เจ็ดปีเต็มที่ฉันทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่เกิดเหตุอาชญากรรม ขัดถูคราบความตายเพื่อรักษาชีวิตลูกชายของฉัน ในที่สุดฉันก็หาเงินเก้าล้านบาทมาได้สำเร็จ สำหรับการรักษาด้วยวิธีทดลองที่จะช่วยรักษาโรคทางพันธุกรรมที่หายากของเขา แต่เมื่อฉันไปถึงโรงพยาบาล ฉันกลับได้ยินภัทร แฟนของฉันกำลังคุยโทรศัพท์ มันไม่ใช่เรื่องการรักษา แต่มันคือ “การทดลองทางสังคม” การทดสอบเจ็ดปีเต็มเพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จ้องจะจับคนรวย และลูกชายของฉัน…ไม่เคยป่วยเลย เพื่อนสนิทของฉันก็ร่วมมือกับเขาด้วย เธอกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วฉันก็ได้ยินเสียงลูกชายของฉัน “ผมไม่อยากให้แม่เหม็นๆ กลับมา ผมอยากได้น้าเจน น้าเจนตัวหอมเหมือนขนม” พวกเขาทำให้ฉันอับอายขายหน้าที่โรงเรียนของเขา เรียกฉันว่าเป็นแค่คนทำความสะอาดสติไม่ดี ลูกชายของฉันชี้หน้าฉันแล้วบอกทุกคนว่าเขาไม่รู้จักฉัน ในขณะที่ผู้ชายที่ฉันรักลากฉันออกไป กล่าวหาว่าฉันเป็นตัวน่าอัปยศ ความรักของฉันไม่ใช่ความรัก มันเป็นแค่ข้อมูล การเสียสละของฉันไม่ใช่การเสียสละ มันเป็นแค่การแสดง พวกเขาหันลูกของฉันเองมาเป็นศัตรูกับฉัน เพียงเพื่อเกมวิปริตของพวกเขา พวกเขาคิดว่ากำลังทดสอบคนทำความสะอาดจนๆ โง่ๆ คนหนึ่ง พวกเขาไม่รู้ว่าเขาคือ ภากร ยอดมณเฑียร ทายาทของตระกูลมหาเศรษฐีหมื่นล้าน และพวกเขาไม่รู้เลยว่าฉันคือ อลิน แห่งตระกูลเดชดำรง ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาพี่ชาย “ฉันจะกลับบ้าน”
เจ็ดปีเต็มที่ฉันทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่เกิดเหตุอาชญากรรม ขัดถูคราบความตายเพื่อรักษาชีวิตลูกชายของฉัน ในที่สุดฉันก็หาเงินเก้าล้านบาทมาได้สำเร็จ สำหรับการรักษาด้วยวิธีทดลองที่จะช่วยรักษาโรคทางพันธุกรรมที่หายากของเขา
แต่เมื่อฉันไปถึงโรงพยาบาล ฉันกลับได้ยินภัทร แฟนของฉันกำลังคุยโทรศัพท์ มันไม่ใช่เรื่องการรักษา แต่มันคือ “การทดลองทางสังคม” การทดสอบเจ็ดปีเต็มเพื่อพิสูจน์ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จ้องจะจับคนรวย และลูกชายของฉัน…ไม่เคยป่วยเลย
เพื่อนสนิทของฉันก็ร่วมมือกับเขาด้วย เธอกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน แล้วฉันก็ได้ยินเสียงลูกชายของฉัน
“ผมไม่อยากให้แม่เหม็นๆ กลับมา ผมอยากได้น้าเจน น้าเจนตัวหอมเหมือนขนม”
พวกเขาทำให้ฉันอับอายขายหน้าที่โรงเรียนของเขา เรียกฉันว่าเป็นแค่คนทำความสะอาดสติไม่ดี ลูกชายของฉันชี้หน้าฉันแล้วบอกทุกคนว่าเขาไม่รู้จักฉัน ในขณะที่ผู้ชายที่ฉันรักลากฉันออกไป กล่าวหาว่าฉันเป็นตัวน่าอัปยศ
ความรักของฉันไม่ใช่ความรัก มันเป็นแค่ข้อมูล การเสียสละของฉันไม่ใช่การเสียสละ มันเป็นแค่การแสดง พวกเขาหันลูกของฉันเองมาเป็นศัตรูกับฉัน เพียงเพื่อเกมวิปริตของพวกเขา
พวกเขาคิดว่ากำลังทดสอบคนทำความสะอาดจนๆ โง่ๆ คนหนึ่ง พวกเขาไม่รู้ว่าเขาคือ ภากร ยอดมณเฑียร ทายาทของตระกูลมหาเศรษฐีหมื่นล้าน และพวกเขาไม่รู้เลยว่าฉันคือ อลิน แห่งตระกูลเดชดำรง
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาพี่ชาย
“ฉันจะกลับบ้าน”
บทที่ 1
อลิน POV:
เงินบาทสุดท้ายที่ฉันหามาได้จากการทำความสะอาดความตาย คือเงินที่ควรจะช่วยชีวิตลูกชายของฉัน
เจ็ดปีเต็มที่ฉันขัดถูเศษซากช่วงเวลาสุดท้ายอันโหดร้ายของชีวิตคนอื่น กลิ่นคลอรีนกับกลิ่นคาวเลือดฝังลึกอยู่ในโพรงจมูกของฉัน เหมือนรอยสักที่ไม่มีวันลบเลือน ฉันทำงานจนมือด้านแตก จนแผ่นหลังปวดร้าวไปทั้งแถบ ทั้งหมดก็เพื่อตัวเลขบนหน้าจอ และในวันนี้ ตัวเลขนั้นก็มาถึงเป้าหมายจนได้ เก้าล้านบาท ค่ารักษาด้วยวิธีทดลองที่จะช่วยรักษาโรคทางพันธุกรรมที่หายากของน้องต้นกล้า
เช็คใบสุดท้ายในกระเป๋ารู้สึกหนักอึ้ง มันคือภาระอันศักดิ์สิทธิ์ ฉันเพิ่งทำงานเสร็จจากที่เกิดเหตุในอพาร์ตเมนต์ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นจุดจบอันเงียบเหงาที่ทิ้งรสขมไว้ในปาก แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว มันจบแล้ว ไม่ต้องคุกเข่าบนพื้นเย็นๆ ที่เปรอะเปื้อนอีกต่อไป ไม่ต้องเห็นรอยชอล์กของคนแปลกหน้าในความฝันอีกแล้ว
รถกระบะเก่าๆ ของฉันสั่นไปทั้งคันขณะที่ฉันขับมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล กล่องสีฟ้าสดใสที่ใส่โมเดลยานอวกาศวางอยู่บนเบาะข้างคนขับ น้องต้นกล้าชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับอวกาศ ฉันจินตนาการถึงใบหน้าของเขาที่สว่างวาบขึ้นมา มือเล็กๆ ของเขาค่อยๆ ประกอบชิ้นส่วนพลาสติกเข้าด้วยกัน อีกไม่นาน เราจะมีเวลาเหลือเฟือสำหรับเรื่องแบบนี้ อีกไม่นาน เขาจะแข็งแรง และฉันก็จะได้เป็นแค่แม่ ไม่ใช่คนทำความสะอาด ไม่ใช่ผู้หญิงที่ถูกหลอกหลอนด้วยเงาของค่ารักษาพยาบาลตลอดเวลา เป็นแค่…แม่
ฉันจอดรถแล้วดึงกระจกมองหลังลงมา พยายามจัดแต่งตัวเอง ฉันดูโทรมกว่าวัยยี่สิบเก้าปีของตัวเอง มีรอยคล้ำถาวรใต้ตา และผมของฉันก็ถูกรวบตึงเป็นหางม้าอย่างไม่ใยดี ตัวฉันมีกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดของโรงงานจางๆ เป็นกลิ่นที่ฉันไม่เคยล้างออกได้หมดจด แต่รอยยิ้มของฉันเป็นของจริง มันกว้างกว่าที่เคยเป็นมาหลายปี ฉันกำลังจะนำข่าวดีที่สุดในชีวิตไปให้พวกเขา
ฉันอยากจะทำให้พวกเขาประหลาดใจ ภัทร…ภัทร สมชายของฉัน ผู้ชายที่ยืนหยัดเคียงข้างฉันมาตลอด คงจะอยู่ในห้องรับรองส่วนตัวของโรงพยาบาลที่จัดไว้สำหรับผู้ป่วยระยะยาว ส่วนเจน เพื่อนสนิทของฉัน คงจะเอาขนมโปรดของน้องต้นกล้ามาให้
ทางเดินไปยังห้องรับรองเงียบสงัด เมื่อฉันเข้าไปใกล้ขึ้น ฉันก็ได้ยินเสียงลอดออกมาจากประตูที่แง้มอยู่เล็กน้อย ฉันชะลอฝีเท้าลง มือเอื้อมไปที่ลูกบิดประตูแล้ว รอยยิ้มค้างอยู่บนใบหน้า
เป็นเสียงของภัทร นุ่มนวลและมั่นใจ ไม่ใช่โทนเสียงเหนื่อยล้าเหมือนปกติเวลาที่เขาพูดถึงสุขภาพของน้องต้นกล้า “ข้อมูลจากการทดลองยาหลอกสรุปผลได้แล้วครับคุณท่าน ดอกเตอร์เอванส์ยืนยันแล้ว สัญญาณชีพของต้นกล้าคงที่สมบูรณ์แบบตลอด เขาตอบสนองเหมือนเด็กหกขวบที่สุขภาพแข็งแรงทุกประการ”
เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ คุณท่าน? การทดลองยาหลอก?
เสียงอีกคนหนึ่งตอบกลับมา เป็นเสียงทางการและไม่คุ้นเคย “ยอดเยี่ยมมาก มันเป็นการทดลองทางสังคมที่น่าทึ่งจริงๆ ภากร เจ็ดปีเป็นเวลาที่นานมากนะ คุณพอใจกับผลลัพธ์แล้วหรือยัง?”
ภากร? แฟนของฉันชื่อภัทร สมชาย ฉันแนบหูเข้าไปใกล้ประตูมากขึ้น หัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะหนักๆ น่าสะอิดสะเอียนอยู่ในอก
“เกือบแล้วครับ” ภัทร…ภากร…พูด “เธอพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ผู้หญิงจ้องจับคนรวย เธอทำงานที่คนส่วนใหญ่แค่นึกถึงก็อยากจะอ้วกเพื่อเก็บเงิน เธอไม่เคยขอเงินผมเกินกว่าที่ ‘เงินเดือน’ ของผมจะจ่ายให้ได้เลย”
แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเธอ เจน เพื่อนสนิทของฉัน เสียงของเธอสดใสขี้เล่น “งั้นการทดสอบก็จบแล้วสิ? ในที่สุดคุณก็จะบอกความจริงกับเธอได้แล้วใช่ไหม?”
ความหวาดกลัวอันเยียบเย็นและบีบคั้น ห่อหุ้มปอดของฉันไว้ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นเรื่องตลกร้ายที่บิดเบี้ยว
“ยังก่อน” ภากรพูด และฉันนึกภาพท่าทีเย่อหยิ่งของเขาออก “ผมว่าเราต้องต่อไปอีกสักหกเดือน เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่านิสัยของเธอใช้ได้ เมื่อเธอส่งเช็คใบสุดท้ายนั่นให้เราแล้ว เราจะสังเกตการณ์เธออีกครึ่งปี ดูว่าเธอจะรู้สึกขุ่นเคืองไหม ดูว่าเธอจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า”
“อีกหกเดือนเหรอ?” เสียงของเจนเจือไปด้วยความตื่นเต้น “ภัทร คุณนี่ใจร้ายจริงๆ ฉันชอบจัง”
แล้วฉันก็ได้ยินเสียงลูกชายของฉัน เสียงของน้องต้นกล้า สดใสและชัดเจน
“พ่อครับ เราจะกลับบ้านได้หรือยัง? ผมไม่อยากให้แม่เหม็นๆ กลับมาเลย แม่ตัวเหม็นน้ำยาทำความสะอาดตลอดเวลา”
คำพูดนั้นกระแทกฉันแรงกว่าการถูกตบหน้า แม่เหม็นๆ
“อีกไม่นานลูก” ภากรพูดอย่างเอ็นดู “เราแค่ต้องรออีกนิดหน่อย”
“ผมไม่เอา” น้องต้นกล้ายืนกราน เสียงของเขากลายเป็นเสียงงอแง “ผมอยากได้น้าเจน น้าเจนตัวหอมเหมือนคุกกี้ แล้วก็ซื้อเลโก้ใหม่ๆ ให้ผมด้วย แม่เอาแต่ร้องไห้”
“น้ารู้จ้ะต้นกล้า” เจนพูด เสียงของเธออ่อนลงเป็นเสียงหวานหยดย้อย “น้าเจนจะอยู่กับหนูนะ เราจะสนุกกันมากเลย แค่เราสามคน”
“อีกแค่หกเดือน” ภากรย้ำ เสียงของเขาหนักแน่นเหมือนซีอีโอที่กำลังปิดดีล “แล้วการทดสอบก็จะสมบูรณ์ เราจะได้รู้กันว่าอลิน เดชดำรง คู่ควรที่จะเป็นคนของตระกูลยอดมณเฑียรหรือไม่”
อลิน เดชดำรง เขาไม่ได้เรียกฉันด้วยชื่อนั้นมาหลายปีแล้ว สำหรับเขา สำหรับทุกคนในชีวิตนี้ ฉันคืออร สมใจ
กล่องโมเดลยานอวกาศสีฟ้าสดใสในมือฉันพลันรู้สึกหนักอึ้งเหมือนก้อนอิฐ ฉันถอยหลังโซเซออกจากประตู มือยกขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงที่พยายามจะเล็ดลอดออกมาจากลำคอ
เจ็ดปี
เจ็ดปีในชีวิตของฉัน ร่างกายที่พังทลาย จิตวิญญาณที่ถูกบดขยี้จนเป็นผุยผง มันไม่ใช่เพื่อการรักษา แต่มันคือการทดสอบ การทดสอบความภักดี เกมที่โหดร้ายและซับซ้อนซึ่งควบคุมโดยผู้ชายที่ฉันรัก เพื่อนสนิทของฉัน และยอมรับโดยลูกชายที่ฉันยอมเสียสละทุกอย่างให้
เงินกองโตที่ฉันหามาได้ ทุกบาททุกสตางค์ที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดและน้ำตา ไม่ใช่เพื่อการรักษาที่ช่วยชีวิต แต่มันคือค่าผ่านประตูเพื่อเข้าสู่ครอบครัวที่กำลังเฝ้าดูฉันเหมือนหนูทดลองในกรง
ความรักของฉันไม่ใช่ความรักสำหรับพวกเขา มันเป็นแค่ข้อมูล การเสียสละของฉันไม่ใช่การเสียสละ มันเป็นการแสดง
ฉันมองโมเดลยานอวกาศในมือ ของขวัญสำหรับเด็กผู้ชายที่ไม่ต้องการฉัน สัญลักษณ์ของอนาคตที่เป็นเรื่องโกหก
ทั้งชีวิตของฉันคือเรื่องโกหก
น้ำตาไหลอาบแก้ม ร้อนผ่าวและเงียบงัน เสียงหัวเราะจากในห้อง ภาพครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุข ดังก้องอยู่ในโถงทางเดินที่ปลอดเชื้อ มันคือเสียงหัวใจของฉันที่แตกสลาย
ฉันหันหลังแล้วเดินจากไป ฝีเท้าของฉันหนักอึ้งเหมือนท่อนไม้ ฉันเดินผ่านถังขยะสีเทาใบใหญ่ข้างลิฟต์ โดยไม่ลังเล ฉันยกฝาขึ้นแล้วทิ้งกล่องสีฟ้าสดใสลงไป มันตกลงไปพร้อมกับเสียงกลวงๆ
มันจบแล้ว ฉันคิด คำพูดนั้นกรีดร้องเงียบๆ อยู่ในใจ ไม่ใช่การทดสอบ แต่เป็นเรา
ฉันพอแล้ว
---
หนังสืออื่นๆ ของ Gavin
ข้อมูลเพิ่มเติม