การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
4.9K
ชม
10
บท

ฉันคืออลินา ธีรโชติ ทายาทที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลดัง ในที่สุดก็ได้กลับบ้านหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต พ่อแม่รักและเอ็นดูฉัน สามีทะนุถนอมฉัน ส่วนผู้หญิงที่พยายามทำลายชีวิตฉันอย่างคีรติก็ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก ในวันเกิดของฉัน ฉันตัดสินใจจะไปเซอร์ไพรส์ไอศูรย์ สามีของฉันที่ออฟฟิศ แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันตามไปเจอเขาที่แกลเลอรี่ส่วนตัวแห่งหนึ่งอีกฟากของกรุงเทพฯ เขายืนอยู่กับคีรติ เธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะยืนอยู่ข้างๆ สามีของฉันและลูกชายวัยห้าขวบของพวกเขา ฉันมองผ่านกระจกใส เห็นไอศูรย์ก้มลงจูบเธอ เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งจูบฉันเมื่อเช้านี้ ฉันแอบเข้าไปใกล้ขึ้นและได้ยินบทสนทนาของพวกเขา คำขอของฉันที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดถูกปฏิเสธ เพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะเหมาสวนสนุกทั้งสวนให้กับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเกิดวันเดียวกับฉัน “ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด” ไอศูรย์พูด น้ำเสียงของเขาเจือความเหยียดหยามที่โหดร้ายจนฉันแทบหยุดหายใจ “น่าสมเพชชะมัด” โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดีซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนชีวิตลับๆ นี้ สามีผู้ทุ่มเท—เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ดำเนินมานานถึงห้าปี ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่พวกเขาจับมาเล่นละครตบตา โทรศัพท์ของฉันสั่น เป็นข้อความจากไอศูรย์ที่ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเขา “เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ” คำโกหกง่ายๆ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย พวกเขาคิดว่าฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก และจะควบคุมยังไงก็ได้ พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

บทที่ 1

ฉันคืออลินา ธีรโชติ ทายาทที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลดัง ในที่สุดก็ได้กลับบ้านหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต พ่อแม่รักและเอ็นดูฉัน สามีทะนุถนอมฉัน ส่วนผู้หญิงที่พยายามทำลายชีวิตฉันอย่างคีรติก็ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก

ในวันเกิดของฉัน ฉันตัดสินใจจะไปเซอร์ไพรส์ไอศูรย์ สามีของฉันที่ออฟฟิศ แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น

ฉันตามไปเจอเขาที่แกลเลอรี่ส่วนตัวแห่งหนึ่งอีกฟากของกรุงเทพฯ เขายืนอยู่กับคีรติ

เธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะยืนอยู่ข้างๆ สามีของฉันและลูกชายวัยห้าขวบของพวกเขา ฉันมองผ่านกระจกใส เห็นไอศูรย์ก้มลงจูบเธอ เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งจูบฉันเมื่อเช้านี้

ฉันแอบเข้าไปใกล้ขึ้นและได้ยินบทสนทนาของพวกเขา คำขอของฉันที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดถูกปฏิเสธ เพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะเหมาสวนสนุกทั้งสวนให้กับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเกิดวันเดียวกับฉัน

“ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด” ไอศูรย์พูด น้ำเสียงของเขาเจือความเหยียดหยามที่โหดร้ายจนฉันแทบหยุดหายใจ “น่าสมเพชชะมัด”

โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดีซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนชีวิตลับๆ นี้ สามีผู้ทุ่มเท—เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ดำเนินมานานถึงห้าปี ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่พวกเขาจับมาเล่นละครตบตา

โทรศัพท์ของฉันสั่น เป็นข้อความจากไอศูรย์ที่ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเขา

“เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ”

คำโกหกง่ายๆ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย พวกเขาคิดว่าฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก และจะควบคุมยังไงก็ได้

พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

บทที่ 1

“ฉันยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาปล่อยนังนั่นไปง่ายๆ” ดีน่าพูดพลางส่ายหัวขณะคนกาแฟของเธอ “หลังจากเรื่องทั้งหมดที่คีรติทำกับเธอ”

ฉันสะดุ้งกับชื่อนั้น ห้าปีแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนเป็นแผลสด “ดีน่า พอเถอะ”

“ฉันพูดจริงๆ นะ” เธอยืนกราน สัญชาตญาณทนายความของเธอเริ่มทำงาน “หล่อนก็เหมือนน้องสาวเธอ เด็กที่พ่อแม่เธอรับมาเลี้ยงดู ทุ่มเทความรักให้ตั้งหลายปีก่อนที่จะเจอเธอซะอีก แล้วดูสิ่งที่หล่อนทำตอบแทนสิ กล่าวหาว่าเธอขโมยบทหนังของหล่อน แล้วพยายามจะเผาอนาคตในวงการของเธอให้วอดวาย”

ฉันถอนหายใจ ความทรงจำนั้นขมขื่นเหมือนยาที่ต้องกลืนลงคอ คีรติ เด็กในปกครองของพ่อแม่ฉัน ลูกสาวนอกไส้ที่เคยอยู่ในตำแหน่งของฉัน เมื่อฉัน อลินา ทายาทตัวจริงของตระกูลธีรโชติ ถูกพบตัวและได้กลับบ้าน เทพนิยายการกลับคืนสู่ครอบครัวก็พังทลายลงด้วยความริษยาอาฆาตของคีรติ เรื่องอื้อฉาวขโมยผลงานคือสุดยอดผลงานการแก้แค้นของเธอ แต่ครอบครัวของฉันก็ยืนหยัดปกป้องฉัน

“พวกเขาบอกฉันว่าหล่อนสติแตกไปเลยหลังจากความจริงเปิดเผย” ฉันเล่าเรื่องราวที่ฉันยึดถือมาตลอดครึ่งทศวรรษ “พ่อแม่ฉันรู้สึกผิด ท่านเลยจัดการส่งหล่อนไปอยู่สถานบำบัดเอกชนที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้รับการรักษา ไอศูรย์ก็เห็นด้วยว่าเป็นทางออกที่มีมนุษยธรรมที่สุดแล้ว หล่อนไปแล้วดีน่า พวกเขาปกป้องฉัน”

ฉันเชื่อพวกเขาอย่างสุดหัวใจ ฉันคืออลินา ธีรโชติ นักเขียนบทภาพยนตร์ที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่ร่ำรวยซึ่งฉันพลัดพรากไปตั้งแต่เด็ก ฉันมีพ่อแม่ที่รักฉันและสามีที่หล่อเหลาประสบความสำเร็จ ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก เงาของอดีต ทั้งบ้านเด็กกำพร้าและความเหงา ดูห่างไกลออกไปเป็นล้านไมล์ นี่คือโลกความจริงของฉันตอนนี้ มันมั่นคงและเป็นจริง

“แต่ก็นะ” ฉันถอนหายใจ เปลี่ยนเรื่อง “ฉันหวังว่าช่วงนี้ไอศูรย์จะไม่ยุ่งเกินไป ฉันอยากไปสวนสนุกดรีมเวิลด์มากเลย อยากไปแค่วันเดียว ไปทำตัวเป็นเด็กอีกครั้ง” ฉันระบายให้ดีน่าฟัง “วันเกิดฉันใกล้จะถึงแล้ว ฉันส่งข้อความไปหาเขา ถามว่าเราไปกันได้ไหม แต่ไม่ได้บอกนะว่าเป็นของขวัญวันเกิด อยากให้มันเป็นความลับเล็กๆ ของเราสองคน”

ทันใดนั้น ราวกับรู้ใจ โทรศัพท์ของฉันก็สั่นครืดบนโต๊ะ ชื่อของไอศูรย์สว่างวาบขึ้นมาบนหน้าจอ ฉันยิ้มออกมา หัวใจเต้นรัวด้วยความหวัง

คำตอบของเขาสั้นและเย็นชา “ไปไม่ได้ มีโปรเจกต์ด่วนที่บริษัท ช่วงสองสามอาทิตย์นี้จะยุ่งมาก อย่าคิดมากนะ”

ไหล่ของฉันลู่ลง ดีน่าเห็นความผิดหวังบนใบหน้าฉันจึงเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาจับมือฉันไว้ สีหน้าของเธอให้กำลังใจ “นี่ ไปหาเขาสิ เดินตรงเข้าไปในออฟฟิศแล้วบอกเขาเลยว่าเป็นคำขอวันเกิดของเธอ ไอศูรย์รักเธอนะ เขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอ”

คำพูดของเธอจุดประกายความหวังเล็กๆ ในใจฉัน ฉันอยากจะไปเซอร์ไพรส์เขา หนึ่งชั่วโมงต่อมา ฉันเดินเข้าไปในล็อบบี้ที่ส่องประกายของวิริยะเมดิคอล กรุ๊ป พร้อมกาแฟแก้วโปรดของเขาสองแก้ว พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ล็อบบี้ยิ้มให้อย่างสุภาพ แต่เลขานุการของไอศูรย์กลับหยุดฉันไว้ที่หน้าลิฟต์ รอยยิ้มของเธอดูรู้สึกผิด

“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณอลินา แต่วันนี้ช่วงบ่ายท่านประธานมีนัดส่วนตัวค่ะ ท่านออกไปแล้ว”

“อ้อ” ฉันพยายามซ่อนความผิดหวัง “เขาบอกไหมคะว่าจะไปไหน”

“ท่านอยู่ที่รตี แกลเลอรี่ ฝั่งตะวันตกค่ะ” เธอพูดพลางเช็คตารางนัดของเขา “ท่านไปที่นั่นทุกวันอังคาร”

ความรู้สึกเย็นเยียบแล่นจับขั้วหัวใจ รตี ชื่อนั้นดังก้องอยู่ในหัวของฉัน

ฉันขับรถออกไป มือเกาะพวงมาลัยแน่น ที่อยู่นั้นนำฉันไปยังอาร์ตแกลเลอรี่ที่ทันสมัยและเก๋ไก๋ซึ่งฉันไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ป้ายเขียนว่า ‘รตี แกลเลอรี่’ วันนี้ไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม แต่ฉันเห็นรถหรูหลายคันจอดอยู่ด้านหน้า หนึ่งในนั้นคือรถของพ่อฉัน

ฉันจอดรถห่างออกไปแล้วเดินเข้าไปใกล้ตัวอาคาร ผ่านหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ฉันเห็นภาพที่ดูไม่สมเหตุสมผล แล้วฉันก็เห็นเขา สามีของฉัน ไอศูรย์ เขาไม่ได้อยู่ในชุดสูท เขาอยู่ในชุดลำลอง ใบหน้าประดับรอยยิ้มสบายๆ เป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่ได้เห็นมานานหลายปี

เขากำลังให้เด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่งขี่คออยู่ เด็กคนนั้นน่าจะอายุราวๆ สี่หรือห้าขวบ เขากำลังหัวเราะคิกคัก มือเล็กๆ ขยำเส้นผมสีเข้มของไอศูรย์

แล้วฉันก็เห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พวกเขา มือของเธอวางอยู่บนแขนของไอศูรย์

คีรติ

เธอไม่ได้ตกอับ เธอไม่ได้อยู่ในสถานบำบัด เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง อยู่ในชุดผ้าไหม ดูเป็นคุณแม่และภรรยาที่มีความสุขทุกกระเบียดนิ้ว เธอหัวเราะ เป็นเสียงที่ฉันจำได้และรู้สึกสะท้านเยือก แล้วเธอก็เขย่งตัวขึ้นไปจูบแก้มไอศูรย์ เขาหันหน้ามาแล้วจูบตอบที่ริมฝีปาก เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งทำกับฉันเมื่อเช้านี้

ลมหายใจของฉันสะดุด โลกทั้งใบของฉันหมุนคว้าง ฉันเซถอยหลังไปหลบในเงาของประติมากรรมขนาดใหญ่ ร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว

ฉันย่องไปที่ประตูข้างที่แง้มอยู่เล็กน้อย เสียงพูดคุยของพวกเขาลอดออกมา

เด็กชายตัวน้อยที่ชื่อลีโอกำลังตะโกนอย่างตื่นเต้น “แด๊ดดี้สัญญาแล้วนะครับ! วันเกิดลีโอ เราจะไปสวนสนุกกัน!”

น้ำเสียงของไอศูรย์อบอุ่นไปด้วยความรักใคร่ที่บัดนี้ฉันเพิ่งตระหนักว่าฉันไม่เคยได้รับมันอย่างแท้จริง “แน่นอนสิจ๊ะคนเก่ง แด๊ดดี้จองสวนสนุกไว้ทั้งสวนแล้ว มันจะเป็นของลูกทั้งวันเลย”

เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ วันเกิดของลีโอ มันคือวันเดียวกับวันเกิดของฉัน ในที่สุดฉันก็เข้าใจ ไอศูรย์ไม่ได้ปฏิเสธคำขอของฉันเพราะเขายุ่ง เขาปฏิเสธเพราะเขาได้สัญญาวันเกิดของฉันให้กับอีกครอบครัวหนึ่งไปแล้ว

“แน่ใจนะคะว่ายัยอลินาไม่สงสัยอะไร” คีรติถาม น้ำเสียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ห้าปีมันนานมากเลยนะที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ”

“ยัยนั่นไม่รู้เรื่องอะไรหรอก” ไอศูรย์พูด ความโหดร้ายในน้ำเสียงของเขาเสียดแทงจนฉันแทบหยุดหายใจ “ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด น่าสมเพชชะมัด”

“น่าสงสารอลินาจัง” คีรติถอนหายใจ เป็นการแสดงความเห็นใจจอมปลอมชั้นครู “ยังอุตส่าห์พูดเรื่องอยากมีลูกกับคุณอยู่เลย”

ไอศูรย์หัวเราะเยาะ “ฉันจะปล่อยให้ผู้หญิงอย่างนั้นมาอุ้มท้องลูกฉันได้ยังไง ฉันสัญญากับเธอแล้วไงคีรติ ว่าลีโอจะเป็นทายาทคนเดียวของเรา พอถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจะบอกยัยนั่นว่าฉันเป็นหมัน แล้วเราก็จะ ‘รับเลี้ยง’ ลีโอ เขาก็จะได้กลับบ้านเราอย่างถาวร”

คีรติซบลงบนอกของเขา ยิ้มอย่างผู้ชนะ

ฉันรู้สึกคลื่นไส้ พ่อแม่ของฉัน พวกเขาก็ร่วมมือด้วย เงินสำหรับชีวิตที่หรูหรานี้ ครอบครัวลับๆ นี้ แกลเลอรี่แห่งนี้—มันมาจากพวกเขา มาจากสมบัติของตระกูลธีรโชติที่ควรจะเป็นของฉัน

โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดี สามีผู้ทุ่มเท ความปลอดภัยที่ฉันคิดว่าในที่สุดฉันก็ได้พบเจอหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต—เป็นเพียงเวทีละครที่สร้างขึ้นอย่างประณีต และฉันคือตัวตลกที่รับบทนำ โดยไม่รู้เลยว่านักแสดงคนอื่นๆ กำลังหัวเราะเยาะฉันอยู่หลังม่าน

ฉันถอยหลังออกมาอย่างช้าๆ การเคลื่อนไหวแข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ ฉันขึ้นรถ ร่างกายสั่นสะท้านจนแทบจะบิดกุญแจสตาร์ทรถไม่ไหว โทรศัพท์ของฉันสั่นครืดอยู่บนตัก เป็นข้อความจากไอศูรย์

“เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ เดี๋ยวเจอกันที่บ้าน”

คำโกหกง่ายๆ ที่พิมพ์ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่ข้างครอบครัวที่แท้จริงของเขา คือฟางเส้นสุดท้าย โลกไม่ได้แค่เอียง แต่พังทลายเป็นผุยผงรอบตัวฉัน

ฉันขับรถออกไป ไม่ได้มุ่งหน้ากลับคฤหาสน์ของเรา แต่ไปสู่อนาคตที่พวกเขาควบคุมไม่ได้ ความโศกเศร้าเป็นเหมือนน้ำหนักที่มองไม่เห็น กดทับหน้าอกของฉันจนแทบแหลกสลาย แต่ภายใต้ความเจ็บปวดนั้น ถ่านไฟแห่งความมุ่งมั่นก้อนเล็กๆ ที่แข็งแกร่งก็เริ่มคุโชนขึ้น

พวกเขาคิดว่าฉันน่าสมเพช พวกเขาคิดว่าฉันโง่

พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

วัยรุ่น

5.0

ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ

เมื่อรักดับ แค้นก็เริ่ม

เมื่อรักดับ แค้นก็เริ่ม

สยองขวัญ

5.0

วันที่พวกเขากำลังจะฝังร่างลูกชายวัยสี่ขวบของฉัน ลีโอ ที่ถูกรถชนแล้วหนี คนขับรถคันนั้น คาริน อัศวธนินท์ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หลุมศพของเขา เธอยิ้ม... โยนของเล่นชิ้นโปรดของลีโอลงไปในโลงศพที่เปิดอยู่ แล้วเรียกเขาว่า “เด็กซุ่มซ่าม” สามีของฉัน เดวิด ภัทรธำรง อัยการผู้ทรงอิทธิพล เสาหลักแห่งความเข้มแข็งของเมืองนี้ ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างๆ ส่วนฉัน นักข่าวสายสืบสวน รู้ดีว่าจะต้องทวงความยุติธรรมกลับมาให้ได้ ฉันมีหลักฐาน มีพยาน มีรางวัลศรีบูรพาการันตีผลงาน แต่คาริน อัศวินธนินท์ไม่เหมือนคนอื่น ผู้พิพากษาที่ต้องพึ่งพาอำนาจของพ่อเธอ ปัดตกทุกอย่าง เธอลอยนวลพ้นผิด แล้วเจ้าหน้าที่ศาลก็ขานชื่อฉัน “เอวา วรรณรักษ์ คุณถูกจับกุม” สามีของฉันเอง พ่อของลีโอ ฟ้องฉันในข้อหาประมาทเลินเล่อ เขาบิดเบือนความโศกเศร้าของฉัน การตามหาความจริงอย่างบ้าคลั่งของฉัน ให้กลายเป็นความหวาดระแวงหมกมุ่น เชอร์รี่ เพื่อนรักของฉัน ขึ้นให้การปรักปรำฉัน อ้างว่าฉันไม่มั่นคงทางอารมณ์ คณะลูกขุนตัดสินว่าฉันผิด... สามปีในเรือนจำความมั่นคงสูงสุด... เพียงเพราะเป็นแม่ที่กำลังเสียใจ เพียงเพราะสูญเสียลูกชายไป ฉันเสียลูกไปอีกคนในคุก... ความลับที่ฉันฝังกลบไว้ลึกสุดใจ ทำไม? ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น? ทำไมเขาถึงหักหลังฉัน? วันที่ฉันถูกปล่อยตัว ฉันพบเขาที่หลุมศพของลีโอ พร้อมกับคารินและลูกชายของพวกเขา “แด๊ดดี้ เราไปกินไอติมกันได้รึยังคะ” คารินพูดเสียงออดอ้อน “เราต้องมาทักทายพี่ชายของลูกก่อนนะจ๊ะ” โลกทั้งใบของฉันพังทลาย... เขาไม่ใช่แค่ใส่ร้ายฉัน แต่เขาหาคนมาแทนที่ฉัน... และหาคนมาแทนที่ลูกชายของเรา

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

อาณาจักรลับพันล้านของตัวแทนเขา

อาณาจักรลับพันล้านของตัวแทนเขา

โรแมนติก

5.0

เป็นเวลาห้าปีเต็ม ที่ฉันแอบปั้นแฟนของฉัน คิน จากนักดนตรีไส้แห้งให้กลายเป็นซีอีโอสายเทคชื่อดัง ฉันคือนางฟ้านิรนามที่ทุ่มเงินสร้างอาณาจักรทั้งหมดของเขา ขณะที่แกล้งทำตัวเป็นแค่แฟนสาวธรรมดาๆ ที่แทบจะจ่ายค่าเช่าห้องของตัวเองไม่ไหว แล้ววันหนึ่ง เขาก็พาแคทลียา ผู้หญิงในอดีตที่หน้าตาเหมือนฉันอย่างน่าขนลุกกลับมาที่บ้าน เธอเริ่มรุกรานชีวิตฉันอย่างช้าๆ และเลือดเย็น...ใส่เสื้อผ้าของฉัน ใช้ของของฉัน ขโมยความรักของเขาไปจากฉัน และเมื่อฉันลุกขึ้นสู้ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจสั่งสอนบทเรียนให้ฉัน เขาสั่งคนมาจับตัวฉันไป มัดฉัน แล้วโยนฉันขึ้นไปบนเวทีประมูลใต้ดินสุดโสมม เขายืนดูจากเงามืด ปล่อยให้พวกผู้ชายหื่นกระหายประมูลร่างกายของฉัน ก่อนจะก้าวเข้ามาในวินาทีสุดท้ายเพื่อสวมบทฮีโร่ และลากฉันกลับไปอยู่ในที่ของฉัน เขาคิดว่าเขาทำลายฉันจนยับเยินแล้ว แต่แล้วเขาก็ปล่อยหมัดเด็ดสุดท้ายที่บดขยี้หัวใจฉันจนแหลกสลาย ด้วยการยอมรับความจริงที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน "พายเป็นแค่ตัวแทน" เขาพึมพำกับแคทลียา โดยไม่รู้ว่าฉันได้ยิน "เพราะเธอหน้าเหมือนคุณ" เขาเชื่อว่าฉันคือผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องพึ่งพาเขาไปตลอดชีวิต เขาไม่รู้เลยว่าในขณะที่เขาพูด ประโยคนั้นออกมา เอกสารหย่าของเราก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง "คีรินคะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง "พายพร้อมแล้ว เรามาแต่งงานกันเถอะค่ะ"

เจ้าสาวถูกสลับตัว หัวใจพยาบาท

เจ้าสาวถูกสลับตัว หัวใจพยาบาท

โรแมนติก

5.0

นี่ควรจะเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงานของฉัน เป็นอีเวนต์ประชาสัมพันธ์ครั้งสำคัญสำหรับการหาเสียงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ ของอังกูร สามีของฉัน แต่เมื่อฉันตื่นขึ้นจากฤทธิ์ยาที่ทำให้มึนงง ฉันกลับพบเขาที่แท่นพิธีกับเมียน้อยของเขา หล่อนสวมชุดแต่งงานของฉัน ฉันมองจากระเบียงที่ซ่อนอยู่ขณะที่เขาสวมแหวนที่เคยให้ฉันลงบนนิ้วของหล่อน ต่อหน้าบรรดาไฮโซทั่วฟ้าเมืองไทย เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเขา เขาบอกฉันว่าเมียน้อยของเขาท้อง และเขาต้องวางยาฉันเพราะหล่อน ‘ไม่สบาย’ และต้องการพิธีนี้ เขาเรียกฉันว่าแม่บ้านไร้ประโยชน์ แล้วหัวเราะเยาะพร้อมเสนอว่าเราสามารถเลี้ยงลูกของเขากับศรัณยาด้วยกันได้ เจ็ดปีในชีวิตของฉัน กลยุทธ์ของฉัน และการเสียสละของฉันได้สร้างอาณาจักรของเขาขึ้นมา และเขาพยายามจะลบฉันทิ้งด้วยแชมเปญเพียงแก้วเดียว แต่เมื่อฉันไปเจอเขาที่ศาลแพ่งเพื่อจัดการเรื่องหย่าให้สิ้นซาก เขากลับแสร้งทำเป็นความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ร้องไห้และอ้อนวอนไม่ให้ฉันทิ้งเขาไปใน ‘วันแต่งงานของเรา’ เขาอยากจะเล่นเกมงั้นเหรอ ได้... แต่ฉันจะเป็นคนเขียนกติกาเอง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ