โอเมก้าผู้ถูกทอดทิ้ง  หายนะของจอมราชันอัลฟ่า

โอเมก้าผู้ถูกทอดทิ้ง หายนะของจอมราชันอัลฟ่า

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
21
บท

สิบห้าปีที่ผ่านมา ฉันคือคู่แท้ที่ถูกลิขิตไว้ของอัลฟ่าผู้ยิ่งใหญ่ ดัสติน พัฒนกิจ เขาเรียกฉันว่า ‘สมอใจ’ เป็นคนเดียวที่สามารถปลอบประโลมสัตว์ร้ายในตัวเขาได้ แต่โลกที่สมบูรณ์แบบของเราก็พังทลายลง เมื่อฉันสัมผัสได้ถึงการทรยศของเขาผ่านสายใยแห่งจิต กลิ่นของผู้หญิงคนอื่น และภาพเล็บสีแดงสดของหล่อนที่วางอยู่บนต้นขาของเขา หมาป่าในตัวฉันกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เขาโกหกว่ามีธุระด่วนของฝูงในวันเกิดของฉัน แต่ฉันกลับเจอเส้นผมสีบลอนด์ฟอกขาวเส้นหนึ่งในรถของเขา ที่ร้านอาหารที่เราเจอกันครั้งแรก ฉันค้นพบโทรศัพท์ลับของเขาและเห็นข้อความหยาบโลนจากเจมี่ ผู้ช่วยของเขา *“อยู่กับยัยนั่นเหรอคะ? น่าเบื่อเหมือนที่อัลฟ่าบอกรึเปล่า?”* หล่อนเยาะเย้ย จากนั้นก็มีข้อความรูปภาพ เจมี่ถือกล่องทิฟฟานี่ที่เขาซื้อให้หล่อน *“คืนนี้แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะให้อัลฟ่าสวมนี่ให้เจมี่นะคะ”* พิษแห่งการทรยศของเขาทำให้ฉันป่วยจนแทบอาเจียน ผู้เยียวยาของฝูงยืนยันว่าอาการป่วยของฉันไม่ใช่อาหารเป็นพิษ แต่เป็น “อาการปฏิเสธทางจิตวิญญาณ” สายใยของเราแปดเปื้อนจากชู้รักของเขาจนวิญญาณของฉันกำลังปฏิเสธเขา คืนนั้น เจมี่ส่งการโจมตีทางจิตครั้งสุดท้ายมาให้ฉัน เป็นภาพที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดของหล่อน *“สายเลือดของเขาเป็นของฉันแล้ว ตอนนี้แกแพ้แล้ว ยัยแก่”* ฉันเคยเป็นสมอใจของเขา แต่สมอก็เลือกที่จะปล่อยโซ่ได้เหมือนกัน ฉันโทรหาทนาย “ฉันไม่ต้องการอะไรจากเขาสักบาทเดียว” ฉันบอก “ฉันต้องการเป็นอิสระ” นี่ไม่ใช่การหลบหนี แต่เป็นการถอยที่วางแผนมาอย่างดี โลกของเขากำลังจะพังทลาย และฉันนี่แหละจะเป็นคนจุดไม้ขีดไฟเอง

บทที่ 1

สิบห้าปีที่ผ่านมา ฉันคือคู่แท้ที่ถูกลิขิตไว้ของอัลฟ่าผู้ยิ่งใหญ่ ดัสติน พัฒนกิจ เขาเรียกฉันว่า ‘สมอใจ’ เป็นคนเดียวที่สามารถปลอบประโลมสัตว์ร้ายในตัวเขาได้

แต่โลกที่สมบูรณ์แบบของเราก็พังทลายลง เมื่อฉันสัมผัสได้ถึงการทรยศของเขาผ่านสายใยแห่งจิต กลิ่นของผู้หญิงคนอื่น และภาพเล็บสีแดงสดของหล่อนที่วางอยู่บนต้นขาของเขา หมาป่าในตัวฉันกรีดร้องอย่างเจ็บปวด

เขาโกหกว่ามีธุระด่วนของฝูงในวันเกิดของฉัน แต่ฉันกลับเจอเส้นผมสีบลอนด์ฟอกขาวเส้นหนึ่งในรถของเขา ที่ร้านอาหารที่เราเจอกันครั้งแรก ฉันค้นพบโทรศัพท์ลับของเขาและเห็นข้อความหยาบโลนจากเจมี่ ผู้ช่วยของเขา *“อยู่กับยัยนั่นเหรอคะ? น่าเบื่อเหมือนที่อัลฟ่าบอกรึเปล่า?”* หล่อนเยาะเย้ย

จากนั้นก็มีข้อความรูปภาพ เจมี่ถือกล่องทิฟฟานี่ที่เขาซื้อให้หล่อน *“คืนนี้แทบรอไม่ไหวแล้วที่จะให้อัลฟ่าสวมนี่ให้เจมี่นะคะ”* พิษแห่งการทรยศของเขาทำให้ฉันป่วยจนแทบอาเจียน

ผู้เยียวยาของฝูงยืนยันว่าอาการป่วยของฉันไม่ใช่อาหารเป็นพิษ แต่เป็น “อาการปฏิเสธทางจิตวิญญาณ” สายใยของเราแปดเปื้อนจากชู้รักของเขาจนวิญญาณของฉันกำลังปฏิเสธเขา คืนนั้น เจมี่ส่งการโจมตีทางจิตครั้งสุดท้ายมาให้ฉัน เป็นภาพที่ตรวจครรภ์ขึ้นสองขีดของหล่อน *“สายเลือดของเขาเป็นของฉันแล้ว ตอนนี้แกแพ้แล้ว ยัยแก่”*

ฉันเคยเป็นสมอใจของเขา แต่สมอก็เลือกที่จะปล่อยโซ่ได้เหมือนกัน ฉันโทรหาทนาย “ฉันไม่ต้องการอะไรจากเขาสักบาทเดียว” ฉันบอก “ฉันต้องการเป็นอิสระ” นี่ไม่ใช่การหลบหนี แต่เป็นการถอยที่วางแผนมาอย่างดี โลกของเขากำลังจะพังทลาย และฉันนี่แหละจะเป็นคนจุดไม้ขีดไฟเอง

บทที่ 1

มุมมองของเอลิน

เป็นเวลาสิบห้าปี ที่เรื่องราวความรักของเราเป็นที่น่าอิจฉาของทุกฝูงในทวีป ฉันคือเอลิน เดชา คู่แท้ที่ถูกลิขิตไว้ของดัสติน พัฒนกิจ อัลฟ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งกลุ่มแบล็กสโตน เขาคือโลกทั้งใบของฉัน และฉันคือ ‘สมอใจ’ ของเขา นั่นคือสิ่งที่เขาเรียกฉัน การมีอยู่ของฉัน แม้กระทั่งกลิ่นกายของฉัน เป็นสิ่งเดียวที่สามารถปลอบประโลมสัตว์ร้ายที่เกรี้ยวกราดภายในตัวเขาได้ สัตว์ร้ายที่ตะเกียกตะกายจนขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลกธุรกิจและลำดับชั้นของมนุษย์หมาป่า

วันนี้ โลกที่สมบูรณ์แบบใบนั้นได้แหลกสลายลงแล้ว

มันเริ่มต้นเหมือนเสียงกระซิบ ความปั่นป่วนจางๆ ในพื้นที่แห่งจิตที่เชื่อมโยงเราไว้ กระแสจิตของเรา กลิ่นที่ไม่ใช่ของฉัน กลิ่นน้ำหอมราคาถูกที่หอมหวานจนน่าคลื่นไส้เหมือนที่ขายตามร้านสะดวกซื้อ แทรกซึมผ่านรอยร้าวเข้ามา ตามมาด้วยภาพที่แวบเข้ามาในหัว ภาพที่ไม่พึงประสงค์ มือข้างหนึ่งซึ่งทาเล็บสีแดงกากเพชรฉูดฉาด วางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของอยู่บนต้นขาของผู้ชายคนหนึ่ง

ลมหายใจของฉันสะดุด ฉันรู้จักมือนั้น

มันเป็นของเจมี่ ศิริ ผู้ช่วยโอเมก้าของดัสติน

และกางเกงนั่น... กางเกงวูลสีเทาทรงสวย... ฉันเป็นคนเลือกให้เขาเองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หมาป่าในตัวฉัน ส่วนหนึ่งของฉันที่ฉันรู้จักมาตลอดว่าสงบนิ่งและเยือกเย็น ส่งเสียงหอนโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ข้างในหัว ฉันกดเสียงนั้นลง กำมือแน่นอยู่ข้างลำตัว สิบห้าปีที่ผ่านมา มันเคยมีอยู่จริงบ้างไหม?

วันต่อมา พายุในอกของฉันแปรเปลี่ยนเป็นความเยือกเย็นและแข็งกระด้าง ฉันใช้เวลาตลอดช่วงเช้าจ้องมองรูปถ่ายเก่าๆ บนโต๊ะข้างเตียง รูปของแม่ฉันที่ถ่ายไว้หลายปีก่อนที่ท่านจะพบกับพ่อ นามสกุลเดิมของท่าน—ธีรวัฒน์—เขียนด้วยลายมือที่สง่างามอยู่ด้านหลัง มันเป็นนามสกุลที่เป็นของท่านแต่เพียงผู้เดียว เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ท่านใช้ตามเงื่อนไขของตัวเอง ความคิดนั้นได้หว่านเมล็ดพันธุ์บางอย่างลงในใจฉัน

บ่ายวันนั้น ฉันไม่ได้ขับรถไปยังเขตแดนของฝูง แต่ขับเข้าไปในเมืองของมนุษย์ ไปยังอาคารที่ดูเย็นชาและไม่เป็นส่วนตัวของสำนักงานเขต

“ฉันต้องการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนชื่อตามกฎหมายค่ะ” ฉันบอกกับเจ้าหน้าที่ที่ดูเบื่อหน่าย

หล่อนเงยหน้าขึ้น ดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อจำฉันได้ ก็แน่ล่ะ หน้าของฉันมักจะปรากฏอยู่ข้างๆ ดัสตินในนิตยสารหรูๆ อยู่บ่อยครั้ง “ชื่ออะไรคะ?”

“ฉันชื่อเอลิน เดชา” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “ฉันต้องการเปลี่ยนเป็น อาชา ธีรวัฒน์” ธีรวัฒน์คือนามสกุลเดิมของแม่ฉัน นามสกุลที่เป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว

เจ้าหน้าที่ขมวดคิ้ว “แต่... คุณเป็นคู่แท้ของอัลฟ่าพัฒนกิจนะคะ การทำแบบนั้นต้องได้รับความยินยอมจากเขา เป็นการตัดขาด...”

“เขาไม่เคยตีตราฉัน” ฉันพูดตัดบท คำพูดนั้นขมขื่นราวกับเถ้าถ่าน ในโลกของเรา การตีตรา—รอยกัดที่ต้นคอ—คือสายใยสุดท้ายที่ไม่อาจทำลายได้ มันเป็นสัญลักษณ์ของการครอบครองอย่างสมบูรณ์ ดัสตินพูดเสมอว่าเขากำลังรอช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ รอพิธีสาธารณะที่ยิ่งใหญ่ ครั้งหนึ่งฉันเคยเชื่อเขา แต่ตอนนี้ ฉันเห็นแล้วว่ามันคือพรจากสวรรค์ มันหมายความว่าในสายตาของทั้งกฎหมายมนุษย์และกฎของฝูง ฉันยังคงเป็นตัวของตัวเอง

เย็นวันนั้น ฉันดูดัสตินในข่าว เขากำลังอยู่ในงานกาลาการกุศล ดูเป็นอัลฟ่าที่ทรงอำนาจและทุ่มเทอย่างเต็มเปี่ยม เขายกแก้วขึ้น สายตาของเขามองมาที่กล้องราวกับว่าเขากำลังมองมาที่ฉันโดยตรง “แด่คู่แท้ที่แสนสวยของผม เอลิน” เขาพูดเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่เสแสร้ง “สมอใจของผม ถ้าไม่มีเธอ ผมก็ไม่มีอะไรเลย”

คำพูดเหล่านั้น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นดั่งบทเพลงที่ไพเราะที่สุดสำหรับฉัน บัดนี้เป็นเพียงเสียงรบกวน เป็นการแสดงทางการเมือง ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย

ต่อมา ฉันนำกำไลคู่ที่เราแลกกันในวันครบรอบปีแรกของเรา—กำไลเงินถักสองวง แต่ละวงมีมูนสโตนขัดเงาที่ส่องสว่าง—ไปยังร้านอัญมณีเก่าๆ โทรมๆ ในย่านที่ดัสตินไม่มีวันไป

“ฉันต้องการให้คุณหลอมมัน” ฉันบอกชายชราหลังเคาน์เตอร์ วางกำไลลงบนแผ่นกำมะหยี่

เขามองมัน แล้วก็มองฉัน “นี่เป็นของขวัญของคู่แท้ เป็นของศักดิ์สิทธิ์ การทำลายมันคือ...”

“หลอมมัน” ฉันพูดซ้ำ น้ำเสียงของฉันไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง “หลอมมันเข้าด้วยกันจนมองไม่ออกว่าอันไหนเป็นอันไหน ฉันต้องการก้อนโลหะน่าเกลียดที่จำไม่ได้ว่าเป็นอะไร”

เมื่อดัสตินกลับมาถึงบ้านในคืนนั้น หลังเที่ยงคืนไปนาน เขาเอาช่อดอกลิลลี่สีขาวที่ฉันชอบมาให้ เขาโน้มตัวลงมาจูบฉัน และกลิ่นนั้นก็ปะทะเข้ากับฉันเหมือนถูกตบหน้า กลิ่นหอมทรงพลังของไม้จันทน์และพายุฤดูหนาวอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา บัดนี้แปดเปื้อนด้วยกลิ่นหอมหวานจนเลี่ยนราคาถูกของเจมี่

และตรงนั้น ใต้แนวกรามของเขา คือรอยจูบจางๆ ที่ไม่อาจปฏิเสธได้

“วันนี้เหนื่อยจัง ที่รัก” เขากระซิบข้างผมฉัน

ฉันฝืนยิ้ม หัวใจของฉันกลายเป็นหินที่เยือกแข็งอยู่ในอก “เหนื่อยที่สุดเลยค่ะ” ฉันเห็นด้วย

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

โรแมนติก

5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

โรแมนติก

5.0

สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าฉันกำลังจะตาย ไม่ใช่พายุหิมะ ไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่กัดกินลึกถึงกระดูก แต่มันคือแววตาของคู่หมั้นของฉัน ตอนที่เขาบอกว่าเขายกผลงานทั้งชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่จะทำให้เรารอดชีวิตไปให้ผู้หญิงคนอื่น “เค้กหนาวจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันกำลังไร้เหตุผล “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนี่ คุณรับมือได้อยู่แล้ว” จากนั้นเขาก็เอาโทรศัพท์ดาวเทียมของฉันไป ผลักฉันลงไปในหลุมหิมะที่ขุดไว้อย่างลวกๆ แล้วทิ้งฉันไว้ให้ตายตรงนั้น เค้ก แฟนใหม่ของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอห่มผ้าห่มอัจฉริยะผืนที่เป็นประกายของฉันไว้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มขณะที่ใช้ขวานน้ำแข็งของฉันเอง กรีดทำลายชุดของฉัน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพายุชั้นสุดท้าย “เลิกดราม่าสักที” เขาพูดกับฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะที่ฉันนอนรอความตายอย่างหนาวเหน็บ พวกเขาคิดว่าได้เอาทุกอย่างไปจากฉันแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสัญญาณฉุกเฉินลับที่ฉันเย็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ฉันได้เปิดใช้งานมัน

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

โรแมนติก

5.0

ห้าปีเต็มที่ฉันเป็นคู่หมั้นของเจตน์พัฒน์ วงศ์วิริยะ ห้าปีที่ในที่สุดพี่ชายของฉันก็ปฏิบัติต่อฉันเหมือนน้องสาวที่พวกเขารัก แล้วฝาแฝดของฉัน หทัย—คนที่ทิ้งเขาไว้หน้าแท่นพิธี—ก็กลับมาพร้อมกับเรื่องโกหกว่าเป็นมะเร็ง แค่ห้านาที เขาก็แต่งงานกับเธอ พวกเขาเชื่อทุกคำโกหกของเธอ ตอนที่เธอพยายามจะฆ่าฉันด้วยแมงมุมพิษ พวกเขาก็หาว่าฉันดราม่า ตอนที่เธอใส่ร้ายว่าฉันทำลายงานเลี้ยงของเธอ พี่ชายก็เฆี่ยนฉันจนเลือดอาบ พวกเขาเรียกฉันว่าตัวแทนไร้ค่า เป็นแค่คนคั่นเวลาที่มีใบหน้าเหมือนเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงตอนที่พวกเขาจับฉันมัดกับเชือกแล้วปล่อยให้ห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผา รอวันตาย แต่ฉันไม่ตาย ฉันปีนกลับขึ้นมา จัดฉากการตายของตัวเอง แล้วหายตัวไป พวกเขาอยากได้ผีนักใช่ไหม ฉันก็จะจัดให้

เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

โรแมนติก

5.0

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตฉันเป็นเรื่องหลอกลวงคือเสียงครางจากห้องนอนแขก สามีที่แต่งงานกันมาเจ็ดปีไม่ได้อยู่บนเตียงของเรา เขาอยู่กับเด็กฝึกงานของฉัน ฉันค้นพบว่าภัทร สามีของฉัน แอบคบชู้กับขวัญข้าวมาสี่ปีแล้ว เด็กสาวมากความสามารถที่ฉันคอยชี้แนะและจ่ายค่าเทอมให้ด้วยตัวเอง เช้าวันต่อมา เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าของเราในเสื้อเชิ้ตของเขา ขณะที่เขากำลังทำแพนเค้กให้เรา เขายังโกหกฉันซึ่งๆ หน้า สัญญาว่าจะไม่มีวันรักใครอื่น ก่อนที่ฉันจะมารู้ว่าเธอท้องกับเขา—ลูกที่เขาปฏิเสธที่จะมีกับฉันมาตลอด คนสองคนที่ฉันไว้ใจที่สุดในโลกร่วมมือกันทำลายฉัน ความเจ็บปวดนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะทนอยู่กับมันได้ มันคือการทำลายล้างโลกทั้งใบของฉัน ฉันจึงโทรหานักประสาทวิทยาเกี่ยวกับการทดลองของเขา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ฉันไม่ได้ต้องการแก้แค้น ฉันแค่อยากจะลบทุกความทรงจำเกี่ยวกับสามีของฉัน และเป็นผู้เข้ารับการทดลองคนแรกของเขา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ