Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
ชม
5
บท

เพราะความตายเมื่อครั้งยังเยาว์ นำพาเขาให้ต้องมารับหน้าที่อะไรบางอย่าง ?

บทที่ 1 เพราะอะไร

เช้าวันนี้ท้องฟ้าอึมครึม สายลมเย็น ๆ พัดมากระทบใบหน้าของเขาเป็นระยะ ๆ ถ้าหากคาดไม่ผิด อีกไม่นานฝนคงเทกระหน่ำลงมาแน่ ๆ อากาศในช่วงนี้มันช่างวิปริตจริง ๆ วิปริตเหมือนใจของคนหลาย ๆ คน

'ภูมิ' ชายหนุ่มอายุ 30 ปี รีบพาร่างสูง 180 เซ็นติเมตรเดินเข้าไปในสำนักงานนักสืบเอกชนแห่งหนึ่ง เขาขยับแว่นสายตาและรีบก้าวขาให้เร็วขึ้น เมื่อเขามองเห็น 'ผู้ว่าจ้าง' ของเขานั่งอยู่หลังเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ ภูมิรีบทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

"เป็นไงบ้างช่วงนี้ คดีที่ให้ไปสืบ คืบหน้าไปถึงใหนแล้ว"

เจ้าของสำนักงานนักสืบแห่งนี้หรือผู้ว่าจ้างของภูมิเอ่ยถามเขาทันทีที่ตูดของเขาแตะเก้าอี้ ภูมิขยับแว่นสายตาอีกครั้งก่อนตอบคำถามเขาคนนั้น

"ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เงียบเหมือนป่าช้า"

"จากความสามารถของนายไม่น่าจะยากนะ"

"ไม่ใช่ว่ามันยากแต่ยังไม่มีอารมณ์"

ภูมิตอบกลับไปอย่างไม่ยี่หระ และทำท่าจะลุกขึ้น แต่ 'ผู้ว่าจ้าง' ของเขาโบกมือเป็นเชิงห้าม เขาจึงทรุดลงนั่งอีกรอบ

"ระวังตัวด้วย โรคเก่ากำเริบถี่ขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ"

เมื่อเขาพูดจบภูมิก็ลุกขึ้นและเดินออกมาจากสถานที่แห่งนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินออกมาพ้นชายคา ภาพเบื้องหลังของภูมิก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ไม่เหลือสภาพของสำนักงานที่ดูดี สะอาดสะอ้าน แห่งนั้นอีก กลับกันมันกลับกลายสภาพเป็นเหมือนสำนักงานร้าง ๆ ที่ไม่น่าจะมีคนอาศัยอยู่ได้เลย

ภูมิค่อนข้างหัวเสียเล็กน้อย แค่เตือนเขาให้ระวังตัวถึงกับต้องให้เขาถ่อสังขารมาหาถึงที่นี่ โทรไปบอกหรือไม่ก็ไลน์ไปก็ได้ ทำตัวเป็นพวกโลว์เทคโนโลยี่ไปได้ ทั้งที่ตัวเองก็อยู่บนโลกนี้มาตั้งไม่รู้กี่ร้อยกี่พันปีแล้ว น่าจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของโลกยุคนี้บ้าง รู้บ้างสิว่าการเดินทางมันมีค่าใช้จ่าย กี่ครั้งแล้วที่เขาทำงานให้แต่ค่าจ้างไม่คุ้มกับงานที่ทำเลย ไปหาน้อง ๆ หนู ๆ ที่สถานที่อโคจรก็หมดแล้ว

ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนจากข้อความของโทรศัพท์ ภูมิจึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเปิดดู

'ยอดเงินในบัญชีของคุณมี 500,789.99 บาท'

ให้มันได้อย่างนี้สิ เงินถึง งานก็เดิน ฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อ ขยับแว่นสายตา ขึ้นคร่อมมอร์เตอร์ไซค์ฮอนด้าสตรีท 400 สวมหมวกกันน็อคและขับออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว แวะตู้ ATM กดเงินไปใช้เล่น ๆ ซะหน่อยสักแสน

"สวัสดีครับพระคุณเจ้า"

ภูมินั่งคุกเข่าอยู่หน้ากุฏของพระสงฆ์รูปหนึ่งอย่างสำรวม

"โยม..ภูมิ ไม่เจอเป็นเดือน งานยุ่งหรือ โยมแม่เป็นอย่างไรบ้าง"

"ก็เรื่อย ๆ ครับพระคุณเจ้า แม่สบายดี ตอนนี้อยู่ที่เกาหลี แม่เป็นเมนลิซ่า พระคุณเจ้าก็น่าจะรู้"

จะว่าไปก็คิดถึงแม่เหมือนกันนะเนี่ย ไม่เจอเป็นเดือนแล้ว

"คราวนี้บริจาคเท่าไหร่ล่ะ รีเควสไว้ได้เลยว่าจะให้เอาไปทำอะไรบ้าง"

"รอบนี้เจ้านายใจป้ำ ผมโอนให้พระคุณเจ้าสองแสนครับ"

เจ้านายที่ภูมิหมายถึงก็คือ 'ผู้ว่าจ้าง' คนนั้นนั่นเอง

"อืม เดี๋ยวขึ้น 15 ค่ำรอบนี้ อาตมาจะรีบจัดการให้ จะให้ใครเป็นพิเศษไหม"

"ไม่ล่ะครับ พวกเขาพิเศษสำหรับผมทุกตน เอ๊ยทุกคน"

อยู่คุยกับพระคุณเจ้าได้สักพัก ภูมิก็ขอตัว ขับมอร์เตอร์ไซค์คู่ใจกินลมชมวิวไปเรื่อย ๆ มองวิวสองข้างทางอย่างสบายอารมณ์ ลมพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วฝนก็กระหน่ำตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาจึงพารถคู่ใจแวะจอดที่ศาลาพักรถข้างทาง

"ขอหลบฝนหน่อยนะครับคุณตาคุณยาย"

ภูมิเอ่ยขออนุญาติสองตายายที่นั่งอยู่ในศาลา พร้อมกับถอดหมวกกันน็อคและถอดแว่นสายตาออกมาเช็ดไปด้วย ชำเลืองหางตามองสองตายายที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง พอแว่นแห้งและสะอาดดีแล้วเขาก็รีบสวมแว่น ภาพภายใต้แว่นสายตาก็สดใสขึ้นทันที ยิ้มให้สองตายายอีกครั้ง แล้วก็ก้มหน้าเขี่ยโทรศัพท์

เกือบชั่วโมงฝนจึงเริ่มซาเม็ดลง ภูมิจึงเดินออกมาจากศาลาและโบกมือให้สองตายายที่ตอนนี้ทั้งสองขึ้นไปนั่งห้อยขาอยู่บนหลังคา

เสียงท้องของภูมิร้องจ๊อก ๆ เขาจึงรีบบิดคันเร่งมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาด ไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำดีกว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้องจริง ๆ

"คุณตาครับ คุณตาไปกับผมไม่ได้นะครับ"

พูดกับกระจกส่องหลังเสียงเข้ม

"ไม่ดื้อนะครับ แล้วผมจะจัดการให้"

จบคำพูดของภูมิ คุณตาก็หายวับไปทันที ภูมิรู้สึกหนักใจหน่อย ๆ พักนี้ 'พวกเขา' สามารถเข้ามาประชิดตัวของภูมิได้บ่อยขึ้น ไม่ใช่ว่า 'พลัง' ในตัวเขามันลดน้อยลง แต่ในทางตรงกันข้ามมันกลับเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก 'พวกเขา' ส่วนมากที่เข้ามาประชิดตัวของภูมิจะต้องการขอความช่วยเหลือ หรือขอส่วนบุญ ซึ่งภูมิก็ไม่เคยปฏิเสธ เขาช่วยเหลือทุกตน โดยให้พระคุณเจ้าเป็นสื่อกลาง โดยเงินที่เขาบริจาคนั้น พระคุณเจ้าจะใช้ในการประกอบพิธีส่งดวงวิญญาณให้แก่สัมพเวสี และผีไม่มีญาติ

เรื่องนี้จะเปิดให้อ่านฟรีจนจบนะคะ ใครชอบแนว ๆ นี้ ผี วิญญาณเข้ามาลองอ่านกันดูนะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สิบห้ากันยาราศีสิงห์

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไม่เคยรัก until you + ตอนพิเศษ

ไม่เคยรัก until you + ตอนพิเศษ

pimchan publication
5.0

เธอทำให้คนที่เขารักเจ็บปวด เขาจึงเอาคืนให้เธอเจ็บกว่าร้อยเท่า ในวันที่เขาแก้แค้นเธอสำเร็จจนเธอเจ็บปวดเจียนตาย เขากลับค้นพบว่าเขารักเธอ การเดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่งเพ่ื่อตามหาหัวใจตัวเองจึงเกิดขึ้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเธอเจ็บแล้วจำเธอเลยไม่ให้โอกาสซ้ำยังเอาแต่จะหนีไปจากชีวิตเขา เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา เขาจึงต้องทำทุกทางและทุกอย่างเพื่อได้หัวใจเธอมาเป็นของเขาเหมือนเดิม hope and nink "อย่าลืมไปเล่าให้พี่ชายคุณฟังด้วยล่ะ ว่าความรู้สึกที่ถูกหลอกให้รักมันรู้สึกอย่างไง แล้วเรื่องที่กล่าวหาว่าอีฟทำ รับรู้เอาไว้ด้วยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้" "ทำไมถึงปกป้องผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น" แล้วคำที่บอกว่าอยู่ข้างเธอ ที่ผ่านมาหมายความว่าอะไร... "ที่ผมปกป้องขนาดนั้นเพราะว่ารักอีฟ และไม่ยอมให้ใครมาทำลายอีฟได้ยังไงล่ะ" "รัก?" แล้วไม่ได้รักเธอหรอกหรือ เธอตั้งคำถามอย่างโง่งั่ง ไม่พยายามเข้าใจสิ่งที่เขาบอก แม้ส่วนลึกเริ่มจะเห็นเค้าลางว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างที่วิษุวัติทำมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว "ใช่" "..." เขาลุกขึ้นยืน แขนเล็กๆ ที่เกาะเเขนเขาไว้ร่วงผล็อย นลินวิภาเงยหน้าขึ้นมองเขา "แล้วความรู้สึกดีๆ ที่คุณแสดงออกกับฉันที่ผ่านมา" "มันแค่การเอาคืน..." เขาพึมพำ ก่อนจะก้มหน้ามองเธอ "ผมมาก็เพื่อแก้แค้นให้อีฟตอนนี้หน้าที่ของผมจบแล้วถือว่าเราจบกัน คุณไปเก็บของซะผมจะให้คนไปส่ง" เขาทำท่าจะเดินจากไป แต่นลินวิภาดึงชายเสื้อเขาไว้ ดวงหน้ายังสับสนและในใจพร่ำบอกว่ามันไม่ใช่ และเธอฉุดรั้งเขาไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย จนมีแรงตึงที่มือและเขาหยุดชะงักนั่นล่ะ เธอถึงปริปากออกมา... "คุณเคยบอกฉันว่าไม่ต้องสนเรื่องอื่นว่าเราพบกันอย่างไง เพราะระหว่างเราเข้าใจกันก็พอ ฉันเข้าใจว่าคุณพูดออกมาจากใจจริงๆ เสียอีก" "มันคือคำโกหกคุณคงไม่คิดว่าผมจะรักคุณหรอกนะเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคืออีฟ คนแบบที่ผมชอบคืออีฟเท่านั้น" ไม่ต้องมีมีดนับร้อยนับพันมาจ้วงแทง เพียงแค่สายตาคู่เดียวของเขาที่จ้องมองมาก็ทำให้เธอเหมือนถูกกระหน่ำแทงจากความจริงที่เขากำลังบอก เธอกับเอวิตาแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และเธอไม่ใช่คนแบบที่เขาชอบ ทั้งหมดที่ผ่านมาคือการหลอกลวงเพื่อแก้แค้นให้เอวิตา คนที่เขารัก... "โฮป" "เรียกผมว่าวิษุวัติ... อย่าเรียกชื่อเล่น เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น "..." นลินวิภากะพริบตาปริบๆ มือร่วงผล็อยจากชายเสื้อเขาไปในทันที สิ่งที่เขาบอก เหมือนดึงเธอมาสู่โลกแห่งความจริงที่เธอไม่อาจหนี เขาบอกชัดเจนขนาดนี้เธอคงไม่สามารถหลอกตัวเองต่อไปได้อีกแล้ว... #ทินอีฟ "ยินดีด้วยนะครับคนไข้ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการออกมาแล้วครับ คนไข้ตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะส่งคนไข้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อฝากครรภ์นะครับ" คำพูดของนายแพทย์ประจำคลินิกทำให้เธอยิ้มออกหลังจากทนกับอาการเวียนหัวในช่วงเช้ามาหลายวันไม่ไหวเธอจึงไปตรวจให้รู้แน่ชัด ผลที่แพทย์บอกตอนที่อยู่คลินิกทำให้เธอมีความสุขมาตลอดบ่าย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์กับทิน...ผู้ชายที่เธอรัก วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ การได้รับข่าวดีเรื่องลูกจึงเปรียบประหนึ่งเป็นของขวัญ หญิงสาวรีบกลับมาที่เพนธ์เฮาส์และจัดเตรียมสถานที่รอพ่อของลูกกลับมาอย่างคาดหวังและตื่นเต้น เรื่องที่ตั้งครรภ์เธอยังไม่ปริปากบอกใครแม้แต่พี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่กับเธอตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะอยากให้ทินรู้เป็นคนแรก ทันทีที่เขาให้ของขวัญวันเกิดแก่เธอ เธอจะยื่นกระดาษอัลตราซาวน์ให้เขาแล้วบอกว่าเป็นของขวัญที่เธอมอบกลับคืนในฐานะที่เขารักและดูแลเธอมาตลอด แต่เมื่อประตูห้องเปิดก็เกิดเรื่องผิดแผนครั้งใหญ่เพราะทินเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงสาวที่มีดวงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวดูมั่นใจในตัวเอง ริมฝีปากสีแดงสดของผู้หญิงคนนั้นยิ้มและมองเอวิตาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก คนทั้งคู่ที่เข้ามาใหม่ไม่ได้สนใจบรรยากาศปาร์ตี้ ทินมีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาของเขาไม่อ่อนโยนเหมือนทุกวัน มีเพียงเสียงทุ้มน่าฟังที่เหมือนเดิม "อีฟ ผมมีเรื่องจะบอก" "เรื่องอะไรคะ" เสียงของเธอแทบไม่หลุดจากปาก ความหวาดกลัวในสถานการณ์เกาะกุมหัวใจเธอ รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาครามครัน "ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ ธุระที่ผมไปทำวันนี้คือไปจดทะเบียนกับนิ้ง" "..." ดวงตาของเอวิตาเบิกกว้าง "นิ้งท้องกับผม ท้องตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาคบกับคุณ มันอาจจะผิดต่อคุณแต่คุณคงเข้าใจว่าผมต้องรับผิดชอบลูกในท้องของนิ้งเป็นอันดับแรก..." "ทิน" เธอเรียกชื่อเขา น้ำตาเอ่อล้นปริ่มขอบตาที่ร้อนผะผ่าวในใจมีร้อยพันหมื่นถ้อยคำแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ กระดาษอัลตราซาวน์ในมือถูกกำแน่น อย่าว่าแต่ยื่นมันให้เขาได้เห็น แค่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและหายใจ เอวิตายังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน "ผมเสียใจนะอีฟ... แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมเลือกนิ้ง" "ที่จริงฉันต้องรีบพาทินไปพบครอบครัว แต่ว่าเขาอยากแวะมาบอกเธอก่อนไม่อยากหายไปเลย" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก เอวิตาจับใจความไม่ได้เลยว่าคนตรงข้ามพูดอะไรกับเธอบ้างเพราะในหูมีแต่เสียงอื้ออึ้งน้ำตาก็ไหลจากตาจนไม่เห็นหน้าคนสองคนตรงหน้าเสียแล้ว... สติของเธอหลุดลอยไปตั้งแต่ที่ทินบอกว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่น เรื่องที่เตรียมจะบอกในทีแรกจึงไม่หลุดจากปากและไม่ว่าเขาจะพูดอะไรอีกเธอก็ไม่ได้ยินอีกต่อไปแล้ว จนเมื่อคำว่าลาก่อนแว่วเข้าหู และมีเสียงประตูปิด เธอถึงได้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น เพราะหมดแรงที่จะยืน... หลังจากที่ร้องไห้จนไม่เหลืออะไรจะร้อง ในหัวไม่มีสติพอที่จะคิดอะไรอีก ภาพเลือนรางที่เห็นเขาเดินจูงมือออกไปกับผู้หญิงอื่นฉายวนซ้ำ เธอไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือก เขาเดินจากไปง่ายดายราวกับไม่เคยรักกันเลย ความทุกข์ที่หนักหนาที่สุดที่เคยพานพบเกาะกินหัวใจจนเธอคิดว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว... เธออยากหนีไปให้พ้นจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังถาโถมเธออยู่ในตอนนี้ "อีฟ" เสียงเรียกคุ้นหู เป็นเสียงเรียกที่เหมือนอยู่ไกลออกไป ภาพของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นไม่แจ่มชัด สาเหตุไม่ใช่เพราะหยาดน้ำตา หากแต่เป็นเพราะสติรับรู้ของเธอนั้นสุ

คนนี้...พ่อเลี้ยงขอ

คนนี้...พ่อเลี้ยงขอ

พันพราย
5.0

เมื่อเด็กสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เขาจึงตัดสินใจหนี... แต่สุดท้ายแล้วเขาหรือจะหนีหัวใจตัวเองพ้น ยิ่งได้รับรู้ว่า ‘ลูกพุทรา’ กำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ‘พ่อเลี้ยง’ ที่หลงรักเธอมาตลอดหรือจะยอมปล่อยนกน้อยให้หลุดจากกรงทอง! คำนิยามของท้องฟ้า... อาจคือความอิสระ สายน้ำ... อาจหมายถึงความรัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือความรัก เป็นสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ สิ่งที่ลืมตาตื่นมาก็จะต้องใช้มัน ต้องอยู่กับมันในทุก ๆ วัน ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถมีชีวิตรอดหากปราศจากน้ำ แม้แต่ตัวของเขาเองที่พยายามละ เลิก ทิ้ง ลาจากน้ำโดยไม่สนใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ นี่เขากำลังคิดถึงใคร...? เด็กน้อยในความดูแลงั้นหรือ? ยี่สิบเอ็ดปีแล้วที่พี่ชายของเขา ปองกานต์ได้หาภาระลูกมหึมามาให้ต้องรับภาระดูแลเด็กสาวมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงจากภรรยาว่าลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือไม่ใช่ลูกของตัวเอง ต้นกล้าแข็งแรงได้รับการรดน้ำและพรวดดินเป็นอย่างดีเติบโตเป็นต้นไม้งาม ผลิดอกออกผลมีรากฐานมั่นคงจนเขาไม่ต้องห่วงอะไร กระทั่งเสียงโทรศัพท์สั่นดังจากข้างหู ‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง... พี่รหัสชื่อธามไท กำลังจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน’ ร่างสูงลุกพรวดขึ้นกำโทรศัพท์แน่นยังกับว่าจะบีบมันให้แหลกคามือ ทะเลสีมรกตสดสวยละเลงด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะลึกลงไปในดวงตาของเขาเอง “จะมีผัวเป็นตัวเป็นตน ไม่คิดบอกพ่อเลี้ยงเลยสักคำงั้นหรือ? พุทรา...!”

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ