พ่อกำนันคนนั้น ต้องเป็นขอฉันคนนี้

พ่อกำนันคนนั้น ต้องเป็นขอฉันคนนี้

สิบห้ากันยาราศีสิงห์

5.0
ความคิดเห็น
40
ชม
30
บท

แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจจะขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอพ่อกำนันรูปหล่อ ปนิธานที่ตั้งไว้ก็เริ่มสั่นคลอน

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

'แตงไทย' หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดปี ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาจากมือถือปลุกดังขึ้น

04:30 น. เป็นเวลาที่เธอต้องตื่นในเช้าวันนี้ เพราะ 'ตาทอง' ผู้เป็นพ่อได้กำชับเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าต้องตื่นเวลานี้ เพื่อมานึ่งข้าวและทำกับข้าวไปวัด ถ้าตื่นสายกว่านี้จะไม่ทัน

เมื่อบิดขี้เกียจได้สามรอบแตงไทยก็ลุกขึ้นจากเตียง พับผ้าห่ม เก็บมุ้งหมอนให้เรียบร้อยและออกจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวซึ่งอยู่หลังบ้าน

เธอจัดการนึ่งข้าวเหนียวที่แช่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนตาทองพ่อของเธอก็ทำการเชือดไก่บ้านเพื่อจะแกงใส่หน่อไม้ส้ม เป็นกับข้าวไปวัดในเช้าวันนี้

"นึ่งเป็นหรือเปล่าข้าวน่ะ ?"

ตาทองเอ่ยถามออกมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เธอหันไปค้อนพ่อนิดหน่อย ก่อนจะตอบออกมา

"เป็นสิพ่อ เคยทำมาแต่น้อย ๆ"

แหม..พ่อนี่มาดูถูกกันได้ ถึงเธอจะไปใช้ชีวิตที่เมืองกรุงหลายปี แต่วิถีชีวิตของชาวอีสานก็ยังอยู่ในสายเลือดของเธอเสมอ

"เหรอ..พ่อก็นึกว่าลืมไปแล้ว"

ตาทองบอกกับลูกสาวอย่างอารมณ์ดี เกือบสิบปีที่ต้องอยู่ตามลำพังกับยายสานั้นแสนเหงา ยิ่งมาเมื่อสามเดือนที่แล้วยายสามาด่วนจากไปอยู่บนสวรรค์ แกก็เหงายิ่งขึ้นไปอีก

ยังดีที่แตงไทยลูกสาวเพียงคนเดียวของแกยอมลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ กลับมาอยู่กับแกแบบถาวร จึงทำให้บั้นปลายชีวิตที่เหลือนี้ไม่เหงาจนเกินไป

เมื่อนึ่งข้าวสุกเรียบร้อย แตงไทยก็ส่ายข้าวใส่กระติบ แล้วก็หันไปช่วยพ่อทำแกงไก่ใส่หน่อไม้ส้ม ไม่นานกับข้าวก็เสร็จ เธอจึงไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมตัวไปวัด

วันนี้เธองัดซิ่นไหมผืนสวยสีแดงเข้มของยายสามาสวมใส่ ส่วนเสื้อนั้นก็เป็นเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวที่สั่งจากออนไลน์ และผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังของเธอนั้นแตงไทยก็ถักเปียรวบไว้ข้างหลัง ทั้งชุดทั้งผมวันนี้ส่งผลให้เธอสวยสมเป็นกุลสตรีมากขึ้นเลยทีเดียว

เวลาประมาณ 07:00 น. แตงไทยก็เตรียมตัวเสร็จ เธอแบ่งแกงไก่ใส่ปิ่นโต แล้วก็แบ่งข้าวเหนียวใส่กระติบข้าวใบเล็ก ขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ Honda pcx รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พ่อยอมขายวัวซื้อให้เธอ

"ไปแล้วนะพ่อ"

ตะโกนบอกตาทอง ก่อนจะขับมอเตอไซค์ตรงไปวัด ราวห้านาทีก็มาถึง เพราะวัดอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มมีคนทยอยมากันบ้างแล้ว

"นังแตง !"

แตงไทยหันไปตามเสียงเรียก ก็มองเห็น 'เจ๊ไก่' สาวสองคนสวยประจำหมู่บ้านเดินตรงเข้ามาหาเธอ

"เจ๊ไก่ เข้าวัดได้ไม่รู้สึกร้อนเหรอ ?"

"หนอยนังนี่..แรงนะยะ คำถามนี้ควรเป็นฉันไหมที่ถามหล่อน"

แตงไทยหลุดขำออกมากับท่าทีจริตจะก้านของเจ๊ไก่ เพื่อนรุ่นพี่ที่เธอสนิทมากที่สุด

"โอ๋..เจ๊อย่างอนน่า ป้ะขึ้นไปบนศาลากัน"

"ก็ได้ ๆ"

แล้วทั้งสองสาวก็พากันเดินขึ้นไปบนศาลา นำอาหารในปิ่นโตไปรวมกับของชาวบ้านคนอื่น ๆ จะมีแม่ออกค้ำวัดเป็นคนจัดสำรับให้พระอีกที

แล้วทั้งสองคนก็เดินไปใส่บาตร ที่หลวงตาและพระท่านวางเอาไว้ วันนี้เป็นวันพระ พระสงฆ์ท่านจึงไม่ได้ออกบิณฑบาต

พอใส่บาตรเสร็จแล้วทั้งแตงไทยและเจ๊ไก่ก็หาที่นั่ง ทั้งสองคนเลือกนั่งแถวหลังสุด วันนี้มีคนมาทำบุญเยอะมาก เนื่องจากเป็นวันออกพรรษา

คนเฒ่าคนแก่ ลูกเด็กเล็กแดงรวมทั้งหนุ่มสาววัยรุ่นก็มาร่วมทำบุญด้วยในวันนี้

แตงไทยรู้สึกทึ่งในประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวอีสานมาก ที่ยังเหนียวแน่นและงดงามมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพแบบนี้เธอเคยเห็นมาแต่เด็ก ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้เวลาผ่านล่วงไปเป็นสิบ ๆ ปี มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม

เธอเพิ่งลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ เพื่อกลับมาอยู่บ้านกับพ่อได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เพราะว่าแม่ของเธอเสีย พ่อไม่มีคนดูแล เธอจึงเลือกทิ้งงานที่กำลังก้าวหน้ากลับมาอยู่กับท่าน

เธอใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ ฯ เกือบสิบปี เข้าเมืองหลวงตั้งแต่จบม.หก เพื่อไปเรียนต่อพอเรียนจบก็ทำงานต่อเลย จะกลับบ้านทีก็แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น

"คนเยอะเนาะเจ๊"

"ก็ปกติของทุกปีนะ"

เมื่อชาวบ้านมาพร้อมเพรียงกันแล้ว หลวงตาเจ้าอาวาสรวมทั้งพระสงฆ์อีกสามรูป ก็เดินขึ้นมาบนศาลา ทุกคนบนศาลาจึงเงียบและก้มลงกราบ

หลังจากนั้นมัคทายกประจำวัดก็เริ่มพานำสวดมนต์ แล้วพระสงฆ์ท่านก็ให้ศีลให้พร เสร็จแล้วพระท่านก็เริ่มฉันภัตตาหารเช้าเป็นอันว่าเสร็จพิธี ชาวบ้านหลายคนก็เริ่มทยอยกลับ คงเหลือแต่คนแก่บางคนและแม่ออกค้ำวัดเท่านั้น

"ป้ะ..เจ๊กลับ"

แตงไทยจึงลุกขึ้นแล้วก็เอ่ยชวนเจ๊ไก่กลับบ้าง แต่เจ๊แกกลับดึงมือของเธอเอาไว้

"อย่าเพิ่งสิ รอกินข้าวก่อน"

เธอมองเจ๊ไก่อย่างเอือม ๆ แต่ก็ไม่ขัด ทรุดนั่งลงข้าง ๆ ร่างหนาของสาวสองคนสวย

หลังจากที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ลูกวัดฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับข้าวที่เหลือก็มีคนยกมา ทุกคนที่เหลือบนศาลาก็ล้อมวงกินข้าวพร้อมกัน รวมทั้งเจ๊ไก่และแตงไทยด้วย

เมื่อทุกคนทานข้าวอิ่มแล้ว ก็ช่วยกันนำถ้วยชามไปล้าง และปัดกวาดเช็ดถูศาลาให้สะอาดเรียบร้อย

พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แตงไทยกับเจ๊ไก่ก็คว้าปิ่นโตกับกระติบข้าวเหนียวเดินลงศาลาไปเพื่อจะกลับบ้าน

และในขณะที่แตงไทยกับเจ๊ไก่เดินไปนั้น เพราะมัวแต่คุยกันจนไม่ได้มองทาง จึงทำให้ร่างอวบอิ่มสมส่วนของแตงไทยชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคน

ร่างของแตงไทยกระดอนออกไปข้างหลัง และคงจะล้มก้นจ้ำเบ้าแน่ถ้าหากว่าเจ้าของร่างใหญ่นั้นไม่คว้าเอวของเธอเอาไว้เสียก่อน

แขนแข็งแกร่งโอบรอบเอวคอดกิ่ว และช่วยประคองไม่ให้แตงไทยล้มลงไป เมื่อเธอทรงตัวได้แล้วเขาจึงปล่อยมือออกจากเอวบางนั้น

"อุ๊ย ! กำนันหิน"

เจ๊ไก่อุทานออกมา แล้วก็รีบคว้าแขนของแตงไทยให้มายืนหลบอยู่ข้างหลังของเธอ ก่อนจะกล่าวขอโทษออกมา

"ขอโทษแทนนังแตงมันด้วยจ้ะ มันซุ่มซ่ามไปหน่อย"

พอจบคำพูดของเจ๊ไก่ สายตาคมดุของกำนันหินก็ตวัดมองไปที่ใบหน้าของแตงไทย เป็นจังหวะเดียวกับที่แตงไทยเองก็หันไปมองหน้าเขาแบบเต็ม ๆ อีกที

จังหวะนี้ทั้งสองคนจึงได้สบตากันอย่างจัง กำนันหินเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน และเดินเลี่ยงขึ้นไปบนศาลา

ส่วนทางด้านแตงไทยนั้น ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เธอยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัว จนเจ๊ไก่ต้องลากแขนพาเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์

"แตง อีแตง !?"

"อะ..อะไรเจ๊ !?"

"มึงเป็นอะไร โดนผีเข้าหรือไง ?"

"เปล่า..ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"

แตงไทยตอบเจ๊ไก่ไป แต่ทว่าในใจของเธอตอนนี้กลับร้อนรุ่มแปลก ๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สิบห้ากันยาราศีสิงห์

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บทรักมาเฟียร้าย

บทรักมาเฟียร้าย

จิรัฐติกาล
5.0

“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!

สัญญารักลวงใจ

สัญญารักลวงใจ

Gorden Barros
5.0

เพื่อค่ารักษาของพ่อ ฟางจิ้งหร่านยอมแทนที่น้องสาว แต่งงานกับชายผู้เสื่อมเสียชื่อเสียงและหูหนวก คืนแรกของวันแต่งงาน เธอค่อยๆ ถอดชุดทีละชิ้น ด้วยความคาดหวัง... แต่กลับได้ยินเพียงคำเตือนเย็นชาจากเขา "การแต่งงานของเราเป็นแค่สัญญา" อยู่ข้างกายชายเจ้าอารมณ์คนนี้ ฟางจิ้งหร่านต้องระมัดระวังทุกเมื่อ โดยกลัวว่าจะทำเขาไม่พอใจเข้า ทุกคนรอคอยดูเธอเสียหน้า... แต่ใครจะไปคิดว่า สามีคนนี้กลับกลายเป็น"ที่พึ่งที่มั่นคงที่สุด"ของเธอ จนกระทั่งวันที่สัญญาครบกำหนด ฟางจิ้งหร่านถือกระเป๋าเตรียมตัวจะจากไป... ชายคนนั้นกลับมีดวงตาแดงก่ำ กระซิบขอร้องว่า "อย่าไป..."

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

อรนุช เทพทัต
4.9

หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า  "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย"  รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
พ่อกำนันคนนั้น ต้องเป็นขอฉันคนนี้
1

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

18/05/2025

2

บทที่ 2 สืบประวัติ

18/05/2025

3

บทที่ 3 ใละลาย

18/05/2025

4

บทที่ 4 รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

18/05/2025

5

บทที่ 5 เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค

19/05/2025

6

บทที่ 6 บุญกฐิน

19/05/2025

7

บทที่ 7 เกี่ยวข้าว

19/05/2025

8

บทที่ 8 ใกล้ชิดกันมากขึ้น

19/05/2025

9

บทที่ 9 จูบแรก

19/05/2025

10

บทที่ 10 เจ๊ช่วยด้วย

19/05/2025

11

บทที่ 11 มาหาเขาถึงบ้าน

20/05/2025

12

บทที่ 12 ลอย ลอยกระทง

21/05/2025

13

บทที่ 13 เพื่อนของกำนันหิน

22/05/2025

14

บทที่ 14 ประกวดนางนพมาศ

22/05/2025

15

บทที่ 15 เรื่องราวแห่งความหลัง

22/05/2025

16

บทที่ 16 พ่อสื่อ

26/05/2025

17

บทที่ 17 ยังไงกันแน่

26/05/2025

18

บทที่ 18 อดีตของกำนันหิน

26/05/2025

19

บทที่ 19 หยุดไม่อยู่ (nc 18+++)

26/05/2025

20

บทที่ 20 แตงจะเยียวยาจิตใจของกำนันหินเอง (nc18++)

26/05/2025

21

บทที่ 21 ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้วสิ

27/05/2025

22

บทที่ 22 วางแผนชีวิต

31/05/2025

23

บทที่ 23 เปิดเผยความสัมพันธ์

31/05/2025

24

บทที่ 24 คนขี้อวด

31/05/2025

25

บทที่ 25 คลั่งรัก (nc18+++)

31/05/2025

26

บทที่ 26 คนคลั่งรักของแทร่

31/05/2025

27

บทที่ 27 คิดถึงจัง (nc18+++)

31/05/2025

28

บทที่ 28 กุหลาบ

31/05/2025

29

บทที่ 29 วันปีใหม่

31/05/2025

30

บทที่ 30 งานแต่งงาน (จบบริบูรณ์)

31/05/2025