แตงไทยสาวสวยผู้ที่ตั้งใจจะขึ้นคานไปตลอดชีวิต แต่พอได้เจอพ่อกำนันรูปหล่อ ปนิธานที่ตั้งไว้ก็เริ่มสั่นคลอน
'แตงไทย' หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดปี ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาจากมือถือปลุกดังขึ้น
04:30 น. เป็นเวลาที่เธอต้องตื่นในเช้าวันนี้ เพราะ 'ตาทอง' ผู้เป็นพ่อได้กำชับเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าต้องตื่นเวลานี้ เพื่อมานึ่งข้าวและทำกับข้าวไปวัด ถ้าตื่นสายกว่านี้จะไม่ทัน
เมื่อบิดขี้เกียจได้สามรอบแตงไทยก็ลุกขึ้นจากเตียง พับผ้าห่ม เก็บมุ้งหมอนให้เรียบร้อยและออกจากห้องนอน ตรงไปยังห้องครัวซึ่งอยู่หลังบ้าน
เธอจัดการนึ่งข้าวเหนียวที่แช่ไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ส่วนตาทองพ่อของเธอก็ทำการเชือดไก่บ้านเพื่อจะแกงใส่หน่อไม้ส้ม เป็นกับข้าวไปวัดในเช้าวันนี้
"นึ่งเป็นหรือเปล่าข้าวน่ะ ?"
ตาทองเอ่ยถามออกมาพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย เธอหันไปค้อนพ่อนิดหน่อย ก่อนจะตอบออกมา
"เป็นสิพ่อ เคยทำมาแต่น้อย ๆ"
แหม..พ่อนี่มาดูถูกกันได้ ถึงเธอจะไปใช้ชีวิตที่เมืองกรุงหลายปี แต่วิถีชีวิตของชาวอีสานก็ยังอยู่ในสายเลือดของเธอเสมอ
"เหรอ..พ่อก็นึกว่าลืมไปแล้ว"
ตาทองบอกกับลูกสาวอย่างอารมณ์ดี เกือบสิบปีที่ต้องอยู่ตามลำพังกับยายสานั้นแสนเหงา ยิ่งมาเมื่อสามเดือนที่แล้วยายสามาด่วนจากไปอยู่บนสวรรค์ แกก็เหงายิ่งขึ้นไปอีก
ยังดีที่แตงไทยลูกสาวเพียงคนเดียวของแกยอมลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ กลับมาอยู่กับแกแบบถาวร จึงทำให้บั้นปลายชีวิตที่เหลือนี้ไม่เหงาจนเกินไป
เมื่อนึ่งข้าวสุกเรียบร้อย แตงไทยก็ส่ายข้าวใส่กระติบ แล้วก็หันไปช่วยพ่อทำแกงไก่ใส่หน่อไม้ส้ม ไม่นานกับข้าวก็เสร็จ เธอจึงไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมตัวไปวัด
วันนี้เธองัดซิ่นไหมผืนสวยสีแดงเข้มของยายสามาสวมใส่ ส่วนเสื้อนั้นก็เป็นเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวที่สั่งจากออนไลน์ และผมที่ยาวสยายถึงกลางหลังของเธอนั้นแตงไทยก็ถักเปียรวบไว้ข้างหลัง ทั้งชุดทั้งผมวันนี้ส่งผลให้เธอสวยสมเป็นกุลสตรีมากขึ้นเลยทีเดียว
เวลาประมาณ 07:00 น. แตงไทยก็เตรียมตัวเสร็จ เธอแบ่งแกงไก่ใส่ปิ่นโต แล้วก็แบ่งข้าวเหนียวใส่กระติบข้าวใบเล็ก ขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ Honda pcx รุ่นใหม่ล่าสุด ที่พ่อยอมขายวัวซื้อให้เธอ
"ไปแล้วนะพ่อ"
ตะโกนบอกตาทอง ก่อนจะขับมอเตอไซค์ตรงไปวัด ราวห้านาทีก็มาถึง เพราะวัดอยู่ห่างจากบ้านไม่ไกลนัก ซึ่งในตอนนี้ก็เริ่มมีคนทยอยมากันบ้างแล้ว
"นังแตง !"
แตงไทยหันไปตามเสียงเรียก ก็มองเห็น 'เจ๊ไก่' สาวสองคนสวยประจำหมู่บ้านเดินตรงเข้ามาหาเธอ
"เจ๊ไก่ เข้าวัดได้ไม่รู้สึกร้อนเหรอ ?"
"หนอยนังนี่..แรงนะยะ คำถามนี้ควรเป็นฉันไหมที่ถามหล่อน"
แตงไทยหลุดขำออกมากับท่าทีจริตจะก้านของเจ๊ไก่ เพื่อนรุ่นพี่ที่เธอสนิทมากที่สุด
"โอ๋..เจ๊อย่างอนน่า ป้ะขึ้นไปบนศาลากัน"
"ก็ได้ ๆ"
แล้วทั้งสองสาวก็พากันเดินขึ้นไปบนศาลา นำอาหารในปิ่นโตไปรวมกับของชาวบ้านคนอื่น ๆ จะมีแม่ออกค้ำวัดเป็นคนจัดสำรับให้พระอีกที
แล้วทั้งสองคนก็เดินไปใส่บาตร ที่หลวงตาและพระท่านวางเอาไว้ วันนี้เป็นวันพระ พระสงฆ์ท่านจึงไม่ได้ออกบิณฑบาต
พอใส่บาตรเสร็จแล้วทั้งแตงไทยและเจ๊ไก่ก็หาที่นั่ง ทั้งสองคนเลือกนั่งแถวหลังสุด วันนี้มีคนมาทำบุญเยอะมาก เนื่องจากเป็นวันออกพรรษา
คนเฒ่าคนแก่ ลูกเด็กเล็กแดงรวมทั้งหนุ่มสาววัยรุ่นก็มาร่วมทำบุญด้วยในวันนี้
แตงไทยรู้สึกทึ่งในประเพณีวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวอีสานมาก ที่ยังเหนียวแน่นและงดงามมาจนถึงทุกวันนี้
ภาพแบบนี้เธอเคยเห็นมาแต่เด็ก ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้เวลาผ่านล่วงไปเป็นสิบ ๆ ปี มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
เธอเพิ่งลาออกจากงานที่กรุงเทพ ฯ เพื่อกลับมาอยู่บ้านกับพ่อได้เพียงสามเดือนเท่านั้น เพราะว่าแม่ของเธอเสีย พ่อไม่มีคนดูแล เธอจึงเลือกทิ้งงานที่กำลังก้าวหน้ากลับมาอยู่กับท่าน
เธอใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพ ฯ เกือบสิบปี เข้าเมืองหลวงตั้งแต่จบม.หก เพื่อไปเรียนต่อพอเรียนจบก็ทำงานต่อเลย จะกลับบ้านทีก็แค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น
"คนเยอะเนาะเจ๊"
"ก็ปกติของทุกปีนะ"
เมื่อชาวบ้านมาพร้อมเพรียงกันแล้ว หลวงตาเจ้าอาวาสรวมทั้งพระสงฆ์อีกสามรูป ก็เดินขึ้นมาบนศาลา ทุกคนบนศาลาจึงเงียบและก้มลงกราบ
หลังจากนั้นมัคทายกประจำวัดก็เริ่มพานำสวดมนต์ แล้วพระสงฆ์ท่านก็ให้ศีลให้พร เสร็จแล้วพระท่านก็เริ่มฉันภัตตาหารเช้าเป็นอันว่าเสร็จพิธี ชาวบ้านหลายคนก็เริ่มทยอยกลับ คงเหลือแต่คนแก่บางคนและแม่ออกค้ำวัดเท่านั้น
"ป้ะ..เจ๊กลับ"
แตงไทยจึงลุกขึ้นแล้วก็เอ่ยชวนเจ๊ไก่กลับบ้าง แต่เจ๊แกกลับดึงมือของเธอเอาไว้
"อย่าเพิ่งสิ รอกินข้าวก่อน"
เธอมองเจ๊ไก่อย่างเอือม ๆ แต่ก็ไม่ขัด ทรุดนั่งลงข้าง ๆ ร่างหนาของสาวสองคนสวย
หลังจากที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสและพระสงฆ์ลูกวัดฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับข้าวที่เหลือก็มีคนยกมา ทุกคนที่เหลือบนศาลาก็ล้อมวงกินข้าวพร้อมกัน รวมทั้งเจ๊ไก่และแตงไทยด้วย
เมื่อทุกคนทานข้าวอิ่มแล้ว ก็ช่วยกันนำถ้วยชามไปล้าง และปัดกวาดเช็ดถูศาลาให้สะอาดเรียบร้อย
พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย แตงไทยกับเจ๊ไก่ก็คว้าปิ่นโตกับกระติบข้าวเหนียวเดินลงศาลาไปเพื่อจะกลับบ้าน
และในขณะที่แตงไทยกับเจ๊ไก่เดินไปนั้น เพราะมัวแต่คุยกันจนไม่ได้มองทาง จึงทำให้ร่างอวบอิ่มสมส่วนของแตงไทยชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคน
ร่างของแตงไทยกระดอนออกไปข้างหลัง และคงจะล้มก้นจ้ำเบ้าแน่ถ้าหากว่าเจ้าของร่างใหญ่นั้นไม่คว้าเอวของเธอเอาไว้เสียก่อน
แขนแข็งแกร่งโอบรอบเอวคอดกิ่ว และช่วยประคองไม่ให้แตงไทยล้มลงไป เมื่อเธอทรงตัวได้แล้วเขาจึงปล่อยมือออกจากเอวบางนั้น
"อุ๊ย ! กำนันหิน"
เจ๊ไก่อุทานออกมา แล้วก็รีบคว้าแขนของแตงไทยให้มายืนหลบอยู่ข้างหลังของเธอ ก่อนจะกล่าวขอโทษออกมา
"ขอโทษแทนนังแตงมันด้วยจ้ะ มันซุ่มซ่ามไปหน่อย"
พอจบคำพูดของเจ๊ไก่ สายตาคมดุของกำนันหินก็ตวัดมองไปที่ใบหน้าของแตงไทย เป็นจังหวะเดียวกับที่แตงไทยเองก็หันไปมองหน้าเขาแบบเต็ม ๆ อีกที
จังหวะนี้ทั้งสองคนจึงได้สบตากันอย่างจัง กำนันหินเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน และเดินเลี่ยงขึ้นไปบนศาลา
ส่วนทางด้านแตงไทยนั้น ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เธอยืนนิ่งไม่ยอมขยับตัว จนเจ๊ไก่ต้องลากแขนพาเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์
"แตง อีแตง !?"
"อะ..อะไรเจ๊ !?"
"มึงเป็นอะไร โดนผีเข้าหรือไง ?"
"เปล่า..ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"
แตงไทยตอบเจ๊ไก่ไป แต่ทว่าในใจของเธอตอนนี้กลับร้อนรุ่มแปลก ๆ
บทที่ 1 จุดเริ่มต้น
18/05/2025
บทที่ 2 สืบประวัติ
18/05/2025
บทที่ 3 ใละลาย
18/05/2025
บทที่ 4 รู้จักกันอย่างเป็นทางการ
18/05/2025
บทที่ 5 เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค
19/05/2025
บทที่ 6 บุญกฐิน
19/05/2025
บทที่ 7 เกี่ยวข้าว
19/05/2025
บทที่ 8 ใกล้ชิดกันมากขึ้น
19/05/2025
บทที่ 9 จูบแรก
19/05/2025
บทที่ 10 เจ๊ช่วยด้วย
19/05/2025
บทที่ 11 มาหาเขาถึงบ้าน
20/05/2025
บทที่ 12 ลอย ลอยกระทง
วันนี้05:51
หนังสืออื่นๆ ของ สิบห้ากันยาราศีสิงห์
ข้อมูลเพิ่มเติม