Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เมื่อนางเอกได้บทนางร้าย

เมื่อนางเอกได้บทนางร้าย

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
638
ชม
24
บท

พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!

บทที่ 1 1

1

ท้องฟ้าอันมืดสนิทในค่ำคืนนี้มีดวงดาวเต็มท้องฟ้า อากาศร้อนอบอ้าวทำให้ปรมินทร์ เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เขาเพิ่งกลับมาจากการประชุมสำคัญ

ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ เขาค่อย ๆ ปลดเน็กไทออกและนิ่วหน้าเข้าหากันด้วยความรู้สึกร้อนรุ่ม

ทำไมเขาถึงได้รู้สึกร้อนเช่นนี้ก็ไม่รู้

ร่างสูงจัดการปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกจากกายเพื่อดับความร้อนรุ่ม เขาคงต้องอาบน้ำเพื่อให้ตัวเองหายจากความทรมานนี้เสีย

ปรมินทร์ทั้งอาบน้ำ ทั้งดื่มน้ำ เขาทำทุกอย่างแล้วแต่ร่างกายยังร้อนรุ่มปวดร้าวด้วยความทรมาน

ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองต้องโดนวางยาแน่ ๆ มีทางเลือกสามทางในตอนนี้ ต้องหาผู้หญิงมาดับความร้อนรุ่ม ต้องไปหาหมอ และสุดท้ายต้องอดทนพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ยาหมดฤทธิ์ วิธีการที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดคือหาผู้หญิงสักคน ในขณะที่มือหนากำลังจะกดโทรศัพท์ไปสั่งเลขาคนสนิทให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้เขา

เขามีเลขาสองคน คือพิมพ์ลภัสกับธนกร

พิมพ์ลภัสยังเป็นน้องน้อยวัยเด็กที่เขาเอ็นดู ก่อนจะไม่ได้เจอกันหลายปี และกลับมาเจอกันอีกครั้งเพราะมารดาของเขาช่วยเหลือเธอเอาไว้ หลังจากที่เธอกับน้องชายหนีออกมาจากบ้าน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก... เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ปรมินทร์ผวา คิดว่าธนกรมาหา จึงรีบปิดประตู

“เจ้านายคะ มื้อดึกที่เจ้านายสั่งเอาไว้ค่ะ ว้าย!” เธอหิ้วกล่องขนมจีบเจ้าดังประจำจังหวัดมาให้เขา แต่โดนกระชากเข้าไปในห้องเต็มแรง

อยู่ด้วยกันที่ทำงาน พิมพ์ลภัสเรียกเขาว่าเจ้านายทุกคำ ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมเรียกเขาว่าพี่เหมือนเวลาอยู่ด้วยกันหรืออยู่กับมารดาของเขา

ปรมินทร์รู้สึกว่าตัวเองหน้ามืดแล้วในตอนนี้ เขารั้งเธอไปที่เตียงนอนกว้าง

“ช่วยหน่อย ต้องการอะไรจะให้หมด”

“ชะ... ช่วยอะไรคะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามอย่างตกใจ จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไรกัน ก็เจ้านายมาดขรึมกดเธอไปกับเตียงกว้าง แล้วก็ทำท่าทีจะกินตับเธอเสียอย่างนั้น

“พี่โดนวางยา”

“แล้วยังไงคะ” พิมพ์ลภัสเอ่ยถามอย่างตกใจ

“ก็ช่วยหน่อยไง” ปรมินทร์กระชากเสื้อผ้าของคนที่เอาแต่ถามออกไป เธอตกใจ รีบปัดป้องแต่เขาก็กดมือน้อยไปกับเตียงนอนกว้าง

“พี่จะรับผิดชอบ อยากได้อะไรจะให้ทุกอย่าง”

“ไม่เอาค่ะ พิมพ์ไม่เต็มใจ” เธอปฏิเสธปากคอสั่นไปหมด แต่ปรมินทร์ไม่คิดจะใส่ใจ เขาจัดการทำตามความปรารถนาของตัวเองในทันที

ค่ำคืนที่เร่าร้อนผ่านไป พิมพ์ลภัสลืมตาตื่นด้วยความรู้สึกปวดร้าวไปหมดทั้งร่าง เธอกะพริบตาปริบ ๆ ก็พบกับเจ้าของร่างสูงกำลังนอนมองเธออยู่

พิมพ์ลภัสสะดุ้งรีบดึงผ้าห่มมากอดเอาไว้ ก่อนจะมองเขาอย่างเอาเรื่อง

“เมื่อคืนพี่ทำให้พิมพ์เจ็บหรือเปล่า” สรรพนามเปลี่ยนไปในตอนนี้ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เจ้านายกับลูกน้องอีกต่อไป และแท้ที่จริงแล้วเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนรักมารดาของเขา แม้มารดาของเธอจะจากไปแล้ว แต่มารดาของเขาก็ยังเอ็นดูเธออยู่เสมอ

เธอมาทำงานกับเขาก็เพราะว่ามารดาของเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจากน้องชายของเธอป่วยหนัก กลายเป็นเจ้าชายนิทรา เพราะอุบัติเหตุจากรถยนต์

“ถามได้ ลองมาเป็นพิมพ์ดูสิ” เธอทำหน้างอใส่เขา หมดกันเยื่อพรหมจรรย์ทีเพียรรักษามายี่สิบห้าปี

นี่ใช่ไหมเขาเรียกเบญจเพส ซวยเสียจริง

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ปรมินทร์รู้สึกเสียความมั่นใจในตัวเองไปเยอะ เขาเป็นหนุ่มหล่อร่ำรวยมีฐานะ สาว ๆ อยากขึ้นเตียงด้วยกันทั้งนั้น ในขณะที่เธอขึ้นเตียงกับเขาแล้วไม่ได้มีท่าทียินดีเลยสักนิด

“จะให้ทำหน้ายังไงล่ะคะ พิมพ์เสียตัวแบบไม่ได้ยินยอมนะ”

“อยากได้อะไรให้หมด” ก่อนจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เขาจำได้ว่าเคยสัญญาเธอเอาไว้แบบนั้น

“น้องของพิมพ์ป่วย พิมพ์ต้องการแค่ค่ารักษาน้องตลอดชีพ ถ้าพี่โอเคก็ตามนี้” เธอทำท่าจะลุก

“เดี๋ยวก่อน”

“มีอะไรอีกคะ”

“เธอไม่เรียกร้องอะไรให้ตัวเองบ้างเลยเหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ เธอก็เบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะดันปลายคางของเขาออกห่าง

“ไม่ต้องขยับเข้ามาพูดใกล้ ๆ ขนาดนั้นก็ได้ค่ะ”

“ว่าไง” เขาดึงเธอมาโอบกอดเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยเธอไปไหนง่าย ๆ

“การขอให้พี่ช่วยรักษาน้อง ก็ถือว่าเป็นการขอให้ตัวเองแล้วนะคะ ทุกวันนี้พิมพ์ต้องเป็นคนจ่ายค่ารักษาน้องทั้งหมดนี่คะ แล้วพี่คิดว่าพิมพ์ต้องเรียกร้องอะไรอีกเหรอ” น้องชายของเธอโดนรถชนจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง

“เช่นเรียกร้องให้รับผิดชอบอะไรแบบนี้ไง”

“แล้วพี่อยากรับผิดชอบพิมพ์ยังไงคะ”

“แต่งงาน มีครอบครัวอะไรแบบนี้”

“แล้วพี่อยากแต่งงานกับพิมพ์ไหมล่ะคะ” เธอเอ่ยถาม

“พี่” เอาอึกอัก

“พี่ก็ไม่ได้อยากแต่งงาน เพราะเราเผลอมีความสัมพันธ์กันเพราะพี่โดนวางยา” เธอเดาเอาว่าคงเป็นสาวสวยคนหนึ่งที่มองเขาตาเป็นมันก่อนหน้านี้ เกิดเป็นคนหล่อนี่ก็ต้องระวังตัวเหมือนกันนะ ยิ่งหล่อรวยยิ่งต้องระวังตัว เพราะอาจจะถูกสาวที่ไหนก็ไม่รู้วางยาจับทำผัวเอาได้

“นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ เธอเสียตัวให้พี่นะ”

“รู้สึกค่ะ”

“นั่นไง”

“เจ็บมากค่ะ เซ็กซ์พี่ห่วยมาก นี่ถ้าพิมพ์ต้องจ่ายค่าตัวพี่ ยี่สิบบาทยังแพงไปค่ะ” เธอผลักเขาออกจนกระเด็น ก่อนที่จะหนีเข้าห้องน้ำ

ปรมินทร์ได้แต่นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่บนเตียงเมื่อได้ยินเธอพูดแบบนั้น

เขาได้จิ้นเธอนะ เป็นผู้ชายคนแรกด้วย นี่เธอจะไม่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบอะไรเลยเหรอ

“พี่อย่าลืมนะคะเรื่องที่ต้องจัดการเรื่องค่ารักษาน้องของพิมพ์” เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ขณะเดินออกมาจากห้อง มารดาของเขาช่วยเหลือเธอเอาไว้ ให้งานทำในตำแหน่งเลขาของท่าน ก่อนจะย้ายให้มาเป็นเลขาของเขา

“อ้อ...” เธอร้องขึ้นขณะจะออกจากห้อง ทำให้เขาหันไปมองอย่างสนใจ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

Hyatt Bamberg
5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ