หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!

หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!

ธีรเธียร

5.0
ความคิดเห็น
5.8K
ชม
20
บท

เรื่องราวความรักตามหน้าที่ของหญิงสาวตระกูลขุนนางใหญ่ที่ยอมลดศักดิ์ศรีแต่งงานกับผู้ที่ไม่ได้รักเพื่อครอบครัว แต่เรื่องราวการเสียสละเพื่อครอบครัวนั้นกลับกลายเป็นฝันร้าย เพราะนางกลายเป็นหมากในกระดานเกมการเมืองที่หมดประโยชน์ ซึ่งย่อมถูกเขี่ยทิ้ง นางจะทำเช่นไรต่อไป ยืดหยัดในการแต่งงานที่ว่างเปล่าเพื่อศักดิ์ศรีและหน้าตาของวงศ์ตระกูล หรือพลิกเกมกระดานนี้ให้คว่ำ โดยไม่สนว่าใครจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

บทที่ 1 น้ำตาที่ไหลริน

สายลมหนาวแห่งวังหลวงพัดผ่านม่านหรูหราที่ประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมลวดลายวิจิตรบรรจง ม่านสีทองสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ยามเช้า ดูเหมือนเป็นสัญญาณแห่งความรุ่งเรืองที่องค์ชายรองจินเจิงจื่อปรารถนา หลังจากพิธีสมรสอันยิ่งใหญ่ระหว่างเขาและไป๋เสวี่ยหนี่ กาลเวลาผ่านไปได้ไม่นาน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนางกลับรู้สึกถึงความแปลกแยกและเงียบงันกว่าที่คาดไว้

ไป๋เสวี่ยหนี่กำลังนั่งอยู่ในสวนดอกเหมยของตำหนัก ความหนาวเย็นกระทบเข้ากับร่างกาย แต่จิตใจของนางกลับเย็นยะเยือกยิ่งกว่า แม้ว่านางจะได้รับการยกย่องในฐานะพระชายาขององค์ชายรอง แต่กลับไม่มีความสุขเลยในชีวิตหลังแต่งงาน สายตาของนางทอดยาวออกไปไกล ทอดตามเงาของต้นเหมยที่บานสะพรั่ง บานสะท้อนกับเกล็ดหิมะที่เพิ่งโปรยปรายลงมา ความเงียบสงบยามเช้านี้ช่างขัดกับความรู้สึกสับสนและหนักอึ้งในใจนาง

ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในฐานะชายาขององค์ชายรอง นางรู้สึกถึงความห่างเหินในความสัมพันธ์ ทั้ง ๆ ที่องค์ชายไม่ได้มีท่าทีรังเกียจหรือละเลยอะไรนางเลย แต่ก็ชัดเจนว่าเขามองนางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมแห่งอำนาจ ท่ามกลางบรรดาผู้คนที่เขาต้องการควบคุมและบงการ

"พระชายาเพคะ…" เสียงเรียกจากแม่นมหลินปลุกนางออกจากความคิด นางเหลียวกลับไปหาผู้สูงวัยที่ยืนอยู่ด้านหลัง แม่นมหลินสังเกตเห็นความกังวลในแววตาของคุณหนูของนาง แม้บัดนี้นางจะเป็นพระชายาขององค์ชายรองแล้วก็ตาม แต่ท่าทีแห่งความห่วงใยของนางที่มีต่อไป๋เสวี่ยหนี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

"ท่านแม่ทัพหลี่ได้รับตำแหน่งใหม่หรือไม่เจ้าคะ?" เสียงของแม่นมหลินถามอย่างอ้อม ๆ นางรู้ว่าไป๋เสวี่ยหนี่มักคิดถึงแม่ทัพหลี่อยู่เสมอ แม้ว่านางจะปิดบังความรู้สึกเอาไว้ก็ตาม

ไป๋เสวี่ยหนี่นิ่งไปชั่วขณะก่อนจะตอบเสียงเบา "เขาคงอยู่ห่างไกลจากเรามากแล้ว… แต่หัวใจของข้า…กลับไม่อาจปล่อยวางได้เลย" นางยิ้มเศร้าและหันไปมองดอกเหมยที่กำลังร่วงหล่นอย่างเงียบงัน

แม่นมหลินเห็นเช่นนั้นก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะรู้ดีว่าความรู้สึกของไป๋เสวี่ยหนี่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนเกินกว่าจะคลายด้วยคำพูดง่าย ๆ

ในขณะที่ความเงียบปกคลุมไปทั่วสวน พระราชรถขององค์ชายรองได้เคลื่อนเข้ามายังตำหนัก สายตาของเหล่าข้าราชบริพารเฝ้าระวัง องค์ชายรองก้าวลงจากรถอย่างทรงอำนาจ ชุดคลุมสีทองเข้มที่ประดับด้วยลายมังกรขลิบเงินของเขายิ่งเน้นย้ำถึงตำแหน่งและอำนาจที่เพิ่มพูนขึ้นทุกวัน

"เสวี่ยหนี่ เจ้าอยู่ที่นี่เองหรือ?" เสียงของเขาดังกังวานและชัดเจน เขาเดินตรงเข้ามาหาภรรยาของตน โดยไม่ทันได้เห็นสายตาของนางที่พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไว้

"เพคะ ฝ่าบาท" เสวี่ยหนี่ลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทีนอบน้อม องค์ชายรองมองนางด้วยสายตาที่เย็นชา รอยยิ้มบาง ๆ ของเขาไม่อาจซ่อนความจริงที่ว่า นางเป็นเพียงเครื่องมือที่สำคัญในแผนการของเขา

"ข้าได้รับข่าวจากพระราชาแล้ว อีกไม่นานเราจะได้รับตำแหน่งใหญ่ขึ้นในราชสำนัก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องทำหน้าที่พระชายาได้ดีเหมือนเช่นเคย" องค์ชายกล่าวเสียงเข้ม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการแสวงหาอำนาจ

ไป๋เสวี่ยหนี่พยักหน้ารับ "หม่อมฉันจะทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเพคะ"

"ดี ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจถึงความสำคัญของสิ่งที่เรากำลังทำ" องค์ชายรองย้ำด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเย็นชา ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้นางยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวอย่างโดดเดี่ยว

เมื่อไป๋เสวี่ยหนี่รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่สุด นางจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังจวนตระกูลไป๋ เพื่อเยี่ยมเยียนบิดามารดาของตน เมื่อมาถึงจวน นางได้พบกับไป๋เจิ้ง บิดาผู้มีอิทธิพลในราชสำนัก และเสวี่ยชุน มารดาผู้มีจิตใจอ่อนโยน เสวี่ยหนี่น้อมคำนับอย่างเคารพก่อนจะกล่าวทักทายบิดามารดาด้วยความคิดถึง

"ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกกลับมาเยี่ยมแล้วเจ้าค่ะ" เสียงนางสั่นเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาความสงบในแววตา

"เจ้าคงเหนื่อยมากสินะ" เสวี่ยชุนกล่าว พลางจับมือนางอย่างอบอุ่น

"มานั่งคุยกันก่อนสิ ลูกสาวพ่อ" ไป๋เจิ้งพูดพลางหันไปส่งสายตาสื่อความหมายให้เสวี่ยชุน เพื่อให้รู้ว่าเสวี่ยหนี่คงต้องการเวลาสนทนาอย่างจริงจัง

ระหว่างการสนทนา เสวี่ยหนี่ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ท่วมท้นภายในใจ ความอึดอัดจากชีวิตสมรสที่ไม่ได้เป็นอย่างที่นางคาดหวัง อีกทั้งนางเองก็รู้สึกว่านางเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในกระดานเกมการเมืองและอำนาจ

เมื่อทั้งไป๋เจิ้ง และไป๋เสวี่ยชุนได้ยินดังนั้นก็หันมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ ก่อนที่จะตัดสินใจเล่าเรื่องราวให้ลูกสาวของตนได้ฟัง

ในยามที่เสียงระฆังในวังหลวงดังแว่วไปทั่วบรรยากาศของราชสำนักก็เต็มไปด้วยความกดดัน ขุนนางและข้าราชบริพารต่างเดินกันไปมาอย่างเร่งรีบ ข่าวลือเกี่ยวกับอาการป่วยขององค์ชายใหญ่สะพัดไปทั่ว โดยเฉพาะในเหล่าตระกูลที่มีอำนาจทางการเมือง ซึ่งต่างก็เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

ในตำหนักของตระกูลไป๋ ขุนนางที่มีอิทธิพลในราชสำนักอย่างไป๋เซี่ยเฉิง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายของไป๋เจิ้ง กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่อย่างเงียบขรึม สายตาของเขาทอดมองออกไปยังนอกหน้าต่าง พลางใช้ความคิดเกี่ยวกับข่าวที่ได้รับ

“น้องสอง เซี่ยเฉิง ข่าวจากในวังเป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงของไป๋เจิ้งที่เดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบงัน เขามองน้องชายด้วยความเป็นกังวล นับตั้งแต่การแต่งงานของลูกสาวกับองค์ชายรอง ลูกสาวของเขาก็ยิ่งถูกดึงเข้าสู่เกมการเมืองที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เขาเคยคิดไว้

ไป๋เซี่ยเฉิงหันมามองพี่ใหญ่ เขาถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า “ข่าวที่ข้าได้รับนั้นไม่ดีเลย องค์ชายใหญ่ทรงประชวรหนัก และข้าเกรงว่าอาจจะไม่สามารถฝืนทนต่อไปได้อีกนาน”

แววตาของไป๋เจิ้งเต็มไปด้วยความกังวล “หากองค์ชายใหญ่สวรรคต… แล้วตำแหน่งองค์รัชทายาทจะเป็นของผู้ใดเล่า?”

ไป๋เซี่ยเฉิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ในเวลานี้ ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าองค์ชายรอง จินเจิงจื่อ เขยใหญ่ของท่าน ในราชสำนักตอนนี้ต่างก็จับตาดูการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิ หากองค์ชายใหญ่สวรรคตเมื่อใด ราชสำนักจะต้องรีบแต่งตั้งองค์รัชทายาทคนใหม่ทันที และคนที่มีอิทธิพลที่สุดในตอนนี้ก็คือองค์ชายรอง”

ไป๋เจิ้งฟังด้วยความเคร่งเครียด เขารู้ดีว่าการแต่งงานของลูกสาวกับองค์ชายรองเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในเกมการเมืองนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าอำนาจในราชสำนักจะเคลื่อนตัวเร็วเช่นนี้

“ท่านพี่ใหญ่ควรระวังตนให้ดี และควรเตือนให้หลานเสวี่ยหนี่ต้องยิ่งระมัดระวังตัวให้มากขึ้น ยามนี้อำนาจที่เพิ่มพูนจะยิ่งทำให้ศัตรูเพิ่มขึ้น” ไป๋เซี่ยเฉิงเตือนด้วยความห่วงใย

“เราตระกูลไป๋ยังต้องพึ่งพาอำนาจขององค์ชายรองเพื่อรักษาตำแหน่งของเราในราชสำนัก แต่ก็ต้องระวังการตกเป็นเป้าของผู้ที่ไม่พอใจ”

ไป๋เจิ้งพยักหน้าช้า ๆ รับคำของน้องชายด้วยความหนักใจ

เมื่อทั้งเสวี่ยหนี่ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากยิ่งขึ้น ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกต่างตกอยู่ในความเงียบงันกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ธีรเธียร

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้านายคนไหน ใครรู้บอกที

เจ้านายคนไหน ใครรู้บอกที

Lloyd Perold
4.9

"เขาลือกันว่าคู่หมั้นของคุณฮั่วเป็นคนบ้านนอก ไม่มีการศึกษาและแถมยังหน้าตาขี้เหร่ซะอีก"เมื่อซูฉิงปรากฏตัวอยู่ ในงานเลี้ยง ทุกคนในงานล้วนตกตะลึงไปหมด! "พระเจ้า ขี้เหร่ซะทีไหน!" "ได้ข่าวว่าราชาภาพยนตร์เป็นน้องของเธอด้วย" "พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับแรกของโลกเลยนะ" "leo นักออกแบบหญิงที่ลึกลับคนนั้นก็คือเธอ!" เมื่อตัวจริงของเธอค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ทุกคนพากันตกตะลึงไปหมด แต่แล้วก็เป็นเป็นไง ฮั่วหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอสักหน่อย ในวันเดียวกัน ฮั่วซื่อ กรุ๊ปก็โพสต์ข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า"เราสองคนรักกันมาก และกำลังเตรียมจะแต่งงาน" คนภายนอก:"......!!!"

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

Hyatt Bamberg
5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

Casey Haag
5.0

ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หย่ากับข้าเถอะ องค์ชายรอง!
1

บทที่ 1 น้ำตาที่ไหลริน

21/10/2024

2

บทที่ 2 ไม่อยากได้ยินคำหลอกลวง

21/10/2024

3

บทที่ 3 พื้นที่หวงคำต้องห้าม

21/10/2024

4

บทที่ 4 อย่าทวงถามคำสัญญา

21/10/2024

5

บทที่ 5 มาทวงสิ่งที่เป็นของตน

21/10/2024

6

บทที่ 6 สับสนในความรู้สึก

21/10/2024

7

บทที่ 7 นึกถึงอดีตที่ไม่อาจย้อนคืนมา

21/10/2024

8

บทที่ 8 เจรจาเปลี่ยนสถานการณ์

21/10/2024

9

บทที่ 9 สายป่านผูกสัมพันธ์

21/10/2024

10

บทที่ 10 น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน

21/10/2024

11

บทที่ 11 หัวใจอ่อนอ่อนกลับแข็งกว่าที่คิด

21/10/2024

12

บทที่ 12 ความผิดที่ไม่ได้ทำ

21/10/2024

13

บทที่ 13 กรรมที่จำต้องก่อ

21/10/2024

14

บทที่ 14 แผนต่อแผน

21/10/2024

15

บทที่ 15 แค้นฝังหุ่น

21/10/2024

16

บทที่ 16 ลุ้นแผนร้ายให้พ่ายแพ้

21/10/2024

17

บทที่ 17 ความเที่ยงแท้ในหัวใจ

21/10/2024

18

บทที่ 18 เกมการเมืองเปลี่ยนไปจากการคว่ำกระดาน

21/10/2024

19

บทที่ 19 ผ่านชีวิตเพื่อให้ได้พบ

21/10/2024

20

บทที่ 20 จบด้วยความเข้าใจ

21/10/2024