เจ้าบ่าว (ไม่) จำกัดรักซีรีส์ เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

เจ้าบ่าว (ไม่) จำกัดรักซีรีส์ เจ้าบ่าวขบวนสุดท้าย

สรีสามัญ

5.0
ความคิดเห็น
945
ชม
12
บท

รื่องราวชวนปวดหัวเมื่ออรณิมารับท้าพนันกับปาภัทรเพื่อให้ธีรรภัคหนุ่มหล่อหน้าตาดีมาตกหลุมรัก เรื่องจะอลวนอลเวงขนาดไหนมาอ่านกันเลย! +++ โปรยปราย “คืนนี้คุณจะเป็นของผม คุณต้องชดใช้ให้ผมได้ยินไหมอรณิมา” ท้ายประโยคธีรรภัคเอ่ยเสียงชัดถ้อยชัดคำจนหญิงสาวอดกลัวใจชายหนุ่มไม่ได้ อรณิมาจำต้องเก็บถ้อยคำที่อยากจะพร่ำด่าเขาออกมา เมื่อหญิงสาวเห็นเพียงแววตาที่สะท้อนกับหยาดน้ำตาคู่นั้น...แววตาพราวระยับมัวหมองจนมิเหลือเค้าของเพื่อนร่วมห้องเรียนคนก่อน ...นายภัค ประตูห้องถูกเปิดออกด้วยคีย์การ์ดใบเดียว เวลานี้อรณิมาถูกปิดตาอยู่ ธีรรภัคเหลียวมองใบหน้าหวานที่ถูกปิดตาอย่างกรุ่นโกรธ ยามนี้ชายหนุ่มพาดร่างของอรณิมาไว้กับบ่าของเขา นับแต่ที่เขารู้เรื่องการพนันของอรณิมา กับปาภัทร ความผิดหวังก็เข้ามาก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ผิดหวังที่เพื่อนทั้งสองรวมหัวกันหลอกเขา คนหนึ่งล้อเล่นกับความรู้สึกเพื่อน แต่อีกคนหนึ่งอยากเสนอให้เขาแทบขาดใจ ดวงใจของชายหนุ่มนั้นแหลกสลาย ธีรรภัคคนเดิมคนเป็นผู้ชายที่โง่งมมากที่ตกหลุมรักสตรีที่มีมารยาร้อยเล่มเกวียนอย่างอรณิมา “เลิกมารยาสักที อรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะอุ้มหญิงสาวชุดเดรสยาวหางปลาหรูหราลงกับเตียงอย่างรุนแรง “ภัคเปิดตาให้อรเถอะนะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน หญิงสาวคว้ามือเปะปะไปมาในอากาศ “…” ธีรรภัคไม่ตอบรับในทันที กระนั้นนัยน์ตาของชายหนุ่มกลับเหลือบเห็นชายผ้า “ไหนอรบอกว่าอยากใช้ร่างกายแลกกับความผิดที่อรก่อไว้ไง” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะตวาดหญิงสาวดังสนั่น อรณิมาไหล่สั่นเล็กน้อย หญิงสาวพยายามกระถดหนีเสียงอย่างเขา “ภัคจะปิดตาอรไว้แบบนี้แหละ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างชิงขังในมารยาร้อยเล่มเกวียนของหญิงสาว ‘ความแค้นวันนี้ต้องชำระวันนี้สิ’ ธีรรภัคคิดในใจ มือหนาถอดรองเท้าของตนเองออก ในเวลานี้ชายหนุ่มมีแต่ความแค้นเคืองต่อหญิงสาวถึงที่สุด “ภัคจะทำอะไร...อร” อรณิมาหวีดร้องสุดเสียงเมื่อได้ยินเสียงเสียงแควกดังขึ้นใกล้ตัวของหญิงสาว “จำคำพูดตัวเองแล้ว...จำวันนี้ไว้ให้ดี...ยัยเพิ้งอรณิมา” ธีรรภัคเอ่ยแล้วตวาดหญิงสาวเสียงดังสนั่นห้องนอนโรงแรมห้าดาว ดีลักซ์หรูหรา อรณิมารู้สึกหวาดกลัวถึงที่สุด เมื่อมือหนาของชายหนุ่มกระฉากชุดเดรส ของเธอออกมากองที่เรียวขาของเธอ +++

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

เวลา 07.00 น.

พุทธศักราช 2564

บ้านเดี่ยวย่านใจกลางเมืองหลวงขนาดหลายตารางวา

ตัวบ้านทาสีขาวสะอาดตา กระเบื้องลายสีฟ้าสะดุดตาถูกปูทับซ้อนกันเป็นมุมสูงตามแปลนบ้านแบบที่เจ้าของโครงการบ้านได้ให้สถาปนิกผู้ชำนาญได้ออกแบบหมู่บ้านนี้มาอย่างดี

แสงแดดยามเช้าอาบไล้ประตูรั้วบ้านลวดลายหงส์

ที่ออกแบบอย่างวิจิตร…ดูแล้วชวนประหลาดตายิ่งนัก

ถัดเข้าไปในบ้านหลังใหญ่พื้นหญ้าเขียวขจีทอดยาวไป

ตั้งแต่ประตูรั้วบ้านจรดหน้าบานประตูบ้านบานกระจก

กระจกหน้าบ้านเเบบบานสไลด์ถูกล็อคจากหน้าบ้านอย่าง

แน่นหนาเพื่อป้องกันโจรผู้ร้ายที่ชุกชุมในละแวกนั้น

แสงแดดยามเช้าสาดเล็ดลอดเข้าไปในห้องโถงขนาดกว้าง ร่างสูงโปร่งของธีรรภัคนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้

ชายหนุ่มบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยท่าสบาย ๆ มือเรียวหนาของเขาเอื้อมเสยผมขึ้น

แสงสะท้อนของรัศมีสุริยาสะท้อนให้เห็นใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวสีสำลียิ่งยามสะท้องแสงตะวัน ยิ่งขับให้ผิวนวลผ่องขึ้นกว่าเดิม

ชายหนุ่มสวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีฟ้าตัวเดียว ธีรรภัคเคยชินกับการอยู่บ้านคนเดียวตามประสาหนุ่มโสด ธีรรภัคไม่สวมเสื้อเขาเปลือยท่อนบนอย่างรู้สึกสบายตัว

ร่างสูงโปร่งเหลียวมองกระจก ภาพเบื้องหน้าของชายหนุ่มอดทำให้ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เวลานี้เขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดหน้าท้องเขา ใช่...เขามีซิกแพ็ก

ปีนี้ธีรรภัคอายุอานามก็ปาเข้าไป 36 พอดี กระนั้นยิ่งเขาอายุเยอะเท่าไหร่เขากลับต้องดูแลรักษาร่างกายตนเองมากยิ่งขึ้นจนคนแถวบ้านมักคิดว่าเขามีอายุ 29 ปี กระนั้นธีรรภัคก็หาได้สนใจอะไรไม่

เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น ธีรรภัคเอื้อมมือเรียวขึ้นหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาสไลด์แล้วรับสาย

“ฮัลโหล” เสียงนุ่มกรอกลงไปตามสาย ดวงหน้าคมคายแต้มรอยยิ้มอ่อนขับให้ดวงหน้าของชายหนุ่มหวานกว่าเดิม

ธีรรภัคกรอกเสียงลงไปแล้วเอาหูแนบกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด

ขายาวสองข้างพาชายหนุ่มมาหยุดที่ห้องครัว สายตาคู่คมกวาดหาเครื่องบดกาแฟที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่หมาด ๆ

เครื่องบดกาแฟแบบเซรามิกตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ มือหนาเอื้อมหยิบถุงเมล็ดกาแฟขึ้นมาเธอใส่เครื่องบดลงไป

ไม่นานเกินรอ กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็โชยเข้าจมูกของชายหนุ่ม ธีรรภัคเดินไปยังเคาน์เตอร์ชงกาแฟทันที

“ไงเพื่อน” ชายหนุ่มเอ่ยกรอกเสียงลงไปตามสาย

มือเรียวบางยกแก้วกาแฟขึ้น กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นทำให้เขาอารมณ์ดีได้ไม่ยาก

แก้วกาแฟสีขาวถูกวางไว้บนจานรองขนมขนาดเล็กลายกนกสีน้ำเงินสวย ธีรรภัคแนบหูโทรศัพท์ข้างหนึ่งแล้วถือจานรองแก้วกาแฟมาด้วย

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ...คุณเพื่อน” ปลายสายตอบกลับมา

“ขอบใจเว้ย” ธีรรภัคตอบกลับ ดวงหน้าคมคายของชายหนุ่มแต้มรอยยิ้มระบายเล็กน้อย

“เห้ย...เดือนหน้าข้าจะแต่งงานแล้วนะเว้ย” ปลายสายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“บ๊ะ...น้องคนไหนของแกว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นพลางตบเข่าฉาดใหญ่อย่างกระเซ้า

“เจ้าสาวข้าอย่างเด็ด” ปาภัทรเพื่อนสนิทหนุ่มกล่าว

“วู้ว...ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็น คุณปาภัทร คนอย่างเอ็งชมผู้หญิงคนไหนมาก่อน ข้าธีรรภัคคนนี้ชักอยากจะเห็นใบหน้าแม่คนงามของเอ็งแล้วละซิ” ธีรรภัคเอ่ยแกมเย้า

ดวงหน้าคมคายคลี่ยิ้มเล็กน้อย มือเรียวของเขาเอื้อมหยิบแก้วกาแฟแล้วซดกาแฟร้อนดังโฮกใหญ่

“เอ้อ...แล้วคาสโนว่าตัวพ่ออย่างเอ็งเมื่อไหร่จะสละตำแหน่งว่ะ” ปลายสายเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

เพียงได้ยินถ้อยคำของเพื่อนสนิทหนุ่มอย่างปาภัทร ธีรรภัคถึงกับสำลักจนกาแฟร้อนหอมกรุ่น

“แค่ก ๆ ...ไม่มีทางเว้ย...รอน้ำท่วมหลังเป็ดสะก่อนว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบเพื่อนสนิทหนุ่มพลางสำลักกาแฟโฮกใหญ่

“เอ็งหมายถึง...ยัยเพิ้งนั่นน่ะเหรอ...โหยไม่ได้ครึ่งของน้องตาลข้าหรอกเว้ย” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นขณะนำกระดาษชำระเช็ดคราบกาแฟที่เลอะบนโต๊ะกลมทรงหรูหรา

“อ้อน้องลูกตาลนมหวานน่ะเหรอ” ปลายสายเอ่ยแกมเยาะเพื่อนสนิทหนุ่ม

ธีรรภัคอดขำพรืดออกมาไม่ได้จนกาแฟร้อนแทบจะลวกลิ้นตาย ทว่าเสียงออดดังขึ้นหน้าบ้านหนึ่งครั้ง

‘ปิ๊งป่อง’

“เดี๋ยวข้ามาน่ะเว้ย...แค่นี้ก่อนพอดีน้องลูกตาลนมหวานมาว่ะ” ธีรรภัคเอ่ยตอบอย่างยียวน แล้ววางสายเพื่อนสนิทคนสุดท้ายที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าบ่าวหมาด ๆ ไป

“งานแต่งที่ใดเป็นได้แค่แขกรับเชิญ” ธีรรภัคอดรำพึงกับตนเองไม่ได้

บ้านสีขาวสะอาดตาหลังใหญ่โต สไตล์ตะวันตกตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของอรณิมา

ดวงหวานแต้มรอยยิ้มอย่างยินดี เธอพยายามคลี่ยิ้มหวานให้มากที่สุด แม้ว่าเวลานี้อรณิมาจะเริ่มไม่สบอารมณ์มากถึงที่สุดแล้วก็ตาม

ในมือทั้งสองข้างของสตรีผู้มาเยือนหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่หอบกล่องขนมเค้กชิ้นใหญ่มาฝากเพื่อนบ้านใหม่

อรณิมาเพิ่งจะย้ายบ้านมาใหม่หมาด ๆ คุณย่าของเธอสอนเสมอว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งดี มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การขาดมิตรภาพก็เสมือนต้นหญ้าขาดน้ำ ฉะนั้นวันนี้หญิงสาวจึงตั้งใจอบขนมมาฝากเพื่อนบ้านในหมู่บ้านทุกคน

คฤหาสน์ทรงสูงสไตล์ตะวันตกนี้ อรณิมาเพิ่งจะเคยเห็นแบบจริงจังเป็นครั้งแรก

ด้วยรูปทรงที่ประหลาดอดทำให้หญิงสาวรู้สึกสะดุดในใจไม่ได้

“นี่น่าจะหลังสุดท้ายแล้ว” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานหากแต่อ่อนจาง

...นี่นะหรือบ้านของเขาที่ปาภัทรเอ่ยถึง

ไม่รู้ว่าเป็นเวลานานเท่าใดที่อรณิมาถือกล่องขนมเค้กสองปอนด์รออยู่อย่างนั้น...นานจนหญิงสาวอดรู้สึกแปลกใจในตัวของเพื่อนบ้านหนุ่มไม่ได้

เวลานี้อรณิมาสวมชุดเดรสสีโอรส ผ้าชีฟองเนื้อดีปลิวเอื่อย ๆ ไปตามแรงวาโย กระโปรงของอรณิมาเป็นชุดเดรสสั้นกระนั้นเมื่อถูกแรงลมพัดทำใหอาภรณ์ท่อนล่างปลิวได้ไม่ยาก

“ทำไมนานอย่างนี้นะ” อรณิมาอดบ่นกระปอดกระแปดไม่ได้

คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ดวงหน้าหวานที่ประทินโฉมมาอย่างดีเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาจากไรผม

ดีหน่อยที่ลมโชยทว่าความคิดของอรณิมาต้องหยุดลง เมื่อหญิงสาวแหงนใบหน้ามองท้องฟ้า

ภาพเบื้องหน้าของอรณิมาเป็นมวลหมู่ก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่ลอยผ่านไป บรรยากาศรอบด้านดูอึมครึมราวกับว่าวันนี้ฟ้าดินไม่เป็นใจเอาซะเลย

ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะหยุดคิด รองเท้าส้นสูงของอรณิมาก็พาร่างอรชรไถลไปตามทางเสียก่อน

“ว้าย” อรณิมาเอ่ยหวีดร้องเสียงดังลั่นหน้าบ้านของชายหนุ่ม ขณะที่หญิงสาวจวนเจียนจะเซล้มลง

“ระวังคุณ!” ธีรรภัคเอ่ยร้องขึ้น แล้วพุ่งตัวเข้าไปชวยหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย

ร่างสูงโปร่งก้าวผิดจังหวะทำให้ร่างของเขาเซถลาล้มลงไปพร้อมกับสตรีตรงหน้า

เวลานี้ธีรรภัคล้มทับบนเรือนกายอรณิมา ชายหนุ่มเบิกตากว้างแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ สายตาเจ้ากรรมของชายหนุ่มหันไปปะทะกับทรวงอกของอรณิมา

“ว้าย…นายโรคจิต” อรณิมาหวีดร้องขึ้น ขณะหญิงสาวพยายามลุกขึ้นให้พ้นจากรัศมีของชายหนุ่ม

ดวงหน้าหวานของอรณิมาอยู่ใกล้บุรุษหนุ่มผู้มีใบหน้าคมรคาย หากแต่อ่อนเยาว์ราวชายหนุ่มแรกรุ่น

“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก ชายหนุ่มวางตัวไม่ถูกนัก ขณะเดียวกันมือไม้ของเขาก็สาละวนไปหมด

“ฉัน...ไม่เป็นไรค่ะ” เพียงคำแรกที่หญิงสาวเอ่ยออกมาทำให้ ธีรรภัคอดชะงักในน้ำเสียงไม่ได้

‘เราเคยได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ที่ไหนนะ’ ธีรรภัคอดคิดในใจไม่ได้

น้ำเสียงของผู้มาเยือนตรงหน้าคุ้นหูเขามาก กระนั้นความรู้สึกปวดหัวอ่อนจางก็เข้าครอบงำชายหนุ่ม

ธีรรภัคยกมือกุมขมับเล็กน้อย สงสัยการเข้านอนดึกเมื่อวานและเรื่องที่ออฟฟิศคงทำให้เขาเวียนศีรษะ

“คุณเป็นอะไรไหมคะ” อรณิมาเอ่ยถามขึ้นขณะลอบสังเกตอากัปกิริยาของชายหนุ่มที่กุมขมับด้วยแววตาสงสัย

“ไม่...ผมไม่เป็นไร” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ชายหนุ่มตรงหน้าของเธอจัดว่ามีใบหน้าอ่อนเยาว์และค่อนข้างรูปงามราวเทพบุตรลงมาจุติก็ไม่ปาน กระนั้นอรณิมากลับเห็นแววตาหยิ่งยโสในท่วงที

“คุณเป็นใคร” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ นัยน์ตาเรียวรีหลี่ลงเพื่อประเมินสถานการณ์ตรงหน้า

“ฉันชื่ออรณิมาค่ะ พอดีฉันเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ค่ะ...ฉันเลยเอาขนมมาฝากเพื่อนบ้านค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” อรณิมาเอ่ยขึ้น

“โอ...ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มอุทานขึ้น ท้ายประโยคธีรรภัคพยายามปรับน้ำเสียงให้สุภาพกว่าเดิม

“ว้าย...กล่องขนมฉัน” อรณิมาเอ่ยด้วยเสียงหวานแหลม ขณะดวงตากลมโตของหญิงสาวกวาดมองกล่องขนมที่ร่วงอยู่ปลายขาเรียวยาวของชายหนุ่ม

‘อ๋อ…ยัยนี่เอาขนมมาให้’ ธีรรภัคคิดในใจ

“เอ่อ...ขนมของคุณ น่าจะเละแล้วล่ะครับ” ธีรรภัคเอ่ยขณะลอบมองอากัปกิริยาของสตรีตรงหน้าด้วยนัยน์ตาค้นหา

“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ นิซุ่มซ่ามเอง” อรณิมาเอ่ยอย่างตำหนิตัวเอง ดวงตากลมโตมีหยาดน้ำใสคลอเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรนะครับ ผมชื่อธีรรภัคครับ แต่เรียกผมว่าภัค...ก็ได้ครับ” ธีรรภัคเอ่ยขึ้นแล้วสบสายตาของหญิงสาวที่ยังคงจับจ้องมองกล่องขนมเค้กที่คว่ำอยู่อย่างแสนเสียดาย

ดวงหน้าหวานของหญิงสาวเกล้ามวยผมตรงหน้าเขาอดขึ้นสีแดงเรื่อไม่ได้ อรณิมาสัมผัสได้ว่าเวลานี้ดวงตาของธีรรภัคเปล่งประกายระยิบระยับกว่าเดิม

“ค่ะ งั้นเรียกฉันว่านิ เฉย ๆ ก็ได้ค่ะ” อรณิมากล่าวแล้วระบายรอยยิ้มหวานบนใบหน้าได้รูปสวย

“ถ้าอย่างนั้นนิคงไม่รบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยขณะก้มหยิบกล่องขนมเค้กขึ้นมาด้วยแววตาโศกเศร้า

อากัปกิริยาเบื้องหน้าของธีรรภัคอดทำให้เขารู้สึกผิดไม่ได้ เพราะเมื่อก่อนหน้านี้สองชั่วโมงก่อนทำให้เขาอดทึ่งในตัวหญิงสาวผู้มาเยือนคนนี้ไม่ได้

‘...ทำไงดีว่ะไอ้ภัค เขาจะร้องไห้ไหม’ ธีรภัคอดขบคิดไม่ได้

“จะเป็นไรไหมครับ...ถ้าหากว่าผมจะเชิญคุณนิมาดื่มกาแฟที่บ้านผม” ชายหนุ่มเอ่ยแก้เก้อขณะยกแขนสอดไว้ในกระเป๋ากางเกง

อรณิมาอดสะดุดในถ้อยคำของธีรรภัคไม่ได้ ดวงหน้าหวานแต้มรอยยิ้มอ่อนจาง หญิงสาวสบสายตาของชายหนุ่มตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มอย่างยินดี

“ถ้าอย่างนั้นนิคงต้องรบกวนคุณภัคแล้วล่ะค่ะ” อรณิมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส

“ถ้าอย่างนั้นก็...เชิญครับ” ธีรรภัคเอ่ยแล้วผายมือเชื้อเชิญเธอให้เดินเข้าบ้านของเขา

ประตูรั้วหน้าบ้านลวดลายฉลุหงส์ปิดลงอย่างแผ่วเบา ธีรรภัคยกมือขึ้นลูบคางตนเองอย่างใช้ความคิด

‘นี่มันสวรรค์ชัดๆ’ ธีรรภัคคิดในใจ

ดวงตาของธีรรภัคลอบมองปลายเท้าเรียวขาวสะอาดของอรณิมาที่สาวเท้าเข้าไปในบ้านของเขาแล้วอย่างราชสีห์หิวโซ

+++

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ความจำเสื่อม ชีวิตใหม่

ความจำเสื่อม ชีวิตใหม่

Psithurist
5.0

หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

Gavin
5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ