Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
59
ชม
3
บท

นางเอกเป็นนักโทษหญิงที่เร่าร้อน เธอมักจะใช้เรือนร่างอันเซ็กซี่ยั่วยวนผู้คุมเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ แนว pwp nc 3p+ หลอกผู้ชายให้เป็นทาสสวาท

บทที่ 1 โดนจับขังเดี่ยว

น.ญ.จอมมารยา

ตอน โดนจับขังเดี่ยว

ผู้คุมนักโทษสองคนกำลังเดินนำนักโทษหญิงวัยยี่สิบปลายที่กำลังก้มหน้ามองพื้นทางเดิน ขาเรียวยาวเร่งก้าวตามชายฉกรรจ์ข้างหน้าเนื่องจากแขนโดนล่ามด้วยโซ่ตรวนราวกับสัตว์เลี้ยง

ฮิ! ใบหน้าเรียวสวยหาได้เศร้าโศก รอยยิ้มของริมฝีปากสีชมพูเรียวบางกับดวงตากลมโตเหมือนจะบอกว่านี่คือที่ของเธอโดยแท้จริง

นักโทษในห้องขังด้านซ้ายและขวาของโถงทางเดินกำลังซุบซิบนินนา เสียงดังแว่วลอยมาตามลม

"แหม หน้าตาก็สะสวย ไม่คิดเลยว่าจะฆ่าพ่อตัวเอง"

"ฆ่าข่มขืนด้วยนะ"

"แต่เขาว่ากันว่าเป็นพ่อเลี้ยงขี้เมานี่ สมควรแล้วป่ะ"

"ยังไงก็ฆ่าข่มขืนนะเห้ย"

"หมายถึงหล่อนข่มขืนพ่อเลี้ยงแล้วฆ่าเนี่ยนะ น่ากลัวชะมัด"

"ระวังๆ อย่าไปมองตาเธอล่ะ"

แก๊ง! ๆ ๆ ๆ ผู้คุมคนนึงเอากระบองฟาดลูกกรงเหล็ก นักโทษหญิงต่างก็รีบหุบปาก เมื่อบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงันผู้คุมอีกคนก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องขังห้องนึงที่มีสาวอ้วนนอนอยู่บนเตียงสองชั้น

"น.ญ. มาริสสา นี่คือห้องของเธอ ต้องอยู่ร่วมกับ น.ญ.มาสิตานะ เข้าใจไหม"

"ไม่มีห้องเดี่ยวเหรอ" นักโทษหญิงเงยหน้ามองตาผู้คุมที่กำลังลากโซ่มัดแขนเธออยู่

"นี่ไม่ใช่โรงเเรมนะยัยหนู อย่าได้มาต่อปากต่อคำกับฉัน"

"เข้าไป ๆ" ผู้คุมอีกคนวิ่งมาผลักหลังสาวร่างบาง

โครมม! โอ๊ย! เธอล้มลงมานั่งพับเพียบในพื้นห้องขัง ส่วนผู้คุมทั้งสองคนก็เดินตามเข้ามาถอดโซ่และแกะกุญแจมือออกก่อนจะเดินออกไปแล้วล็อคประตูห้องขัง

"นี่ ยัยอ้วน ลงมานอนข้างล่างซิวะ" มาริสสาสั่งสาวอ้วนที่นอนเตียงชั้นบน

"อะไร ฉันมาก่อน ยัยนี่วอนหาเรื่องซะแล้ว เอาไหม ๆ อี" สาวอ้วนตะโกนแล้วกระโดดลงจากเตียงชั้นบน ง้างมือใหญ่จะฟาดใบหน้าเรียวคม หล่อนกัดฟันดังกร่อดๆ

"เอาเลย! ๆ ๆ ๆ"

"ใส่มันเลย"

"รับน้องหน่อย มาสิตา"

เพี๊ยะ! นักโทษสาวอ้วนตบหน้าที่เรียวเล็ก มาริสสาเซมาชนลูกหรงเหล็กโดยไม่ร้องซักแอะ "มรึง อีอ้วน" มาริสสาชี้หน้าแล้ววิ่งเข้าใส่สาวร่างใหญ่กว่าเธอสองเท่า กระโดดถีบหน้าอกหล่อนด้วยสองเท้าคู่

โครมมมม! ร่างกายหนักร้อยกิโลกว่าหงายหลังลงไปนอนกองในสภาพสลบเหมือด

"ผู้คุมคะ ๆ มันสร้างเรื่องแล้วค่ะ" ป้าแก่ๆที่ดูจะเป็นนักโทษหญิงขาใหญ่ตะโกนลั่น ตุบ! ๆ ๆ ผู้คุมสองคนเมื่อครู่รีบเปิดกรงโถงทางเดินแล้ววิ่งกลับมาที่ห้องขังเดิม คนนึงเข้ามาเอากระบองไฟฟ้าจ่อหลังสาวน้อย อีกคนจับมือเธอไพล่หลังแล้วตะคอกใส่หู

"หยุดๆ นอนลงไป นอนคว่ำลงไป" แปล๊บ! ๆ ๆ เสียงไม้กระบองไฟฟ้าดังน่ากลัว

"มาริสสา เธออยากขังเดี่ยวใช่ไหม รีบนอนลงไป"

"มีห้องที่ได้อยู่คนเดียวด้วยรึ ฮิ" มาริสสายิ้มแล้วฟุบตัวลงไปนอนคว่ำ

ผู้คุมชายรีบเอากุญแจมือล็อคข้อแขนเล็กๆแล้วกระชากร่างเพรียวบางยืนขึ้น อีกคนรีบไปประคองนักโทษสาวอ้วนไปห้องปฐมพยาบาล

"มาวันแรกก็สร้างเรื่องเลยนะมาริสสา รับรองว่าเธอจะได้อยู่ห้องขังเดี่ยวแบบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน"

ผู้คุมร่างใหญ่จับโซ่ที่กุญแจมือและลากสาวน้อยเดินโซเซตามหลัง เขาพาเธอมายัดใส่ห้องขังเดี่ยวชั้นใต้ดินที่มีผนังปูนทั้งสี่ด้าน ไร้หน้าต่างและมีเพียงประตูเหล็กหนาเพียงบานเดียว

เมื่อถอดกุญแจมือแล้วเขาก็สั่งนักโทษหญิงนั่งลง ล้วงมือถือออกมาถ่ายรูปเธอแล้วส่งภาพเข้าระบบขังเดี่ยว จากนั้นหันหลังกลับแล้วก้าวออกจากประตู กำลังจะดันบานเหล็กหนาปิดห้อง

"โห่! ผู้คุมคะ ห้องมันทึบเกินไปไหม ไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ผนัง"

"ก็ห้องขังเดี่ยว จำไว้ถ้าสร้างปัญหาเธอจะได้อยู่แบบนี้ครั้งละเจ็ดวัน"

"ห๊ะ! เจ็ดวันเหรอคะ ไม่ได้ไปออกกำลังกาย ไม่ได้ไปทำงานนักโทษที่ได้ค่าตอบเเทนเลยเหรอ โรงอาหารก็ไม่ได้ออกไปเหรอคะ"

"ก็ฉันบอกว่าต้องอยู่ในนี้ตลอดเจ็ดวัน"

โครมมม! บานประตูเหล็กกล้าปิดลง ผู้คุมหน้าดุเลื่อนช่องเล็กๆหน้าประตูแล้วก้มหน้ามองเข้ามา

"เพราะฉะนั้นทำตัวดีๆไว้ แล้วเธอจะได้สิทธิ์ทุกอย่างเหมือน น.ญ.คนอื่น

กร๊าง! เสียงล็อคกลอนประตูห้อง

"เดี๋ยวค่ะ ๆ ผู้คุมคะ"

"อะไรอีก"

"หนูทำตัวดีๆกับคุณได้นะคะ เปิดห้องแปบนึงนะคะ รับรองว่าหนูทำให้คุณมีความสุขได้แน่"

สาววัยรุ่นเอ่ยแล้วดึงคอเสื้อยืดขาวลง ทำให้เห็นเนินอกขาวโพลน สองเต้าใหญ่ที่บดเบียดกันแน่นหนับทำให้ผู้คุมเห็นร่องนมลึก

อึก! หนุ่มร่างใหญ่วัยฉกรรจ์มองผ่านรูเหล็กเข้ามาและกลืนน้ำลายเหนียว

"รีบเข้ามามีความสุขสิคะ ในนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดนี่นา มีแต่ผนังปูนสี่ด้าน ใครจะรู้" นักโทษสาวเอ่ยและใช้มือสองข้างขยำฟัดเต้าตัวเองจนเสื้อยืดยับยู่ยี่

"อืม รอแปบ" หนุ่มใหญ่เอ่ยแล้วเปิดประตูเหล็กเดินเข้ามายืนค้ำหัวสาวรุ่นลูกที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นซีเมนต์ที่แข็งและเย็นเฉียบ

แคว่ก! ๆ น.ญ.คลานเข่าเข้ามาแล้วใช้มือรูดซิบกางเกงผู้คุมอย่างรู้งาน เธอล้วงเอาแท่งรักนุ่มอุ่นที่กำลังพองโตขึ้นในกำมือออกมาเฟ้นบีบเบาๆ

" ซี๊ด! อาห์! อมเลยสิ อมของฉันเลยสิยัยหนู" ผู้คุมร่างใหญ่เอ่ยและเอามือลูบผมยาวสลวยบนหัวนักโทษสาว

"หนูกำลังจะเป็นคนดีของคุณ คุณก็จะใจดีกับหนู ใช่ไหมคะ?"

"ใช่สิ รีบๆทำมันสิจ๊ะ"

"งั้นถ้าแตกคาปากหนูแล้ว หนูขอยืมมือถือไว้เล่นในห้องนี้ได้ไหมคะ"

"เอ่อ! อืม! เอาสิ"

ผู้คุมเอ่ยแล้วส่ายเอวไปมา เอาแท่งเอ็นสีดำอ้วนถูกับแก้มสาวของสาวรุ่นลูก ทำแววตาหื่นขณะที่แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ฮิ! ๆ สาวน้อยหัวเราะแล้วเอามือกำรูดแท่งอุ่นจนมันแข็งเต็มที่ เส้นเลือดปูดๆที่พันรอบลำบาดถูกำมือจนเสียวซ่าน

ลิ้นสีชมพูแลบเลียหัวบานโตสีดำแดง น้ำใสๆไหลเป็นเส้นยาวยืดติดปากสีชมพูเรียวบาง

อรั่ก! ๆ ๆ ๆ ผู้คุมจิกหัวนักโทษสาวแล้วเร่งกระแทกแท่งเอ็นเข้าออกปากของเธอจนหน้าสวยๆโยกสั่นในสภาพเจ็บปากจนกรามค้าง

"อ่าส์! ๆ ซี๊ด! มันต้องให้ได้ยังงี้สิวะ ตั้งแต่ทำงานมายังไม่เคยได้อะไรแบบนี้เลย กร่อด! ๆ ฮ่า! ๆ"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

นักล่าคู่กับหมอมหัศจรรย์

test
3.5

เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"

แผนลวงรัก

แผนลวงรัก

ปรียานุช จิรามณี
4.9

"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เพลงกาม

เพลงกาม

มณีน้ำเพชร
5.0

เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ