ซีรีส์เจ้านายจอมเจ้าเล่ห์

ซีรีส์เจ้านายจอมเจ้าเล่ห์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
ชม
25
บท

เขา เจ้านายผู้เย็นชา แต่เก็บซ่อนความรักเอาไว้ในใจมาเนิ่นนาน เธอ เลขาสาวที่ไม่มีทางเลือก ต้องกลับมาทำงานกับคนที่เคยเป็นศัตรู จากการหยอกล้อในวัยเรียน สู่อีกครั้งที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ว่าความสัมพันธ์นี้ไม่อาจหนีหัวใจตัวเองได้

บทที่ 1 1

เช้าแรกของสัปดาห์ ตึกไฟแนนซ์ “คีรีภัทร โฮลดิ้ง” สะท้อนสกายไลน์เมืองด้วยประกายเข้ม ลินินสูดลมหายใจลึกๆ มือกำแน่นรวบรวมความกล้าไว้สุดแรง ซองเอกสารสมัครงานถูกรั้งอยู่ในอ้อมแขน เธอรู้ดีว่านี่คือไพ่ใบสุดท้ายหลังเกิดวิกฤติครอบครัวอย่างไม่ให้ตั้งตัว

“ถ้าทำที่ไหนไม่ได้ ก็ต้องทำที่นี่” เธอบอกตัวเองเบา ๆ

เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ต้อนรับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ก่อนส่งบัตรผู้มาติดต่อให้ ลิฟต์กระจกพาเธอไต่สูงขึ้นทีละชั้น จนประตูเปิดสู่โถงสำนักงานผู้บริหารชั้นบนสุด

“คุณลินินใช่ไหมคะ เชิญทางนี้ค่ะ” ผู้ช่วยฝ่ายบุคคลนำเธอไปยังห้องกระจกทางฝั่งตะวันออก โลโก้บริษัทฝังอยู่บนบานประตูเหมือนตราประทับ

เมื่อประตูเลื่อนเปิด เสียงหัวใจของลินินเหมือนตกลงพื้น

ผู้ชายหลังโต๊ะไม้สีเข้มเงยหน้าขึ้นจากเอกสาร แววตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นบางสะท้อนแสง รอยยิ้มเอาแน่เอานอนไม่ได้ ลมหายใจเธอสะดุดวูบ

กฤษณ์ เขาคือคู่กัดสมัยมัธยมของเธอ คนที่ชอบดึงยางรัดผมของเธอแล้วทำหน้ากวน ๆ คนที่ชอบทำเสียงยียวน จนเธออยากฟาดหนังสือการบ้านใส่หน้า คนที่เธอคิดว่าคงไม่มีวันได้เจออีก

“สวัสดี” เขาพูดเสียงเรียบ

“ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่”

ลินินยืดตัวตรงเพื่อตั้งสติ

“ดิฉันมาสมัครงานตามประกาศ ในตำแหน่งเลขาฯ ค่ะ”

“เห็นแล้ว” กฤษณ์เคาะปลายนิ้วบนแฟ้มใบสมัคร

“เรซูเม่คุณสะอาด ตรงสเป็ก และ” เขาเงยหน้าขึ้นอีก

“ความจำผมก็ดี”

เสี้ยววินาทีที่สายตาสบกัน ลินินรู้สึกเหมือนอดีตกับปัจจุบันชนเข้าหากัน เธอไม่เปิดช่องให้เขาได้คุมเกมง่าย ๆ

“ถ้าคุณจะทบทวนเรื่องในอดีต ดิฉันขอทบทวนเรื่องงานแทนดีกว่าค่ะ”

มุมปากของกฤษณ์ยกยิ้ม คล้ายพึงพอใจ

“ดี งั้นเริ่มเลย คุณรับแรงกดดันได้แค่ไหน”

“เท่าที่งานต้องการค่ะ”

“งานนี้อยู่ใกล้ผมมาก ทุกอย่างจะผ่านมือคุณก่อนออกจากห้องนี้ ตารางนัด เอกสารดีลใหญ่ จดหมายโต้ตอบ ตลอดจนการประสานงานกับบอร์ด” เขาพูดไป เปิดแฟ้มข้อมูลไปด้วยด้วยท่วงท่าที่ชำนาญ

“เวลาของผมเป็นเงินเป็นทอง คุณจะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด”

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ

“ถ้าค่าตอบแทนคุ้มกับความรับผิดชอบ”

เขาหลุดหัวเราะในคอ

“คมเหมือนเดิม”

การสัมภาษณ์ไม่ได้ยาวนานเท่าที่ลินินกังวล เขาถามตรง เธอตอบตรง วัดกันด้วยความนิ่งของน้ำเสียงมากกว่าความคมคายของสำนวน จนท้ายที่สุด ผู้ช่วยฝ่ายบุคคลที่นั่งจดบันทึกอยู่เงียบ ๆ เอ่ยขอเอกสารเพิ่มเติม กฤษณ์จึงปิดแฟ้มพลิกกลับมา

“เริ่มงานพรุ่งนี้ได้ไหม”

ลินินชะงัก

“พรุ่งนี้”

“บริษัทนี้ต้องการคนทำงานเร็วและเก่ง” เขาว่าเสียงเรียบ

“คุณบอกว่ารับแรงกดดันได้ แสดงให้เห็นหน่อยสิ”

ความจริงคือเธอไม่มีตัวเลือกอื่น เงินค่ารักษาแม่ และค่าเทอมของน้องชายไม่รอใคร ลินินพยักหน้า

“ได้ค่ะ”

ดวงตาของกฤษณ์ทอประกาย ไม่ใช่แววเยาะ ไม่ใช่แววเมตตา แต่เป็นบางอย่างที่อ่านยาก ทว่าคล้ายรอคอยมานาน

“ดี ยินดีต้อนรับเลขาคนใหม่”

บ่ายวันเดียวกัน ลินินกลับบ้านพร้อมสัญญาจ้างงานชุดหนา แนบท้ายด้วยข้อกำหนดความลับและผลประโยชน์ คำศัพท์ทางกฎหมายเรียงตัวกันแน่น เธอนั่งหน้าพัดลม เก็บรายละเอียดทีละข้อ สะดุดกับเงื่อนไขสองสามบรรทัดที่ถูกทำตัวหนา

“ระยะเวลาการจ้างห้ามยุติสัญญาก่อนครบกำหนด เว้นแต่ ต้องจ่ายค่าชดเชย”

เธออ่านซ้ำ ๆ พอให้รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่ตั๋วชั่วคราว แต่เธอคำนวณในใจแล้ว ยังไงก็ต้องผ่านทั้งหมดนี้ให้ได้

หลังเซ็นชื่อ เธอมองรูปครอบครัวบนตู้โชว์ มารดายิ้มจาง ๆ นัยน์ตาอ่อนล้า เธอสูดลมหายใจ ไม่ว่ากฤษณ์จะเป็นใครในอดีต วันนี้เขาคือเจ้านาย พรุ่งนี้เธอคือเลขา

เช้าวันถัดมา โถงชั้นผู้บริหารครึกครื้น เสียงรองเท้าและแป้นคีย์บอร์ดผสมคลอไปกับกลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลินินมาถึงก่อนเวลา เธอจัดโต๊ะใหม่ เช็กอีเมล เปิดปฏิทิน จัดเรียงวาระประชุมตามที่ได้รับมอบหมาย เมื่อคืนประทับใจตัวเองเล็ก ๆ ที่จับจังหวะได้เร็ว

“กาแฟคุณกฤษณ์ครับ” บาริสต้าส่งถุงผ้าพรีเมียมมาให้ เธอรับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ รู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่มองมาไม่วางตา

“ขอบคุณค่ะ” เธอก้มศีรษะน้อย ๆ แล้วหันกลับสู่โต๊ะทำงาน ตรงหน้าคือประตูห้องผู้บริหารบานใหญ่ เธอสูดลมหายใจ เคาะสองครั้ง

“เชิญ” กฤษณ์ยืนอยู่ริมหน้าต่าง ม่านกรองแสงทำให้เงาเขาดูสูงกว่าเดิม เขาหันมา สายตาไล่จากถ้วยกาแฟก่อนจะมองสบตาเธอ

“เริ่มงานก่อนเวลา ดีมาก”

“วันนี้ดิฉันจัดเอกสารตามลำดับเร่งด่วนไว้แล้วค่ะ รายที่สามต้องเซ็นก่อนสิบเอ็ดโมง เพราะอีกฝั่งต้องยื่นที่ธนาคารตอนบ่าย”

“อืมดี” เขารับแฟ้ม

“คุณจำได้ด้วยว่าเอสเปรสโซผมไม่เอาฟองนม”

“คุณยังมีรสนิยมเหมือนสมัยเรียนหรือคะ” เธอหลุดถามออกไป ก่อนจะนึกได้ว่าไม่ควรพูดมันออกไปเลยสักนิด

กฤษณ์เลิกคิ้ว เหมือนแปลกใจเล็กน้อย

“ก็มีบางอย่างที่ไม่เปลี่ยน” เขาหยุดนิดหนึ่ง

“เช่นความดื้อของบางคน” เขาพูดไปอีกทาง

“ดิฉันเรียกว่าความตั้งใจค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ เมื่อรู้ว่าเขากำลังประชดหรือพูดแดกดันอะไรสักอย่าง

ดวงตาเขาหรี่ลง เหมือนเป็นการวัดใจ จากนั้นก็หันกลับไปที่แฟ้มงานอย่างรู้หน้าที่ อารมณ์ในห้องเปลี่ยนกลับไปเป็นโหมดธุรกิจร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างรวดเร็ว

ตลอดทั้งเช้า ลินินรับสาย ประสานคิว คอยยื่นเอกสารเซ็นและชี้จุดสำคัญให้สั้น กระชับ เธอพบว่าเมื่องานคือประเด็น ทุกอย่างไหลลื่นเกินคาด แม้บางจังหวะสายตาของกฤษณ์จะดุเข้มเมื่อพนักงานบางคนตอบช้า แต่เขาไม่ข้ามเส้นของใคร เขาเพียงคาดหวังมาตรฐานสูง และเธอก็ทำได้

เที่ยงตรง ประตูลิฟต์ส่วนตัวเปิด ผู้บริหารอาวุโสสามคนเข้ามาพร้อมเอกสารดีลใหญ่ ลินินส่งสัญญา ชี้โพสต์อิทเครื่องหมายสีให้

“หน้านี้บอร์ดขอคำยืนยันอีกข้อค่ะ ดิฉันสรุปไว้ท้ายแฟ้ม” กฤษณ์เหลือบมองเธอนิดหนึ่ง เหมือนจะชม แต่เปลี่ยนเป็นขอบคุณสั้น ๆ อย่างมืออาชีพ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
ซีรีส์สามีกะทันหัน

ซีรีส์สามีกะทันหัน

โรแมนติก

5.0

จาก "เพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ" ที่ไม่เคยกินเส้นกัน กลับกลายเป็น "คนบนเตียงเดียวกัน" เพียงเพราะค่ำคืนที่เมามาย เขา จิตรกรอิสระสายหน้ามึน ที่ชอบทำอาหาร วาดรูป และกวนหัวใจเธอทุกวัน เธอ นักเขียนสาวปากแข็ง ที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่สนใจเขา ทั้งที่หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่โดนกอด จากการงอแงเรียกร้องความรับผิดชอบ กลายเป็นการตามตื้อจนได้อยู่ห้องเดียวกัน จากคำว่า "คู่กัด" กลายเป็น "คู่ชีวิต" ที่หวานจนทะเลยังต้องอาย "ข้าวเช้าวันนี้ ฉันทำให้เธอเอง" "อย่ามาทำเป็นแฟนฉันนะ!" "ไม่ต้องทำเป็นหรอกฉันเป็นจริง ๆ" เรื่องราวรักวุ่น ๆ ปนร้อนแรงของคนสองคน ที่เริ่มจากความกวน แต่จบลงด้วยความรักสุดหัวใจ

นิยายชุด ทาสรักคุณชายมาเฟีย

นิยายชุด ทาสรักคุณชายมาเฟีย

โรแมนติก

5.0

1. ทาสรักคุณชายมาเฟีย เธอ... ชมพูพริ้ง คุณหนูผู้เพียบพร้อมทั้งรูปลักษณ์ ฐานะ และการศึกษา กลับต้องตกกระไดพลอยโจนเข้าไปช่วยชายแปลกหน้าที่บาดเจ็บกลางตรอก ไม่รู้เลยว่าคืนนั้น จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพันธนาการหัวใจ... เขา... คมน์ เคมินธาดา มาเฟียหนุ่มทายาทธุรกิจพันล้าน ผู้ไม่เคยศรัทธาในคำว่ารัก แต่หลังจากคืนที่เธอช่วยชีวิต เขากลับนอนไม่หลับถ้าไม่มีเธออยู่ข้างกาย หนึ่งคนหนีเพราะกลัวหัวใจตัวเองจะหวั่นไหว อีกคนกลับตามตื้ออย่างแนบเนียนในชื่อของ "การทำงาน" จากผู้ช่วยจำเป็น... กลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้ เมื่อศัตรูทางธุรกิจกลายมาเป็นคู่ชีวิต และความรักครั้งนี้ไม่ใช่แค่เกมมาเฟีย แต่คือ "ชีวิตทั้งชีวิต" ของเขา "ผมไม่ได้อยากได้คุณมาเป็นลูกน้อง ผมอยากได้คุณมาเป็นเมียต่างหาก คุณหนูชมพูพริ้ง" 2. เจ้าาสาวนิรนาม เธอ...หญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับมหาเศรษฐีหนุ่มเพราะ โชคชะตาและหนี้สิน เขา...ทายาทหนุ่มผู้ไม่เชื่อในดวงชะตา มองว่าการแต่งงานนี้เป็นแค่เรื่องไร้สาระ แต่ใครจะรู้ว่า... เจ้าสาวที่ไร้ตัวตนในใจของเขา จะกลายเป็นคนเดียวที่เขารักหมดใจ ห้าปีแห่งสัญญาและความห่างเหิน เมื่อโชคชะตาเล่นตลกให้ทั้งคู่ต้องกลับมาอยู่ใต้หลังคาเดียวกันอีกครั้ง หัวใจที่เคยเย็นชาเริ่มละลายลงทีละน้อย จากเจ้าสาวจำเป็น... กลายเป็น "เจ้าสาวตัวจริง" ที่เขาอยากครอบครองตลอดไป แต่เมื่อถึงวันที่เธอขอ "หย่า" เขาจึงเพิ่งรู้ว่า สิ่งที่กลัวมาตลอดไม่ใช่การแต่งงาน...แต่คือการ "เสียเธอไป" 3. เจ้าสาวอนุรักษ์ เธอ… "ศิริลดา" หญิงสาวที่ต้องแต่งงานกับคู่หมั้นซึ่งไม่เคยเจอหน้า เขา… "อนุรักษ์" ชายหนุ่มผู้สูญเสียการมองเห็นจากอุบัติเหตุ การแต่งงานที่เริ่มจาก "หน้าที่" กลับกลายเป็นเรื่องราวที่อบอุ่นที่สุดในชีวิต เพราะในความมืดที่เขาเผชิญ มีเพียงเสียงหัวเราะและมืออบอุ่นของเธอที่คอยนำทาง และในวันที่เขา "มองเห็นอีกครั้ง" เขากลับเลือกจะ "แกล้งมองไม่เห็น" เพื่อจะพิสูจน์ว่าผู้หญิงคนนี้ รักเขาจากใจจริงหรือแค่สงสาร แต่สิ่งที่เขาได้เห็น ไม่ใช่เพียง "ใบหน้า" ของเธอ หากคือ "หัวใจ" ที่สว่างกว่าทุกแสงในโลก เรื่องราวของชายตาบอดปากแข็ง กับหญิงสาวฉลาดอบอุ่น ที่คอยปราบพยศกันด้วยเสียงหัวเราะ ความห่วงใย และความรัก จะทำให้คุณยิ้ม อมยิ้ม และอบอุ่นหัวใจ "ในวันที่มืดมิด...เธอคือแสงสว่างเดียวที่เขาเห็น" "ในวันที่มองเห็น เขาก็ยังอยากมองเห็นแค่เธอคนเดียว"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน

Zuey
5.0

จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

ทั่วหล้าฟ้าดิน ข้าคือผู้ครอง

Coupling Shim
5.0

ในชาติก่อน ซูเยว่ซีถูกอวิ๋นถังยวี่ทำร้ายจนตาย ทำผิดต่อครอบครัวของท่านตา และตัวเองยังถูกทรมานจนตาย เกิดใหม่ครั้งนี้ นางตั้งใจจะจัดการกับพวกผู้ชายชั่วและหญิงเลวจัดการพ่อชั่ว เพื่อปกป้องแม่และครอบครัวของท่านตาให้ปลอดภัย พวกผู้ชายชั่วเข้ามาใกล้งั้นเหรอ นางจะใช้แผนให้เขาเสียชื่อเสียง หญิงตีสองหน้าเก่งชอบทำตัวอ่อนแองั้นเหรอ นางจะเปิดโปงธาตุแท้อีกฝ่ายและไล่นางออกจากจวนซู! ในชาตินี้ สิ่งที่นางต้องทำคือการจัดการพวกปลวกที่แอบแฝงอยู่ในราชสำนัก แก้แค้นคนทรยศ เพื่อปกป้องท่านตาที่เป็นคนซื่อสัตย์ นางใช้มือเรียวเป็นเครื่องมือ ก่อให้เมืองจิงเกิดความวุ่นวาย แต่ท่ามกลางความโกลาหล นางได้พบกับองค์ชาย ผู้ที่ทุกคนเล่าลือว่าเป็นคนพิการ “อวิ๋นเฮิง เจ้าจะมาขวางข้าหรือ” อวิ๋นเฮิงยิ้มเบาๆ “ไม่ ข้าตั้งใจจะมาช่วยเจ้า”

เรือนนี้ผีไม่หลอก

เรือนนี้ผีไม่หลอก

ฺBorbee
5.0

เรือนนี้ผีไม่หลอก : นามปากกา บ.บี อู่หลิงเยว่หญิงสาววัย 17 ปี ตายเพราะแผ่นดินไหวในศตวรรษที่ 21 แต่ยังไม่ทันได้ผุดได้เกิด กลับตื่นขึ้นในร่างหญิงโบราณที่ชื่อแซ่เดียวกันท่ามกลางภาวะสงคราม โลกใหม่ที่นางมาเยือนคือแคว้นเหยียน ดินแดนที่เพิ่งถูกตีแตกและกำลังจะล่มสลาย นางไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีครอบครัวหลงเหลือ มีเพียง “ห้างสรรพสินค้าส่วนตัว” พร้อมระบบแลกแต้มที่ยังไม่เสถียร และกฎเหล็กข้อเดียว: จะใช้ของในห้างสรรพสินค้าได้ ต้องทำความดีเพื่อสะสมแต้ม! แต่ในยุคที่ผู้คนกำลังอดอยากและถูกไล่ล่าจากศัตรู หากนางเผลอหยิบเอาอาหารออกมาจากอากาศแล้วมีคนพบเห็นเข้า นางคงถูกตีตราว่าเป็นแม่มดนอกรีตเป็นแน่ เพื่อเอาตัวรอด อู่หลิงเยว่หนีเข้าเรือนร้างเก่าแก่ของตระกูลเกา เรือนที่คนทั้งหมู่บ้านร่ำลือว่ามีผีเฮี้ยน เพราะเจ้าของเรือนกับบ่าวไพร่สิบสองชีวิต เคยถูกฆ่าตายยกหลังในคืนเดียว นางจึง "แกล้งเป็นผี" แจกจ่ายข้าวของกลับไปเป็นข้าว ยา และของใช้ ชาวบ้านได้ของกินนางได้แต้ม ระบบได้ทำงาน วิน วิน!!! แต่เรื่องกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด... แม่ทัพเซี่ยโม่เหวิน นำทหารสามร้อยนายเข้ามาตั้งค่ายในหมู่บ้านหานเฉิง เพื่อดูแลชาวบ้านและทหารหนีตายจากทั่วสารทิศ เมื่อเขาค้นพบว่าองค์ชายแห่งแคว้นยังมีชีวิตอยู่พร้อมกองกำลังขนาดใหญ่ที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการกอบกู้บ้านเมือง เขาจึงวางแผนพาชาวบ้านและทหารที่เหลือทั้งหมดไปรวมกำลังกับองค์ชาย ทว่า..ชาวบ้านกลับปฏิเสธ พวกเขาไม่เชื่อในกองทัพ แต่กลับเชื่อมั่นใน "ผีเรือนร้าง" ผีที่ไม่เคยหลอกใคร แต่แจกข้าว แจกยา และความหวัง เมื่อทางเลือกหมดลง..เซี่ยโม่เหวินจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีแม่ทัพคนใดเคยคิดจะทำมาก่อน เขาจะไปเชิญ “ผี” ร่วมเดินทางไปด้วย และสิ่งที่เขาได้พบในเรือนร้าง จะเปลี่ยนทุกอย่างที่เขาเคยเชื่อไปตลอดกาล

รักต้องห้าม  โทสะของผู้ปกครอง

รักต้องห้าม โทสะของผู้ปกครอง

Gavin
5.0

สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ