Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
พ่ายใจรักนางบำเรอ

พ่ายใจรักนางบำเรอ

ลิขิตนางฟ้า

4.9
ความคิดเห็น
315.5K
ชม
31
บท

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ซาร์มอบเงินก้อนโตให้นางบำเรอที่ปลดระวางก่อนกำหนด ไม่ต้องการรับรู้ว่าเธอต้องการตามติดก้นเขาเหมือนกับผู้หญิงที่ผ่านมา ทว่าเมื่อเจอกันอีกครั้งเธอกลับมีลูกชายตัวโตเคียงข้าง 'เวอร์จิ้น' ที่ผ่านมาเธอต้มเขาเสียเปื่อย ชายหนุ่มไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเสียหน้า การขอของแถมจากอดีตนางบำเรอจึงเริ่มต้นขึ้น โดยไม่คำนึงถึงใครหน้าไหน (ก็เขามันจอมวายร้าย)

บทที่ 1 1

“ฉันจะกลับแล้ว คงไม่ได้มาสักพักนะ” ราฟาเอลกระชับเสื้อสูทก้าวเดินออกจากห้องนอนภายในคอนโดมิเนียมหรู

“คุณคะหนูนามีเรื่องจะบอกค่ะ” หน้าประตูห้องน้ำร่างบางทว่าอวบอิ่มในส่วนที่ผู้ชายต้องการถูกพันไว้หลวมๆ ด้วยผ้าขนหนูผืนสีขาว

ร่างสูงหันกลับมา เลิกคิ้วคมเข้มขึ้นอย่างสงสัย “มีอะไรล่ะ ฉันกำลังรีบ ทำไมไม่พูดตั้งแต่เมื่อคืน”

หญิงสาวลังเลเรื่องที่จะบอกเขา สองมือเผลอกำผ้าขนหนูแน่น “คุณขับรถดีๆ นะคะ” เธอจำใจเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน

ราฟาเอลรู้สึกแปลกใจ หากไม่มีเวลาเข้าไปซักถาม ได้แต่ก้าวเดินออกจากห้องไม่หันกลับมาอีก ชายหนุ่มจึงไม่ทันได้เห็นน้ำตาที่เอ่อตากลมใสของคนข้างหลัง

เพียงพลอยอยากบอกชายหนุ่มตั้งแต่หลายวันก่อน ตั้งแต่เมื่อคืน แต่เวลาที่ราฟาเอลมาหากัน เขาแทบไม่ให้เธอได้พักผ่อน ไม่มีการพูดคุยเช่นคู่รัก เขาเอาแต่โรมรันรุกเร้า เสมือนตายอดตายอยากมาจากไหน จนเธอไม่อาจปริปากบอก…เรื่องการตั้งท้องที่ทำให้ไม่สบายใจจึงเป็นความลับอยู่อย่างนี้

หลายวันก่อนตื่นตอนเช้าเพียงพลอย รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หน้ามืด จึงไปหาหมอเพราะเกี่ยวกับอาการเจ็บไข้ เธอไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ หากเป็นอะไรไปคนที่เป็นห่วงจะเป็นยังไงหญิงสาวไม่อยากจะคิดถึงข้อนี้ ราฟาเอลเองก็คงรำคาญหากมาเจอเธอนอนซม ไม่สามารถดูแลเขาได้

“คุณตั้งท้องได้หกสัปดาห์ครับ ยินดีด้วย” นั่นคือคำตอบของการเจ็บป่วย เพียงพลอยตะลึงตกใจเมื่อได้ยิน เธอรับฟังคำแนะนำของหมอด้วยใจเลื่อนลอย ก่อนจะเดินจากห้องตรวจครุ่นคิดจะทำยังไงดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ทันเตรียมใจ

ก่อนจะมาอยู่ใต้ปีกแห่งเสน่หาของชายหนุ่ม เพียงพลอยยังจำได้ถึงข้อตกลง

“ป้องกันตัวเองอย่าให้ท้องล่ะ ไม่ทำตามสัญญาเมื่อไหร่จะถือว่าเธอหวังสูง ทุกอย่างที่เคยได้ ก็อาจจะไม่เหมือนเดิม”

“ค่ะ” เธอรับคำง่ายดาย เพราะตอนนั้น ยังไงก็ได้ ขอให้ได้เงินที่ต้องการมาก่อน อย่างอื่นไม่มีเวลาคิด

“ดี เมื่อเข้าใจเอาเช็คไป เก็บข้าวของมาอยู่ที่นี่ได้เลย สัญญาหนึ่งปีอาจจะเปลี่ยนแปลง เพราะฉันมันคนที่ขี้เบื่อ แต่ไม่ต้องห่วง จะอยู่จะไป รับรองเธอจะได้เงินคุ้มเชียวละ”

แม้จะหวาดหวั่นมากมายแต่ต้องบอก เพราะลูกเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา บางทีราฟาเอลอาจจะเปลี่ยนใจเรื่องที่เคยคุยไว้ จะบอกเขาว่าไม่ได้ต้องการอะไร ไม่ได้หวังสูง ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความผิดพลาด แม้ต้องปวดใจเพียงใดก็แค่ทนเจ็บแบบเดิมๆ ก็เท่านั้นเอง

ติด ติด ติด

เสียงมือถือหน้าโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งตั้งปลุกไว้ดังขึ้น เพียงพลอยรีบเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว วันนี้สองมือรีบเร่งกว่าวันอื่น เพราะมีอีกเรื่องสำคัญที่รออยู่

ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง

“ทำไมมาสแกนเวลาช้าล่ะหนูนา ไม่เห็นเคยมาสายสักวัน เคยพูดเสมอสายหักเงินนาทีละสองบาท บอกว่าเสียดาย ไม่มีทางได้หักของเธอ” โมลีหญิงสาวช่างคุยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเพียงพลอยชวนคุยอย่างเช่นทุกวัน

“แต่วันนี้ครึ่งชั่วโมงโดนหักครึ่งวัน” เพียงพลอยพูดเสริม ทำหน้าเสียดายสุดๆ

“แล้วไปไหนมา”

“ไปดูหลานมาจ๊ะ ” หน้าตาเศร้าสร้อยทำให้โมลี อยากตีปากตนเองที่ชวนเพื่อนคุยเรื่องเครียดตั้งแต่เช้า

เด็กชายศศิน ขณะนี้อายุได้เกือบสี่ขวบป่วยเป็นโรคหัวใจ นอนรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อ เพียงพลอยต้องรับภาระดูแลคนเดียวมาเกือบปี ตั้งแต่วันที่พี่สาวเสียชีวิตภาระที่มีอยู่ก็ยิ่งหนักอึ้ง จนแทบแบกรับไม่ไหว… ส่วนพ่อของหลานนั้นถึงยังมีชีวิตก็เหมือนตายจากศศินไปแล้ว เพราะฝ่ายนั้นไม่มีใครเคยมาดูดำดูดีแม้เพียงสักคน

“ทำงานเถอะ ทำงานจะได้ลืมเรื่องเครียดลงได้บ้าง” โมลีชวนเพื่อนไปยังห้องเก็บของ เพื่อเตรียมทำความสะอาดห้องพัก

“เธออยู่ชั้นเดียวกับเรา วันนี้โชคดีจังจะได้มีเพื่อนคุย” เพียงพลอยก้มมองแผ่นชาร์ตในมือ ดูจำนวนห้องพักที่ต้องทำความสะอาดในวันนี้

หลังจากนั้นสองสาวขึ้นลิฟต์พนักงานมุ่งสู่ชั้นที่หก

ราฟาเอล ฟาน เดอร์ซาร์ อายุสามสิบ หนุ่มหล่อเรือนร่างกำยำ ส่วนผสมระหว่างไทย เนเธอร์แลนด์ เขาก้าวเดินเข้าโรงแรมกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯ เพื่อหามารดาซึ่งเข้าพักที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืน

“ไม่อยากพักเพนท์เฮาส์หนุ่มเจ้าสำราญหรอก ไม่อยากเป็นตัวขัดขวางความสุขใคร พักที่โรงแรมเดิมดีกว่า”

“มาดามครับ อะไรจะสุขใจเท่าได้เห็นหน้ามาดามล่ะ อย่ามาประชดผมเลยครับ” ราฟาเอลอ้อนมารดา เมื่อท่านเอ่ยรู้ทันเรื่องชีวิตส่วนตัวเสมือนเดินตามหลังเขาทุกวินาที แต่แม้เป็นเช่นนั้นข้อมูลท่านก็ยัดคงพลาด เพราะราฟาเอลไม่เคยพาสาวที่ไหนไปเพนท์เฮาส์ของตนมาก่อน “อย่ามาทำปากหวานเลยฟาน เก็บไว้ใช้กับผู้หญิงเถอะ… ถ้าไม่เป็นอย่างแม่ว่าป่านนี้คงมีหลานให้แม่อุ้มไปแล้วล่ะ”

ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงได้เห็นมารดาวัยห้าสิบกว่าค้อนแน่นอน ราฟาเอลอดขำไม่ได้ “เอาที่สบายใจแล้วกันครับ ผมรู้ว่าคุณแม่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาบ้านเกิดเพราะเรื่องนี้อีกแล้ว เรื่องทายาทของผม เอาเป็นว่าผมจะไม่ขัดใจ คราวนี้จะยอมให้คุณแม่พาผมไปดูตัวนะครับ”

มารดาคงยิ้มกับโทรศัพท์แน่นอน ก่อนจะวางสายเขาไป

ก็อกๆๆ

เสียงประตูหน้าห้อง มาดามเดอร์ซาร์ เดินไปเปิดประตู “นึกว่าจะไม่มา ถ้าสายห้านาทีแม่ไม่รอแล้ว นัดคุณป้าศศิไว้ ไม่อยากให้เขารอ”

“สายได้ก็ดีสิครับ แต่หากทำอย่างนั้นมีหวังป๋าบ่นไม่ต่างสาวๆ แน่ ที่ไม่ดูแลคุณปาริชาติสุดที่รัก เมื่อคืนก็โทรมาฝากฝังตั้งหลายสาย” ปาริชาติยิ้ม ยิ้มปลื้มความห่วงใยที่สามีมีให้ แม้จะอยู่กินกันมาจนลูกโตขนาดนี้แล้ว ฝ่ายนั้นยังรักเธอไม่เสื่อมคลาย

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เป็นไงวันนี้พร้อมหรือยัง อย่ากลับคำละ อีกเรื่องที่สำคัญคือต้องเคลียร์เรื่องแม่สาวๆ ข้างกายให้หมด อย่าให้เหลือมากวนใจแม่ กวนสะใภ้แม่ได้”

“มาถึงก็เข้าเรื่องเลยนะครับ” ดวงตาคมเข้มกลอกไปมา เหมือนทุกครั้งที่มารดาคิดจะจับคู่ตน กับลูกสาวของเพื่อนท่าน

“เรื่องอะไรจะรอช้า เดี๋ยวคนบางคนลืมเรื่องที่คุยเมื่อคืนแม่ก็อดอุ้มหลานในปีนี้น่ะสิ” ปาริชาติเดินไปหยิบกระเป๋าถือ ไม่ลืมเรียกเด็กรับใช้ซึ่งกำลังเอาของจากกระเป๋าจัดใส่ตู้เสื้อผ้า

“ว้าว อะไรจะเร็วปานนั้นฮะ”

“แน่สิย่ะ ช้ากว่านี้น้ำยาลูกอาจจะหมดซะก่อน…ได้ข่าวว่าใช้เปลืองซะจริง”

“…”

“เถียงไม่ออกล่ะสิ พ่อเนื้อหอม” ปาริชาติยิ้มขำที่แกล้งลูกชายให้ใบ้กะทันหันได้

“ยอมแพ้แล้วครับ จะไม่บอกชื่อเสียงเรียงนามผู้หญิงที่คุณแม่อวดสรรพคุณผมไว้หน่อยเหรอครับ ไปถึงจะได้ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษถูกคน”

“สิตมน จำไว้ ‘ว่าที่’ ภรรยาลูกชื่อหนูมนจ้า”

เอาแล้ว ยอมเข้าหน่อย ไปไกลถึงขั้วโลกแล้ว ราฟาเอลเดินนำหน้ามารดาและเด็กรับใช้มุ่งไปยังลิฟต์ ก่อนจะนำไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่หน้าโรงแรม

มารดาซุบซิบบางอย่างกับคนรับใช้ตั้งแต่ออกจากห้อง ก่อนจะขึ้นรถก็ยังไม่หยุด ชายหนุ่มสงสัยหันมาซักถาม

“อะไรกันครับ คุยอะไรกัน ทำอย่างไม่เจอกันมาเป็นแรมปี ถ้าเป็นผมจะไม่ว่าสักคำ”

“แม่คุยเรื่องเด็กที่เคยเจอเครื่องเพชรแม่น่ะสิ มาคราวนี้ยังไม่เจอเลย แม่ซื้อของมาฝากเขาด้วย”

“ถามหน้าฟรอนท์สิครับ ไม่ต้องมานั่งสงสัยว่าจะเจอหรือเปล่า” ราฟาเอลแนะนำ เดินไปเปิดประตูให้มารดา

“อยากให้เขาตื่นเต้นที่เจอแม่น่ะสิ ให้นามบัตรไว้ก็ไม่เห็นติดต่อไปบ้าง คนมักน้อยอย่างนี้แม่ปลื้มจริงๆ”

“ใครบ้างไม่อยากได้ของฟรีครับ อย่าไว้ใจใครง่ายเกินไปเลย คราวก่อนที่เขาไม่เอาของเรา บางทีใช่ว่าเขาเป็นคนดี แต่เขาจะเอาของออกไปจากที่ทำงานได้ยังไง โรงแรมใหญ่โตขนาดนี้ต้องมีการตรวจกระเป๋าก่อนกลับบ้านอย่างแน่นอน”

“ขับรถไปเลย ไม่ได้ขอความคิดเห็น” ปาริชาติหน้าบึ้ง

“ผมพูดจริงก็งอนเสียนี่” ราฟาเอลมองมารดาทางกระจก หากก็ไม่พูดอะไรอีก เพราะพูดไปมารดาก็ไม่มีทางเปลี่ยนความตั้งใจในเรื่องที่วางแผนไว้แล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

โรแมนติก

5.0

อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ

ร้ายไม่เคยรัก

ร้ายไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ

ความผูกพันที่ไร้ค่า

ความผูกพันที่ไร้ค่า

โรแมนติก

5.0

เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

โรแมนติก

5.0

เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ