ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
3.2K
ชม
33
บท

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

บทที่ 1 1

“คุณปินบอกว่าไม่ต้องรอค่ะ คืนนี้คงไม่กลับ”

‘จอย’ หัวหน้าแม่บ้านประจำที่บ้านของปริญญ์ ยืนบอกคุณผู้หญิงที่ตนไม่เคยนึกเคารพเลยสักครั้ง ด้วยสีหน้าหมิ่นแคลน แววตาสะใจตอนพูด จอยแทบไร้ความเคารพต่อคนที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ อย่างกับสุภาษิตที่ว่า ‘นายว่าขี้ข้าพลอย’ ไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่นิด

ปริญญ์แสดงออกกับจินดาพรรณอย่างไร ลูกน้องของเขาแทบทุกคนก็จะแสดงออกกับเธอแบบนั้นหมด

จินดาพรรณวางโทรศัพท์ในมือลง เลิกสนใจเครื่องประดับราคาแพงที่กำลังดูอยู่ แล้วขยับตัวลุกขึ้นยืน หญิงสาวยื่นมือแตะยังจานอาหารตรงหน้า แล้วดันไปตรงหน้าจอย สั่งเสียงเรียบเฉย ไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ กับคนใต้บังคับบัญชาของสามี

“เอาไปเทให้หมาท้ายซอยกิน แล้วช่วยเลือกหมาให้ด้วยนะ เอาแบบที่ไม่มีเจ้าของ เพราะหมาในซอยที่มีเจ้าของ มันไม่ค่อยเชื่อง คงจะกินยากหน่อย ให้แล้วคงเรื่องมาก ไม่ยอมกิน เสียของแย่เลย”

จินดาพรรณสั่งจบ จอยที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็เข้าใจในความหมายนั้นทันที เถียงกลับเพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้กับภรรยาของเจ้านายได้ นอกจากจะกล่าวอ้างไปยังปริญญ์

“ถ้าคุณปินรู้เข้าจะต้องเอาเรื่องคุณแน่…”

จินดาพรรณทำหน้าเหมือนจะกลัว เธอยิ้มเย็น ๆ ส่งให้จอยก่อนบอกเชิงขู่กลับไป “ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ รวมถึงตัวของปิน ฉันเองก็มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่งตามกฎหมาย”

เสียงนุ่มแต่เฉียบขาดพูดมาถึงตรงนี้แล้วเงียบไปครู่ ก่อนส่งเสียงพูดต่อ แบบที่ทำให้คนในบ้านขนหัวลุกกันไปหมด ไม่เว้นแม้แต่จอยที่ยืนเถียงอยู่ตรงนี้ด้วย

“และคนในบ้านหลังนี้ นอกจากจะต้องรับคำสั่งของปินแล้ว ก็ต้องรับคำสั่งของฉันด้วย หรือเธออยากจะฝ่าฝืนคำสั่งคนแรก ก็เอาเลย ฉันจะได้ให้...ออก”

“คุณกล้าหรือ ฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่อยู่กับคุณปินมาเกือบสิบปีเลยนะ” จอยพยายามข่มกลับ แต่จินดาพรรณที่ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว เธอข่มกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แบบที่คนรับใช้ในบ้านคนอื่น ๆ ที่ฟังอยู่ต้องก้มหน้า หลบสายตาของเธอหมดทุกคน

“ลองดูก็ได้นี่...จอย”

จอยจ้องมองตาภรรยาของเจ้านายแล้วพึมพำด้วยเสียงที่จงใจให้อีกฝ่ายได้ยิน “อิโธ่ ก็แค่เมียที่จดทะเบียนแต่งไว้งั้น ๆ งานแต่งก็ไม่ได้จัด นอนก็ไม่ได้นอนด้วยเลย ยังมาทำเชิดหน้าชูคออยู่อีก คุณปินเฉดหัวออกไปเมื่อไร จะเอาน้ำมนต์มาล้างซวยให้นายกู”

จินดาพรรณเชิดหน้าไม่พูดอะไรด้วยอีก หญิงสาวยืนมองจอยว่าจะทำตามที่สั่งหรือไม่ พอเห็นว่าอีกฝ่ายพาคนงานในบ้านหยิบเอาจานอาหารออกไปจนหมด ค่อยเดินกลับเข้าห้องไป เธอแต่งงานกับปริญญ์แบบเงียบ ๆ มาสี่ปีแล้ว ด้วยคิดว่าเขาจะยังคงรักเธออยู่ แล้วอดคิดถึงเหตุการณ์ตัดรอนเขาในตอนนั้นไม่ได้

“สงสารปินเถอะลูก ถ้าหนูต้องแต่งงานกับเขา ลูกของพวกหนูก็จะเสี่ยงที่จะเป็นแบบพ่อและแม่”

“แต่ดารักปินนะแม่”

“หนูยังเด็กเหลือเกินลูก” แม่ของจินดาพรรณบอกเสียงอ่อนแรง ท่านหลับตาแล้วยากนักจะลืมขึ้นได้อีก แต่ก็ฝืนแรง ฝืนส่งเสียงบอกลูกให้ตัดใจจากปริญญ์ “ความรักที่แท้จริงคือต้องการให้คนที่เรารักมีความสุข ไม่ใช่รั้งกันเอาไว้ อยากครอบครองเขาไว้ แต่ปล่อยให้เขาได้ไปเจอความสุขที่แท้จริง ได้เจอคนที่จะสร้างครอบครัวด้วยกันได้อย่างยั่งยืน หนูอย่าเอาปินมาทรมานด้วยเลยนะ”

จินดาพรรณร้องไห้โฮ หญิงสาวในวัยสิบเก้าปีอยู่ในภาวะอ่อนล้าทั้งกายและหัวใจ เธอกำลังจะเสียแม่ด้วยโรคร้ายที่เจอเพียงหนึ่งในสิบล้านคน

จริยาคือแม่ม่ายสามีตาย แม่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เกิด และแม่ก็บอกให้เธอตัดใจจากเพื่อนที่จริงใจกับเธอที่สุดคนหนึ่ง

ปริญญ์ไม่ได้ต้องการเป็นแค่เพื่อนสนิทกับเธอเท่านั้น เขาบอกรักเธอในตอนจบมัธยมศึกษาปีที่หก และเขาขอเลี้ยงดูเธอกับแม่ เขาทำงานและเรียนไปด้วย เขาขอเพียงได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดชีวิต เขาขอเพียงแค่นั้น

แต่แม่กลับมาบอกให้เธอตัดใจจากเขา เพราะเธอเองก็คงมีชีวิตไม่ต่างจากแม่ หลังจากหมอให้เธอเข้าไปตรวจร่างกายและเจอความเสี่ยงน่าจะเป็นโรคเดียวกันกับพ่อและแม่

“ถ้าหนูรักเขา หนูปล่อยเขาไป เชื่อแม่เถอะนะ อย่าให้เขาต้องมาทนดูหนูจากไป เหมือนอย่างที่แม่เฝ้ามองพ่อ เหมือนอย่างที่หนูเฝ้ารอวันตายของแม่แบบนี้อยู่อีกเลย”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight]

ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ร้อยดาวตะวันเดียว [My DayLight] ------------------------------------------------ ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ ได้แรงบันดาลใจจากคนกลุ่มหนึ่งในเมืองหลวงอันแสนจะทันสมัย เจริญด้วยสรรพสิ่งรอบด้าน และคนกลุ่มหนึ่งที่ประกาศให้สังคมรับรู้ว่าได้พลีกายใจให้กับงานด้านสังคมสงเคราะห์ ซึ่งถือเป็นเปลือกนอกที่สวยงาม เป็นที่น่าชื่นชมแกผู้พบเห็น แต่น้อยคนนักที่จะมองถึงแก่นแท้ภายใจว่าแอบซุกซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง บางคนหวังจะได้ชื่อเสียงอันเลื่องลือตามติดมา บางคนหวังให้ได้ผลประโยชน์ทางอ้อมทางธุรกิจ บางคนหวังส่งตัวเองให้ขยับสูงขึ้นอีกชั้น อีกชั้น และอีกชั้น หรือถ้ามีก็น้อยคนนักที่จะกล้าป่าวประกาศให้คนเหล่านี้ได้รู้ แต่กลับทำเป็นเมิน ทำเป็นมองไม่เห็น ทำเป็นไม่สนใจในความทุเรศทุรังของสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่นี้ อาทิตยา พุทธิรักษุ์ ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวด้วย และพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากผู้คนในสังคมนี้ ทุกวิถีทาง แต่ก็ไปไม่รอด หลีกหนีไม่ได้ เมื่อมีบ่วงบุญคุณเข้ามาค้ำคออยู่ หญิงสาวได้แต่บอกับตัวเองว่าจะหันหลังให้คนกลุ่มนี้เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมจริงๆ เท่านั้น ทว่ากลับทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ เมื่อมีบ่วงอย่างเช่น จิณณวัตร วัชราเวโรจน์ บุตรชายคนโตของเจ้านายที่เป็นหนึ่งในหลายคนของสังคมไฮโซจอมปลอมนี้ และเขาจะเป็นบ่วงเป็นโซ่ล่ามเธอไว้ให้ติดแหงกอยู่ในที่ๆ เธออยากหลีกหนีหรือไม่ และเธอจะลบเลี่ยงหรือถอนตัวออกจากวังวนบุญคุณได้ได้ยังไง เพราะอะไรเธอจึงต้องหนี เพราะอะไรเขาจึงต้องอยากล่ามเธอไว้ เธอจะหนีไปได้ยังไง ด้วยเหตุผลกลใด เขาจะต้องทำยังไง จะต้องใช้อะไรเพื่อจะเก็บเธอไว้ให้ได้อยู่ข้างกายตลอดกาล คำตอบทั้งหมดมีใน ‘ร้อยดาวตะวันเดียว’ เล่มนี้ที่ผ่านผู้อ่านถืออยู่ในมือแล้วค่ะ ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ สำหรับกำลังใจที่มีให้ ‘กันเกรา’ ด้วยดีเสมอมาและจะตลอดไป สัญญาค่ะว่าจะใช้มันสมองและสองมือกลั่นกรองผลงานดีๆ ออกมาให้ท่านได้ติดตามต่อไปค่ะ แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้

ดั่งลมหวนรัก ตอนพิเศษ

ดั่งลมหวนรัก ตอนพิเศษ

pimchan publication
5.0

เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ