Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
5
ชม
3
บท

วันดีคืนดีก็มีมาเฟียมาจอดหน้าบ้าน บอกว่าอยากได้ที่ของผืนสุดท้ายของเธอ มาเฟีย เจ้าของรีสอร์ท ฟาร์มควาย ม้า วัวที่อยู่ตรงรอยต่อของไทยมาเจรจาด้วยตัวเอง ทันทีที่เจอกัน ศศิร์ธาไม่ได้แค่อยากได้ที่ของเธอ ตัวเธอเองเขาก็อยากได้ด้วย เสียแต่ว่าเป็นม่ายลูกติด ไอ้ระยำนั่นมันเอาอะไรคิดถึงได้ถึงผู้หญิงแบบนั้นไป

บทที่ 1 1

“ติดต่อไปสิบสามครั้งแล้วครับ แต่...เอ่อ..แต่...แต่ทางนั้นไม่ยอมเจรจาด้วยเลยครับ อะ เอา ตะ แต่ไล่ออกมา”

เสียงรายงานของ ‘คมเดช’ ทนายความส่วนตัวของศศิร์ธาทำให้คิ้วเข้มที่พาดเฉียงกระตุกขึ้นเล็กน้อย ทนายความคนสนิทของเขาทำไมถึงได้มีความไม่มั่นใจในน้ำเสียงแบบนี้ ทั้งยังมีอาการหวาดระแวงขณะรายงานเรื่องการติดต่อซื้อขายที่แปลงเล็ก ๆ แปลงหนึ่งให้เขาได้รับรู้ข้อมูล

ชายหนุ่มเจ้าของวงหน้ากึ่งไทยกึ่งเสี้ยวยุโรปนิ่งไปพักเดียว

เขาอยู่ในท่าก้มหน้าเล็กน้อยเพื่ออ่านรายงานในแฟ้มลับ สายตาคมเข้มสีดำมองจับอยู่ที่เอกสารแบบนั้นเกือบนาที แต่ไม่ได้อ่านเนื้อหาที่ในหน้านั้นเลย เพราะต้องแบ่งสมองไปคิดเรื่องที่กำลังได้ยินเมื่อครู่นี้

ศศิร์ธาหมุนหน้าเพียงเล็กน้อยเพื่อหันไปมองทางทนายความส่วนตัว แล้วจึงเอ่ยถามกลับไป “ทำไมถึงไม่ยอม”

คมเดชยังคงมีหน้าไม่สู้ดี เมื่อต้องรายงานเรื่องเมื่อกี้นี้อีกครั้ง ทั้งเจ้านาย ทั้งเจ้าของที่ต่างกดดันเขาพอกันทั้งคู่ น่ากลัวชะมัด

“พอผมบอกว่ามาติดต่อขอซื้อที่เท่านั้นแหละครับคุณศิธ เจ้าของที่ก็สั่งให้คนถือไม้มาไล่ตีผม ตะโกนด่าบอกแต่ว่าไม่ขาย ไม่คุยอะไรด้วยทั้งนั้น แล้วยัง...ยังจะ...” นึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นแล้วคมเดชก็เอาแต่อึกอัก ทำท่าจะอาเจียน รายงานต่อไปไม่ไหว

ศศิร์ธาขมวดคิ้วคมเข้มเข้าหากันจนเป็นร่องเล็ก ๆ ร่องรอยประสบการณ์ชีวิตผุดขึ้นตรงหัวคิ้วจาง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ร่องรอยพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผู้ชายวัยเฉียดสี่สิบปีคนนี้ดูแก่ลงเลย กลับเสริมเสน่ห์ให้เขาดูดีมากกว่าพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันเสียด้วยซ้ำไป

“คุณคมเดชถามเจ้าของที่ไปตรง ๆ แบบนั้นเลยหรือ”

ศศิร์ธาถามกลับ ชายหนุ่มเจ้าของชื่อศศิร์ธาสุภาพแบบนี้เสมอกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนงานในฟาร์ม คนรับใช้ในบ้าน หรือแม้แต่สวน รวมถึงคนสนิทหรือคนขับรถของเขาก็ด้วย

แต่ที่ทำให้ศศิร์ธาดูน่าเกรงขาม ก็ตรงน้ำเสียงสุภาพ ๆ นี่เอง เมื่อมันได้บวกรวมกับแววตาที่เขาใช้มองขณะสนทนาด้วยแล้ว ยิ่งทำให้คู่สนทนาหวาดเกรง และมันทำให้ศศิร์ธาต่างจากเจ้านายคนอื่น ๆ ในตระกูลนี้อย่างชนิดที่เรียกได้ว่าไม่ทิ้งฝุ่น

“ก็ เอ่อ ก็…ใช่ครับคุณศิธ”

อะไรกันที่ทำให้ทนายความมือหนึ่งของเขาถึงกับเสียอาการได้ขนาดนี้ ทนายของเขาเอาแต่อึก ๆ อัก ๆ ไร้ความเป็นมืออาชีพไปเลย

ศศิร์ธาพยักหน้าทำนองว่ารับรู้แล้ว สายตาดำเข้มคมลึกมองออกไปยังวิวนอกตัวรถด้วยท่าทางคล้ายครุ่นคิด เขาผ่านสงครามธุรกิจมาหลาย ตั้งแต่กลับจากศึกษาต่อที่ต่างประเทศ เลยพอรู้จักหลากหลายสารพัดทริกที่ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกขึ้นมาใช้ เขาเจอมาแทบจะทั้งนั้น ล้วนแล้วแต่ใช้วิธีการคล้ายคลึงกันทั้งหมด

ศศิร์ธารู้ข้อมูลมาว่าเจ้าของที่พักอยู่ตรงที่ดินแปลงนั้น พวกเขาปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงผลไม้ท้องถิ่น อยู่กินแบบพอเพียงตามค่านิยมที่ผู้คนบางกลุ่มใช้กันมานาน หรือบางกลุ่มก็เพิ่งจะเริ่มนำมาใช้ดำเนินชีวิตกัน แต่นั่นไม่ใช่ค่านิยมสำหรับศศิร์ธา

มุมปากของศศิร์ธาขยับขึ้นเป็นรูปโค้งขึ้นเพียงนิดเดียว พร้อมกับความคิดในหัวที่ว่า หากเงินไม่มากพอจะซื้อขาย และเจ้าของที่ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน มักไม่ยินยอมเจรจา นั่นต่างหากปัญหาที่แท้จริง

ศศิร์ธาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เขานั่งเงียบเพื่อพิจารณาเรื่องงาน จนเห็นว่ารถเลี้ยวเข้าไปในถนนเส้นเล็กที่ไม่ได้ลาดด้วยยางมะตอยหรือคอนกรีตแบบที่คุ้นเคย แต่เป็นดินลูกรังตลอดเส้นทาง ก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอีกเล็กน้อย ๆ ปล่อยลำตัวให้เอนไปตามแรงกระแทกซ้ายบ้างขวาบ้างจนถึงจุดหมาย

เมื่อรถจอดลงแล้ว ศศิร์ธามองตรงไปยังเบื้องหน้าที่เป็นผืนดินแปลงที่เขาต้องการนำมาขยายไปพร้อมกับแปลงข้าง ๆ ที่กว้านซื้อไว้แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน

นี่สินะคู่ค้าที่เขาต้องลงมาเจรจาด้วยตัวเอง

ศศิร์ธาเห็นบ้านไม้กึ่งปูนหลังไม่ได้ใหญ่นัก ปลูกสร้างบนพื้นที่รวมแล้วไม่เกินยี่สิบไร่ ภายในนั้นมีสวนผลไม้หลากหลายชนิดแบบที่เก็บกินได้ทั้งปีตามฤดูกาล ลักษณะคล้ายปลูกกินเองในครัวเรือนมากกว่าจะเป็นในเชิงพาณิชย์

ศศิร์ธาเก็บรวบรวมข้อมูลตามที่ตาเห็น เพื่อใช้ต่อรองกับเจ้าของที่ดิน

เขาแตะที่เปิดประตูเตรียมผลักออกไป แล้วยกขาแข็งแรงทั้งสองข้างย้ายลงไปวางบนพื้นดินพร้อมกับยืดตัวตรงเต็มความสูงเมตรแปดสิบเซนต์ ชายหนุ่มมองสำรวจรอบบริเวณอีกทอดหนึ่งแล้วถึงออกเดินเข้าไปยังพื้นที่ด้านใน ไม่มีใครสักคน

เขาเดินลึกเข้าไปอีกตรงหลังบ้าน แว่วเสียงคุยกันที่ตรงด้านหลังของบ้านนั่นเอง สายตาคมเข้มกวาดตามองไปรอบ ๆ แล้วค่อยเดินตรงไปตามเสียงที่ได้ยิน

“เขามาหลายรอบแล้วจ้ะ ครั้งล่าสุดเอาไม้ฟาดเข้าให้ แล้วก็จับอีตาแว่นไว้ได้ ขู่ว่าจะเอาขี้หมายัดปาก เลยหน้าซีดวิ่งกลับไปขึ้นรถแทบไม่ทัน”

ศศิร์ธาฟังนิ่ง ๆ นี่เองที่ทำให้คมเดชหน้าซีดเซียว ทำท่าจะอาเจียนตอนรายงานความคืบหน้าให้เขาฟัง เมื่อตอนอยู่บนรถ คนพวกนี้ไร้อารยะถึงกับจะเอาอุจจาระสุนัขยัดปากทนายความของเขาเลยหรือ ศศิร์ธาส่ายหน้าด้วยอาการเอือมระอา

“นี่ถ้ามันมาอีก บอกตาเลยดีไหม ถ้าตารู้นะ จะต้องเข้าไปเอาปืนมายิงหัวพวกนั้นแน่นอนเลย” เสียงที่ฟังดูมีอายุบอกสำทับอย่างกระแทกกระทั้นใส่อารมณ์ คงนึกโกรธนั่นเอง

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง”

“แล้วพวกนั้นบอกไหมว่าจะซื้อไปทำอะไร”

“ไม่ได้บอกหรอกแม่” เสียงหวานใสเรียบเอื่อยเสียงนั้นทำให้ศศิร์ธาต้องหยุดฟัง หัวใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงนั้น ศศิร์ธาขยับตัวเข้าไปใกล้อีกนิด พยายามมองเข้าไปตรงสวนแต่ไม่เห็นเจ้าของเสียงนั่นที่กระตุกหัวใจของเขา

“บอกแต่ว่าเป็นตัวแทนจากเจ้าของที่ข้าง ๆ เรานี่แหละ นี่เขาได้ที่ไปตั้งเยอะแล้ว ซื้อที่ยายหนั่นไปนั่นก็ตั้งเป็นหลายร้อยไร่ ไม่รู้ว่าจะมาอยากซื้อที่ของเราทำอะไรอีก”

“ใช่พวกธุรกิจสีเทา ๆ ดำ ๆ อะไรนั่นที่ออกข่าวหรือเปล่า”

“น่าจะใช่มั้งแม่”

“หน้าด้าน! ที่ของตัวเองกว้างออกขนาดนั้นยังจะอยากได้ที่ของคนอื่น”

“นั่นสิ แล้วแบบนี้ถ้าเจ้าของตัวจริงเข้ามาคุยเอง พวกเราจะเอายังไงกันดี”

“ก็ไม่เอาไงหรอก บอกเหมือนเดิมไปนั่นแหละว่าไม่ขาย” เสียงเรียบเอื่อยเสียงนั้นบอกขึ้นอย่างนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความมั่นคงอยู่ในน้ำเสียงของเธอ

ศศิร์ธาขมวดคิ้วสงสัยให้กับเสียงที่กระตุ้นแรงเต้นของหัวใจของเขา จนเผลอยกมือขึ้นแตะลงตรงหน้าอกด้านซ้ายเบา ๆ ทำไมหัวใจของเขาถึงได้กระแทกจังหวะแรงขึ้นแบบนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
มี่ฮวน เมียยอดอกตัญญู

มี่ฮวน เมียยอดอกตัญญู

ประวัติศาสตร์

5.0

ผู้สืบทอดสำนักไฮว่ชั่วหายตัวไปอย่างลึกลับ โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ร่างสูงใหญ่โดดเดี่ยวในถ้ำมืด ถูกโซ่ตรวนล่ามัดเอาไว้ จนกว่าจะเลยวันเลือกเจ้าสำนักคนใหม่ มี่ฮวนอาสาขอเข้าไปเอาต้นสมุนไพร ‘โม่วยี’ ออกมาให้อาจารย์ จนไปเจอเข้ากับร่างดำโดดเดี่ยวร่างหนึ่งที่ในถ้ำมืด ที่ข้างกายของร่างดำโดดเดี่ยวร่างนั้นมีต้นสมุนไพรที่นางตามหา และทันทีที่นางเด็ดสมุนไพรต้นนั้นออกมา โซ่ตรวนที่ตึงร่างนั้นเอาไว้ก็ได้หลุดและปลดปล่อยร่างดำร่างนั้นออกมา ร่างนั้นข่มเหงนางอย่างเอาแต่ใจ กายสัมผัสลึกซึ้งต่อกัน มี่ฮวนจึงหอบเอาสายพันธุ์ลึกลับนั้นติดท้องของนางมา กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็พบว่าตนตั้งครรภ์แล้ว หลังจากตั้งครรภ์ มี่ฮวนถูกขับไล่ออกจากโรงหมอ นางใช้ชีวิตเลี้ยงตัวเองและลูกด้วยวิชาที่ได้มาจากอาจารย์ จนวันดีคืนดี นางถูกคนของสำนักไฮว่ชั่วพาตัวไปรักษาเจ้าสำนัก ทันทีที่ดวงตาคู่สีดำเหลือบแดงมองเห็นนาง ก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นหญิงสาวที่ปลดปล่อยเขาออกมาจากโซ่ตรวน หัวใจแห้งผาก หัวใจที่เฝ้ารอมานาน พลันชุ่มชื่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพบว่านอกจากนางจะเอาน้ำเชื้อของเขาไปทำลูกแล้ว นางยังจำเขาไม่ได้อีกด้วย หากเรื่องพวกนั้นยังไม่ร้ายแรงมากพอ นางยังจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เขาต้องตามเช็ดตามล้างอีกต่างหาก นางช่าง… ช่างเหมาะสมกับที่เป็นเมียยอดอกตัญญูเสียจริง!

สิ้นสุดเส้นทางของความรัก

สิ้นสุดเส้นทางของความรัก

โรแมนติก

3.0

การถูกนอกใจไม่ใช่แค่แผลเล็ก ๆ แต่มันคือบาดแผลที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงและแสนสาหัส หัวใจของพร้อมพรในตอนนี้ก็เหมือนกัน เมื่ออยู่ๆ เธอก็รับรู้ได้ถึงความห่างเหินและความเปลี่ยนแปลงของสามี รัฐศาสตร์คือรุ่นพี่ของเธอสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาคือชายที่กุมหัวใจของเธอไว้ด้วยความจริงใจ รัฐศาสตร์ไม่เคยแตะต้องพร้อมพรให้บอบช้ำ เขาเฝ้ารอเธอจนถึงวันแต่งงาน จนเธอท้องและคลอดลูกน่ารักๆ ออกมา และเมื่อลูกชายครบสามขวบ เขาก็เดินเข้ามาขอหย่าจากเธอ พร้อมกับเหตุผลที่ว่า เขาเจอผู้หญิงที่สามารถเติมเต็มชีวิตของเขาได้มากกว่าเธอ …

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

โรแมนติก

3.5

ภารกิจสำคัญของนักเขียนที่ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในยุคโบราณคือการเป็นผู้ช่วยมารดาหลบหนีจากบิดาไร้หัวใจ และพามารดาไปพบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันงดงาม เมิ่งสืออีถูก ย่าและอนุของหานชางเหยียนผู้เป็นสามีรังแกจนเกือบจะต้องตายไปพร้อมกับลูก ในเวลานี้สามีที่จากไปรบที่ชายแดนกลับมาแล้ว หวังในใจว่าสามีที่กลับมาจะคอยปกป้องดูแล ทว่านางกลับได้รับความเจ็บช้ำที่มากยิ่งกว่าจนแทบทนไม่ไหวและคิดหนี กรุณาอ่านตัวอย่างก่อนกดซื้อ ซื้อหน้าเว็บถูกกว่าแอปเปิ้ลค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านค่ะที่อุดหนุน

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

โรแมนติก

5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ