Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เมียสวาททาสมาเฟีย

เมียสวาททาสมาเฟีย

ต้ายวี่

5.0
ความคิดเห็น
ชม
33
บท

นพวรรณ ถูกบิดาและมารดาบังเกิดเกล้าที่ติดการพนันอย่างหนักขายหักหนี้ให้กับ คิม ซีวาน หนุ่มลูกครึ่งไทยเกาหลีเจ้าของบ่อนคาสิโนหรูย่านใจกลางเมือง หลังจากรู้จักกับซีวาน นพวรรณ จึงได้รู้ว่าการตกนรกทั้งเป็น มันคือยังไง ชายหนุ่มปฎิบัติกับหญิงสาวเยี่ยงทาส นพวรรณจะทนได้นานแค่ไหน เธอจะหนีจากขุมนรกนี้ได้อย่างไร

บทที่ 1 (ทำงานพิเศษ)

“โบว์ วันนี้มึงไปไหน ไปกินหมูกระทะกันไหมร้านเปิดใหม่ ลดตั้ง 30%เลยนะเว้ย”

“ร้านไหน”

“ก็ร้าน Pig pig หมูกระทะไง”

“ไป...แต่ไม่ได้ไปกินนะไปทำงานน่ะ”

“ขยันโคตรๆ”

“ไม่ขยันแล้วจะเอาอะไรกิน ไปล่ะๆๆ กูไปก่อนแล้วเจอกัน”

ฉันชื่อโบว์ นพวรรณ เทพสิริ ปีนี้ฉันเรียนอยู่ม.6 แล้วปีสุดท้ายของชีวิตนักเรียนม.ปลาย ชีวิตฉันไม่ได้สวยหรูหรอก ลูกคุณหนูคงไม่เข้าใจ ฉันต้องเรียนและทำงานไปด้วย ถ้าฉันไม่ทำงานฉันก็ไม่มีจะกิน แล้วทำไมไม่ขอพ่อกับแม่น่ะเหรอ หึ!! ..พ่อกับแม่ฉันน่ะพึ่งพาอะไรไม่ได้หรอก คนแบบนั้นน่ะ

กริ้งงงงง

เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันจึงล้วงมือลงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนขึ้นมา โทรศัพท์เครื่องนี้ฉันใช้มันมาตั้งแต่ม.2 แล้ว เป็นเครื่องเดียว เครื่องแรกเลยที่มี ความใหม่น่ะเหรอไม่ต้องพูดถึง แค่รับสายได้ สายเข้า โทรออกได้ก็บุญแล้ว

"ฮาโหลว่าไงบี "

(พี่โบว์อยู่ไหนคะ บีเดินมาหาพี่ที่หน้าห้องแต่ไม่เจอ)

"อ๋อ!!! ..บีลงมาข้างล่างเลย พี่อยู่หน้าตึกแล้ว"

(ได้ค่ะ)

น้องบี น้องสาวฉันน่ะ ครอบครัวฉันมี 4 คนมีพ่อ แม่ ฉัน แล้วก็น้องบี น้องสาวฉันเรียนอยู่ชั้นม. 2 ห่างกับฉัน 4 ปีเลยล่ะ น้องสาวฉันเป็นคนเรียบร้อย เป็นเด็กที่น่ารัก ที่ฉันทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อน้องฉันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่มีน้อง ฉันก็ไม่อยู่หรอกบ้านหลังนั้นน่ะ

"พี่โบว์..บีมาแล้วกลับกันเลยไหมคะ"

"น้องบีต้องกลับก่อนนะ พี่ได้งานใหม่น่ะ เป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ร้านหมูกระทะ Pig pig หมูกระทะไงรู้จักไหม"

"ค่ะ ได้ยินเพื่อนในห้องพูดถึงอยู่เหมือนกันค่ะ"

"อยากกินไหม"

"ไม่หรอกค่ะ ก็แค่หมูบางๆ เอาไปย่างไงไม่เห็นจะน่ากินเลย"

ฉันรู้ว่าน้องอยากกิน แต่น้องฉันน่ะเก่งมากไม่เคยร้องขออะไรเหมือนเด็กคนอื่นๆ หรอกนะ อะไรที่อดได้น้องฉันก็จะอด ฉันน่ะทนได้แค่ขอให้น้องฉันได้กินอิ่ม นอนหลับก็พอ เพราะฉันน่ะเลี้ยงน้องบีมาตั้งแต่เกิดแล้วน่ะ

"...โบว์ มึงมาดูน้องด้วยกูไปหาเงินก่อน"

"พ่อก็ไปแล้ว ทำไมแม่ต้องไปด้วยล่ะ แม่อยู่บ้านกับหนูกับน้องไม่ได้เหรอ"

"โอ๊ย อีโบว์มึงอย่ามาขัดลาภกูอีห่า กูบอกให้ดูน้องก็มาดู"

........

"... อีโบว์ ไหนเงินเดือนมึงออกแล้วใช่ไหม"

"ยังเลยพ่อ เจ้านายยังไม่มาเขาเลยยังไม่ได้เบิกให้"

"กูไม่เชื่อไหนมาดูสิ "

อำนาจย์ บิดาของนพวรรณเดินมากระชากกระเป๋านักเรียนของนพวรรณ ซึ่งในขณะนั้น นพวรรณอยู่เพียงม.3 เท่านั้นน้องสาวของเธอก็อยู่เพียง ป.5 นพวรรณยื้อกระเป๋านักเรียนตัวเองไว้ไม่ยินยอมให้บิดาได้เอากระเป๋าตนเองไปได้ แต่เด็กหญิงก็สู้แรงบิดาของตัวเองไม่ได้ กระเป๋านักเรียนหลุดออกจากมือของหญิงสาว อำนาจย์รีบรื้อค้นหาเงินค่าเงินอันน้อยนิดที่นพววรรณไปทำงานเป็นเด็กล้างจานที่ร้านข้าวมันไก่ที่หน้าปากซอย เจ้าของร้านข้าวมันไก่สงสารและเอ็นดูเด็กหญิงจึงให้ทำงาน ซึ่งจริงๆ ที่ร้านไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเพิ่มด้วยซ้ำเพราะลูกๆ หลานๆ ของอาเจ๊กลีเจ้าของร้านข้าวมันไก่ ก็ช่วยงานกันอยู่แล้ว

"ไหนเงินมึงวะอีโบว์ ไปทำงานเหี้ยอะไรไม่ได้เงิน กูจะไปด่าไปเจ๊กไอแก่เบี้ยวค่าแรงลูกกู"

"อย่าไปด่าอาเจ๊กเลยพ่อ เดี๋ยวเงินออกหนูเอามาให้ "

เด็กหญิงนพววรณเอื้อมมือไปดึงกระเป๋ามาจากบิดาของตน เด็กหญิงกำลังจะเดินหนีเข้าไปในห้องที่เด็กหญิงใช้นอนกับน้องสาวของตน

"เดี๋ยวอีโบว์ ปริ้นกระเป๋ามึงมาดูสิ"

"กระเป๋าอะไรพ่อ พ่อก็ดูไปแล้วนี่มันไม่มี"

"กระเป๋ากระโปรงมึง"

เด็กหญิงนพวรรณหน้าเสียเมื่อได้ยินบิดาเอ่ยมาเช่นนั้น เธอพยายามเดินหนีออกมาให้ไวแต่ไม่ทันที่บิดาคว้าแขนเธอไว้ อำนาจย์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงลูกสาว เงินค่าจ้างจำนวนหนึ่งถูกหยิบออกมา

"นี้อะไรอีโบว์มึงโกหกกูหรอ อีลูกเวร 1 2 อะไรทำไมแค่สองพัน ค่าแรงมึงสามพันนี้"

"พ่อเอาคืนมานะ หนูต้องเอาเงินนั้นพาน้องไปหาหมอนะ น้องบีไม่สบายพ่อก็รู้"

"น้องมึงมีบัตรทอง อีโง่ ไม่เสียสักบาทมึงจะไปให้มันเสียเงินทำไม"

"แต่ที่คลินิกนี้เขาบอกว่าดีหมอเก่งนะพ่อ ไปโรงพยาบาลรัฐต้องรอคิวนานหนูสงสารน้อง"

เด็กหญิงนพวรรณพยายามกระโดดแย่งเงินจากมือของบิดา อำนาจย์ยกมือขึ้นสูงทำให้เด็กหญิงนพวรรณไม่สามารถหยิบมันถึง เด็กหญิงทั้งพยายามทั้งดึงบิดาตนเอง จนอำนาจย์โมโห พลั้งมือตบเข้าไปที่ใบหน้าของบุตรสาวตนเอง

เพี๊ยะ!!!!!!

เสียงฝ่ามือที่กระทบกับแก้มของลูกสาวดังเข้ามาในโสตประสาทของคนเป็นพ่อ วูบหนึ่งในแววตาของอำนาจย์สั่นไหว แต่แค่เพียงวูบเดียวเท่านั้น เด็กหญิงตัวน้อยล้มลงนอนเอามือจับหน้าตนเองที่พื้น

"ก็บอกแล้วว่าเอามาให้กูดีๆ มึงจะได้ไม่เจ็บตัวแบบนี้ไง เอานี่ 500 มึงเอาไปใช้ ที่เหลือ 1500 กูจะเอาไปต่อทุน เดี๋ยวได้เงินมากูจะมาคืนให้ แล้วจะซื้อของอร่อยๆ ให้มึงกับน้องมึงกินด้วย"

"พี่โบว์ พี่โบว์เป็นอะไร พ่อทำอะไรพี่โบว์"

"อีบี มึงพาพี่มึงเข้าบ้านไป"

อำนาจย์รีบเดินออกไป นวพร หรือน้องบี น้องสาวแท้ๆ ของนพวรรณรีบเข้ามาประคองพี่สาวแล้วพาเข้าห้องไป นวพรเด็กเกินกว่าที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดดูไม่ออกว่าพี่สาวโดนบิดาตี

"พี่โบว์ เหม่ออะไรอยู่ แล้วพี่ไม่กลับกับบีเหรอ"

นพวรรณ ได้สติหันมามองหน้าน้องสาว หลังจากที่ตนเองเผลอคิดไปถึงอดีต เพราะการพนันตัวเดียวทำให้ครอบครัวเธอเป็นอย่างนี้

"พี่ต้องไปทำงาน เอานี่เงิน เราไปกินข้าวมันไก่ร้านเจ๊กลีนะ แล้วก็เข้าห้องล็อกห้องให้ดีรู้ไหม"

"ข้าวมันไก่อีกแล้ว กินจนบีจะเป็นเก๊าแล้วนะ อิอิ"

"เออ!! ..งั้นอยากกินอะไรก็ไปกินเถอะ พี่ไปทำงานก่อนนะ"

"ค่ะพี่โบว์ สู้ๆ นะคะ"

"อืม"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ต้ายวี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

ข้าเก็บสามีได้กลางป่า

โรแมนติก

5.0

ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

กุหลาบในเปลวไฟ

กุหลาบในเปลวไฟ

Wes Longworth
3.5

หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เมียสวาททาสมาเฟีย
1

บทที่ 1 (ทำงานพิเศษ)

26/05/2025

2

บทที่ 2 ( ชายหนุ่มหน้าหวาน )

26/05/2025

3

บทที่ 3 ( แบงค์พัน )

26/05/2025

4

บทที่ 4 ( เด็กดี )

26/05/2025

5

บทที่ 5 ( ตลบหลัง )

26/05/2025

6

บทที่ 6 ( นองเลือด )

26/05/2025

7

บทที่ 7 ( ผัวเมียตีกัน )

26/05/2025

8

บทที่ 8 ( เอาไปหมดแล้ว )

26/05/2025

9

บทที่ 9 ( ปลดปล่อย )

26/05/2025

10

บทที่ 10 ( ตัดนิ้ว )

26/05/2025

11

บทที่ 11 ( ผีพนัน )

26/05/2025

12

บทที่ 12 ( เต็มใจ )

26/05/2025

13

บทที่ 13 ( ปากดี NC )

26/05/2025

14

บทที่ 14 (เลือดหัวออก NC)

26/05/2025

15

บทที่ 15 ( แจ้งความ )

26/05/2025

16

บทที่ 16 (ทะเลาะวิวาท)

26/05/2025

17

บทที่ 17 ( ยกเลิกฮาเล็ม )

26/05/2025

18

บทที่ 18 ( ไม่มีใครให้มากกว่าฉัน )

26/05/2025

19

บทที่ 19 ( งานเลี้ยง )

26/05/2025

20

บทที่ 20 ( ขี้เมา )

26/05/2025

21

บทที่ 21 ( สมัครเรียน )

26/05/2025

22

บทที่ 22 (ล่องแพ )

26/05/2025

23

บทที่ 23 ( ตกแพ )

26/05/2025

24

บทที่ 24 ( ผู้หญิงของซีวาน )

26/05/2025

25

บทที่ 25 ( อยากเจอ )

26/05/2025

26

บทที่ 26 ( นายใหญ่และนายหญิง )

26/05/2025

27

บทที่ 27 ( สถาณะที่ชัดเจน )

26/05/2025

28

บทที่ 28 ( ว่าที่นายหญิงตระกูลคิม )

26/05/2025

29

บทที่ 29 (สำนึกผิด...ในวันที่สาย)

26/05/2025

30

บทที่ 30 (งานแต่งงาน )

26/05/2025

31

บทที่ 31 (บทสุดท้าย ความในใจของสามีภรรยา จบ)

26/05/2025

32

บทที่ 32 ตอนพิเศษ ๑ (ชีวิตนักศึกษา )

26/05/2025

33

บทที่ 33 ตอนพิเศษ ๒ (หัดขับรถสยิว)

26/05/2025