เจ้าบ่าว (ไม่) จำกัดรักซีรีส์ เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

เจ้าบ่าว (ไม่) จำกัดรักซีรีส์ เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

สรีสามัญ

5.0
ความคิดเห็น
945
ชม
12
บท

รื่องราวชวนปวดหัวเมื่ออรณิมารับท้าพนันกับปาภัทรเพื่อให้ธีรรภัคหนุ่มหล่อหน้าตาดีมาตกหลุมรัก เรื่องจะอลวนอลเวงขนาดไหนมาอ่านกันเลย! +++ โปรยปราย “คืนนี้คุณจะเป็นของผม คุณต้องชดใช้ให้ผมได้ยินไหมอรณิมา” ท้ายประโยคธีรรภัคเอ่ยเสียงชัดถ้อยชัดคำจนหญิงสาวอดกลัวใจชายหนุ่มไม่ได้ อรณิมาจำต้องเก็บถ้อยคำที่อยากจะพร่ำด่าเขาออกมา เมื่อหญิงสาวเห็นเพียงแววตาที่สะท้อนกับหยาดน้ำตาคู่นั้น...แววตาพราวระยับมัวหมองจนมิเหลือเค้าของเพื่อนร่วมห้องเรียนคนก่อน ...นายภัค ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยคีย์การ์ดใบเดียว เวลานี้อรณิมาถูกปิดตาอยู่ ธีรรภัคเหลียวมองใบหน้าหวานที่ถูกปิดตาอย่างกรุ่นโกรธ ยามนี้ชายหนุ่มพาดร่างของอรณิมาไว้กับบ่าของเขา นับแต่ที่เขารู้เรื่องการพนันของอรณิมา กับปาภัทร ความผิดหวังก็เข้ามาก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ผิดหวังที่เพื่อนทั้งสองรวมหัวกันหลอกเขา คนหนึ่งล้อเล่นกับความรู้สึกเพื่อน แต่อีกคนหนึ่งอยากเสนอให้เขาแทบขาดใจ ดวงใจของชายหนุ่มนั้นแหลกสลาย ธีรรภัคคนเดิมคนเป็นผู้ชายที่โง่งมมากที่ตกหลุมรักสตรีที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างอรณิมา “เลิกมารยาสักที อรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะอุ้มหญิงสาวชุดเดรสยาวหางปลาหรูหราลงกับเตียงอย่างรุนแรง “ภัคเปิดตาให้อรเถอะนะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หญิงสาวคว้ามือเปะปะไปมาในอากาศ “…” ธีรรภัคไม่ตอบรับในทันที กระนั้นนัยน์ตาของชายหนุ่มกลับเหลือบเห็นชายผ้า “ไหนอรบอกว่าอยากใช้ร่างกายแลกกับความผิดที่อรก่อไว้ไง” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะตวาดหญิงสาวดังสนั่น อรณิมาไหล่สั่นเล็กน้อย หญิงสาวพยายามกระถดหนีเสียงอย่างเขา “ภัคจะปิดตาอรไว้แบบนี้แหละ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างชิงขังในมารยาร้อยเล่มเกวียนของหญิงสาว ‘ความแค้นวันนี้ต้องชำระวันนี้สิ’ ธีรรภัคคิดในใจ มือหนาถอดรองเท้าของตนเองออก ในเวลานี้ชายหนุ่มมีแต่ความแค้นเคืองต่อหญิงสาวถึงที่สุด “ภัคจะทำอะไร...อร” อรณิมาหวีดร้องสุดเสียงเมื่อได้ยินเสียงเสียงแควกดังขึ้นใกล้ตัวของหญิงสาว “จำคำพูดตัวเองแล้ว...จำวันนี้ไว้ให้ดี...ยัยเพิ้งอรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยแล้วตวาดหญิงสาวเสียงดังสนั่นห้องนอนโรงแรมห้าดาว ดีลักซ์หรูหรา อรณิมารู้สึกหวาดกลัวถึงที่สุด เมื่อมือหนาของชายหนุ่มกระฉากชุดเดรส ของเธอออกมากองที่เรียวขาของเธอ +++

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

เวลา 07.00 น.

พุทธศักราช 2564

บ้านเดี่ยวย่านใจกลางเมืองหลวงขนาดหลายตารางวา

ตัวบ้านทาสีขาวสะอาดตา กระเบื้องลายสีฟ้าสะดุดตาถูกปูทับซ้อนกันเป็นมุมสูงตามแปลนบ้านแบบที่เจ้าของโครงการบ้านได้ให้สถาปนิกผู้ชำนาญได้ออกแบบหมู่บ้านนี้มาอย่างดี

แสงแดดยามเช้าอาบไล้ประตูรั้วบ้านลวดลายหงส์

ที่ออกแบบอย่างวิจิตร…ดูแล้วชวนประหลาดตายิ่งนัก

ถัดเข้าไปในบ้านหลังใหญ่พื้นหญ้าเขียวขจีทอดยาวไป

ตั้งแต่ประตูรั้วบ้านจรดหน้าบานประตูบ้านบานกระจก

กระจกหน้าบ้านเเบบบานสไลด์ถูกล็อคจากหน้าบ้านอย่าง

แน่นหนาเพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายที่ชุกชุมในละแวกนั้น

แสงแดดยามเช้าสาดเล็ดลอดเข้าไปในห้องโถงขนาดกว้าง ร่างสูงโปร่งของธีรรภัคนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้

ชายหนุ่มบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยท่าสบาย ๆ มือเรียวหนาของเขาเอื้อมเสยผมขึ้น

แสงสะท้อนของรัศมีสุริยาสะท้อนให้เห็นใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวสีสำลียิ่งยามสะท้องแสงตะวัน ยิ่งขับให้ผิวนวลผ่องขึ้นกว่าเดิม

ชายหนุ่มสวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีฟ้าตัวเดียว ธีรรภัคเคยชินกับการอยู่บ้านคนเดียวตามประสาหนุ่มโสด ธีรรภัคไม่สวมเสื้อเขาเปลือยท่อนบนอย่างรู้สึกสบายตัว

ร่างสูงโปร่งเหลียวมองกระจก ภาพเบื้องหน้าของชายหนุ่มอดทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เวลานี้เขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดหน้าท้องเขา ใช่...เขามีซิกแพ็ก

ปีนี้ธีรรภัคอายุอานามก็ปาเข้าไป 36 พอดี กระนั้นยิ่งเขาอายุเยอะเท่าไหร่เขากลับต้องดูแลรักษาร่างกายตนเองมากยิ่งขึ้นจนคนแถวบ้านมักคิดว่าเขามีอายุ 29 ปี กระนั้นธีรรภัคก็หาได้สนใจอะไรไม่

เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น ธีรรภัคเอื้อมมือเรียวขึ้นหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาสไลด์แล้วรับสาย

“ฮัลโหล” เสียงนุ่มกรอกลงไปตามสาย ดวงหน้าคมคายแต้มรอยยิ้มอ่อนขับให้ดวงหน้าของชายหนุ่มหวานกว่าเดิม

ธีรรภัคกรอกเสียงลงไปแล้วเอาหูแนบกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด

ขายาวสองข้างพาชายหนุ่มมาหยุดที่ห้องครัว สายตาคู่คมกวาดหาเครื่องบดกาแฟที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่หมาด ๆ

เครื่องบดกาแฟแบบเซรามิกตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ มือหนาเอื้อมหยิบถุงเมล็ดกาแฟขึ้นมาเธอใส่เครื่องบดลงไป

ไม่นานเกินรอ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็โชยเข้าจมูกของชายหนุ่ม ธีรรภัคเดินไปยังเคาน์เตอร์ชงกาแฟทันที

“ไงเพื่อน” ชายหนุ่มเอ่ยกรอกเสียงลงไปตามสาย

มือเรียวบางยกแก้วกาแฟขึ้น กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทำให้เขาอารมณ์ดีได้ไม่ยาก

แก้วกาแฟสีขาวถูกวางไว้บนจานรองขนมขนาดเล็กลายกนกสีน้ำเงินสวย ธีรรภัคแนบหูโทรศัพท์ข้างหนึ่งแล้วถือจานรองแก้วกาแฟมาด้วย

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ...คุณเพื่อน” ปลายสายตอบกลับมา

“ขอบใจเว้ย” ธีรรภัคตอบกลับ ดวงหน้าคมคายของชายหนุ่มแต้มรอยยิ้มระบายเล็กน้อย

“เห้ย...เดือนหน้าข้าจะแต่งงานแล้วนะเว้ย” ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“บ๊ะ...น้องคนไหนของแกว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นพลางตบเข่าฉาดใหญ่อย่างกระเซ้า

“เจ้าสาวข้าอย่างเด็ด” ปาภัทรเพื่อนสนิทหนุ่มกล่าว

“วู้ว...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น คุณปาภัทร คนอย่างเอ็งชมผู้หญิงคนไหนมาก่อน ข้าธีรรภัคคนนี้ชักอยากจะเห็นใบหน้าแม่คนงามของเอ็งแล้วละซิ” ธีรรภัคเอ่ยแกมเย้า

ดวงหน้าคมคายคลี่ยิ้มเล็กน้อย มือเรียวของเขาเอื้อมหยิบแก้วกาแฟแล้วซดกาแฟร้อนดังโฮกใหญ่

“เอ้อ...แล้วคาสโนว่าตัวพ่ออย่างเอ็งเมื่อไหร่จะสละตำแหน่งว่ะ” ปลายสายเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

เพียงได้ยินถ้อยคำของเพื่อนสนิทหนุ่มอย่างปาภัทร ธีรรภัคถึงกับสำลักจนกาแฟร้อนหอมกรุ่น

“แค่ก ๆ ...ไม่มีทางเว้ย...รอน้ำท่วมหลังเป็ดสะก่อนว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบเพื่อนสนิทหนุ่มพลางสำลักกาแฟโฮกใหญ่

“เอ็งหมายถึง...ยัยเพิ้งนั่นน่ะเหรอ...โหยไม่ได้ครึ่งของน้องตาลข้าหรอกเว้ย” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะนำกระดาษชำระเช็ดคราบกาแฟที่เลอะบนโต๊ะกลมทรงหรูหรา

“อ้อน้องลูกตาลนมหวานน่ะเหรอ” ปลายสายเอ่ยแกมเยาะเพื่อนสนิทหนุ่ม

ธีรรภัคอดขำพรืดออกมาไม่ได้จนกาแฟร้อนแทบจะลวกลิ้นตาย ทว่าเสียงออดดังขึ้นหน้าบ้านหนึ่งครั้ง

‘ปิ๊งป่อง’

“เดี๋ยวข้ามาน่ะเว้ย...แค่นี้ก่อนพอดีน้องลูกตาลนมหวานมาว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบอย่างยียวน แล้ววางสายเพื่อนสนิทคนสุดท้ายที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวหมาด ๆ ไป

“งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ” ธีรรภัคอดรำพึงกับตนเองไม่ได้

บ้านสีขาวสะอาดตาหลังใหญ่โต สไตล์ตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของอรณิมา

ดวงหวานแต้มรอยยิ้มอย่างยินดี เธอพยายามคลี่ยิ้มหวานให้มากที่สุด แม้ว่าเวลานี้อรณิมาจะเริ่มไม่สบอารมณ์มากถึงที่สุดแล้วก็ตาม

ในมือทั้งสองข้างของสตรีผู้มาเยือนหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หอบกล่องขนมเค้กชิ้นใหญ่มาฝากเพื่อนบ้านใหม่

อรณิมาเพิ่งจะย้ายบ้านมาใหม่หมาด ๆ คุณย่าของเธอสอนเสมอว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งดี มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การขาดมิตรภาพก็เสมือนต้นหญ้าขาดน้ำ ฉะนั้นวันนี้หญิงสาวจึงตั้งใจอบขนมมาฝากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านทุกคน

คฤหาสน์ทรงสูงสไตล์ตะวันตกนี้ อรณิมาเพิ่งจะเคยเห็นแบบจริงจังเป็นครั้งแรก

ด้วยรูปทรงที่ประหลาดอดทำให้หญิงสาวรู้สึกสะดุดในใจไม่ได้

“นี่น่าจะหลังสุดท้ายแล้ว” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานหากแต่อ่อนจาง

...นี่นะหรือบ้านของเขาที่ปาภัทรเอ่ยถึง

ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าใดที่อรณิมาถือกล่องขนมเค้กสองปอนด์รออยู่อย่างนั้น...นานจนหญิงสาวอดรู้สึกแปลกใจในตัวของเพื่อนบ้านหนุ่มไม่ได้

เวลานี้อรณิมาสวมชุดเดรสสีโอรส ผ้าชีฟองเนื้อดีปลิวเอื่อย ๆ ไปตามแรงวาโย กระโปรงของอรณิมาเป็นชุดเดรสสั้นกระนั้นเมื่อถูกแรงลมพัดทำใหอาภรณ์ท่อนล่างปลิวได้ไม่ยาก

“ทำไมนานอย่างนี้นะ” อรณิมาอดบ่นกระปอดกระแปดไม่ได้

คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ดวงหน้าหวานที่ประทินโฉมมาอย่างดีเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาจากไรผม

ดีหน่อยที่ลมโชยทว่าความคิดของอรณิมาต้องหยุดลง เมื่อหญิงสาวแหงนใบหน้ามองท้องฟ้า

ภาพเบื้องหน้าของอรณิมาเป็นมวลหมู่ก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่ลอยผ่านไป บรรยากาศรอบด้านดูอึมครึมราวกับว่าวันนี้ฟ้าดินไม่เป็นใจเอาซะเลย

ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะหยุดคิด รองเท้าส้นสูงของอรณิมาก็พาร่างอรชรไถลไปตามทางเสียก่อน

“ว้าย” อรณิมาเอ่ยหวีดร้องเสียงดังลั่นหน้าบ้านของชายหนุ่ม ขณะที่หญิงสาวจวนเจียนจะเซล้มลง

“ระวังคุณ!” ธีรรภัคเอ่ยร้องขึ้น แล้วพุ่งตัวเข้าไปชวยหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย

ร่างสูงโปร่งก้าวผิดจังหวะทำให้ร่างของเขาเซถลาล้มลงไปพร้อมกับสตรีตรงหน้า

เวลานี้ธีรรภัคล้มทับบนเรือนกายอรณิมา ชายหนุ่มเบิกตากว้างแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาเจ้ากรรมของชายหนุ่มหันไปปะทะกับทรวงอกของอรณิมา

“ว้าย…นายโรคจิต” อรณิมาหวีดร้องขึ้น ขณะหญิงสาวพยายามลุกขึ้นให้พ้นจากรัศมีของชายหนุ่ม

ดวงหน้าหวานของอรณิมาอยู่ใกล้บุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าคมรคาย หากแต่อ่อนเยาว์ราวชายหนุ่มแรกรุ่น

“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก ชายหนุ่มวางตัวไม่ถูกนัก ขณะเดียวกันมือไม้ของเขาก็สาละวนไปหมด

“ฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ” เพียงคำแรกที่หญิงสาวเอ่ยออกมาทำให้ ธีรรภัคอดชะงักในน้ำเสียงไม่ได้

‘เราเคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ที่ไหนนะ’ ธีรรภัคอดคิดในใจไม่ได้

น้ำเสียงของผู้มาเยือนตรงหน้าคุ้นหูเขามาก กระนั้นความรู้สึกปวดหัวอ่อนจางก็เข้าครอบงำชายหนุ่ม

ธีรรภัคยกมือกุมขมับเล็กน้อย สงสัยการเข้านอนดึกเมื่อวานและเรื่องที่ออฟฟิศคงทำให้เขาเวียนศีรษะ

“คุณเป็นอะไรไหมคะ” อรณิมาเอ่ยถามขึ้นขณะลอบสังเกตอากัปกิริยาของชายหนุ่มที่กุมขมับด้วยแววตาสงสัย

“ไม่...ผมไม่เป็นไร” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอจัดว่ามีใบหน้าอ่อนเยาว์และค่อนข้างรูปงามราวเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน กระนั้นอรณิมากลับเห็นแววตาหยิ่งยโสในท่วงที

“คุณเป็นใคร” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ นัยน์ตาเรียวรีหลี่ลงเพื่อประเมินสถานการณ์ตรงหน้า

“ฉันชื่ออรณิมาค่ะ พอดีฉันเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ค่ะ...ฉันเลยเอาขนมมาฝากเพื่อนบ้านค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” อรณิมาเอ่ยขึ้น

“โอ...ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มอุทานขึ้น ท้ายประโยคธีรรภัคพยายามปรับน้ำเสียงให้สุภาพกว่าเดิม

“ว้าย...กล่องขนมฉัน” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานแหลม ขณะดวงตากลมโตของหญิงสาวกวาดมองกล่องขนมที่ร่วงอยู่ปลายขาเรียวยาวของชายหนุ่ม

‘อ๋อ…ยัยนี่เอาขนมมาให้’ ธีรรภัคคิดในใจ

“เอ่อ...ขนมของคุณ น่าจะเละแล้วล่ะครับ” ธีรรภัคเอ่ยขณะลอบมองอากัปกิริยาของสตรีตรงหน้าด้วยนัยน์ตาค้นหา

“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ นิซุ่มซ่ามเอง” อรณิมาเอ่ยอย่างตำหนิตัวเอง ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสคลอเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรนะครับ ผมชื่อธีรรภัคครับ แต่เรียกผมว่าภัค...ก็ได้ครับ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นแล้วสบสายตาของหญิงสาวที่ยังคงจับจ้องมองกล่องขนมเค้กที่คว่ำอยู่อย่างแสนเสียดาย

ดวงหน้าหวานของหญิงสาวเกล้ามวยผมตรงหน้าเขาอดขึ้นสีแดงเรื่อไม่ได้ อรณิมาสัมผัสได้ว่าเวลานี้ดวงตาของธีรรภัคเปล่งประกายระยิบระยับกว่าเดิม

“ค่ะ งั้นเรียกฉันว่านิ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” อรณิมากล่าวแล้วระบายรอยยิ้มหวานบนใบหน้าได้รูปสวย

“ถ้าอย่างนั้นนิคงไม่รบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยขณะก้มหยิบกล่องขนมเค้กขึ้นมาด้วยแววตาโศกเศร้า

อากัปกิริยาเบื้องหน้าของธีรรภัคอดทำให้เขารู้สึกผิดไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนหน้านี้สองชั่วโมงก่อนทำให้เขาอดทึ่งในตัวหญิงสาวผู้มาเยือนคนนี้ไม่ได้

‘...ทำไงดีว่ะไอ้ภัค เขาจะร้องไห้ไหม’ ธีรภัคอดขบคิดไม่ได้

“จะเป็นไรไหมครับ...ถ้าหากว่าผมจะเชิญคุณนิมาดื่มกาแฟที่บ้านผม” ชายหนุ่มเอ่ยแก้เก้อขณะยกแขนสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง

อรณิมาอดสะดุดในถ้อยคำของธีรรภัคไม่ได้ ดวงหน้าหวานแต้มรอยยิ้มอ่อนจาง หญิงสาวสบสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มอย่างยินดี

“ถ้าอย่างนั้นนิคงต้องรบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส

“ถ้าอย่างนั้นก็...เชิญครับ” ธีรรภัคเอ่ยแล้วผายมือเชื้อเชิญเธอให้เดินเข้าบ้านของเขา

ประตูรั้วหน้าบ้านลวดลายฉลุหงส์ปิดลงอย่างแผ่วเบา ธีรรภัคยกมือขึ้นลูบคางตนเองอย่างใช้ความคิด

‘นี่มันสวรรค์ชัดๆ’ ธีรรภัคคิดในใจ

ดวงตาของธีรรภัคลอบมองปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของอรณิมาที่สาวเท้าเข้าไปในบ้านของเขาแล้วอย่างราชสีห์หิวโซ

+++

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก แคว้นเว่ย

ลิขิตหงส์ฟ้าชะตารัก แคว้นเว่ย

白玉 ไป๋อวี้
3.9

หลี่เหมยลี่ นักธุรกิจสาวร่างท้วม เจ้าของฉายา ‘เจ้าแม่เงินล้าน!’ ได้หลุดเข้าไปเป็นตัวละครในนิยายที่เธอเพิ่งอ่านจบ และกลายเป็นหนึ่งในคนที่จะต้องถูกตัวร้ายอันดับหนึ่งอย่าง เว่ยเหวินจิ้ง ทรราชผู้ล่มแคว้น ส่งไปเป็นเมียน้อยพระเอก!! นางจึงต้องงัดทุกความสามารถ ใช้ทุกกลยุทธ์ที่มีเพื่อเอาตัวรอดจากการเป็นเครื่องมือในครั้งนี้… ‘โลกจริงมันช่างง่ายดาย… แต่การมีชีวิตรอดในโลกนิยายนี่สิ! มันช่างยากเย็นยิ่งนัก’ *นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจินตนาการและความชอบส่วนตัวของไรท์เท่านั้น มิได้อิงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นจริงหรือประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ* นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณ อีโรติค NC20+ นะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ