เมื่ออดีตภรรยา กลับมาทวงแค้น

เมื่ออดีตภรรยา กลับมาทวงแค้น

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
9
บท

ลูกชายแท้ๆ วัย 5 ขวบ โยนผ้าพันคอไหมพรมที่ฉันตั้งใจถักให้ลงพื้น แล้ววิ่งไปกอดขา 'เพื่อนสนิท' ของฉันอย่างรักใคร่ "แม่ไม่เห็นน่าสนใจเลย! น้าส้มใจดีกว่าตั้งเยอะ ซื้อหุ่นยนต์รุ่นลิมิเต็ดให้ภูด้วย" คำพูดไร้เดียงสาของลูกชาย กรีดลึกลงกลางใจฉันยิ่งกว่ามีด สามีของฉันยืนโอบเอวชู้รัก มองดูภาพนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย ราวกับฉันเป็นส่วนเกินในบ้านหลังนี้ ฉันตัดสินใจเซ็นใบหย่า เดินออกจากคฤหาสน์หรูโดยไม่หันหลังกลับ ทิ้งลูกชายที่เลือก 'ของเล่นราคาแพง' มากกว่า 'ความรักของแม่' ไว้เบื้องหลัง ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ รับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู และสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ แต่แล้ววันหนึ่ง อดีตสามีก็ซมซานกลับมาพร้อมกับลูกชายที่เคยผลักไสฉัน "นา... กลับมาเถอะนะ ลูกต้องการแม่" ฉันมองหน้าพวกเขาด้วยความสมเพช ก่อนจะยิ้มมุมปาก "ลูกเหรอ? ฉันมีลูกสาวคนเดียวชื่อนลิน ส่วนเด็กคนนั้น... ฉันไม่รู้จัก" ในงานวันเกิดของเขา ฉันจะมอบของขวัญชิ้นสุดท้าย เป็นความจริงอันน่ารังเกียจที่เขาปกปิดไว้ ทั้งเรื่องแม่ของเขาที่ฆ่าตัวตาย และเรื่องที่เขาบังคับให้ชู้รักไปทำแท้ง

บทที่ 1

ลูกชายแท้ๆ วัย 5 ขวบ โยนผ้าพันคอไหมพรมที่ฉันตั้งใจถักให้ลงพื้น แล้ววิ่งไปกอดขา 'เพื่อนสนิท' ของฉันอย่างรักใคร่

"แม่ไม่เห็นน่าสนใจเลย! น้าส้มใจดีกว่าตั้งเยอะ ซื้อหุ่นยนต์รุ่นลิมิเต็ดให้ภูด้วย"

คำพูดไร้เดียงสาของลูกชาย กรีดลึกลงกลางใจฉันยิ่งกว่ามีด สามีของฉันยืนโอบเอวชู้รัก มองดูภาพนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย ราวกับฉันเป็นส่วนเกินในบ้านหลังนี้

ฉันตัดสินใจเซ็นใบหย่า เดินออกจากคฤหาสน์หรูโดยไม่หันหลังกลับ ทิ้งลูกชายที่เลือก 'ของเล่นราคาแพง' มากกว่า 'ความรักของแม่' ไว้เบื้องหลัง

ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ รับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดู และสร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ แต่แล้ววันหนึ่ง อดีตสามีก็ซมซานกลับมาพร้อมกับลูกชายที่เคยผลักไสฉัน

"นา... กลับมาเถอะนะ ลูกต้องการแม่"

ฉันมองหน้าพวกเขาด้วยความสมเพช ก่อนจะยิ้มมุมปาก

"ลูกเหรอ? ฉันมีลูกสาวคนเดียวชื่อนลิน ส่วนเด็กคนนั้น... ฉันไม่รู้จัก"

ในงานวันเกิดของเขา ฉันจะมอบของขวัญชิ้นสุดท้าย เป็นความจริงอันน่ารังเกียจที่เขาปกปิดไว้ ทั้งเรื่องแม่ของเขาที่ฆ่าตัวตาย และเรื่องที่เขาบังคับให้ชู้รักไปทำแท้ง

บทที่ 1

รจนา คุณูปการ (นา) POV:

ฉันยืนอยู่หน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เคยเป็นบ้านของฉันนานกว่าเจ็ดปี ลมเย็นยะเยือกพัดมาปะทะกาย ฉันหอบกระเป๋าเดินทางใบน้อยไว้แน่น มีเพียงไม่กี่ชิ้นที่ฉันเลือกนำติดตัวมา มันเบาหวิวจนน่าใจหายเมื่อเทียบกับชีวิตที่ฉันเคยมีภายในรั้วแห่งนี้

พลกฤต จรรยงค์ อดีตสามีของฉัน เดินตามออกมา สีหน้าของเขาเรียบเฉยจนฉันไม่แน่ใจว่าเขากำลังรู้สึกอะไรอยู่

"แน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันไปส่งที่สถานีขนส่ง?" เสียงของเขาห้าวลึกเหมือนทุกครั้ง แต่ในความห้าวมีความลังเลบางอย่างซ่อนอยู่

ฉันหันไปมองเขา ใบหน้าของเขาหล่อเหลาไร้ที่ติเสมอมา นั่นคือสิ่งที่ฉันหลงใหลในตัวเขาในวันแรกที่เราพบกัน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเพียงเปลือกนอกที่ว่างเปล่าในสายตาฉัน

"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ" ฉันตอบสั้นๆ เสียงของฉันเองก็สั่นเครือเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะความเสียใจ แต่เป็นความเหนื่อยล้าที่สะสมมานาน

พลกฤตกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออกอีกครั้ง

"พ่อขา!" เสียงใสๆ ของน้องภู ลูกชายวัยห้าขวบของฉันวิ่งออกมา เขาตรงเข้าไปกอดขาพลกฤตแน่น ดวงตากลมโตของเขามองมาที่ฉันอย่างแปลกแยก

ใจของฉันกระตุกวูบ ภาพที่น้องภูเคยวิ่งเข้ามากอดฉันในยามที่ฉันกลับบ้านผุดขึ้นมาในหัว แต่ในตอนนี้ แขนเล็กๆ คู่นั้นกลับโอบกอดบิดาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป

"นา... แม่จะไปไหน?" น้องภูถามเสียงใส แต่ในแววตามีประกายแห่งความไม่พอใจ

ฉันพยายามยิ้มให้ลูกชาย แต่ริมฝีปากของฉันแข็งทื่อ

"แม่จะไปเที่ยวพักผ่อนสักพักนะลูก" ฉันตอบอย่างอ่อนโยน พยายามข่มความเจ็บปวดในใจ

น้องภูเบะปาก มือเล็กๆ ของเขายื่นไปจับชายเสื้อของพลกฤต

"พ่อคะ ส้มบอกว่าจะซื้อหุ่นยนต์รุ่นลิมิเต็ดให้ภูด้วย" น้องภูพูดเสียงเจื้อยแจ้ว ราวกับต้องการตอกย้ำบางสิ่งบางอย่าง

คำว่า "ส้ม" เหมือนก้อนหินหนักๆ ที่ทุ่มลงมากลางใจฉัน มันคือชื่อของกมลศรี ขำประเสริฐ เพื่อนสนิทของฉัน

พลกฤตสบตาฉันเล็กน้อย แววตาของเขาดูมีความผิดติดอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร

"ภู... ไม่คิดถึงแม่บ้างเหรอ?" ฉันถามเสียงเบาราวกระซิบ ความหวังสุดท้ายที่มีกำลังจะพังทลายลง

น้องภูเงยหน้ามองฉัน ดวงตากลมโตฉายแววไม่เข้าใจ

"แม่ไม่เห็นน่าสนใจเลย! ส้มใจดีกว่า แม่ชอบทำหน้าเศร้าๆ แถมยังชอบให้ภูเล่นแต่ของเก่าๆ" น้องภูพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ มือเล็กๆ ของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ แล้วหยิบผ้าพันคอไหมพรมสีฟ้าที่ฉันเพิ่งถักให้เขาเมื่อสัปดาห์ก่อนโยนลงพื้น

"นี่ไง! ผ้าพันคอขี้เหร่ๆ ของแม่! ส้มบอกว่าจะซื้อผ้าพันคอแบรนด์เนมให้ภูตั้งเยอะแยะ!"

คำพูดไร้เดียงสาของลูกชายแท้ๆ ฟาดลงกลางใจฉันอย่างจัง มันเจ็บปวดจนจุกไปทั้งอก

พลกฤตกำลังจะเอื้อมมือไปจับไหล่น้องภู แต่ฉันสะบัดหน้าหนี

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ฉันบอกพลกฤต เสียงของฉันแหบพร่า น้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาจนพร่าเลือน

"พลกฤต คุณจำได้ไหมว่าเราเคยมีมุมโปรดในสวน?" ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง หวังว่าเขาจะจำความทรงจำดีๆ ที่เราเคยมีร่วมกันได้

พลกฤตมองหน้าฉัน สลับกับมองน้องภูที่ยังคงเกาะขาเขาอยู่

"มุมไหนนะ? ฉันจำไม่ค่อยได้แล้ว" เขาตอบเสียงอ้อมแอ้ม ราวกับกำลังหลีกเลี่ยงบางสิ่ง

ฉันเม้มริมฝีปากแน่น

"มุมที่ฉันเคยบอกคุณว่าฉันชอบมากที่สุดน่ะค่ะ ที่มีดอกไม้บานเต็มไปหมด" ฉันย้ำ พยายามกระตุ้นความทรงจำของเขา

พลกฤตถอนหายใจ

"อ๋อ... มุมนั้นเหรอ? ฉันสั่งให้คนงานรื้อทิ้งไปแล้วนะ เพราะมันรกตา" คำตอบของเขาเหมือนมีดกรีดลงบนแผลใจของฉันซ้ำๆ

ฉันหรี่ตาลง มองหน้าพลกฤตอย่างพิจารณา

"คุณจำไม่ได้เลยเหรอ ว่าฉันเคยบอกคุณว่าฉันรักมุมนั้นมากที่สุด?" ฉันถาม

พลกฤตส่ายหน้าอย่างไม่ใส่ใจ

"ก็แค่ดอกไม้เองน่านา เธอจะไปอะไรกับมันนักหนา"

ฉันยิ้มเยาะให้กับความทรงจำของเราที่ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย

"แล้วคุณก็คงจำไม่ได้ด้วยว่าฉันเคยบอกคุณว่าถ้าวันไหนฉันไม่รักมันแล้ว ก็แปลว่าความรักของเราจบลงแล้ว"

พลกฤตตาเบิกกว้างเล็กน้อย เขามองมาที่ฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง

"นา... เธอพูดอะไรของเธอ?"

"ฉันบอกคุณแล้วนี่คะ ว่าถ้ามุมนั้นหายไป ความรักของเราก็หายไปด้วย" น้ำเสียงของฉันเย็นชาจนเขาเองก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

ฉันหันหลังให้พลกฤตและน้องภู เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ไม่ว่าพวกเขาจะพูดอะไร ฉันก็จะไม่กลับไปแล้ว

ฉันจำได้ดีว่าอะไรทำให้ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตที่เคยสวยงามนี้

มันเป็นวันที่ฉันกลับมาบ้านเร็วกว่าปกติ เพราะฉันอยากจะเซอร์ไพรส์พลกฤตด้วยอาหารเย็นที่เขาชอบ

แต่คนที่เซอร์ไพรส์กลับเป็นฉันเอง

ทันทีที่ฉันก้าวเข้าสู่ห้องนั่งเล่น ภาพที่เห็นทำให้โลกทั้งใบของฉันหยุดหมุน

กมลศรี เพื่อนสนิทของฉัน กำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดของฉัน ในอ้อมแขนของเธอน้องภูหัวเราะคิกคักกับของเล่นชิ้นใหม่

เสียงน้ำจากห้องน้ำชั้นบนดังแว่วมา ฉันรู้ทันทีว่าพลกฤตอยู่ในนั้น

กมลศรีเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงทันที เมื่อเห็นว่าฉันกลับมา

"นา... เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่?" เสียงของเธอสั่นเครือ

น้องภูเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยความคาดหวัง

"แม่คะ! ส้มใจดีมากเลย ส้มซื้อหุ่นยนต์ให้ภูด้วย!" น้องภูพูดเจื้อยแจ้ว ราวกับต้องการอวดของเล่นชิ้นใหม่

ฉันพยายามรวบรวมสติ แต่ลมหายใจของฉันติดขัดไปหมด

"ส้ม... เธอมาทำอะไรที่นี่?" ฉันถาม เสียงของฉันเองก็สั่นไม่แพ้กัน

กมลศรีลุกขึ้นยืนช้าๆ เธอพยายามจะอธิบาย แต่คำพูดของเธอกลับติดอยู่ในลำคอ

"นา... ฉัน..."

"แม่คะ! ดูนี่สิคะ ส้มสวยกว่าแม่ตั้งเยอะ! ส้มบอกว่าแม่ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นเลย เพราะแม่ไม่ชอบแต่งตัวสวยๆ" น้องภูพูดอย่างไร้เดียงสา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

คำพูดของน้องภูเหมือนดาบเล่มแล้วเล่มเล่าที่ทิ่มแทงหัวใจฉัน

กมลศรีพยายามที่จะเข้ามาจับมือฉัน แต่ฉันสะบัดออก

"อย่ามาแตะต้องฉัน!" ฉันตะโกนสุดเสียง แรงสะบัดของฉันทำให้เธอเซถอยไป

เสียงน้ำในห้องน้ำหยุดลง พลกฤตเดินออกมาจากห้องน้ำ เขายังคงพันผ้าเช็ดตัวรอบเอว ผมของเขายังเปียกชุ่ม

พลกฤตมองมาที่ฉันด้วยแววตาตกตะลึง

"นา! เธอมาทำอะไรที่นี่?" เขาถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

ฉันมองหน้าพลกฤต ดวงตาของฉันร้อนผ่าวไปด้วยน้ำตา

"ฉันมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ? ฉันมาบ้านของฉันเอง!" ฉันตะโกนกลับไป น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่

พลกฤตเดินเข้ามาใกล้ เขาพยายามจะจับมือฉัน

"นา ใจเย็นๆ ก่อนนะ"

ฉันสะบัดมือออกอย่างแรง

"ใจเย็นเหรอคะ? คุณกับเพื่อนสนิทของฉันกำลังทำเรื่องอะไรกันอยู่ คุณคิดว่าฉันจะใจเย็นลงได้เหรอ?"

น้องภูเริ่มร้องไห้เมื่อเห็นฉันกับพลกฤตทะเลาะกัน

"แม่ไม่น่ารักเลย! ฮือๆๆๆ"

กมลศรีรีบวิ่งเข้าไปโอ๋น้องภู เธอหันมามองฉันด้วยแววตาขอร้อง

"นา... อย่าทำแบบนี้เลยนะ ใจเย็นๆ ก่อน"

ฉันมองภาพตรงหน้า ร่างกายของฉันชาไปหมด

พลกฤตโกรธจัด เขาไม่เคยเห็นฉันโวยวายขนาดนี้มาก่อน

"นา เธอจะมาโวยวายอะไรตอนนี้! เธอทำลูกตกใจหมดแล้ว!"

"ลูกตกใจ? คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าคนที่ตกใจที่สุดคือฉัน!"

ฉันมองไปที่พลกฤตและกมลศรีสลับกัน ภาพของพลกฤตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำยังติดตาฉันแจ๋ว

"พลกฤต คุณกับส้ม... พวกคุณทำอะไรกัน?" ฉันถาม เสียงของฉันสั่นจนแทบจะไม่ได้ยิน

พลกฤตถอนหายใจ เขามองไปที่น้องภูที่ยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของกมลศรี

"มันไม่มีอะไรหรอกนา เธอคิดมากไปเอง"

"ไม่มีอะไร? แล้วผ้าพันคอของผู้หญิงคนอื่นที่แขวนอยู่ในห้องคุณล่ะ? แล้วกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่นที่ติดตัวคุณมาทุกคืนล่ะ? คุณคิดว่าฉันตาบอด ตาบอดมานานแค่ไหนแล้วพลกฤต!" ฉันตะโกนใส่หน้าพลกฤต

พลกฤตหน้าซีดลงทันที เขาไม่เคยคิดว่าฉันจะรู้เรื่องทั้งหมดนี้

กมลศรีพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันก็ไม่สนใจแล้ว

"นา ฉันขอโทษ..." พลกฤตก้มหน้าลงเล็กน้อย

"ขอโทษเหรอคะ? คำขอโทษของคุณจะมาเปลี่ยนแปลงอะไรได้! คุณทำลายความเชื่อใจของฉัน คุณทำลายทุกอย่างที่เราสร้างมาด้วยกัน!"

ฉันมองไปที่น้องภูอีกครั้ง ลูกชายของฉันยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของกมลศรี

"ภู..." ฉันเรียกชื่อลูกชายด้วยความเจ็บปวด

น้องภูเงยหน้าขึ้นมามองฉัน ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"แม่ใจร้าย! ส้มดีกว่าแม่ตั้งเยอะ! ภูจะไม่รักแม่แล้ว!"

คำพูดสุดท้ายของน้องภูเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจฉัน ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจของฉันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ฉันหันหลังให้ทุกคน เดินออกจากคฤหาสน์หลังนั้นโดยไม่หันกลับมามองอีกแม้แต่ครั้งเดียว

ฉันรู้ว่าจากนี้ไปชีวิตของฉันจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าฉันจะไม่ยอมกลับไปเป็นคนเดิมที่รักอย่างโง่งมอีกต่อไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
ไฟแค้นเผาผลาญใจรัก

ไฟแค้นเผาผลาญใจรัก

โรแมนติก

5.0

ฉันคือผู้ช่วยส่วนตัวของธีรภัทร ทายาทหนุ่มผู้เยือกเย็น แต่เมื่ออยู่กันตามลำพัง เขาจะเรียกฉันว่า "คุณหนูของผม" ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ฉันสั่นสะท้าน ฉันยอมจมดิ่งในความสัมพันธ์ลับๆ นี้อย่างโง่งม เพราะคิดว่ามันคือความรัก จนกระทั่งวันเกิดของฉัน เขาทิ้งให้ฉันรอเก้อทั้งคืน เพื่อไปอยู่กับดวงทิพย์ น้องสาวบุญธรรมผู้บอบบางของเขา หัวใจของฉันแตกสลาย เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นและเครื่องมือทางธุรกิจของเขาและพ่อของฉันเอง ฉันถูกตัดขาดจากครอบครัว ถูกอายัดบัตรเครดิตจนสิ้นเนื้อประดาตัว และที่เลวร้ายที่สุดคือฉันต้องเสียลูกในท้องไป เพราะเขาเลือกที่จะปกป้องดวงทิพย์แทนที่จะเป็นฉัน ดวงทิพย์ยังเยาะเย้ยฉันว่า ที่จริงแล้วฉันเป็นแค่ตัวแทนของน้องสาวอีกคนที่ตายไป และธีรภัทรก็แอบถ่ายคลิปวิดีโอของเราไว้เพื่อแบล็กเมล์ฉัน ความรักและความไว้ใจที่ฉันมีให้พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี ในคืนนั้น ฉันจึงตัดสินใจเผาเพนต์เฮาส์ที่เคยเป็นรังรักของเราให้วอดวาย โอนเงินทุกบาททุกสตางค์คืนให้เขา แล้วซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวแรกเพื่อหนีไปจากนรกขุมนี้ให้ไกลที่สุด

สิบปีที่ทุ่มเท แลกความเจ็บปวด

สิบปีที่ทุ่มเท แลกความเจ็บปวด

โรแมนติก

5.0

ฉันทุ่มเททุกอย่างตลอดสิบปีเพื่อปั้นสามีของฉัน เจษฎากร จากนักแสดงข้างถนนจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่แล้วฉันก็พบว่าเขาแอบคบชู้กับดุจดาว ดาราสาวที่ฉันเป็นคนเลือกมากับมือ มานานหลายปีแล้ว เขาไม่เพียงแต่ดูถูกเหยียดหยามฉัน แต่ยังใช้เงินที่เราร่วมกันหามาซื้อบ้านและรถหรูให้ผู้หญิงคนนั้น ที่เลวร้ายที่สุดคือ ตอนที่ฉันกำลังตั้งท้อง เขาสั่งให้คนมาทำร้ายฉันจนแท้งลูก ทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของฉันจนย่อยยับ ความรักและความไว้ใจที่ฉันมีให้พังทลายลงในพริบตา ฉันไม่ใช่เปมิกาคนเดิมที่เคยอ่อนแออีกต่อไปแล้ว ฉันจึงวางแผนแก้แค้นอย่างเลือดเย็นที่สุด ฉันจะทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และอนาคต เหมือนที่เขาเคยทำลายชีวิตของฉัน

ห้องฮันนีมูนซ่อนกลกล้องวงจรปิด

ห้องฮันนีมูนซ่อนกลกล้องวงจรปิด

โรแมนติก

5.0

เพื่อหาเงินรักษาแม่ที่นอนรอความตาย ฉันยอมขายศักดิ์ศรีรับงาน "พิเศษ" ในโรงแรมหรู แต่โลกกลับกลมจนน่าตลก เมื่อฉันได้งานใหม่และพบว่า "ลูกค้า" คืนนั้น คือสามีของประธานบริษัทที่ฉันต้องรับใช้! ฉันคิดว่าจะโดนไล่ออก แต่คุณหทัยกลับยิ้มเย็นเยือก แล้วส่งฉันกับสามีเธอไปดูงานต่างจังหวัด พร้อมจอง "ห้องฮันนีมูน" ให้เราสองคน คืนนั้นฉันสะดุ้งตื่นเพราะฤทธิ์ยาปลุกกำหนัด พบว่าตัวเองกำลังถูกสามีเจ้านายกอดรัดอยู่บนเตียง ที่มุมห้องมีแสงไฟสีแดงวาบจากกล้องวงจรปิด พร้อมข้อความจากคุณหทัยที่ส่งมาว่า "ทำได้ดีมากค่ะ ทั้งสองคนดูเร่าร้อนกว่าครั้งแรกอีกนะ" วินาทีนั้นฉันถึงรู้ความจริงอันน่าสะอิดสะเอียน คุณหทัยไม่ได้โง่ แต่เธอคือคนบงการ! เธอเสพติดการเห็นสามีตัวเองมีอะไรกับหญิงอื่นผ่านกล้อง นภดลเองก็เป็นแค่เหยื่อที่ถูกมอมยาและบีบด้วยหนี้สินไม่ต่างจากฉัน ความกลัวเปลี่ยนเป็นความแค้น ในเมื่อเธออยากดูหนังสดนัก ฉันกับนภดลก็จะเล่นให้ดู แต่บทตอนจบ... นางพญาโรคจิตอย่างเธอจะต้องไปนอนในคุก

เซ็นหย่าไม่รู้ว่าเสียอะไรไป

เซ็นหย่าไม่รู้ว่าเสียอะไรไป

โรแมนติก

5.0

สามีเซ็นใบหย่าโดยไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่กกกอดอยู่กับแฟนเก่าที่เขาพาเข้ามาหยามเกียรติฉันถึงในบ้าน ในมือฉันกำผลตรวจครรภ์ที่เขาไม่มีวันได้เห็นแน่น แต่มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว เพราะวินาทีที่เขาจรดปากกาเซ็นชื่อลงไปโดยไม่อ่านเนื้อหา ฉันก็กลายเป็นอิสระจากนรกขุมนี้ทันที ตลอด 4 ปีที่แต่งงานกันมา ฉันเป็นได้แค่ "เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนที่ได้" สำหรับภราดร เขาเย็นชา ไร้หัวใจ และเมื่ออิสรีย์ แฟนเก่าของเขากลับมา เขาก็พร้อมจะเขี่ยฉันทิ้งเหมือนขยะเพื่อเอาใจเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นในวันที่ฉันไปโรงพยาบาลและพบว่าตัวเองตั้งท้อง ฉันโทรหาเขาด้วยความดีใจ แต่เขากลับตวาดใส่และบอกว่ากำลังยุ่งอยู่กับการดูแลอิสรีย์ที่แค่ "ข้อเท้าแพลง" วินาทีนั้นฉันตาสว่าง ความรักที่ฉันมีให้เขามันตายไปพร้อมกับความหวัง ฉันวางแผนอย่างใจเย็น สอดไส้ใบหย่าไว้ใต้กองเอกสารวิจัยที่ให้เขาเซ็น เขาเซ็นมันอย่างรวดเร็วเพื่อจะรีบไปหาชู้รัก โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือการเซ็นยกเลิกสิทธิ์ความเป็นพ่อและสามีของตัวเอง ตอนนี้ฉันกำลังจะขึ้นเครื่องไปสวิตเซอร์แลนด์ เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกในท้อง ส่วนภราดร... รอให้เขารู้ตัวตอนที่หิมะถล่มลงมาทับความรู้สึกผิดของเขาเถอะ ว่าเขาได้สูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดไปตลอดกาลแล้ว

ภรรยาที่แสนดีได้ตายไปแล้ว

ภรรยาที่แสนดีได้ตายไปแล้ว

โรแมนติก

5.0

การรอคอยลูกน้อยมาตลอด 5 ปี จบลงอย่างน่าเวทนาใต้ฝ่าเท้าของเลขาฯ สามี เธอกระทืบท้องฉันจนเลือดไหลนองพื้น ปะปนกับแกงมัสมั่นที่ฉันตั้งใจทำมาเซอร์ไพรส์เขา พี่ภูมาถึงทันเวลาเห็นลูกจากไป แต่มาช้าเกินกว่าจะรักษาหัวใจที่แหลกสลายของฉันได้ ฉันหิ้วปิ่นโตไปหา 'พี่ภู' ที่บริษัท หวังจะบอกข่าวดีเรื่องตั้งครรภ์ที่เราเฝ้ารอมานาน แต่ 'เรณู' เลขาฯ หน้าห้องกลับขวางทางและมองฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม ด่าว่าฉันเป็นผู้หญิงชั้นต่ำที่หวังจับท่านประธาน เธอไม่ฟังคำอธิบาย สั่งรปภ.ลากฉันไปขังในห้องประชุม แล้วใช้ส้นสูงขยี้ลงบนหน้าท้องของฉันอย่างเลือดเย็น "ไหนดูซิว่าท้องจริงไหม!" เสียงหัวเราะของเธอดังลั่น ขณะที่ความเจ็บปวดแล่นพล่านและเลือดสีสดไหลทะลักออกมาจากหว่างขาของฉัน วินาทีที่พี่ภูเปิดประตูเข้ามา กลิ่นคาวเลือดคลุ้งไปทั่วห้องผสมกับกลิ่นแกง เขาคลุ้มคลั่งเหมือนสัตว์ป่าเมื่อรู้ความจริง พุ่งเข้าทำร้ายเรณูจนปางตายท่ามกลางเสียงกรีดร้อง แต่สำหรับฉัน... คำขอโทษและน้ำตาของเขามันไร้ค่าเสียแล้ว นิดคนเดิมที่แสนอ่อนหวานและมองโลกในแง่ดี ได้ตายไปพร้อมกับลูกในท้องตั้งแต่วินาทีนั้น ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงโรงพยาบาลด้วยแววตาที่ว่างเปล่าและเย็นชา ความรักที่มีให้สามีมอดไหม้จนหมดสิ้น เหลือเพียงไฟแค้นที่โชติช่วง จากนี้ไป จะไม่มีภรรยาที่แสนดีอีกแล้ว จะมีแต่แม่ผู้เคียดแค้นที่พร้อมจะลากทุกคนที่ทำร้ายลูกของฉันลงนรก

เกมแก้แค้น ของอดีตภรรยา

เกมแก้แค้น ของอดีตภรรยา

โรแมนติก

5.0

สามี CEO ของฉันโชว์แหวนแต่งงานราคาถูกที่ฉันทำให้ผ่านรายการทีวี พร้อมบอกเคล็ดลับชีวิตคู่คือ "ความซื่อสัตย์" แต่ในมือถือของฉันกลับมีข้อความเด้งรัวๆ เป็นรูปเขากับเลขาสาวบนเตียง พร้อมผลตรวจครรภ์ที่วางคู่กับถุงยางอนามัย วันครบรอบแต่งงานปีที่ 7 เขาหอบดอกไม้กลับบ้านพร้อมกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอื่น และถามหาแหวนที่นิ้วฉัน ฉันยื่นกล่องของขวัญให้เขา ข้างในคือเศษทองที่ถูกหลอมจนเละไม่มีชิ้นดี "นี่คือความรักของเราค่ะ" ฉันบอกเขาด้วยรอยยิ้มเย็นชา เขาหน้าซีดเผือด คิดว่าฉันแค่ประชดรัก โดยไม่รู้เลยว่าทรัพย์สินทั้งหมดถูกถ่ายโอน และเอกสารหย่าได้วางรออยู่แล้ว วินาทีที่เขาเปิดกล่องนั้นอีกครั้ง ผู้หญิงที่ชื่อ 'กานดา' จะไม่มีตัวตนบนโลกนี้อีกต่อไป เหลือเพียง 'พิมล โกสุม' ที่กำลังบินไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ฮอกไกโด... ตลอดกาล

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรัก พันธนาการหัวใจ

ลิขิตรัก พันธนาการหัวใจ

วรนิษฐา / Miss sexy
5.0

รักแรกพบ อาจเกิดขึ้นไม่ง่ายนัก แต่เมื่อได้เกิดกับหัวใจของผู้ชายที่ชื่อพระนาย ชายหนุ่มจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ ขวัญข้าว ดวงใจของเขา ++++ “นายช่วยฉันหน่อย ฉันทรมาน” ขวัญข้าวพร่ำบอกความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย ความต้องการส่วนลึกดูจะมีอิทธิพล จนทำให้ขวัญข้าวเอ่ยพูดสิ่งนั้นออกไป สติของเธอตอนนี้แทบจะหลุดลอย “ทรมาน คุณเป็นอะไร?” “ไม่รู้... แต่ฉันแค่ต้องการ น่ะ... นาย... ขอร้องทำอะไรก็ได้ ฉัน... ฉัน... ทนไม่... หวะ... ไหว” ขวัญข้าวพูดติดขัดปานจะขาดใจ พูดจบก็หอบเหนื่อย ใบหน้าร้อนผ่าวๆ เพราะความเขินอายที่ตัวเองเป็นฝ่ายเชิญชวนเขาไปตรงๆ ก่อนจะก้มหน้าต่ำมองพื้นห้อง พระนายรั้งใบหน้าของขวัญข้าวให้มองมายังเขา

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

มงกุฎเลือด

มงกุฎเลือด

Tepui Frost
5.0

ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ