เจ้าสาวพันธกานต์

เจ้าสาวพันธกานต์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
2
ชม
15
บท

เขาเจอเธอเมื่อหลายเดือนก่อน แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอกลับจำเขาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เธอสัญญากับเขาว่าเธอจะแต่งงานกับเขา พันธกานต์คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินที่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แต่เขากลับพบว่าผู้ชายที่เธอต้องแต่งงานด้วยคือเขา!

บทที่ 1 1

“ถึงบ้านคุณยายแล้วโทร. หาพ่อด้วยนะ” ธนกรเอ่ยบอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง

“ค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ” มณีชนกรับคำพร้อมด้วยรอยยิ้ม เธอเพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงพักผ่อนก่อนเข้าทำงานในบริษัทใหญ่ที่จองตัวเธอเอาไว้

มณีชนกขึ้นรถไปแล้ว อรัญญาก็ค้อนหน้าคว่ำ ไม่รู้สามีจะรักอะไรลูกนักหนา ทั้ง ๆ ที่มารดาของมณีชนกก็เสียชีวิตไปนานมากแล้ว

“เรียนจบแทนที่จะทำงาน จะไปเยี่ยมยาย ลูกสาวของคุณนี่ดีจริง ๆ เลยนะคะ” อรัญญาบ่นอุบ

“ลูกเพิ่งเรียนจบก็ควรให้แก่พักผ่อนบ้าง และที่แกเรียนจบมาก็เพราะความสามารถตัวเองล้วน ๆ แกสอบชิงทุนได้ ไม่รบกวนผมเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นลูกจะทำงานหรือพักผ่อนผมก็ไม่ควรไปบังคับหรือก้าวก่ายชีวิตของแก แกโตแล้ว”

“ไม่ใช่ว่าจะพักไปยาวๆ แล้วให้เราเลี้ยงหรอกนะคะ”

“คุณพูดอะไรของคุณ หยาดไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ถ้าเป็นยายยิ้มน่ะไม่แน่ คุณควรอบรมสั่งสอนแล้วก็ดูแลลูกให้ดี ยายยิ้มไม่สนใจเรียน ผมยอมรับว่ากังวล ไม่รู้เลยว่าลูกจะเรียนจบไหม”

“แล้วทำไมคุณไม่สั่งสอนแกบ้างล่ะคะ”

“ผมพูดได้เสียที่ไหน คุณเอาแต่เข้าข้างลูก ถ้าลูกเรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ คุณนั่นแหละที่ต้องเลี้ยงลูกไปตลอดชีวิต”

“นี่คุณหาว่าฉันเลี้ยงลูกไม่ดีอย่างนั้นเหรอคะ ใช่สิ ใครมันจะเหมือนลูกสาวสุดที่รักของคุณล่ะคะ แตะต้องเป็นไม่ได้ ยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์”

“คุณญานี่หยุดพูดจากระแหนะกระแหนะลูกสาวผมสักที ก่อนแต่งงานกัน คุณบอกว่าจะรักยายหยาดเหมือนลูกในไส้ แต่พอคุณมีลูกเป็นของตัวเอง คุณก็รักลูกของคุณมากกว่า ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไรแล้ว แต่ขอเถอะ อย่าทำนิสัยแบบนี้กับลูกผม”

“ลูกผม ลูกผม แล้วมณีกานดาไม่ลูกของคุณหรือไง”

“ใช่ แต่ผมพูดอะไรไม่ได้เลย คุณก็เข้าข้างลูกตลอด ตามใจจนเหลิง ถ้าลูกเสียผู้เสียคนขึ้นมา ผมจะไม่ยุ่งอะไรอีก” พูดจบธนกรก็เดินเข้าบ้านไปในทันที

“คุณกรกลับมานี่ก่อนนะ คุณกร!” อรัญญาตะโกนไล่หลังไปอย่างหงุดหงิดใจ

ทางด้านมณีชนก เธอเดินทางมาหาคุณยายที่บ้านสวนที่กาญจนบุรีอย่างมีความสุข หญิงสาวมองบรรยากาศรอบกายแล้วเผยยิ้มกว้างออกมา ถ้าไม่เพราะบริษัทใหญ่ ๆ จองตัวเธอเข้าทำงานแล้ว เธออาจจะมาอยู่บ้านสวนดูแลผู้เป็นยายแทน อยากสืบทอดสูตรทำขนมจากคุณยาย แต่อุตส่าห์เรียนมาแล้ว เธอก็อยากมีงานและอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงตัวเองให้ได้

“คุณยายขา คิดถึงจังเลยค่ะ” มณีชนกโผเข้ากอดคุณยายแก้วกาญจน์ด้วยความคิดถึง

“ยายก็คิดถึงหนูจ้ะ ไหนมาดูซิ หลานสาวของยายสวยแค่ไหน”

“คุณยายน่ะ ปากหวานตลอดเลยนะคะ”

“หลานของยายสวยเสียจริง หน้าตาน่ารักขนาดนี้มีแฟนหรือยังจ๊ะ”

“ยังไม่มีค่ะคุณยาย หรือว่าคุณยายจะหาแฟนให้หนูคะ” ยังไม่ทันที่คุณยายจะตอบอะไร ก็มีเสียงเรียกดังอยู่หน้าบ้านเสียก่อน

“คุณยายครับ คุณลุงให้เอาปลากับผลไม้มาให้ครับ”

“เข้ามาก่อนสิจ๊ะพ่อหนึ่ง” ประโยคของคุณยายทำให้มณีชนกหันไปมองผู้มาใหม่ เขาเองก็มองเธออย่างตกตะลึง

ผู้หญิงตรงหน้าสวยเสียจนพันธกานต์ยืนนิ่งไม่ไหวติง

“ฮะแฮ่ม ขอบใจมากนะพ่อหนึ่ง ลุงของเรานี่มีน้ำใจเสียจริง วันนี้หลานสาวของยายมาเยี่ยม จะทำอาหารต้อนรับ ยายเชิญพ่อหนึ่งกับลุงของเรามากินข้าวด้วยกันเย็นนี้นะจ๊ะ”

“ขอบคุณครับคุณยาย” พันธกานต์เอ่ยตอบ แต่สายตามองมณีชนกไม่วาง ทำเอาหญิงสาวประหม่าต้องหลบสายตาเป็นพัลวัน

“นี่หลานสาวของยายจ้ะ ชื่อมณีชนก เพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน เลยมาเยี่ยมยาย เดินทางมาถึงเมื่อกี้นี้เอง”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมพันธกานต์ครับ เรียกว่าพี่หนึ่งก็ได้”

“ค่ะพี่หนึ่ง เรียกฉันว่าหยาดก็ได้ค่ะ” สองหนุ่มสาวมองสบตากัน ด้วยความรู้สึกหัวใจเต้นแรงทั้งคู่

“มาดื่มน้ำกินขนมก่อนสิพ่อหนึ่ง”

“เอาไว้โอกาสหน้านะครับ ผมมีงานที่ยังต้องทำน่ะครับ” แม้จะอยากอยู่ต่อเพียงใด แต่เขามีงานต้องทำอีกหลายอย่าง เนื้อตัวของเขาเองก็เต็มไปด้วยเหงื่อและคราบโคลนสกปรก คิดว่าเอาไว้วันหลังค่อยคุยกันก็ได้

“งั้นก็ตามสบายจ้ะ” คุณยายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พันธกานต์เอ่ยขอตัวอย่างสุภาพ สายตายังอ้อยอิ่งอยู่ที่หลานสาวคนสวยของคุณยายแก้วกาญจน์ แต่ร่างสูงก็จำต้องเดินกลับบ้านไปก่อน

“ใครกันเหรอคะคุณยาย” มณีชนกเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพื่อนบ้านใหม่ของคุณยายเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะปิดเทอมทีไรเธอจะมาเยี่ยมผู้

เป็นยายทุกครั้ง รวมถึงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานหลายเดือน เพื่อเรียนรู้การทำขนมและการทำอาหารจากคุณยาย

“เพื่อนบ้านใหม่น่ะ พ่อหนึ่งกับลุงของเขามาซื้อที่ใกล้ ๆ บ้านเรา เลยย้ายมาอยู่ที่นี่หลายเดือนแล้ว เป็นคนดีมีน้ำใจมากนะ” เธอยิ้มตอบกลับไปเป็นการรับรู้กลายๆ

“ขนมกับของว่างของคุณยายน่ากินจังเลยค่ะ” เธอมองขนมไทยหลากหลายที่คุณยายทำเอาไว้ต้อนรับกับเครื่องดื่มสมุนไพรด้วยรอยยิ้มมากกว่าเดิม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักใจดำแสนทรมาน : ภรรยาบาปของคุณฟู่

รักใจดำแสนทรมาน : ภรรยาบาปของคุณฟู่

Keely Alexis
5.0

ในคืนแต่งงาน ฟู่ฮันจุนบีบคอของเธอ “เจียงอี้หาน ยินดีกับเธอด้วยนะ ตั้งแต่วันนี้ไปชีวิตของเธอจะตกนรก! ” เขาเชื่อว่าเธอเป็นคนทำให้พี่ชายของเขาตาย แต่งงานกับเธอแต่ไม่แตะต้องเธอ ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไปตลอดชีวิต! แต่น่าเสียดายที่เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เจียงอี้หานถูกบีบบังคับให้ใช้ร่างกายของเธอช่วยชีวิตฟู่ฮันจุน และตั้งท้องลูกของเขา เจียงอี้หานปกปิดท้องของเธอ ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังภายใต้สายตาของฟู่ฮันจุน ฟู่ฮันจุนเกลียดเธอ ตั้งใจทำให้เธออับอายทรมาน แต่กลับไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายเล็บ—— “คุณฟู่ คุณนายตบตีกับคนอื่นแล้วครับ! ” เขาแอบไปจัดการคนพวกนั้นจนสิ้นซาก “คุณฟู่ คุณนายบอกว่าทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลฟู่เป็นของเธอครับ! ” เขาแอบโอนหุ้นทั้งหมดให้เป็นชื่อของเธอ เจียงอี้หานไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ คิดแค่จะหนีให้พ้นอย่างเดียว ฟู่ฮันจุนใช้กำลังกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน “คุณนายฟู่ คุณจะพาลูกของเราไปไหนหรือ? ”

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ