Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เกิดใหม่เป็นชายาท่านแม่ทัพ

เกิดใหม่เป็นชายาท่านแม่ทัพ

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
730
ชม
14
บท

หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น

บทที่ 1 1

1

ในปี ค.ศ. 2025 หวังจื่อหลินเดินทอดน่องไปตามถนนสายใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้คน เธอถือสมาร์ตโฟนไว้ในมือข้างหนึ่ง ดวงตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอขณะอ่านนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอโปรดปราน ท่ามกลางเสียงผู้คนมากมาย เสียงรถยนต์ เสียงแตรรถ เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้า รวมทั้งเสียงดนตรีจากร้านกาแฟที่คละเคล้ากันไป

"ทำไมต้องให้สามีหวังจื่อหลินเป็นคนสารเลวแบบนี้ด้วยนะ ฉันไม่เข้าใจเลยแก" หวังจื่อหลินบ่นกับเพื่อนขณะเลื่อนหน้าจอไปอ่านเนื้อหาในนิยายต่อ เธอหยุดเดินเพราะอ่านถึงตอนที่หวังจื่อหลินในนิยายโดนทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เธอรู้สึกสงสารนางเอกของเรื่องเป็นอันมาก

“เหวินจงนายรู้ไหม ฉันอ่านมาจนถึงตอนจะจบแล้ว หวังจื่อหลินช่วยเหลือสามีทุกอย่าง แต่สุดท้ายโดนสามีกับเมียน้อยหักหลังฆ่าจนตาย เพราะหมดประโยชน์ นางเป็นลูกของขุนนางที่มีอำนาจ มีเงินทอง เป็นที่ไว้วางใจของฮ่องเต้ นางน่าจะได้สามีที่ดีกว่านี้”

“ทำไมนางเอกของเธอรันทดขนาดนี้ล่ะ” หลิวเหวินจงไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงได้ชอบอ่านนิยายดราม่าเช่นนี้

“ยังไม่พอแค่นั้น สามีของนางก็สวมรอย ว่าเคยช่วยชีวิตนางเอกเอาไว้อีก ทำให้นางเอกเข้าใจผิด หลงรักผิดคน คนที่ช่วยคือพระเอกที่เป็นแม่ทัพต่างหากล่ะ” หญิงสาวบ่นด้วยสีหน้าหงุดหงิด

“แบบนี้ใช่ไหม นางเอกถึงได้แต่งงานกับตัวร้าย เพราะเข้าใจผิดนี่เอง” หลิวเหวินจงนึกสงสารนางเอกนิยายของเรื่องยิ่งนัก

“ก็ใช่น่ะสิ เจ็บใจนัก”

“ทำไมต้องเป็นแบบนั้นล่ะ” หลิวเหวินจงเอ่ยถามเพื่อนรัก เพราะถ้าเขาเป็นนักเขียน เขาจะไม่เขียนนิยายให้พระนางรันทดขนาดนั้นแน่

เขามองหน้าเพื่อนรัก อีกฝ่ายเป็นเพื่อนรักที่เติบโตมาด้วยกัน เขาตกหลุมรักเธอมาตลอด แต่เพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน จึงไม่กล้าบอกความจริงนี้ให้เธอได้รับรู้

“ฉันก็ไม่รู้หรอก”

“แล้วพระเอกเป็นใครเหรอ”

“เป็นแม่ทัพที่เป็นลูกนอกสมรสของฮ่องเต้ เป็นเพื่อนเล่นวัยเด็กของนางเอก คอยช่วยเหลือนางเอกมาโดยตลอด แต่นางเอกดันไม่รู้นี่สิ สงสารพระเอกเสียจริง ไปช่วยนางเอกในบ้านไอ้ตัวร้ายโดนฆ่าตายพร้อมพร้อมกัน แต่พูดไปพูดมาพระนางของเรื่องชื่อเหมือนฉันกับนายเลยนะ ตลกจัง” หวังจื่อหลินรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างมากล้น ที่พระนางต้องมาตายด้วยฝีมือคนชั่วแบบนี้ เธออยากรู้นักว่านักเขียนนิยายต้องการอะไร ต้องการให้นักอ่านอย่างเธออกแตกตายหรือยังไงกัน แต่ก็อดหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ที่ชื่อพระนางเหมือนเธอกับเพื่อนสนิทเสียขนาดนี้

เพื่อนชายคนสนิทที่เดินเคียงข้างกันมาได้ฟังเนื้อเรื่องนิยายที่เพื่อนเล่าอย่างออกรสก็แอบยิ้มเล็กน้อย เขาเองก็แอบหลงรักเธอมานานแล้วแต่ไม่เคยปริปากบอกเธอเช่นกัน

"บางครั้งนางเอกในนิยายก็ต้องเจออุปสรรคเพื่อที่จะได้เป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ก็มีความสุขในตอนท้ายหรือเปล่า แบบโดนฆ่าตายแต่ได้รู้ความจริงตอนหลังว่าคนที่คอยช่วยเหลือมาตลอดคือพระเอก และคนที่รักนางเอกตลอดคือพระเอก ทำให้ทั้งสองฟื้นคืนชีพกลับมาแก้แค้น แล้วก็เข้าใจกันมากขึ้น และรักกันมากขึ้น อะไรประมาณนี้" หลิวเหวินจง พูดขึ้นพร้อมกับมองไปข้างหน้า เห็นการจราจรบนถนนที่มีรถราหนาตาพอสมควร

"แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจแทนนางอยู่ดี โชคดีที่เราไม่ใช่ตัวละครในนิยายนะ" หวังจื่อหลิน พูดพลางมองไปที่ หลิวเหวินจง ผู้เป็นเพื่อนรัก รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ

หลิวเหวินจง พยักหน้าและยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน แต่ในใจกลับแอบคิดว่าถ้าเขาเป็นตัวละครในนิยายนี้ เขาจะต้องปกป้องเธอจากทุกสิ่งทุกอย่างไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อย่างแน่นอน เขาก็คงเหมือนแม่ทัพหลิว ตัวละครที่ชื่อเหมือนเขา ที่แอบรักหวังจื่อหลินมานานแต่ยังไม่ทันบอกก็มีผู้ชายคนอื่นมาตัดหน้าไปเสียก่อน

"ฉันคิดว่าชีวิตคนเราก็เหมือนกับเนื้อหาในนิยายนะ มีทั้งดีทั้งร้าย ท้ายที่สุดก็ต้องหาทางแก้ไขให้ได้" เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สะท้อนบางสิ่งที่เขาอยากบอกกับเธอ

หวังจื่อหลิน มองเขาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองถนนที่คับคั่งไปด้วยผู้คน แล้วพูดขึ้นว่า...

"ก็ใช่ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ชีวิตก็จะไม่สนุกน่ะสิ หวังจื่อหลินควรได้รู้ความจริงก่อนตายนาน ๆ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับผู้ชายที่รักและหวังดีกับนางมาโดยตลอด ไม่ใช่มารู้ความจริงเอาตอนใกล้สิ้นใจ ว่าคนที่รักและคอยห่วงใยอยู่ตลอดคือหลิวเหวินจงแล้วก็ตายพร้อมกัน เห้อ..." คนอินกับนิยายถอนใจหนักหน่วง

"จริง อันนี้ฉันเห็นด้วยกับเธอ" หลิวเหวินจงตอบยิ้ม ๆ เขาเองก็หมดสิทธิ์ในตัวเพื่อนรักแล้วเช่นกัน กำลังจะสารภาพรัก แต่เธอดันมีผู้ชายคนอื่นขอเป็นแฟนต่อหน้า

ต่อตา เขาต้องเอาช่อดอกไม้ไปซุกซ่อนไว้ด้านหลัง แล้วก็ยืนมองเธอตอบรับความรักของผู้ชายอีกคน มองเธอคบหากับหมอนั่น และที่สำคัญทั้งสองตกลงหมั้นกันแล้ว กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่ช้า

หวังจื่อหลิน ยังคงติดอยู่ในโลกของนิยายที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ความรู้สึกที่ว่าความยุติธรรมในโลกนิยาย มันห่างไกลจากความเป็นจริงมากนัก ทำให้เธอเริ่มบ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

 ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ผลิกา(เลอบัว)
4.8

เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ