นิยายชุด ทาสรักคุณชายมาเฟีย

นิยายชุด ทาสรักคุณชายมาเฟีย

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
35
บท

1. ทาสรักคุณชายมาเฟีย เธอ... ชมพูพริ้ง คุณหนูผู้เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์ ฐานะ และการศึกษา กลับต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปช่วยชายแปลกหน้าที่บาดเจ็บกลางตรอก ไม่รู้เลยว่าคืนนั้น จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพันธนาการหัวใจ... เขา... คมน์ เคมินธาดา มาเฟียหนุ่มทายาทธุรกิจพันล้าน ผู้ไม่เคยศรัทธาในคำว่ารัก แต่หลังจากคืนที่เธอช่วยชีวิต เขากลับนอนไม่หลับถ้าไม่มีเธออยู่ข้างกาย หนึ่งคนหนีเพราะกลัวหัวใจตัวเองจะหวั่นไหว อีกคนกลับตามตื้ออย่างแนบเนียนในชื่อของ "การทำงาน" จากผู้ช่วยจำเป็น... กลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้ เมื่อศัตรูทางธุรกิจกลายมาเป็นคู่ชีวิต และความรักครั้งนี้ไม่ใช่แค่เกมมาเฟีย แต่คือ "ชีวิตทั้งชีวิต" ของเขา "ผมไม่ได้อยากได้คุณมาเป็นลูกน้อง ผมอยากได้คุณมาเป็นเมียต่างหาก คุณหนูชมพูพริ้ง" 2. เจ้าาสาวนิรนาม เธอ...หญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับมหาเศรษฐีหนุ่มเพราะ โชคชะตาและหนี้สิน เขา...ทายาทหนุ่มผู้ไม่เชื่อในดวงชะตา มองว่าการแต่งงานนี้เป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ใครจะรู้ว่า... เจ้าสาวที่ไร้ตัวตนในใจของเขา จะกลายเป็นคนเดียวที่เขารักหมดใจ ห้าปีแห่งสัญญาและความห่างเหิน เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้ทั้งคู่ต้องกลับมาอยู่ใต้หลังคาเดียวกันอีกครั้ง หัวใจที่เคยเย็นชาเริ่มละลายลงทีละน้อย จากเจ้าสาวจำเป็น... กลายเป็น "เจ้าสาวตัวจริง" ที่เขาอยากครอบครองตลอดไป แต่เมื่อถึงวันที่เธอขอ "หย่า" เขาจึงเพิ่งรู้ว่า สิ่งที่กลัวมาตลอดไม่ใช่การแต่งงาน...แต่คือการ "เสียเธอไป" 3. เจ้าสาวอนุรักษ์ เธอ… "ศิริลดา" หญิงสาวที่ต้องแต่งงานกับคู่หมั้นซึ่งไม่เคยเจอหน้า เขา… "อนุรักษ์" ชายหนุ่มผู้สูญเสียการมองเห็นจากอุบัติเหตุ การแต่งงานที่เริ่มจาก "หน้าที่" กลับกลายเป็นเรื่องราวที่อบอุ่นที่สุดในชีวิต เพราะในความมืดที่เขาเผชิญ มีเพียงเสียงหัวเราะและมืออบอุ่นของเธอที่คอยนำทาง และในวันที่เขา "มองเห็นอีกครั้ง" เขากลับเลือกจะ "แกล้งมองไม่เห็น" เพื่อจะพิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนี้ รักเขาจากใจจริงหรือแค่สงสาร แต่สิ่งที่เขาได้เห็น ไม่ใช่เพียง "ใบหน้า" ของเธอ หากคือ "หัวใจ" ที่สว่างกว่าทุกแสงในโลก เรื่องราวของชายตาบอดปากแข็ง กับหญิงสาวฉลาดอบอุ่น ที่คอยปราบพยศกันด้วยเสียงหัวเราะ ความห่วงใย และความรัก จะทำให้คุณยิ้ม อมยิ้ม และอบอุ่นหัวใจ "ในวันที่มืดมิด...เธอคือแสงสว่างเดียวที่เขาเห็น" "ในวันที่มองเห็น เขาก็ยังอยากมองเห็นแค่เธอคนเดียว"

บทที่ 1 1

นิยายชุด เล่ม 1 ทาสรักคุณชายมาเฟีย

เสียงฝนตกกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นควันปืนลอยคลุ้งไปทั่วตรอกแคบ ๆ

คมน์พิงกำแพงหายใจถี่ มือหนากุมแผลกระสุนที่แขนซ้าย เลือดสีเข้มไหลซึมผ่านปลายนิ้วไม่หยุด ดวงตาคมเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยวและเจ็บปวด เขาหนีจากการซุ่มโจมตีของศัตรูได้อย่างฉิวเฉียด แต่แรงมากพอจะทำให้ร่างกายบาดเจ็บ

ขณะเดียวกัน เสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้น ฝ่าสายฝนมาอีกด้านหนึ่งของตรอก

หญิงสาวคนหนึ่งในชุดเดรสราคาแพงวิ่งหนีสุดชีวิต ชมพูพริ้ง ใบหน้าสวยซีดเผือด ริมฝีปากสั่นระริก เธอเพิ่งหนีออกมาจากรถของแฟนเก่าที่พยายามบังคับเธอด้วยอารมณ์รุนแรง เธอไม่รู้จะหนีไปไหน นอกจากตรงตรอกมืดนี้ที่ดูเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่เธอกลับพบคนคนหนึ่งที่แทบไม่เหลือเรี่ยวแรงยืน

“คุณ! เลือดคุณออกเยอะมาก” เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ

คมน์เงยหน้าขึ้นมอง ริมฝีปากซีดเซียวแต่สายตากลับนิ่งลึกจนน่าขนลุก เขาไม่ตอบ มีเพียงเสียงหอบเบา ๆ ก่อนจะพยายามขยับหนี

“อย่าขยับ!” ชมพูพริ้งรีบเข้าไปประคองโดยไม่คิดอะไร

“ให้ฉันช่วยคุณเองนะคะ” เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใคร รู้แค่เขากำลังจะเสียเลือดมาก เธอฉีกชายชุดเดรสของตัวเองออก เนื้อผ้าขาดดังแคว่ก แล้วรีบพันรอบแขนของเขาแน่น ๆ เพื่อห้ามเลือด

“แค่ชั่วคราวก่อนนะคะ” เธอกระซิบ พยายามทำเสียงให้มั่นคงทั้งที่หัวใจเต้นแรง

คมน์มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา มือของเธอสั่นเล็กน้อยแต่ยังพยายามช่วยเขาโดยไม่ลังเล ความอบอุ่นแปลก ๆ แทรกเข้ามาในหัวใจท่ามกลางความเจ็บปวดและเสียงฝนที่กำลังตกกระหน่ำลงมา ไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้เขาในสภาพนี้มาก่อน

“ขอบคุณ” เสียงทุ้มแหบพร่าหลุดออกมาเบา ๆ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ และเสียงคนตะโกนก็ดังแว่วจากปลายตรอกทั้งสองด้าน

“อยู่แถวนี้แน่!”

“หามันให้เจอ”

ชมพูพริ้งสะดุ้ง รีบหันซ้ายหันขวา

“พวกเขาตามฉันมา!”

คมน์กัดฟัน

“ไม่ใช่แค่เธอ พวกมันก็ตามฉันด้วย”

หญิงสาวกับชายบาดเจ็บสบตากันเพียงเสี้ยววินาที ก่อนทั้งคู่จะรีบหลบเข้าไปในช่องกำแพงแคบ ๆ ระหว่างอาคารเก่าที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็น

ร่างทั้งสองเบียดชิดจนแทบได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย ชมพูพริ้งพยายามกลั้นหายใจ ในขณะที่คมน์ใช้มืออีกข้างโอบไหล่เธอไว้แน่นเพื่อไม่ให้เธอขยับ

กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ จากตัวของเธอผสมกับกลิ่นเลือดและกลิ่นฝน กลายเป็นกลิ่นที่เขาไม่มีวันลืม

เขาเงยหน้ามองเธออีกครั้ง แววตาคมที่เคยเย็นชาเริ่มสั่นไหวอย่างประหลาด

เขาไม่รู้ว่าเพราะอาการเสียเลือด หรือเพราะผู้หญิงคนนี้กันแน่ที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบระเบิด

ส่วนเธอ ไม่แม้แต่จะสังเกตสายตานั้น เพราะในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เธอคิดคือต้องเอาตัวรอดออกไปให้ได้ ไม่คิดเลยว่าแฟนเก่าจะใช้วิธีสกปรกหลอกเธอมางานเลี้ยงแบบนี้ แถมยังใช้ให้คนอื่นมาหลอกอีก เพราะถ้าเขาเป็นคนชวน เธอไม่มีทางมาแน่นอน

ฝนเริ่มซา เสียงฝีเท้าของพวกคนร้ายค่อย ๆ ห่างออกไปทีละน้อย อาจเพราะค้นหาอย่างไรก็หาไม่เจอ ต้องขอบคุณซอกเล็กๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็นอันนี้ที่สุก ในตอนนี้เหลือเพียงเสียงหยดน้ำไหลจากชายคาเก่า ๆกระทบพื้นซีเมนต์ดังเป็นจังหวะเท่านั้น

คมน์ยังคงโอบร่างหญิงสาวไว้แน่น รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดต้นคอของเขาเป็นจังหวะ หญิงสาวในอ้อมแขนตัวสั่นน้อย ๆ แต่ดูอ่อนแรงผิดปกติ

“คุณเป็นอะไร” เสียงทุ้มต่ำแทบไม่ต่างจากการกระซิบ ไม่มีคำตอบ มีเพียงเสียงครางแผ่ว ๆ ที่หลุดจากริมฝีปากของเธอ

“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองโดนวางยา”

คมน์ขมวดคิ้วแน่น เขามองเห็นเงาของใบหน้าเธอที่ซีดขาวกว่าปกติ เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดขึ้นที่ขมับ แม้อากาศจะเย็นเฉียบจากฝนก็ตาม

“โดนวางยางั้นเหรอ” เขาถามเสียงเข้ม ชมพูพริ้งพยายามขยับปาก แต่พูดไม่ออก ร่างทั้งร่างอ่อนแรงก่อนเอนซบลงกับอกเขาอย่างหมดแรง

เขายกมือขึ้นแตะแก้มเธอ ร้อนจัด ก่อนสบถเบา ๆ ยังไม่ทันได้คิดหาทางออก เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นอีกครั้งจากปลายตรอก แต่คราวนี้ไม่ใช่ศัตรู

“คุณชาย!” เสียงคุ้นเคยของลูกน้องคนสนิทดังขึ้น

ชายร่างใหญ่ในชุดดำพร้อมลูกน้องอีกสามคนวิ่งเข้ามา จักรซึ่งเป็นมือขวาผู้ซื่อสัตย์ของคมน์ กวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นเจ้านายของตนยังมีชีวิต

“ขอบคุณพระเจ้า ผมตามหาคุณแทบพลิกแผ่นดิน!” คมน์ยังคงกอดร่างหญิงสาวไว้แน่น

“อย่าเพิ่งเสียงดัง” เขาพูดเสียงเรียบแต่แฝงอำนาจ

จักรมองภาพตรงหน้าแล้วถึงกับนิ่งงัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นชายผู้เยือกเย็นดั่งน้ำแข็งคนนี้อุ้มผู้หญิง แน่นราวกับกลัวเธอจะหายไป

“เธอเป็นใครครับ” จักรถามด้วยความระแวง

“ไม่เกี่ยวกับนาย” คมน์ตัดบทในทันที น้ำเสียงเย็นเฉียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความหวงแหน

จักรเหลือบมองหญิงสาวในอ้อมแขน เธอดูเปราะบางจนแทบไม่กล้าหายใจใกล้ ๆ

“เธอโดนวางยา” คมน์พูดพลางพยายามลุกขึ้น แต่แผลที่แขนทำให้เขาเซจนต้องกัดฟันแน่น

“คุณชาย! ให้ผมอุ้มเถอะครับ แขนคุณ”

“ไม่ต้อง!” เสียงคำรามต่ำหลุดออกมาจากลำคอ ราวกับสัตว์ร้ายกำลังปกป้องของรัก

จักรชะงัก เขาไม่เคยเห็นเจ้านายมีสีหน้าแบบนี้มาก่อน ทั้งดุดันและอ่อนโยนในคราวเดียวกัน

คมน์ขยับแขนที่บาดเจ็บอีกข้างประคองร่างชมพูพริ้งไว้แน่นขึ้น แม้เลือดที่ซึมจากผ้าพันแผลจะเปรอะเต็มแขนเสื้อ เขาก็ไม่ยอมปล่อย

“เดี๋ยวผมจัดการเรียกหมอให้มาช่วยทำแผลนะครับ”

“ไม่ต้อง กระสุนไม่ได้ฝังใน” คมน์เอ่ยเสียงเข้มต่ำ แต่ที่เขาไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้เพราะต่อสู้ยาวนานหลายชั่วโมงจนร่างกายเหนื่อยล้า ถ้าได้อาบน้ำ พันแผล นอนพักก็หาย เขาฝึกการต่อสู้มาทุกชนิด ผ่านอะไรมามาก แค่นี้ทนไหวอยู่แล้ว

“ครับ” จักรรับคำ เป็นห่วงเจ้านายสุดใจ

“เปิดประตูรถ” เขาสั่งเสียงต่ำ

“แวะโรงแรมที่ใกล้ที่สุด”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
ซีรีส์สามีกะทันหัน

ซีรีส์สามีกะทันหัน

โรแมนติก

5.0

จาก "เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ" ที่ไม่เคยกินเส้นกัน กลับกลายเป็น "คนบนเตียงเดียวกัน" เพียงเพราะค่ำคืนที่เมามาย เขา จิตรกรอิสระสายหน้ามึน ที่ชอบทำอาหาร วาดรูป และกวนหัวใจเธอทุกวัน เธอ นักเขียนสาวปากแข็ง ที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่สนใจเขา ทั้งที่หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่โดนกอด จากการงอแงเรียกร้องความรับผิดชอบ กลายเป็นการตามตื้อจนได้อยู่ห้องเดียวกัน จากคำว่า "คู่กัด" กลายเป็น "คู่ชีวิต" ที่หวานจนทะเลยังต้องอาย "ข้าวเช้าวันนี้ ฉันทำให้เธอเอง" "อย่ามาทำเป็นแฟนฉันนะ!" "ไม่ต้องทำเป็นหรอกฉันเป็นจริง ๆ" เรื่องราวรักวุ่น ๆ ปนร้อนแรงของคนสองคน ที่เริ่มจากความกวน แต่จบลงด้วยความรักสุดหัวใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

Gavin
5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ

ปูริดา
5.0

ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ