Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หัวใจกรุ่นไอรัก

หัวใจกรุ่นไอรัก

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
453.1K
ชม
93
บท

อันนากำลังจะเดินตามรอยของแม่อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แม่ของเธอหนีจากพ่อไป แล้วค่อยตั้งท้องไม่ใช่หรือ แต่ตัวเธอน่ะ ท้องแล้วค่อยหนีต่างหาก ท้องกับใครไม่ท้อง ดันท้องกับคนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างนายแพทย์อาร์เธอร์นี่ยังไงเล่า เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวก็ได้โดนของแข็งนี่หรอก” อันนาเอ่ยถามทั้งที่ตัวเองยังพาดอยู่บนตัวของเขา “ของอะไรล่ะที่ว่าแข็งน่ะ” อาร์เธอร์มองสบตาคนที่เอ่ยวาจาท้าทายเขา ขยับขาตั้งชันขึ้นให้ได้มุม แล้วดันส่วนที่เป็นของแข็งของตัวเขาเองบดเบียดที่ท้องน้อยของคนอยากลองดีเน้น ๆ หนัก ๆ อันนาสะท้านเบา ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงของแข็งที่เขาบอก ตอนนั้นเองที่เกิดความคิดซุกซนอยากเอาชนะผุดขึ้นในหัว เธออยากจะผลักเขานอนลงนิ่ง ๆ แล้วเปิดดูให้รู้ไปเลยว่าอะไรที่มันแข็งได้ขนาดนั้น แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยาก ก็จำต้องร้องเรียกเขาด้วยเสียงที่สั่นน้อย ๆ เพราะแรงบดเบียดจากเขาจริงจังมากขึ้น “อาร์ธ” อาร์เธอร์ไม่ตอบรับเธอด้วยคำพูดสักคำ แต่ดวงตาสีฟ้าของเขาดูเข้มแสงวาววับมากยิ่งขึ้น และเธอก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น อันนาถูกมือของเขาวาดขึ้นตรงท้ายทอยอย่างแม่นยำ พร้อมกับดึงลงไปหา แล้วปากของเธอก็ถูกปากของอาร์เธอร์ทาบทับปิดลงอย่างพอดิบพอดี “อี๊” เธอขืนตัวหนี พร้อมกับร้องโวย ยกกำปั้นทุบลงที่อกแข็ง ๆ ของอาร์เธอร์ แต่แล้วกลับถูกเขาบดจูบหนักกว่าเดิม ลึกซึ้งกว่าเดิมเสียอีก เป็นจูบที่ไม่ให้เธอได้ตั้งตัวเอาเสียเลย

บทที่ 1 1

ร่างหนัก ๆ ที่กำลังขยับสะโพกของเขาแทรกสอดเข้ามาในตัวเธอนี่มันอะไร ก็ไหนว่าไม่ค่อยได้พัก เข้าเคสผ่าตัดทีละสิบชั่วโมงจนแทบไม่มีเวลาจะได้นอนด้วยซ้ำไป แล้วนายแพทย์อาร์เธอร์เอาเรี่ยวแรงจากที่ไหนมาขย่มใส่ได้ขนาดนี้กัน

ก่อนจะทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นก็ดันถูกปลุกปั่นอารมณ์ด้วยปากและมือของอีกฝ่ายจนอารมณ์แปลกประหลาดไม่รู้ที่มาที่ไปแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ อันนาดิ้นพล่าน กายสาวกระตุกถี่เป็นจังหวะซ้ำ ๆ พร้อมส่งเสียงหวีดร้องดังลั่นห้อง

“อาร์ธ!”

เธอเรียกชื่ออีกฝ่ายพร้อมกับที่เจ้าของร่างใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าหาไม่ยั้งก่อนที่ทุกอย่างในหัวจะพร่าเลือนไปจนหมดสิ้น

เนื้อกายร้อนผ่าวชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ

อันนาลืมตามองเพดานนิ่ง ๆ ก่อนจะตะแคงตัวหลบแขนหนัก ๆ ที่วางพาดลงบนลำตัวของเธอ ปัดแขนล่ำบึ้กนั่นออก พร้อมกับนอนพักจนจังหวะการหายใจเป็นปกติดีแล้วก็ค่อยหันกลับมาที่ร่างของคนที่คร่อมทับเธออยู่เมื่อครู่นี้

เห็นว่าเจ้าของร่างกายใหญ่โตนอนคว่ำหน้าสลบไปแล้วก็ค่อยหย่อนขาลงขยับออกจากเตียงในห้องชุดของอีกฝ่ายไป

ไม่น่าหวังดีกับไอ้หมอหื่นนี่เลย เธอนั่งดื่มอยู่ที่คลับกับอมยิ้มอยู่ดี ๆ ตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่าอาร์เธอร์เข้ามาในร้านที่อีกฟาก แล้วนั่งดื่มกับพรรคพวกของเขา แป๊บเดียวเท่านั้นหันไปมองอีกที หมอบ้านี่ก็ฟุบหน้าลงกับโซฟา ร่วงเป็นมะม่วงเลย

พอเห็นอย่างนั้นเธอก็นิ่งเฉยไม่อยากจะสนใจ

แต่แล้วคำพูดของแม่ที่พร่ำบอกมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เข้ามารบกวนหัวใจของเธอตลอด ว่าให้ช่วยดูแลกันให้ดีเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน เลยทนทำเฉยต่อไปไม่ไหว ถึงได้ชวนอมยิ้มให้เข้าไปลากตัวนายแพทย์อาร์เธอร์กลับห้องพัก

แต่แล้วเธอกลับถูกอาร์เธอร์ลากขึ้นเตียงเสียเอง

เธอทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งต่อย ทั้งตะโกนเรียก แต่เหมือนว่าเขาจะเมาอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เหล้า ดูไม่ค่อยจะมีสติเท่าไรนัก เดินหน้าปล้ำเธอจนสำเร็จ

การเสียสาวครั้งแรกทั้งทีให้เป็นคนที่ต่างคนต่างรักกันก็ไม่ได้ ทำไมจะต้องมาเป็นไอ้หมอบ้าอาร์เธอร์ คนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กแบบนี้ด้วย

ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ

เธอจึงยกขายันร่างหนาหนักให้พ้นไปจากตัวแต่ก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ เพราะรู้สึกเจ็บตรงส่วนนั้นของตัวเอง

“อาร์ธ ทำอะไรวะเนี่ย รู้ตัวไหม”

เธอได้แต่สบถเบา ๆ แล้วยื่นมือจะปลุกอีกฝ่ายที่พอได้ปลดเปลื้องใส่ตัวเองแล้วก็นอนฟุบหน้าสลบเหมือดไปแบบนั้น ก่อนจะชะงักดึงมือกลับ เมื่อนึกขึ้นได้ถึงตอนเด็ก ๆ อาร์เธอร์ชอบแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เรื่อย เวลาทำอะไรให้คนอื่นหรือแม้แต่ตัวเธอเองไม่พอใจ

แล้วถ้าอาร์เธอร์รู้ว่าเมื่อคืนทำอะไรกับเธอ ชีวิตวัยสาวจะต้องจบสิ้นลงที่การรับผิดชอบแบบสุภาพบุรุษขั้นสุดของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

ฮึ่ย!

อันนาได้แต่ทึ้งหัวหูตัวเอง จะบอกว่าเสียใจก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิง พอกลับขึ้นมาบนรถแล้วค่อยฉุกคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้ไอ้หมอบ้ากามนั่นมันได้สวมถุงยางอนามัยหรือเปล่า

แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง ก็คนมันไม่เคยนี่นา

แต่สภาพแบบนั้นคงไม่ได้สวมแน่นอน

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปมั่วที่ไหนมาบ้าง

แล้วจะท้องไหมนะ

เอาล่ะ อย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองก่อนดีกว่า

คิดได้อย่างนั้นแล้วรีบสตาร์ตเครื่องยนต์ เหยียบคันเร่งขับตรงไปจอดลงที่หน้าร้านขายยา ร้านนี้รู้จักกับแม่ด้วย เอาไงดีนะ พรางตัวดีกว่า แล้วก็หยิบแว่นกันแดดอันใหญ่เกินครึ่งหน้าที่ซุกอยู่ในช่องเก็บของขึ้นมาสวม พร้อมกับปล่อยผมกระเซิงปิดทับอีกทีลงไปซื้อยาที่ร้านขายยาตรงทางผ่านจะเข้าบ้าน

เมื่อกลับขึ้นรถมาแล้วก็ให้รู้สึกขัด ๆ ที่ตรงส่วนบอบบางกลางลำตัวอยู่ไม่น้อย

เสียงสบถเบา ๆ เล็ดลอดออกจากปากอีกคำ

ไม่รู้ว่าจะหื่นได้ขนาดนั้น นี่ขนาดว่าไม่รู้สติยังทรงพลังอย่างกับม้าคึก ถ้าสติดีครบถ้วน ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน

น่าสงสารแฟนสาวของอีกฝ่ายจริง ๆ เลย คงจะคึกหนักแบบนี้ทุกครั้งที่นอนด้วยกันแน่ ๆ คิดมาถึงตรงนี้ก็ฟาดมือกับพวงมาลัยรถด้วยอาการเจ็บใจลึก ๆ จากนั้นขับรถตรงกลับเข้าบ้านในทันที

หมอหื่นทรงพลังที่ถูกต่อว่าจากปากหญิงสาวตั้งแต่ลานจอดรถของห้องชุดริมแม่น้ำเพิ่งจะรู้สึกตัวตื่นนี่เอง นายแพทย์อาร์เธอร์ครางในลำคอก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัว

เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้แวะคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นหมอประจำแผนกเดียวกันที่คลับหรอกหรือ และถ้าจำไม่ผิดเมื่อคืนเขาไม่ได้สั่งเหล้ามาดื่มด้วยนี่นา แล้วทำไมอาการของเขาตอนนี้มันถึงมึน ๆ งง ๆ ได้ขนาดนี้ เหมือนกับเมามาทั้งคืน

คิดมาถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วมุ่น นึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

แสดงว่าเครื่องดื่มแก้วนั้นคงไม่ใช่แค่น้ำเปล่าอย่างเดียว จะต้องผสมอะไรแปลก ๆ ลงไปในนั้นอย่างแน่นอน

เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปที่นั่น แต่พอโดนตามถี่เข้า ทางนั้นบอกให้ออกไปนั่งถกเรื่องงานวิจัยที่ทำร่วมกัน เลยแวะเสียหน่อยเพราะเป็นทางกลับห้องพักพอดี แต่พอคุยไปคุยมาหัวข้อก็เปลี่ยนไปยังเรื่องอื่นแทน

ชายหนุ่มสะบัดหัวแล้วสายตาก็มองเห็นสภาพที่นอนกับสภาพของตัวเขาเองได้ชัดเจนมากขึ้น

สายตามองเห็นชิ้นส่วนของอะไรสักอย่างบนเตียงนอน หยิบขึ้นดูแล้วก็ให้รู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย เคยเห็นที่ไหนนะของแบบนี้ แต่พอยิ่งนึกก็ยิ่งปวดหัว นึกไม่ออก

แล้วเมื่อคืนเขาหลับนอนกับใครกัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก

ความทรงจำสีจางกับศาสตราจารย์ที่รัก

ปีศาจชอนซา
5.0

ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ