Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง

แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง

สิบห้ากันยาราศีสิงห์

5.0
ความคิดเห็น
2.6K
ชม
29
บท

ชาตินี้เสียลูกและสามี พอได้เกิดใหม่อีกทีขอเลี้ยงดูเจ้าให้ดีที่สุด นภาเสียชีวิตและได้ไปเกิดใหม่ในร่างของหลินเสี่ยวเหยา จิตใจที่โศกเศร้าของเธอ จะได้รับการเยียวยาหรือไม่ ต้องติดตาม

บทที่ 1 สูญเสีย

บรรยากาศเศร้าสร้อย และเสียงร้องไห้ที่เปล่งออกมาราวกับว่าคนร้องกำลังจะขาดใจนั้น สร้างความหดหู่ให้กับผู้คนที่พบเจอเป็นอย่างมาก

ก็แน่ล่ะเป็นใครก็ต้องร้องไห้แทบขาดใจทั้งนั้น ถ้าหากว่าได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพร้อมกันถึงสองคน

‘นภา’ หญิงสาววัยสามสิบปียืนมองขึ้นไปบนเมรุเผาศพด้วยสายตาที่ฝ้าฟางเพราะว่าน้ำตามันเอ่อล้นออกมา ซึ่งในนั้นมีร่างที่ไร้วิญญาณของสามีและลูกชายวัยสี่ขวบของเธอนอนแน่นิ่งอยู่

และตอนนี้เปลวไปสีเหลืองส้มกำลังลามเลียและเริ่มเผาไหม้ร่างกายของคนทั้งสองให้มอดไหม้ไป และสุดท้ายก็คงจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกเพียงเท่านั้น

“ฮือ ๆๆๆ”

นภาร้องไห้ออกมาเสียงดังจนพี่เจนเพื่อนข้างบ้านต้องเข้าไปกอดปลอบ

“ทำใจเถอะนะ ทั้งสองคนทำบุญมาแค่นี้”

“แล้วหนูจะอยู่ยังไงล่ะคะพี่เจน ? ทั้งชีวิตนี้ก็มีแค่เขาสองคนเท่านั้น”

นภาพูดออกมาพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น เธอเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้มาพบรักกับผู้เป็นสามี

เธอกับสามีได้แต่งงานและมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ซึ่งลูกชายของเธอก็เพิ่งจะฉลองวันเกิดครบสี่ขวบไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ดูเหมือนว่าชีวิตของนภาก็มีความสุขดี สามีของเธอก็รักและเอาใจใส่เธอดี ลูกชายของเธอก็น่ารัก กำลังจ้ำม่ำและฉลาดเฉลียว

แต่ทว่าความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน เพราะเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนนั้น สามีของนภาได้พาลูกชายไปหัดปั่นจักรยานที่ถนนหน้าบ้าน โชคร้ายมีคนเมาแล้วขับ ขับรถพุ่งชนสามีและลูกชายของเธอจนเสียชีวิตคาที่

ในตอนนั้นเธอที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวได้ยินเสียงดังสนั่น จึงได้รีบวิ่งออกมาดู และพอเห็นร่างของลูกชายและสามี ก็แทบล้มทั้งยืน

“ต้องอยู่ได้สิ”

พี่เจนพูดพูดปลอบนภา แล้วก็ประคองพาร่างบอบบางให้เข้าไปในศาลาเพื่อฟังพระสวด พี่เจนเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดคำไหนเหมือนกัน ถ้าอยู่ในสถานการณ์เหมือนเช่นนี้ เธอเองก็คงจะสติแตกเช่นเดียวกัน

หลังจากงานศพของสามีและลูกชายผ่านพ้นไป นภาก็ยังทำใจไม่ได้ เธอเอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้าน ไม่ยอมออกไปทำงาน ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน

“นภา ๆ !”

เสียงพี่เจนมาตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน นภาที่นอนซมอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ ในมือกอดรูปถ่ายของสามีและลูกเอาไว้ วางรูปถ่ายลงบนโต๊ะ แล้วจึงได้ลุกขึ้นและเดินโซเซออกไปหาคนที่มาตะโกนเรียก

“นภา พี่มาชวนไปกินข้าว”

“ไม่เป็นไรพี่ นภาไม่หิว”

พี่เจนเป็นห่วงเพราะเห็นว่าตั้งแต่เสร็จจากงานศพของสามีและลูกของนภา เธอก็ไม่ยอมออกจากบ้านเลย

“ไปเถอะนะ วันนี้แม่พี่เขาทำขนมจีนน้ำยา แกบอกให้มาชวน”

พี่เจนไม่ฟังคำปฏิเสธของนภา แต่ว่าได้คว้าแขนของเธอและลากจูงออกมาจากบ้าน แล้วก็พาเธอเดินตรงไปที่บ้านของตัวเอง

ร่างบอบบางไม่อยากไปแต่ก็สู้แรงของพี่เจนไม่ได้ จึงจำต้องยอมเดินเข้าไปในบ้านหลังข้าง ๆ

“นั่งตรงนี้ เดี๋ยวพี่ไปเอาขนมจีนน้ำยามาให้กิน”

พี่เจนบอกให้เธอนั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่อยู่หน้าบ้าน ก่อนที่ตัวเองจะเดินหายเข้าไปในห้องครัว

นภามองไปที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของพี่เจน ความทรงจำเกี่ยวกับลูกชายและสามีก็กลับมาอีกครั้ง

“แม่จ๋า หนูรักแม่จังเลย”

“แม่ก็รักหนูจ้ะ”

เด็กน้อยเดินเข้ามากอดแม่ แล้วก็จุ๊บแก้มซ้ายขวาข้างละที

“นั่นแน่ จุ๊บแต่แม่เหรอ ?”

เสียงของผู้เป็นพ่อพูดออกมา เด็กน้อยจึงผละออกจากอ้อมกอดของแม่ กระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของพ่อแทน

ร่างสูงนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของเด็กน้อย เด็กน้อยจึงคว้าคอของพ่อเอาไว้ แล้วก็จูบแก้มซ้ายขวาของพ่อข้างละที เพราะกลัวว่าพ่อจะน้อยใจ

นภาเดินเข้าไปกอดสองพ่อลูกเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วทั้งสามคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

“ได้แล้วจ้า ขนมจีนน้ำยาสุดอร่อย”

พี่เจนถือจานขนมจีนมาวางไว้ตรงหน้าของนภา กลิ่นของน้ำยาปลาทู ลอยมาแตะจมูกของเธอทันที

“น่าทานจัง”

พึมพำออกมา แต่ว่าก็ยังไม่ยอมหยิบช้อนกับส้อม

“น่าทานก็ทานซะหน่อยสิ อร่อยมากเลยนะแม่พี่ทำสุดฝีมือเลย เพราะแกรู้ว่านภาชอบ”

พี่เจนคะยั้นคะยอ นภาจึงหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมา ตักขนมจีนน้ำยาเข้าปากไปหนึ่งคำ แต่พอปลายลิ้นสัมผัสกับรสชาดของมัน เธอก็ร้องไห้ออกมา

“ฮือ ๆๆๆ”

พี่เจนรีบเข้าไปกอดปลอบใจ ร่างบอบบางนั้นร้องไห้จนไหล่ไหวสะท้าน

‘ไม่น่าเลยกรู’

พี่เจนคิดในใจ เพราะลืมนึกไปว่าขนมจีนน้ำยาแบบนี้นอกจากนภาจะชอบทานแล้ว สามีของนภาก็ชอบทานด้วย นี่เธอไปสะกิดต่อมความทรงจำของคนสูญเสียอีกแล้ว

นภาฝืนทานขนมจีนจานนั้นไปได้สองสามคำเธอก็อิ่ม และขอตัวกลับ ในเมื่อรั้งไว้ไม่ได้พี่เจนจึงเดินไปส่งเธอที่บ้าน

“มีอะไรก็เรียกนะ หรือโทรก็ได้”

พี่เจนบอกกำชับกับนภาก่อนที่จะเดินกลับบ้านของตัวเอง ในใจก็นึกเป็นห่วงเพราะกลัวว่านภาจะคิดสั้น

นภากลับมานอนซมที่โซฟาตัวเดิมแล้วก็กอดรูปถ่ายของสามีและลูกเอาไว้เช่นเดิม น้ำตาไหลลงมาข้างแก้ม เธอนอนร้องไห้แบบนั้นอยู่นานจนผล็อยหลับไป

นภาตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึก ภายในบ้านมืดสนิท เพราะว่าก่อนที่เธอจะหลับไป เธอไม่ได้เปิดไฟ

อาการปวดหัวแล่นเข้าเล่นงานเธอทันที คงจะมาจากการที่เธอร้องไห้อย่างหนักนั่นเอง นภาจึงลุกขึ้นเปิดไฟ เดินตรงไปที่ตู้ยาสามัญประจำบ้านเพื่อหายาแก้ปวดมาทาน

“แม่จ๋า แม่คิดถึงหนูมั้ย ?”

เสียงเล็ก ๆ แว่วมาจากที่ไกลแสนไกล นภามองซ้ายมองขวา แล้วก็พึมพำออกมาเบา ๆ

“คิดถึงสิ แม่คิดถึงหนูมาก”

พลางควานหากระปุกยาแก้ปวดในตู้ยาไปด้วย ในตอนนี้เธอปวดหัวมากจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ แล้วในที่สุดเธอก็เจอกระปุกยาแก้ปวด

“นภากินให้หมดเลยนะ จะได้หายทรมาน”

เสียงห้าวทุ้มกระซิบที่ข้างหูของเธอ นภาจำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นเสียงของสามีของเธอนั่นเอง

“ได้จ้ะพี่”

เธอพึมพำตอบเสียงนั้นไป แล้วก็เปิดฝากระปุกยา เทยาเม็ดสีขาวลงมาเต็มอุ้งมือ ก่อนที่จะนำมันเข้าไปในปากทั้งหมด เดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นและดื่มน้ำในขวด

นภาเดินกลับไปที่โซฟา และล้มตัวลงนอน คว้ารูปถ่ายของสามีกับลูกชายมากอดเอาไว้เช่นเดิม แล้วเธอก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับไปอีกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สิบห้ากันยาราศีสิงห์

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

 ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ผลิกา(เลอบัว)
4.8

เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

Nichole Venzo
5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

ภรรยากระดูกเหล็ก

ภรรยากระดูกเหล็ก

Kaleb Mugnai
4.9

[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
แม่ผู้โศกเศร้า จะดูแลเจ้าเอง
1

บทที่ 1 สูญเสีย

06/02/2025

2

บทที่ 2 ร่างใหม่

06/02/2025

3

บทที่ 3 จางจ้าวเหวิน

06/02/2025

4

บทที่ 4 จางเหวินชิง

06/02/2025

5

บทที่ 5 เล่านิทาน

06/02/2025

6

บทที่ 6 แม่ผู้อ่อนโยน

06/02/2025

7

บทที่ 7 เปลี่ยนไปเพียงชั่วข้ามคืน

06/02/2025

8

บทที่ 8 คุณย่าทวด

06/02/2025

9

บทที่ 9 ถกเถียง

06/02/2025

10

บทที่ 10 คุณย่าโมโห

06/02/2025

11

บทที่ 11 ผู้หญิงเจ้ามารยา

06/02/2025

12

บทที่ 12 ตุ้ยนุ้ยไม่สบาย

06/02/2025

13

บทที่ 13 เข้าใจผิด

06/02/2025

14

บทที่ 14 หลักฐาน

06/02/2025

15

บทที่ 15 หย่า

06/02/2025

16

บทที่ 16 ผลแล็ปออกมาแล้ว

06/02/2025

17

บทที่ 17 เรื่องราวแห่งความหลัง

06/02/2025

18

บทที่ 18 ถูกจับตัวไป

06/02/2025

19

บทที่ 19 ใจวูบโหวง

06/02/2025

20

บทที่ 20 เรียกค่าไถ่

06/02/2025

21

บทที่ 21 รู้ได้ไง

07/02/2025

22

บทที่ 22 ความลับของหลินเสี่ยวเหยา

07/02/2025

23

บทที่ 23 หนูคือดวงใจของแม่

07/02/2025

24

บทที่ 24 ความจริงเปิดเผย

07/02/2025

25

บทที่ 25 ความจริงเปิดเผย (ต่อ)

07/02/2025

26

บทที่ 26 จะเป็นยังไงต่อไป

07/02/2025

27

บทที่ 27 ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง

07/02/2025

28

บทที่ 28 กิจกรรมครอบครัว

07/02/2025

29

บทที่ 29 บทสุดท้าย

07/02/2025