ชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบของฉัน ความลับมรณะของเขา

ชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบของฉัน ความลับมรณะของเขา

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
21
บท

สามเดือนเต็มที่ฉันสวมบทบาทภรรยาที่สมบูรณ์แบบของอคิน เดชาภิวัฒน์ มหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยี ฉันเคยคิดว่าชีวิตแต่งงานของเราเหมือนเทพนิยาย และงานเลี้ยงต้อนรับที่เขาจัดให้เพื่อฉลองการได้เข้าฝึกงานในบริษัทของเขา ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตที่แสนเพอร์เฟกต์ของเรา ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อไดอาน่า อดีตคนรักแสนสวยแต่สติไม่เต็มของเขา บุกเข้ามาในงานเลี้ยง แล้วใช้มีดสเต๊กแทงแขนเขา แต่สิ่งที่น่าสยดสยองที่สุดไม่ใช่เลือด มันคือแววตาของสามีฉัน เขากอดคนที่ทำร้ายเขาไว้ในอ้อมแขน กระซิบถ้อยคำอ่อนโยนเพียงคำเดียวที่มอบให้เธอเท่านั้น "ตลอดไป" เขายืนดูเฉยๆ ตอนที่หล่อนเอาปลายมีดมาจ่อหน้าฉัน ขู่จะกรีดไฝเสน่ห์ที่หล่อนอ้างว่าฉันเลียนแบบไปจากหล่อนออก เขามองดูตอนที่หล่อนโยนฉันเข้าไปในกรงหมาป่าที่หิวโหย ทั้งที่รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในชีวิต เขาปล่อยให้หล่อนสั่งคนมารุมทุบตีฉัน ปล่อยให้หล่อนเอากรวดทรายยัดปากฉันเพื่อทำลายเสียงของฉัน และปล่อยให้คนของหล่อนใช้ประตูหนีบมือฉันจนหัก เมื่อฉันโทรหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย อ้อนวอนขอความช่วยเหลือขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังรุกคืบเข้ามา เขากลับตัดสายฉันทิ้ง ฉันถูกขังและทิ้งให้รอความตาย ฉันจึงตัดสินใจกระโดดหน้าต่างจากชั้นสองลงมา ขณะที่วิ่งหนีไปทั้งที่เลือดอาบและร่างกายแหลกสลาย ฉันโทรออกไปยังเบอร์ที่ไม่ได้โทรหามานานหลายปี "ท่านอาภากรคะ" ฉันสะอื้นใส่โทรศัพท์ "หนูต้องการหย่า และหนูอยากให้อาช่วยขยี้มันให้แหลกคามือ" พวกเขาคิดว่าได้แต่งงานกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า พวกเขาไม่รู้เลยว่าเพิ่งจะประกาศสงครามกับตระกูลวรโชติ

บทที่ 1

สามเดือนเต็มที่ฉันสวมบทบาทภรรยาที่สมบูรณ์แบบของอคิน เดชาภิวัฒน์ มหาเศรษฐีแห่งวงการเทคโนโลยี

ฉันเคยคิดว่าชีวิตแต่งงานของเราเหมือนเทพนิยาย และงานเลี้ยงต้อนรับที่เขาจัดให้เพื่อฉลองการได้เข้าฝึกงานในบริษัทของเขา ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองชีวิตที่แสนเพอร์เฟกต์ของเรา

ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อไดอาน่า อดีตคนรักแสนสวยแต่สติไม่เต็มของเขา บุกเข้ามาในงานเลี้ยง แล้วใช้มีดสเต๊กแทงแขนเขา

แต่สิ่งที่น่าสยดสยองที่สุดไม่ใช่เลือด มันคือแววตาของสามีฉัน

เขากอดคนที่ทำร้ายเขาไว้ในอ้อมแขน กระซิบถ้อยคำอ่อนโยนเพียงคำเดียวที่มอบให้เธอเท่านั้น

"ตลอดไป"

เขายืนดูเฉยๆ ตอนที่หล่อนเอาปลายมีดมาจ่อหน้าฉัน ขู่จะกรีดไฝเสน่ห์ที่หล่อนอ้างว่าฉันเลียนแบบไปจากหล่อนออก

เขามองดูตอนที่หล่อนโยนฉันเข้าไปในกรงหมาป่าที่หิวโหย ทั้งที่รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในชีวิต

เขาปล่อยให้หล่อนสั่งคนมารุมทุบตีฉัน ปล่อยให้หล่อนเอากรวดทรายยัดปากฉันเพื่อทำลายเสียงของฉัน และปล่อยให้คนของหล่อนใช้ประตูหนีบมือฉันจนหัก

เมื่อฉันโทรหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย อ้อนวอนขอความช่วยเหลือขณะที่กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังรุกคืบเข้ามา เขากลับตัดสายฉันทิ้ง

ฉันถูกขังและทิ้งให้รอความตาย ฉันจึงตัดสินใจกระโดดหน้าต่างจากชั้นสองลงมา

ขณะที่วิ่งหนีไปทั้งที่เลือดอาบและร่างกายแหลกสลาย ฉันโทรออกไปยังเบอร์ที่ไม่ได้โทรหามานานหลายปี

"ท่านอาภากรคะ" ฉันสะอื้นใส่โทรศัพท์ "หนูต้องการหย่า และหนูอยากให้อาช่วยขยี้มันให้แหลกคามือ"

พวกเขาคิดว่าได้แต่งงานกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า

พวกเขาไม่รู้เลยว่าเพิ่งจะประกาศสงครามกับตระกูลวรโชติ

บทที่ 1

มุมมองของคีร่า วรโชติ:

ครั้งแรกที่ฉันเห็นสามีมองผู้หญิงคนอื่นด้วยสายตาที่ไม่ใช่แค่ความเฉยชาตามมารยาท คือตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งใช้มีดสเต๊กแทงแขนเขา

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในงานเลี้ยงต้อนรับฉันที่เดวาเทค

สามเดือนหลังจากแต่งงานกับอคิน เดชาภิวัฒน์ หนุ่มเนื้อหอมแห่งวงการเทคโนโลยี ในที่สุดฉันก็โน้มน้าวให้เขายอมให้ฉันเข้าไปฝึกงานที่บริษัทของเขาได้สำเร็จ

ฉันอยากรู้สึกว่าตัวเองเป็นมากกว่าเครื่องประดับสวยๆ บนแขนของเขา เป็นแค่นักศึกษาในฐานะภรรยาที่เขาเก็บซ่อนไว้ในคฤหาสน์หรูใจกลางกรุงเทพฯ

ในที่สุดเขาก็ยอม และงานเลี้ยงนี้ควรจะเป็นการเฉลิมฉลอง

แต่มันกลับรู้สึกเหมือนเดินเข้าสู่สมรภูมิรบมากกว่า

ไดอาน่า บุลากุล บุกเข้ามาในงาน

เธอคือทายาทแห่งอาณาจักรเทคโนโลยีบุลากุล คู่แข่งตลอดกาลของเดวาเทค และเป็นผู้หญิงที่อารมณ์แปรปรวนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอ

เธอบุกเข้ามาในห้องอาหารส่วนตัว ชุดเดรสสีแดงของเธอฉูดฉาดตัดกับโทนสีเรียบหรูของร้านอาหาร

ดวงตาของเธอที่ลุกโชนด้วยพลังงานแห่งความเดือดดาลคลั่งแค้นจับจ้องไปที่อคิน

"แกแต่งงานกับมันจริงๆ เหรอ?" น้ำเสียงของไดอาน่าต่ำและเกรี้ยวกราด เจือปนด้วยความไม่อยากเชื่อและความดูถูกเหยียดหยาม กลิ่นวิสกี้ราคาแพงหึ่งออกมาจากตัวเธอ "กับนังตัวแทนกระจอกๆ คนนี้เนี่ยนะ?"

เสียงซุบซิบอย่างประหม่าดังขึ้นรอบโต๊ะผู้บริหาร

ฉันรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้ม มือของฉันบีบมือของอคินที่อยู่ใต้โต๊ะแน่นขึ้นโดยสัญชาตญาณ

เขาบีบมือฉันกลับเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ แต่สายตาของเขาไม่เคยละไปจากไดอาน่าเลย

"ไดอาน่า คุณเมาแล้วนะ" เขาพูด น้ำเสียงสงบนิ่งจนน่ากลัว "กลับบ้านไปซะ"

"บ้านเหรอ?" เธอหัวเราะ เป็นเสียงที่หยาบกระด้างและน่าเกลียด "บ้านของฉันก็คือทุกที่ที่มีคุณอยู่ อคิน คุณก็รู้ดีนี่ และคุณเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่ กับ...มัน" สายตาของเธอเหลือบมามองฉัน แววตาดูแคลนในชั่วพริบตา

เธอพุ่งเข้าหาเขา กระชากคอเสื้อสูทสั่งตัดของเขา "แกทำแบบนี้เพื่อยั่วโมโหฉันใช่ไหม? แกไปหาผู้หญิงจืดชืดตาแป๋วที่หน้าตาคล้ายๆ ฉัน แล้วสวมแหวนให้มันก็เพื่อจะเรียกร้องความสนใจจากฉัน"

ฉันแทบหยุดหายใจ คล้ายๆ เธองั้นเหรอ?

แน่นอน ฉันเห็นความคล้ายคลึงนั้น ผมสีเข้มเหมือนกัน โครงกรามที่คมคายเหมือนกัน

แต่เครื่องหน้าของเธอแข็งกระด้าง คมกริบ ในขณะที่ของฉันดูอ่อนหวาน

ดวงตาของเธอคือพายุ ส่วนของฉัน...ก็แค่สีน้ำตาลธรรมดา

"คุณกำลังสร้างเรื่องนะ" อคินพูดเสียงเข้มขณะพยายามแกะมือเธอออกจากตัวเขา

ตอนนั้นเองที่ฉันเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้น

สายใยที่ลึกซึ้งและเจ็บปวดซึ่งสปาร์กขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง

มันเป็นพลังงานที่เป็นพิษที่ดูดอากาศทั้งหมดออกจากห้อง

เขาไม่ได้มองคู่แข่งทางธุรกิจที่เมามาย เขากำลังมอง...บางอย่างที่ต่างออกไป

บางอย่างที่ซับซ้อนและดิบเถื่อน

"คุณสัญญากับฉัน" เธอขู่ฟ่อ เสียงเบาลงจนมีเพียงเขาและฉันที่ได้ยิน "คุณสัญญาว่าจะรอ คุณบอกว่าจะไม่มีใครอื่นอีกที่สำคัญ"

หัวใจฉันหยุดเต้น

อคินเคยพูดคำเหล่านั้นกับฉันเป๊ะๆ ในคืนวันแต่งงาน

เขาประคองใบหน้าฉันไว้ในมือ ดวงตาของเขาจริงใจ และบอกฉันว่าฉันคือคนเดียวที่จะมีความสำคัญตลอดไป

ความทรงจำที่เคยล้ำค่า บัดนี้กลับรู้สึกเหมือนเศษแก้วในท้อง

ในที่สุดไดอาน่าก็ปล่อยเขา แต่เพียงเพื่อจะคว้ามีดสเต๊กจากบนโต๊ะ

"ฉันจะฆ่าแก" เธอพูดเสียงอ้อแอ้ โซเซเล็กน้อย

อคินไม่สะทกสะท้าน เขายืนมองเธอด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด อ่านไม่ออก

มันไม่ใช่ความกลัว มันคือ...ความหลงใหล

เธอพุ่งเข้ามา มีดกรีดผ่านแขนเสื้อสูทของเขาและบาดเข้าไปในเนื้อแขน

เลือดทะลักออกมา เป็นสีแดงเข้มตัดกับสีขาวสะอาดของเสื้อเชิ้ต

เสียงสูดหายใจดังขึ้นพร้อมกันทั้งห้อง

ฉันลุกพรวดขึ้น เก้าอี้ขูดกับพื้นเสียงดังลั่น "อคิน!"

แต่เขาไม่ได้มองแขนที่เลือดไหลของเขา เขาไม่ได้มองฉัน

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ไดอาน่า และในดวงตาคู่นั้น ฉันเห็นมัน

ประกายของบางสิ่งที่มืดมนและอยากครอบครอง

ความห่วงใยที่ลึกซึ้งและเจ็บปวดซึ่งไม่เคย ไม่เคยเลยสักครั้งที่ถูกส่งมาให้ฉัน

"ตลอดไป" เขาพึมพำ เพียงคำเดียวที่มอบให้เธอเท่านั้น

มันเป็นคำตอบของคำถามที่ฉันไม่ได้ยิน เป็นการยืนยันคำสัญญาที่ฉันไม่เคยรู้ว่ามีอยู่

ความเดือดดาลของไดอาน่าดูเหมือนจะแตกสลาย

ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว และมีดก็ร่วงหล่นลงบนพื้น

น้ำตาทะลักออกมาจากดวงตา ผสมกับมาสคาร่าที่เลอะเทอะ

เธอโผเข้าหาเขา ซบหน้าร้องไห้กับอกของเขา ไม่สนใจเลือดที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนชุดราคาแพงของเธอ

และอคิน...อคินก็ใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บโอบรอบตัวเธอ กอดเธอไว้แน่น

มือของเขาลูบผมเธอ คางของเขาวางอยู่บนศีรษะของเธอ

ซีอีโอผู้เย็นชาและไร้ความปรานีที่ฉันรู้จักหายไป ถูกแทนที่ด้วยชายผู้เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนที่ถูกเก็บกดและเจ็บปวดรวดร้าว

ทั้งห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงสะอื้นของไดอาน่า

เหล่าผู้บริหารจ้องมอง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและความสงสารอย่างอึดอัด

สายตาของพวกเขาสลับไปมาระหว่างชายผู้เลือดอาบที่กำลังกอดคนที่ทำร้ายเขา กับฉัน ภรรยาที่ถูกลืมซึ่งยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างโต๊ะ

"เอาอีกแล้วคู่นี้" ใครบางคนกระซิบจากโต๊ะใกล้ๆ "หล่อนทำแบบนี้ตลอด"

"น่าสงสารคุณผู้หญิงเดชาภิวัฒน์นะ" อีกเสียงพึมพำ "หน้าตาเหมือนไดอาน่า บุลากุล ตอนสาวๆ เลยนะเนี่ย สงสัยเรารู้กันหมดแล้วล่ะว่าทำไมเขาถึงแต่งงานกับเธอ"

เสียงกระซิบเหล่านั้นเหมือนการตบหน้า

ของเลียนแบบ ตัวแทน เบี้ยในเกมที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเล่นอยู่

ท้องไส้ฉันปั่นป่วน และคลื่นความคลื่นไส้ก็ซัดเข้ามา

ร่างกายฉันรู้สึกหนาวเย็นแล้วก็ร้อนวูบวาบ เป็นอาการทางกายที่สะท้อนถึงความอัปยศอดสูที่แผดเผาอยู่ข้างใน

ในที่สุดอคินก็เงยหน้าขึ้น เขาค่อยๆ ดันไดอาน่าออก จับไหล่เธอไว้

สายตาของเขาอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาราวกับสัมผัส "กลับบ้านเถอะไดอาน่า เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง"

เขาหันไปหาผู้ช่วย "พาเธอกลับบ้านให้ปลอดภัย"

แล้วราวกับว่าเขาเพิ่งนึกได้ว่าฉันยังมีตัวตนอยู่ สายตาของเขาก็มาหยุดที่ฉัน

ความอ่อนโยนนั้นหายไป ถูกแทนที่ด้วยหน้ากากเย็นชาและห่างเหินที่ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เขาดึงผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า พันรอบแขนที่เลือดไหลของเขาอย่างเงอะงะ

"คีร่า คุณไม่เป็นไรนะ?" เขาถาม น้ำเสียงสุภาพและไร้ความรู้สึก

ฉันพูดไม่ออก ลำคอของฉันรู้สึกเหมือนเต็มไปด้วยทราย

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา วินาทีต่อมา โทรศัพท์ของฉันที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้น

ข้อความจากเขา

*ผมขอโทษที่คุณต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ ไดอาน่า...ซับซ้อนหน่อย เดี๋ยวผมจัดการเอง กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ คืนนี้ผมกลับดึก*

เขาไม่ได้มองฉันด้วยซ้ำตอนที่เดินออกไป แขนของเขายังคงโอบรอบไดอาน่าที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ประคองเธอเบาๆ ไปทางประตูทางออก

เขาไม่เห็นว่าฉันตัวสั่นแค่ไหน ไม่เห็นว่าโลกของฉันกำลังแตกสลายอยู่รอบตัว

ฉันยืนอยู่ตรงนั้น คนเดียวในห้องที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า ความหนักอึ้งของสายตาสมเพชของพวกเขากดทับลงมา

ฉันพยายามโทรหาเขา ครั้งแรกมันดังจนตัดเข้าวอยซ์เมล

ครั้งที่สอง สาม และสี่ สายถูกตัดทิ้ง

ในที่สุดกำแพงของฉันก็พังทลายลง

ฉันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ น้ำตาที่อัดอั้นไว้ร้อนผ่าวอยู่หลังดวงตา

ฉันนึกย้อนไปถึงความรักที่รวดเร็วปานพายุ

มหาเศรษฐีเทคโนโลยีผู้ปราดเปรื่องและมีเสน่ห์ที่กวาดเอานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมดาๆ คนหนึ่งไปจากโลกของเธอ

เขาไล่ตามฉันด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่ทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ

เขาบอกว่าเขารักความใจดีของฉัน ความเข้มแข็งที่เงียบงันของฉัน และวิธีที่ดวงตาของฉันเป็นประกายเมื่อฉันพูดถึงเรื่องเรียน

เขาถึงกับทิ้งดีลซื้อกิจการมูลค่าหลายพันล้านที่ต่างจังหวัดเพียงเพื่อจะมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพียงเพื่อจะอยู่กับฉัน

เขาทำให้ฉันเชื่อว่าฉันคือศูนย์กลางจักรวาลของเขา

ตอนนี้ฉันเห็นความจริงแล้ว มันคือเรื่องโกหกทั้งเพ

ทุกสายตาที่เปี่ยมรัก ทุกคำกระซิบสัญญา ทุกการกระทำที่ยิ่งใหญ่

มันไม่ใช่เพื่อฉัน มันคือการแสดง

เป็นการเคลื่อนไหวที่คำนวณมาอย่างดีในเกมที่บิดเบี้ยวและเป็นพิษของเขากับไดอาน่า บุลากุล

ฉันเป็นแค่เวทีการแสดงเท่านั้น

ในที่สุดฉันก็พยุงตัวเองออกจากร้านอาหารและเรียกแท็กซี่กลับไปที่คฤหาสน์ของเราได้

บ้านที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตใหม่ของเรา ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกรงทอง

ทุกรูปถ่ายของเราที่ยิ้มให้กัน ทุกของขวัญที่เขาเคยให้ฉัน รู้สึกเหมือนเป็นเพียงของประกอบฉากในละครที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน

ในหัวของฉันเล่นซ้ำคำพูดของไดอาน่า *คุณสัญญากับฉัน คุณสัญญาว่าจะรอ*

และคำตอบคำเดียวของอคิน *ตลอดไป*

ความหวาดกลัวเยียบเย็นแทรกซึมเข้าสู่กระดูก

ด้วยความต้องการคำตอบอย่างสิ้นหวัง ฉันเริ่มเดินไปทั่วบ้าน เสียงฝีเท้าของฉันดังก้องในความเงียบ

ฉันไปที่ห้องทำงานของเขา สถานที่ที่ฉันไม่ค่อยได้เข้าไป

มันดูเรียบหรูและมินิมอลเหมือนกับเขา

แต่มีประตูบานหนึ่งที่ล็อกอยู่เสมอ - ห้องทำงานส่วนตัวของเขา

เขาเคยบอกฉันว่ามันเป็นที่ที่เขาเก็บเอกสารงานที่ละเอียดอ่อนและเขาต้องการความเป็นส่วนตัว

คืนนี้ ฉันไม่สนความเป็นส่วนตัวของเขาแล้ว

ฉันเจอที่เปิดซองจดหมายหนักๆ บนโต๊ะทำงานของเขาและเสียบมันเข้าไปในรูกุญแจ

ฉันบิดและดัน ด้วยแรงขับจากความโกรธและความทรยศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงคลิก

ประตูเปิดออก

อากาศข้างในอับชื้น อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมผู้หญิง

ไม่ใช่น้ำหอมของฉัน

มันเป็นกลิ่นหอมฟุ้งของดอกซ่อนกลิ่นและมะลิ กลิ่นเดียวกับที่ติดตัวไดอาน่า บุลากุล

ห้องนี้ไม่ใช่ห้องทำงาน มันคือวิหาร

ผนังเต็มไปด้วยรูปถ่าย ไม่ใช่รูปของฉัน แต่เป็นรูปของไดอาน่า

ไดอาน่าตอนวัยรุ่น ยิ้มทะเล้นให้กล้อง

ไดอาน่าบนเรือยอชต์ ผมของเธอปลิวไสวตามลม

ไดอาน่ากับอคิน ใบหน้าของพวกเขาใกล้ชิดกัน ดวงตาของพวกเขาลุกโชนด้วยไฟที่ฉันไม่เคยเห็นในตัวเขา

ภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ของเธอแขวนอยู่เหนือเตาผิง ดวงตาที่ถูกวาดขึ้นนั้นดูเหมือนกำลังเยาะเย้ยฉัน

ตู้โชว์กระจกเก็บของที่ระลึกไว้: กุหลาบแห้ง ตั๋วคอนเสิร์ต ล็อกเกตเงิน

บนโต๊ะทำงาน มีจดหมายกองหนึ่งผูกด้วยริบบิ้นสีแดง

ฉันแกะมันออกด้วยนิ้วที่สั่นเทา ลายมือของอคิน

*ไดอาน่าที่รักของผม แม้ในยามที่เราทะเลาะกัน แม้ในยามที่ผมเกลียดคุณ คุณคือคนเดียวที่ผมมองเห็น*

ฉันทิ้งจดหมายลงราวกับว่ามันติดไฟ

ขาของฉันอ่อนแรง และฉันทรุดตัวลงกับพื้น ร่างกายสั่นเทิ้มไปทั้งตัว

เขาเข้ามาในห้องนี้ ตลอดสามเดือนของการแต่งงานของเรา เขาเข้ามาในห้องลับนี้เพื่อคิดถึงเธอ เพื่อสูดดมกลิ่นของเธอ เพื่อมองใบหน้าของเธอ

ฉันพยุงตัวเองลุกขึ้น ความอยากทำลายล้างอย่างบ้าคลั่งพลุ่งพล่านในตัวฉัน

ฉันอยากจะฉีกรูปถ่ายออกจากผนัง ทุบภาพวาดให้แตกละเอียด และเผาทุกอย่างให้วอดวาย

โทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ทำให้ฉันสะดุ้ง อคินโทรมา

"คีร่า? คุณอยู่บ้านรึเปล่า?" เสียงของเขาสงบ ควบคุมได้ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"คุณอยู่ที่ไหน?" ฉันถาม เสียงของฉันเองตึงเครียดและฝืน

"ผมยังจัดการเรื่องวุ่นวายจากคืนนี้อยู่" เขาพูดเลี่ยงๆ "ฟังนะ ผมขอโทษ-"

"กลับบ้านเถอะ อคิน" ฉันตัดบทเขา คำพูดรสชาติเหมือนเถ้าถ่าน "ได้โปรด ฉัน...ฉันกลัว"

มันคือการทดสอบ เป็นการร้องขอครั้งสุดท้ายอย่างสิ้นหวังเพื่อให้เขาเลือกฉัน

มีความเงียบที่ปลายสาย ฉันได้ยินความลังเลของเขา ฉันแทบจะรู้สึกได้ว่าเขากำลังชั่งน้ำหนักตัวเลือกของเขา

"ตอนนี้ผมไปไม่ได้ คีร่า" ในที่สุดเขาก็พูด และเสียงของเขาเรียบเฉย เป็นอันสิ้นสุด "ไดอาน่าต้องการผม"

"อคิน อย่าแม้แต่จะ-"

"ผมจะกลับบ้านตอนเช้า"

ก่อนที่เขาจะวางสาย ฉันได้ยินมัน

เสียงถอนหายใจแผ่วเบาของผู้หญิงในพื้นหลัง

เสียงถอนหายใจของไดอาน่า

สายตัดไป

เสียงสะอื้นอย่างขมขื่นหลุดออกมาจากลำคอของฉัน

มันไม่ใช่แค่เสียงถอนหายใจ มันคือเสียงพึงพอใจของผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของคนรัก

ความหวังสุดท้ายในตัวฉันดับสิ้น

ฉันมองไปรอบๆ วิหารที่เขาสร้างขึ้นเพื่อเธอ และความตั้งใจที่เย็นชาและแข็งกร้าวก็เข้ามาแทนที่ความใจสลาย

ฉันคว้าภาพวาดสีน้ำมันของไดอาน่า กรอบของมันหนักอึ้งในมือ

ด้วยเสียงกรีดร้องแห่งความเดือดดาลอย่างแท้จริง ฉันฟาดมันลงกับมุมโต๊ะทำงาน

ผ้าใบขาดวิ่น กรอบทองแตกละเอียด

ฉันจะไม่เป็นแค่เบี้ยในเกมของพวกเขา ฉันจะไม่เป็นตัวแทน

พวกเขาอยากได้สงครามงั้นเหรอ? พวกเขาจะได้มัน

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือสั่นจนแทบพิมพ์ไม่ไหว

ฉันเลื่อนไปยังเบอร์ที่ไม่ได้โทรมาหลายเดือน เบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน

"ท่านอาภากรคะ" ฉันพูด เสียงแตกพร่า "นี่คีร่านะคะ หนูต้องการท่าน"

มีความเงียบชั่วครู่ แล้วเสียงของเขาก็ดังขึ้น คมกริบและเป็นห่วง

"คีร่า? เกิดอะไรขึ้น? มันทำอะไรหลาน?"

"หนูต้องการหย่า" ฉันสะอื้น ในที่สุดคำพูดก็หลุดออกมา "และหนูอยากให้อาช่วยขยี้มันให้แหลกคามือ"

"เล่ามาให้หมด" เขาพูด และในน้ำเสียงของเขา ฉันได้ยินคำมั่นสัญญาแห่งการเอาคืน "เรากำลังจะไปรับหลาน"

ตระกูลวรโชติกำลังมา

และอคิน เดชาภิวัฒน์ ไม่รู้เลยว่าอะไรกำลังจะถาโถมเข้าใส่เขา

---

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

นิยายสั้น

5.0

คู่แท้ของฉัน อัลฟ่าธาม กำลังจัดพิธีตั้งชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ให้ทายาทของเขา ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว... เขากำลังฉลองให้กับลูกที่เกิดกับลิตา หมาป่าไร้ฝูงที่เขาพาเข้ามาในฝูงของเรา ส่วนฉัน คู่แท้ตัวจริงของเขาที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาได้สี่เดือน กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเธอ เธอกลับใช้เล็บข่วนแขนตัวเองจนเลือดออก แล้วกรีดร้องว่าฉันทำร้ายเธอ ธามเห็นการแสดงของเธอก็ไม่แม้แต่จะมองฉัน เขาคำรามลั่น ใช้คำสั่งอัลฟ่าบีบบังคับให้ฉันจากไป พลังแห่งสายใยผูกพันของเราถูกบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธที่หันกลับมาทำร้ายฉันเอง ต่อมา เธอทำร้ายฉันจริงๆ จนฉันล้มลง ขณะที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากชุดของฉัน คุกคามชีวิตลูกของเรา เธอกลับเหวี่ยงลูกของตัวเองลงบนพรมแล้วกรีดร้องว่าฉันพยายามจะฆ่าลูกของเธอ ธามพุ่งเข้ามา เขาเห็นฉันจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่เขากลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาช้อนลูกของลิตาที่กำลังร้องลั่นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้ววิ่งออกไปตามหมอทันที ทิ้งให้ฉันกับทายาทที่แท้จริงของเขานอนรอความตาย แต่ขณะที่ฉันนอนอยู่ตรงนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัวผ่านกระแสจิตของเรา คนของครอบครัวกำลังรอฉันอยู่นอกเขตแดนแล้ว เขากำลังจะได้รู้ว่าโอเมก้าที่เขาเขี่ยทิ้ง แท้จริงแล้วคือเจ้าหญิงของฝูงที่ทรงพลังที่สุดในโลก

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

นิยายสั้น

5.0

ฉันคือคีรติ วรโชติ นักข่าวหัวขบถแห่งตระกูลนักการเมืองทรงอิทธิพล ทางรอดเดียวของฉันคือความสัมพันธ์ลับๆ อันร้อนแรงกับอธิป สุริยวงศ์ ซีอีโอผู้ทรงอำนาจที่ราวกับสลักขึ้นจากน้ำแข็งและตรรกะ เขาเรียกฉันว่า "หายนะที่งดงามของผม" พายุที่ถูกกักขังไว้ในกำแพงเพนต์เฮาส์ของเขา แต่ความสัมพันธ์ของเราสร้างขึ้นบนคำโกหก ฉันค้นพบว่าเขาเพียงแค่ "ทำให้ฉันเชื่อง" เพื่อเอาใจผู้หญิงอีกคน กมลา ลูกสาวผู้อ่อนแอของหัวหน้าคณะทำงานของพ่อฉัน ซึ่งเขาเป็นหนี้บุญคุณที่ไม่อาจชดใช้ได้ เขาเลือกหล่อนต่อหน้าสาธารณชน เช็ดน้ำตาให้หล่อนด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงให้ฉันเห็น เขาปกป้องหล่อน ปกป้องหล่อน และเมื่อฉันถูกคนชั่วคุกคาม เขาก็ทอดทิ้งฉันเพื่อรีบไปอยู่ข้างหล่อน การทรยศที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเขาสั่งให้จับฉันเข้าคุกและซ้อม พร้อมกับคำรามว่าฉันต้อง "เรียนรู้บทเรียน" ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงระหว่างอุบัติเหตุรถชน โดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากระโจนไปขวางหน้ากมลา ใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเกราะกำบัง ปล่อยให้ฉันเผชิญแรงกระแทกเพียงลำพัง ฉันไม่ใช่คนที่เขารัก แต่เป็นภาระที่เขาพร้อมจะสังเวย ขณะนอนร่างกายแหลกสลายบนเตียงในโรงพยาบาล ในที่สุดฉันก็เข้าใจ ฉันไม่ใช่หายนะที่งดงามของเขา แต่เป็นตัวโง่ของเขาต่างหาก ดังนั้นฉันจึงทำสิ่งเดียวที่ทำได้ ฉันเผาโลกอันสมบูรณ์แบบของเขาให้วอดวาย ตอบรับคำขอแต่งงานจากมหาเศรษฐีใจดีที่สัญญาสันติสุขให้ฉัน และเดินจากไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งเถ้าถ่านแห่งความรักของเราไว้เบื้องหลัง

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

นิยายสั้น

5.0

การแต่งงานของฉันกับมาคิน ภัทรธำรง คือสัญญาที่ลงนามด้วยเลือด คือคำมั่นที่จะหลอมรวมสองตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน เขาคืออนาคตของฉัน คือราชันย์ที่ถูกเลือกมาให้ปกครองเคียงข้างฉัน ทุกคนต่างพูดว่าการรวมกันของเราคือพรหมลิขิต แต่เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาถูกและคำโกหกของผู้หญิงอีกคน มันคือกลิ่นของอัญญาริน เด็กกำพร้าผู้อ่อนแอที่ครอบครัวของเขารับมาเลี้ยงดู เด็กผู้หญิงที่เขาสาบานว่าจะปกป้องเหมือนน้องสาวแท้ๆ ฉันตามเขาไปที่ไพรเวทคลับแห่งหนึ่ง จากในเงามืด ฉันเฝ้ามองเขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและมอบจูบที่หิวกระหายและสิ้นหวังให้เธอ...จูบที่เขาไม่เคยให้ฉันเลย ในวินาทีนั้น อนาคตทั้งชีวิตของฉันแหลกสลายลง ในที่สุดฉันก็เข้าใจเสียงกระซิบจากลูกน้องของเขาว่าฉันเป็นเพียงรางวัลทางการเมือง ในขณะที่อัญญารินคือราชินีตัวจริงของพวกเขา เขาต้องการอาณาจักรของฉัน แต่หัวใจของเขาเป็นของเธอ ฉันจะไม่เป็นของรางวัลปลอบใจ ฉันจะไม่เป็นรองใคร ฉันเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ เสียงของฉันเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง "หนูจะยกเลิกงานแต่งงานค่ะ" เมื่อท่านค้าน ฉันจึงปล่อยหมัดเด็ดสุดท้าย "หนูจะรักษาความต้องการของตระกูลเราในเรื่องพันธมิตรไว้ค่ะ หนูจะแต่งงานกับเจ้าพ่อธาวิน วรไพศาล" แก้ววิสกี้ในมือพ่อร่วงแตกกระจายบนพื้น ธาวิน วรไพศาล คือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

เก้าทางเลือก การจากลาครั้งสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียว

เก้าทางเลือก การจากลาครั้งสุดท้ายเพียงหนึ่งเดียว

นิยายสั้น

5.0

การแต่งงานของฉันมาพร้อมกับเงื่อนไขที่แสนโหดร้าย พีท สามีของฉัน ต้องผ่าน "บททดสอบความภักดี" เก้าข้อ ที่โซเฟีย รักแรกในวัยเด็กของเขาเป็นคนออกแบบ เก้าครั้งที่เขาต้องเลือกเธอแทนที่จะเป็นฉัน...ภรรยาของเขา ในวันครบรอบแต่งงานของเรา เขาได้ตัดสินใจครั้งสุดท้าย ทิ้งให้ฉันป่วยและเลือดออกอยู่ข้างทางด่วนท่ามกลางพายุฝน เขารีบไปหาเธอเพียงเพราะเธอโทรมาอ้างว่ากลัวเสียงฟ้าร้อง เขาเคยทำแบบนี้มาก่อนแล้ว ทิ้งงานเปิดแกลเลอรี่ของฉันไปเพราะเธอบอกว่าฝันร้าย ทิ้งงานศพคุณยายของฉันไปเพราะรถของเธอดันมาเสียอย่างเหมาะเจาะ ชีวิตทั้งชีวิตของฉันเป็นเพียงส่วนเกินในเรื่องราวของพวกเขาสองคน เป็นบทบาทที่โซเฟียมาสารภาพในภายหลังว่าเธอเป็นคนเลือกให้ฉันเอง หลังจากสี่ปีของการเป็นได้แค่ของปลอบใจ หัวใจของฉันก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็ง ไม่มีความอบอุ่นเหลือให้มอบให้ใครอีกแล้ว ไม่มีความหวังเหลือให้ใครมาทำลายอีกต่อไป ในที่สุดฉันก็พอเสียที ดังนั้นเมื่อโซเฟียเรียกฉันไปที่อาร์ตแกลเลอรี่ของฉันเองเพื่อฉากสุดท้ายของการหยามเหยียด ฉันก็พร้อมแล้ว ฉันมองสามีของฉันอย่างใจเย็น ขณะที่เขาเซ็นเอกสารที่เธอเลื่อนไปตรงหน้าอย่างสิ้นหวังที่จะเอาใจเธอโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง เขาคิดว่าเขากำลังเซ็นสัญญาการลงทุน เขาไม่รู้เลยว่านั่นคือเอกสารใบหย่าที่ฉันแอบสอดเข้าไปในแฟ้มเมื่อชั่วโมงก่อน

มลายสิ้น ด้วยคำลวง และรักของเขา

มลายสิ้น ด้วยคำลวง และรักของเขา

นิยายสั้น

5.0

สิบปีเต็มที่ฉันทุ่มเททุกอย่างให้เดชผู้เป็นสามี ฉันทำงานสามจ๊อบเพื่อให้เขาได้เรียนจบปริญญาโทบริหารธุรกิจ ฉันขายสร้อยล็อกเก็ตรูปคุณย่าซึ่งเป็นของดูต่างหน้าชิ้นเดียวเพื่อเอาเงินมาช่วยตั้งบริษัทสตาร์ทอัพให้เขา แต่ตอนนี้ ในวันที่บริษัทของเขากำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ เขากลับบังคับให้ฉันเซ็นใบหย่าเป็นครั้งที่สิบเจ็ด โดยอ้างว่ามันเป็น “แค่เรื่องธุรกิจชั่วคราว” แล้วฉันก็ได้เห็นเขาในทีวี แขนของเขากำลังโอบรอบเอวผู้หญิงอีกคน... อรอินทร์ นักลงทุนหลักของเขา เขาเรียกเธอว่าผู้หญิงที่เขารักที่สุดในชีวิต ขอบคุณเธอที่ “เชื่อมั่นในตัวเขาในวันที่ไม่มีใครเลย” ประโยคเดียวของเขาลบตัวตนทั้งหมดของฉันให้หายไปในพริบตา ความเลือดเย็นอำมหิตของเขายังไม่จบแค่นั้น เขาปฏิเสธว่าไม่รู้จักฉันหลังจากที่การ์ดของเขากระทืบฉันจนสลบกลางห้างสรรพสินค้า เขาขังฉันไว้ในห้องใต้ดินมืดๆ ทั้งที่รู้ดีว่าฉันเป็นโรคกลัวที่แคบอย่างรุนแรง ปล่อยให้ฉันเผชิญกับอาการแพนิกกำเริบเพียงลำพัง แต่ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ทุกอย่างขาดสะบั้นคือตอนที่ถูกลักพาตัว เมื่อคนร้ายบอกให้เขาเลือกว่าจะช่วยใครได้แค่คนเดียวระหว่างฉันกับอรอินทร์... เดชไม่ลังเลเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาเลือกผู้หญิงคนนั้น เขาทิ้งให้ฉันถูกมัดติดกับเก้าอี้เพื่อรอรับการทรมาน ขณะที่เขาพาดิลล้ำค่าของเขาไป เมื่อฉันนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลเป็นครั้งที่สอง ในสภาพใจสลายและถูกทอดทิ้ง ในที่สุดฉันก็ตัดสินใจโทรหาเบอร์ที่ไม่ได้โทรมาห้าปีแล้ว “คุณป้าเอมอรคะ” ฉันพูดเสียงสะอื้น “เอวา... ขอไปอยู่ด้วยได้ไหมคะ” คำตอบจากทนายความที่น่าเกรงขามที่สุดในกรุงเทพฯ ดังขึ้นทันที “ได้สิจ๊ะหลานรัก เครื่องบินส่วนตัวของป้าพร้อมสแตนด์บายอยู่แล้ว แล้วก็นะเอวา... ไม่ว่าเรื่องอะไร เดี๋ยวเราจัดการเอง”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

สามีใหม่ของฉัน สุดยอดน่าดูเลย

Thaddeus Shore
5.0

ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

รักร้อนเพลิงพิศวาส

รักร้อนเพลิงพิศวาส

อัญญาณี
5.0

“ไม่นะ อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณได้พระคืนไปแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่าทำฉันเลย” หมอนวดสาวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด มีหรือที่รัฐภูมิจะใจอ่อน เมตตาสาวตรงหน้าง่ายๆ เขาปล่อยเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้และเวลานี้ สิบแปดมงกุฎอย่างจันยาวีร์ต้องเจอคนอย่างเขา ร้ายมาร้ายกลับและเพิ่มความร้ายมากเป็นร้อยเท่า เท้าเล็กพยายามถีบ กระแทกไปที่ร่างหนาดูเหมือนว่าจะถีบลมมากกว่า มันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เพราะตอนนี้เขาขึ้นมานั่งคร่อมร่างเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว “ยานี้จะทำให้ร้อนรุ่มอย่างมากมาย เลือดในกายเธอจะสูบฉีดจนเธอกระสับกระส่าย กระหายไปด้วยความใคร่แบบสุดๆ เธออยากจนแทบจะถ่างขารอให้ผู้ชายมากระทุ้ง ขอให้มีความสุขกับความร่านที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอนะ ยาออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อไหร่ ฉันจะมาสนองตอบความอยากให้เธอเอง รับรองถึงอกถึงใจไปสามโลก หมอนวดอย่างเธอคงผ่านศึกมาไม่ใช่น้อย คงมีวิธีบังคับความร่านของตัวเองนะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเจอกันนะแป้ง” จันยาวีร์เม้มปากเป็นเส้นตรงแน่น เพื่อไม่ให้เขานำยานั้นใส่เข้าไปในปากของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยที่จะทำให้ปากของเธอเปิดอ้าออก เพียงแค่รัฐภูมิใช้ฝ่ามือบีบไปบนแก้มของเธอทั้งซ้ายขวาอย่างแรง หญิงสาวระบมปวดแก้มไปหมด แรงบีบที่มากมายทำให้ปากที่เม้มค่อยๆ คลายตัวออก จนในที่สุดปากของเธอก็อ้าออก ชายหนุ่มหน้าดุรีบใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไปในช่องปากสาวบังคับให้เธอกลืนมันลงไปด้วยการนำฝ่ามือใหญ่มาปิดทับที่ริมฝีปาก ยาที่อยู่ในปากไม่ได้ถูกกลืนลงไปในลำคอ แต่มันละลายเมื่อสัมผัสโดนความชื้นของน้ำลายที่อยู่ภายใน ความขมของเม็ดยาที่เริ่มละลายในปาก ทำให้สาวเจ้าร้องไห้ออกมาทันที คิดในใจว่าเธอจะต่อต้านยาประเภทนี้ได้อย่างไร รัฐภูมิกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขยับร่างกายลงมายืนอยู่ริมเตียง มองดูร่างสาวที่ร้องไห้ตัวโยนด้วยความสะใจ เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ริอาจเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่ ไม่ถูกเสือขย้ำกินก็คงเป็นไม่ได้ เสืออย่างเขาฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เขาหมุนตัวก่อนจะขยับร่างกายเดินไปยังห้องน้ำ อาบน้ำอย่างสบายใจ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ยาเซ็กส์ชนิดนี้เขาซื้อมาจากตลาดมืดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ สาเหตุที่เขาซื้อยาชนิดนี้มาไม่ใช่ว่าเขาจะใช้เอง พันกรเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนฝากซื้อ เพื่อจะนำไปให้พี่เขยที่มีอาการนกเขาไม่ขัน ต้องพึ่งยาปลุกเซ็กส์ขณะที่ดำเนินกิจกรรมทางเพศ ห้านาทีต่อมาหลังจากที่ยาปลุกเซ็กส์เริ่มละลายในปากและตัวยาไหลเข้าไปในลำคอสาว อาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับจันยาวีร์ คลื่นความร้อนบางอย่างแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทรกลึกไหลซึมเข้าไปตามเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือด ลุกลามลึกเข้าไปถึงกระแสเลือดที่เร่งสูบฉีดด้วยอัตราที่เร็วกว่าปกติ จันยาวีร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ความร้อนที่ได้รับทำให้เธอต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ความปรารถนาทางอารมณ์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังกระจายอาบไปทั่วร่าง ความเป็นอิสตรีเพศกระตุกและเต้นเร่าอยู่ตลอดเวลา เธอมีความรู้สึกว่าต้องการร่วมเพศกับผู้ชายสักคน เพื่อมาบำบัดอาการที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้น ต้องการให้เขานำปาก ลิ้นประโลมจูบไปทั่วร่างสาว และต้องการฝ่ามือของเขาลูบไล้นวดเฟ้นไปตามผิวกายของเธอ และความปรารถนามากที่สุดก็คือ ต้องการให้เขาฝังกายลึกเข้าไปในกลีบสาว ขยับเขยื้อนกายด้วยความรุนแรง กระแทกกระทั้นให้ถึงอกถึงใจ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ