บอสขาได้โปรด! อย่าหื่นกับหนู

บอสขาได้โปรด! อย่าหื่นกับหนู

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
36
ชม
10
บท

เมื่อบอสหน้านิ่งจอมเย็นชา แอบตกหลุมรักเลขาจอมโก๊ะเข้าเต็มเปา! จากคนที่เคยแค่เฝ้ามองกลายเป็นคนที่คอยตามจีบแบบเนียน ๆ ทุกวัน แต่ใครจะคิดว่า...เบื้องหลังแว่นใส ๆ ของเลขาคนซื่อ จะทำให้บอสสุดหล่อกลายร่างเป็น 'บอสหื่น' ที่พร้อมงัดทุกกลเม็ดมาอ่อย! ภารกิจจับเลขาแต่งงานเริ่มต้นขึ้นแล้ว! และงานนี้...จะจบลงที่แหวนแต่งงาน หรือเตียงนุ่ม ๆ กันแน่นะ

บทที่ 1 1

เสียงแตรรถบนถนนในเมืองใหญ่ตอนเช้าดังลั่นแข่งกับเสียงลมหายใจหอบๆของหญิงสาวในชุดเชิ้ตสีขาวกระโปรงสอบผมม้าตรงเป๊ะและแว่นตาอันหนาเตอะซึ่งเลื่อนลงมายังปลายจมูกเพราะเหงื่อออก

"ขอโทษนะคะ! ขอทางหน่อยค่ะ!จะไปทำงานวันแรกค่า!"

พิชญ์สินี หรือ น้ำหวาน ตะโกนลั่นบนรถไฟฟ้าขณะเบียดคนเข้าไปในขบวนจนได้ ย่ามสะพายกระแทกหน้าผู้ชายข้าง ๆ อย่างไม่ตั้งใจ ก่อนจะหลุดคำขอโทษรัว ๆ จนอีกฝ่ายต้องส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู

วันแรกของงานเลขาในบริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เธอจะไม่ยอมมาสายเด็ดขาด!

แต่ในตอนที่ลิฟต์กำลังจะปิดลงตรงหน้า เสียง ‘ติ๊ง!’ ก็ดังขึ้นพร้อมประตูลิฟต์ที่เปิดออกอีกครั้ง

และโชคชะตาก็เล่นตลกใส่เธอทันทีที่ก้าวเข้าไป...

โครม!

แฟ้มงานในมือที่กอดแน่นไว้ตอนวิ่งกระแทกเข้ากับศีรษะของใครบางคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์เต็มแรง!

“โอ๊ย!”

“อ๊า ขอโทษค่ะ! ขอโทษจริง ๆ ค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

หญิงสาวยกมือไหว้รัว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้น และสิ่งแรกที่เธอเห็นคือ… ดวงตาคมกริบของชายหนุ่มในชุดสูทเนี๊ยบ หน้าเฉยชาดั่งภูเขาน้ำแข็ง

“คุณ...” เขาขมวดคิ้วแล้วพูดนิ่ง ๆ “…คือเลขาคนใหม่ของผมเหรอ”

“เอ่อ... ค่ะ… ดิฉันชื่อพิชญ์สินีค่ะ แต่เรียกว่าน้ำหวานก็ได้นะคะบอส เอ้ย! ไม่ใช่สิ... คุณภัทร เอ้ย! บอสภัทร!” บรรยากาศในลิฟต์เงียบกริบ

ชายหนุ่มเหล่มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจ ก่อนจะกระตุกมุมปากเล็กน้อย

“เรียกผมว่า บอส ก็พอครับคุณน้ำหวาน”

“นี่คือแฟ้มเอกสารทั้งหมดของวันนี้ค่ะบอส”

“...คุณถือกลับไปเรียงใหม่ด้วยนะครับ”

“เอ๊ะ...” พิชญ์สินีชะโงกดูแฟ้มงานที่เธอถือมาก่อนจะหน้าแดงทันที เพราะดันเรียงแฟ้มกลับหัว!

“ขอโทษค่ะ! หนูจะเรียงใหม่เดี๋ยวนี้เลยค่ะบอส!” เสียงหัวเราะเบา ๆ หลุดจากชายหนุ่มตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว เลขาคนนี้...แปลกดี

พิชญ์สินีลงไปซื้อข้าว กลับขึ้นมาพร้อมขนมครกกับน้ำตะไคร้

“คุณน้ำหวาน เอาของพวกนี้เข้ามาในห้องทำงานผมทำไมครับ”

“อ๋อ หนูเห็นบอสไม่ได้กินข้าว ก็เลยเอามาเผื่อค่ะ หนูซื้อเองนะคะ! ไม่ได้เบิกเงินบริษัทเลยสักสตางค์แดงเดียว สาบานค่ะ” เธอยกกล่องขนมครกวางลง พร้อมยิ้มสดใสราวกับลูกแมวตัวน้อยๆ แสนเชื่อ ทำให้ภัทรวรรธน์ที่กำลังเครียดจากงานถึงกับชะงัก จากประวัติเธอเป็นสาวมาจากบ้านนอกแต่เรียนโคตรเก่ง เลยได้เข้าทำงานที่นี่

“…คุณเป็นเลขา หรือเป็นแม่บ้านกันแน่ครับ”

“เป็นเลขาค่ะ” เธอยิ้มแฉ่งให้เขา

“คุณน้ำหวานครับ คุณส่งอีเมลผิดคนครับ”

“ห๊ะ! หนูส่งงานให้... เอ๊ะ! ทำไมมันกลายเป็นไฟล์รูปแมวในชุดไดโนเสาร์ล่ะคะ!”

ภัทรวรรธน์มองหน้าจอที่เปิดไฟล์รูปแมวสีส้มใส่ชุดไดโนเสาร์กำลังยิ้มแบ๊ว แล้วหลุดหัวเราะในลำคอ

“นี่แมวคุณเหรอ”

“ใช่ค่ะ ชื่อเจ้าข้าวฟ่าง… เอ่อ หนูไม่ได้ตั้งใจค่ะ ฮือ….” เธอทำท่าจะร้องไห้ ภัทรวรรธน์ที่เห็นจึงรีบวางแฟ้มลงแล้วหยิบทิชชูยื่นให้แบบงง ๆ

“ไม่เป็นไรครับ แค่ครั้งแรก ผม...ให้อภัยคุณ”

“จริงเหรอคะบอส ขอบพระคุณมากๆ นะคะ!” หญิงสาวยิ้มด้วยดวงตาเป็นประกายจนภัทรวรรธน์ต้องเบือนหน้าหนี… ทำไมต้องยิ้มให้เขาแบบนั้นด้วย รอยยิ้มของเธอทำให้เขาใจสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ในวันนั้นพิชญ์สินีกลับห้องอย่างหมดแรงแต่ยิ้มแป้น เมื่อได้รับ “รอยยิ้ม” จากบอสในตอนเย็น ราวกับได้เหรียญทองโอลิมปิก

ส่วนภัทรวรรธน์… นั่งในห้องทำงานอยู่คนเดียว แล้วเปิดรูปแมวไดโนเสาร์บนจออีกครั้ง

“เลขาคนนี้… น่ารักดี” ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเลขาทำงานผิดพลาดขนาดนี้คงโดนดุแต่เขากลับดุเธอไม่ลงจริง ๆ เมื่อเห็นสายตาไร้เดียงสานั้น

เช้าวันใหม่ พิชญ์สินีมาถึงบริษัทแต่เช้าตรู่ หอบขนมครกเจ้าประจำใส่กล่องไม้ไผ่มาอีกครั้ง

“วันนี้บอสจะต้องกินให้ได้ หนูปรุงเองกับมือ… เอ๊ะ ไม่สิ ซื้อจากตลาดเช้านั่นแหละ”

เธอหัวเราะแหะ ๆ กับตัวเองก่อนจะสะดุดขอบพรมหน้าห้อง… และกล่องขนมครกก็กระเด็นตกพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว!

“อ๊า! ไม่นะ!” ขนมครกร่วงเป็นแพนเค้กแตกกระจายต่อหน้า… และที่ร้ายกว่านั้นคือภัทรวรรธน์ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“คุณ…มีความสามารถด้านทำลายล้างอาหารไทยมากนะครับ”

“ฮือ หนูขอโทษค่ะ ” พิชญ์สินีหน้าเสีย เธอก้มเก็บเศษกล่องไม้ไผ่แบบหมดสภาพ

ภัทรวรรธน์มองอย่างอึ้งนิด ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเงียบ ๆ แล้วพูดผ่านประตูที่เปิดอยู่...

“ครั้งหน้า ลองซื้อขนมที่มันมีกล่องแข็งหน่อยครับ จะได้ไม่แตกง่าย” เสียงนั้น...เบากว่าปกติ

พิชญ์สินีชะงัก แล้วหัวเราะเบา ๆ

“บอสห่วงขนม… หรือห่วงคนถือขนมคะ”

วันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ของบริษัท มีพรีเซนต์แผนงานใหม่กับนักลงทุน พิชญ์สินีรับหน้าที่จัดเตรียมสไลด์ แต่ด้วยความโก๊ะ เธอเผลอ copy ไฟล์ผิด!

และระหว่างพรีเซนต์... ภาพหน้าจอก็ปรากฏเป็น สไลด์ “ชีวิตแมวในหนึ่งวันของเจ้าข้าวฟ่าง”

พร้อมเสียงดนตรีน่ารัก กับเสียงบรรยายที่เธอเคยอัดไว้เล่น

9 โมงเช้า... ข้าวฟ่างกลิ้งหงายพุง... 10 โมงเช้า... ข้าวฟ่างฉี่ใส่กระถางต้นไม้…

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.5

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ