่งตั้งองค์รัชทายาทคนใหม่ทันที และคนที่มีอิทธิพลที่สุดในตอนนี้ก็คือองค์ชายรอง”

ไป๋เจิ้งฟังด้วยความเคร่งเครียด เขารู้ดีว่าการแต่งงานของลูกสาวกับองค์ชายรองเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในเกมการเมืองนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าอำนาจในราชสำนักจะเคลื่อนตัวเร็วเช่นนี้

“ท่านพี่ใหญ่ควรระวังตนให้ดี และควรเตือนให้หลานเสวี่ยหนี่ต้องยิ่งระมัดระวังตัวให้มากขึ้น ยามนี้อำนาจที่เพิ่มพูนจะยิ่งทำให้ศัตรูเพิ่มขึ้น” ไป๋เซี่ยเฉิงเตือนด้วยความห่วงใย

“เราตระกูลไป๋ยังต้องพึ่งพาอำนาจขององค์ชายรองเพื่อรักษาตำแหน่งของเราในราชสำนัก แต่ก็ต้องระวังการตกเป็นเป้าของผู้ที่ไม่พอใจ”

ไป๋เจิ้งพยักหน้าช้า ๆ รับคำของน้องชายด้วยความหนักใจ

เมื่อทั้งเสวี่ยหนี่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกต่างตกอยู่ในความเงียบงันกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ธีรเธียร

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักนายสุดหื่น

ลิขิตรักนายสุดหื่น

รินธารา
5.0

เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

นางเอกสุดโหด

นางเอกสุดโหด

Ocean Blue
5.0

เธอเป็นหมอเก่งๆ ระดับสากล เป็นประธานของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด และผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีอันดับหนึ่ง... ไม่นานมานี้ เจี่ยนอู่ ผู้มีความสามารถแข็งแกร่งกลับปกปิดตัวตนของนางและแต่งงานกับชายหนุ่มยากจนคนหนึ่ง โดยไม่คาดคิดก่อนวันแต่งงาน คู่หมั้นของเธอกลายเป็นนายน้อยที่หายไปจากครอบครัวที่ร่ำรวย เขาไม่เพียงเสียใจกับการหมั้นหมายเท่านั้น แต่ยังปราบปรามและทำให้เธออับอายด้วยทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อความจริงถูกเปิดเผย อดีตคู่หมั้นของเธอตกตะลึง และขอร้องให้กลับมาคืนดีกัน ผู้คนใหญ่โตที่ร่ำรวยและน่านับถือคนหนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าเจี่ยนอู่ "นี่คือภรรยาของผม ใครกล้าหวังกับเธอ"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!
1

บทที่ 1 น้ำตาที่ไหลริน

21/10/2024

2

บทที่ 2 ไม่อยากได้ยินคำหลอกลวง

21/10/2024

3

บทที่ 3 พื้นที่หวงคำต้องห้าม

21/10/2024

4

บทที่ 4 อย่าทวงถามคำสัญญา

21/10/2024

5

บทที่ 5 มาทวงสิ่งที่เป็นของตน

21/10/2024

6

บทที่ 6 สับสนในความรู้สึก

21/10/2024

7

บทที่ 7 นึกถึงอดีตที่ไม่อาจย้อนคืนมา

21/10/2024

8

บทที่ 8 เจรจาเปลี่ยนสถานการณ์

21/10/2024

9

บทที่ 9 สายป่านผูกสัมพันธ์

21/10/2024

10

บทที่ 10 น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน

21/10/2024

11

บทที่ 11 หัวใจอ่อนอ่อนกลับแข็งกว่าที่คิด

21/10/2024

12

บทที่ 12 ความผิดที่ไม่ได้ทำ

21/10/2024

13

บทที่ 13 กรรมที่จำต้องก่อ

21/10/2024

14

บทที่ 14 แผนต่อแผน

21/10/2024

15

บทที่ 15 แค้นฝังหุ่น

21/10/2024

16

บทที่ 16 ลุ้นแผนร้ายให้พ่ายแพ้

21/10/2024

17

บทที่ 17 ความเที่ยงแท้ในหัวใจ

21/10/2024

18

บทที่ 18 เกมการเมืองเปลี่ยนไปจากการคว่ำกระดาน

21/10/2024

19

บทที่ 19 ผ่านชีวิตเพื่อให้ได้พบ

21/10/2024

20

บทที่ 20 จบด้วยความเข้าใจ

21/10/2024