เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"
“จำไว้นะ ถ้าเห็นใครกำลังโดนทำร้าย อย่ามัวแต่กลัวให้รีบเข้าไปช่วยทันที เพราะบางครั้งแค่หนึ่งวินาทีของเราก็อาจเปลี่ยนชีวิตใครคนหนึ่งไปตลอดกาล”
เสียงของบิดายังคงดังก้องในอยู่หัวของ แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์ ขณะหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวเก่าและกางเกงสแลกส์ราคาถูก กำลังวิ่งสุดแรงเกิดไปยังเสียงร้องร้องหนึ่งกลางลานจอดรถใต้ดินของห้างแห่งหนึ่ง
เธอเห็นชายคนหนึ่งถูกล็อกแขนจากด้านหลัง โดยมีอีกคนถือท่อนไม้กำลังจะฟาดลงมา
“ตำรวจ ตำรวจมาก พี่ยามก็มา ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” แก้วจอมขวัญตะโกนลั่นจนคนร้ายวิ่งหนีไปในความมืดมิด ทิ้งชายแปลกหน้าที่เธอเพิ่งช่วยไว้เบื้องหลัง
“คุณโอเคไหมคะ” แก้วจอมขวัญเอ่ยถามด้วยลมหายใจหอบถี่
ชายคนนั้นหันมามองเธอด้วยสายตาที่ทั้งตกใจและแปลกใจ คล้ายกับจ้องมองบางสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นในสถานการณ์แบบนี้
“เธอกล้า” เขาเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ นิ่งขรึม
“ในโลกนี้ยังมีคนที่กล้าทำแบบนี้อยู่อีกเหรอ”
แก้วจอมขวัญไม่เข้าใจนัก แต่ยิ้มให้แบบเก้อ ๆ แล้วรีบหันหลังกลับ
“คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วค่ะ พอดีฉันรีบ ขอตัวก่อนนะค” เมื่อสำรวจแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอเลยรีบเอ่ยขอตัวในทันที
“อ้าว... เดี๋ยวก่อนสิ” เขาเรียกเธอเอาไว้ แต่ปรากฎว่าเธอวิ่งจากไปเสียแล้ว คิดว่าน่าจะรีบไปทำธุระอะไรกระมัง
น่าแปลกที่เธอช่วยเขาโดยไม่หวังผลตอบแทน ยากมากในสังคมยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วทำอะไรก็มักหวังผลด้วยกันทั้งนั้น
เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายคนนั้นคือ ธามกร วัฒนเดช CEO หนุ่มเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ที่เย็นชาและไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ
และเธอกำลังจะได้เป็นพนักงานบัญชีคนใหม่ในบริษัทของเขา
หนึ่งเดือนต่อมา…
บริษัท TWD Real Estate
“คุณชื่ออะไรนะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นในห้องประชุมขนาดเล็ก
“แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์ ค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบร้อย ขณะยื่นแฟ้มประวัติให้เลขาของคนถาม
ธามกรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารแล้วชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที สีหน้าไม่เปลี่ยนแต่ดวงตาคมดุหรี่ลงอย่างจับสังเกต
“เราเคยเจอกันมาก่อนไหม” เขาถาม พลางวางปากกาลงอย่างช้า ๆ
“เอ่อ” แก้วจอมขวัญอึกอัก ไม่แน่ใจว่าเขาจำเหตุการณ์วันนั้นได้ไหมแต่เธอจำได้ แต่ถ้าบอกว่าจำได้เขาจะหาว่าเธอทวงบุญคุณหรือเปล่านะ ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าผู้ชายที่เธอช่วยเอาไว้ในวันนั้นจะเป็นประธานบริษัทที่เธอต้องเข้ามาทำงานด้วยในวันนี้
“คงไม่มั้งคะ หนูหมายถึง หนูเพิ่งจบใหม่ ยังไม่เคยทำงานมาก่อนน่ะค่ะ” ไม่รื้อฟื้นเรื่องบุญคุณที่ช่วยเหลือดีกว่า เอาเป็นว่าทำเป็นจำไม่ได้ดีกว่า เธอคิดในใจ
ชายหนุ่มจ้องหญิงสาวอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“ไปทำงานได้แล้วครับ” เขาไม่เซ้าซี้ แต่เขาจำได้แม่นว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คว้ากระเป๋าเหวี่ยงโจรเพื่อช่วยเขาในวันนั้น
แก้วจอมขวัญเริ่มต้นงานใหม่ในแผนกบัญชี โดยมีหัวหน้าแผนกชื่อ ชญานี เป็นคนดูแล ซึ่งตั้งแต่วันแรกเธอก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ
“เอกสารชุดนี้ เอาไปจัดการให้เสร็จก่อนเที่ยงด้วย” หญิงวัยกลางคนวางแฟ้มหนาเท่าพจนานุกรมลงตรงหน้าเธอ
“เอ่อ... แต่ว่า นี่มันเอกสารของสามเดือนที่แล้วนะคะ”
“แล้วยังไง จะไม่ทำใช่ไหม คิดว่าตัวเองเส้นใหญ่หรือไง” เสียงเหน็บแนมแหลมสูงทำให้แก้วจอมขวัญต้องก้มหน้ารับมาเงียบ ๆ
“ค่ะ” เธอบ่นอุบในใจ
เธอนี่นะเส้นใหญ่! เส้นไหนตรงไหนก่อน เธอก็สมัครงานสอบเข้ามาทำงานเหมือนกับคนอื่นเขา เส้นใหญ่คือเด็กฝากท่านประธานไม่ใช่เหรอ หัวหน้าของเธอพิลึกคน
ซึ่งแก้วจอมขวัญไม่รู้เลยว่าตั้งแต่ที่เธอร่อนใบสมัครงานไปทั่ว ที่บริษัทของธามกรเลือกเธอเพราะเขาสะดุดตากับรูปถ่ายที่แปะในใบสมัครงาน และหลังจากนั้นเขาก็ตรวจสอบประวัติของเธอ หลังจากตามหาเธอมาหลายวันเมื่อเธอช่วยชีวิตเขาเอาไว้ในวันนั้น
วันต่อมา…
“คุณแก้วจอมขวัญใช่ไหม” เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นขณะเธอกำลังยกกล่องแฟ้มหนักอึ้ง
หญิงสาวสะดุ้ง หันขวับไปมอง แผ่นหลังชนกับประตูห้องแผนกบัญชี
“เอ่อ... ค่ะบอส บอสมีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าคะ”
ชายหนุ่มในสูทสีเข้มยืนพิงผนังด้วยสีหน้าเฉยชา นิ่งขรึม
“มาเจอกันหลังเลิกงาน ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” เธอไม่มีโอกาสปฏิเสธคำสั่งนั้นเพราะเขาเดินลับหายไปเสียแล้ว
และมันคือจุดเริ่มต้นของสายใยบาง ๆ ของเขากับเธอ
หลังเลิกงานวันนั้น แก้วจอมขวัญเดินขึ้นไปชั้นบนสุดของตึกด้วยความประหม่า เธอไม่เคยคุยกับเขาสองต่อสองเกินสองนาทีเลย นับประสาอะไรกับการ ถูกเรียกคุยส่วนตัว
เขาจะเรียกเธอไปคุยอะไรนะ อยากรู้จัง จะว่าเธอทำงานไม่ดีก็ไม่น่าจะใช่ เธอมั่นใจว่าเธอตั้งใจทำงานมากๆ
ห้องทำงานของเขาเงียบสนิท ประตูกระจกบานใหญ่เปิดรับลมเย็นยามค่ำ ผ้าม่านบางเบาราวปลิวไหวราวกับฉากในละคร
“เข้ามาสิ” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยจากด้านใน โดยไม่เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารในมือ
“ค่ะบอส” แก้วจอมขวัญเอ่ยตอบรับเบา ๆ มือประสานกันแน่นอย่างคนเกร็งจัด
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม