Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว

ลิขิตนางฟ้า

5.0
ความคิดเห็น
1K
ชม
30
บท

เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก

บทที่ 1 พี่สาว น้องสาว คนสวยประจำหมู่บ้าน

“ทำอะไรกันควันไฟเข้าตา แสบหมดแล้ว”

ร่างได้สัดส่วน ผิวสีแทน ผมสีน้ำตาลยาวถึงแผ่นหลัง สูง 157 เซน มองอย่างสงสัย รอคำตอบ

มือเรียวแต่ค่อนข้างคล้ำแดดหยิบเอกสาร รูปถ่ายหลายๆ ใบใส่ในกองฟืนซึ่งมีไฟลุกโชน ควันไฟเข้าตา หญิงสาวรูปร่างบอบบางเดินไปนั่งตรงแคร่ใต้ต้นขนุนกอใหญ่ จิตใจล่องลอยอีกครา ไม่สนใจคนข้าง จนฝ่ายนั้นโมโห

“แบบนี้ทุกที ไม่ยุ่งก็ได้”

คนใกล้ๆ จากไป สายตาหวานแอบมอง แต่ไม่พูดอะไร เธอหันไปมองกองไฟอีก หวังเมื่อไฟมอด ทุกอย่างเหลือเพียงเศษผง หัวใจคงดีขึ้น ดังนั้นเมื่อไฟมอด เธอจึงลุกขึ้นกลับเข้าบ้านพักในริมน้ำซึ่งเชื่อมต่อกับเรือนนอนของพ่อแม่

นอนเสียสักนิด แปดโมงเช้าเธอต้องไปสอนหนังสือเด็ก

มะลิซ้อนล้างเท้าที่โอ่งใบเล็ก ก้าวเดินเข้าบ้าน

ไม่อยากเก็บทุกอย่างไว้อีกเพราะมือมันคอยแต่จะหยิบมาดูอยู่ร่ำไป

ทว่าทำไปแล้วกลับรู้สึกทุกข์ใจ หัวใจช่างสับสนเหลือเกิน

“มะลิพักนะลูก ไม่ต้องไปสอนหรอกวันนี้”

คนที่เป็นครูอาสามาหลายเดือนหันมองพ่อ และเดินกลับมายืนข้างๆ ร่างใหญ่ที่ยังอยู่ในชุดหาปลา บนหัวมีผ้าขาวม้าพันไว้อย่างที่เห็นเสมอ

“ทำไมละคะพ่อเสือ”

“มีข้าราชการ นักธุรกิจมาที่โรงเรียนเยอะวันนี้ ลูกไม่ต้องไป”

พ่อเดินจากไป มะลิซ้อนเดินไปนั่งมองสายน้ำยามเช้า ไม่อยากนอนอีก

มาจากกรุงเทพ พ่อจะกลัวไปทำไม กรุงเทพกว้างใหญ่ คงไม่มีคนบ้านนั้นมาในโรงเรียนซึ่งอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ เธอมองหุบเขาซึ่งเป็นแนวยาวที่ตระหง่านเหนือแม่น้ำยาวสุดลูกตา

เกือบปีแล้วเธอมาอยู่ที่นี่ จากคนที่ไม่เคยลำบากลำบน ต้องมาอยู่ในที่ไร้แสงสี ตอนแรกไม่อยากมีชีวิตแบบนี้ แต่เพื่อคนที่รัก เธอจะอยู่เพื่อรอและรอ

พ่อทรมานในนั้นมาหลายเดือนกว่าเธอจะรู้เรื่องราว เทียบไม่ได้กับหนึ่งปีของเธอที่นี่

“มะลิหิวหรือยังลูก”

หญิงสาวเดินลงไปหาแม่จำเป็น ทว่าเรียกแบบนี้จนตอนนี้ชินปาก และเธอรักนางอารดีเสมือนแม่แล้ว เพราะนางอารดีและพ่อเสือดีกับเธอทุกอย่าง ทั้งสองคนไม่เคยอยากให้ทำอะไร แต่ไฉนเลยเธอจะนิ่งดูดายได้

“ว่าไงลูก”

“ยังค่ะ รอกินพร้อมพ่อกับแม่”

“เต็มปากเต็มคำเลยนะ ไม่ใช่แม่ตัวเองซะหน่อย”

มะลิซ้อนเดินหนี เธอไม่อยากมีเรื่องกับอารยาให้พ่อและแม่ต้องปวดหัว

“ไปไหน ไม่ทำลายมลพิษทางอากาศแล้วก็มาช่วยขนปลาหน่อยสิ จะตากแดด”

“ยังไม่มีแดดไม่ต้องรีบ” อารดี พยักหน้าให้ลูกสาวคนโตไปได้ สร้างความน้อยใจให้อารยา

“แม่นั่นใช่ลูกเหรอ เป็นลูกพ่อกับผู้หญิงคนอื่นนะ ตามใจกันจัง ลืมหรือไรตอนมาหยิ่งจะตาย ตบลูกสาวแม่ไปตั้งหลายครั้ง ยังไม่ได้เอาคืนเลย คอยดู เอาคืนแน่”

“ระวังโดนพ่อตบปาก เงียบๆ ไปทำกับข้าวเลยนะ”

อารยาซึ่งนุ่งผ้าถุงกับเสื้อแขนยาวซึ่งเป็นผ้ามัดย้อม สะบัดผมยาวๆ เดินเข้าครัว

พ่อจะทำแบบนั้นจริง เธอรู้ดี เหมือนเธอไม่ใช่ลูก เธอหันมองพ่อแวบเดียวก่อนเข้าไปข้างใน

มะลิซ้อนกำลังเข้าไปให้อาหารไก่แอบชะเง้อมองเจ้าบ้าน

เมื่อไหร่จะเลิกเกลียดกัน แต่ก็นะ เคยตบหน้าไปตั้งหลายครั้ง พ่อเสือก็เข้าข้างเธอ จะให้หายโกรธง่ายๆ ได้อย่างไร

“พี่อารดีจ๊ะ พี่อารดี”

มีคนวิ่งมาหาแม่ มะลิซ้อนยังคงโปรยข้าวเปลือกให้ไก่ สายตามองและฟังว่าข้างนอกมีอะไรกัน เช่นเดียวกับอารยาที่เกาะประตูยืนมอง

“มีอะไรวิ่งหอบมาเชียว”

“ที่โรงเรียนน่ะสิเพิ่งมาบอกว่าให้ผู้ปกครองนักเรียนเตรียมอาหารให้คนจากกรุงเทพ ฉันเลยมาปรึกษาพี่ว่าจะทำอะไรให้เขากินกันดีจ๊ะ ”

นายเสือเป็นครอบครัวที่คนในหมูบ้านนับถือ รองลงมาจากผู้ใหญ่บ้าน ตอนนี้ผู้ใหญ่ไปโรงเรียน เรื่องที่จัดการไม่ได้เลยต้องมาถามนายเสือ

อารดีวางตะกร้าผ้าที่จะเอาไปตาก หันไปที่คู่ชีวิตก่อนจะคิดได้

“เมนูปลา ปู กุ้ง บ้านเราก็มีแค่นี้ ไปเอาสิเหมย บอกพี่เสือนะ”

“ฉันไปช่วยจ๊ะ”

อารดีมองลูกสาวคนสวยซึ่งเหมยก็จดจ้อง เพราะมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ กระทั่งนายเสือเรียกเสียงดัง

“ยายเหมยมาเอาปลาไปสิได้ยินว่าต้องการ ส่วนลูกไม่ต้องไป”

“ไปก็ดีนะ ลูกสาวพี่สวย ไม่อยากให้ไปเป็นนางงามอะไรบ้างหรือ คนกรุงเทพเห็นอาจสนใจ เก็บไว้ที่นี่ทำไม”

คนในหมู่บ้านคิดว่านายเสือไข่ลูกทิ้งไว้เพิ่งไปรับมาตอนอายุยี่สิบกว่า ทุกคนเชื่อสนิทเรื่องนี้

“อย่ามายุ่ง จะเอาปลาหรือเปล่า ไม่เอากลับไป”

“เอาจ๊ะเอา”

“หนูไปช่วยทำที่โน่นนะแม่” อารยาอยากไปเปิดหูเปิดตา จึงขออนุญาต นางอารดีพยักหน้า เดินไปแตะแขนลูกสาวคนโต “ลูกก็ไปช่วยเด็ดพัก หุงข้าวนะ ไม่ต้องไปที่โรงเรียน”

นายเสือจะค้านแต่เห็นสายตาเมียก็เดินหนีไป มะลิซ้อนดีใจเดินตามอารยา

“อย่ามายืนใกล้ ไปไกลๆ เลย”

เหมยหันมองแปลกใจ สองพี่น้องรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกันสักนิดเดียว

มะลิซ้อนพี่คนโต สูงราว 165 เซนฯ ผิวพรรณขาว แม้จะคล้ำลงไปตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แต่ก็ยังขาวกว่าสาวๆ ในหมูบ้าน หน้าผากหล่อนกว้าง นูน ดวงตาดำขลับ ขนตางอนสวย จมูกโด่ง รับกับริมฝีปากอวบอิ่ม

มองยังไงก็สวย ถ้าเป็นลูกเต้าตัวเอง นางคิดจะส่งไปประกวดเทพี คงได้อยู่ดีกินดีเพราะลูกแบบนี้

“มองอะไรนักน้าเหมย”

อารยาไม่พอใจเห็นเหมยเอาแต่มองคนข้างหลังเธอ เหมยกระซิบ “พี่สาวรยาสวย น่าจะไปเป็นดารา”

“ฉันไม่สวยหรือน้า” พูดแล้วยิ้มโชว์ฟันสวย

“ก็สวยแต่พี่สวยกว่า”

“พูดไม่น่าฟัง ปลาพวกนี้ไม่ต้องเอาแล้วมั้ง”

เด็กชายวัยแรกรุ่นที่มาหามกะละมังปลาพากะละมังวิ่ง เหมยหัวเราะ “ไม่ทันแล้วรยา อะไรของเธอ ไม่สวยแล้วยังขี้งก”

เหมยก็ว่าไปอย่างนั้นเพราะต้องการแกล้งอารยา อันที่จริงอารยาก็สวยคมกว่าใครๆ ในหมูบ้าน รูปร่างก็สมส่วนแม้จะตัวเล็กกว่าพี่สาวก็ตาม แต่ สายตาคม คิ้วได้รูป บางบางสีแงดระเรื่องตามธรรมชาติ มองแล้วต้องมองซ้ำ

สองพี่น้องนี่น่านางฟ้าชัดๆ ใส่เสื้อผ้าดีๆ คงสวยจนหนุ่มๆ ละเมอหา

“ไม่พูดด้วยแล้ว ตาถั่วเห็นนางร้ายสวยไปได้”

อารยายังฝังใจเรื่องเมื่อต้นปีก่อนเดินเร็วๆ ไปบ้านผู้ใหญ่ เหมยหัวเราะ จับมือมะลิซ้อน และบอกให้รีบเดิน

“เร็วแม่สาวคนสวยรีบไปกัน”

ถนนที่นี่ยังไม่เจริญแม้จะเทคอนกรีตแต่ก็แคบมาก คนที่เพิ่งนุ่งผ้าถุงเป็นก้มมองรองเท้า “น้าไปก่อนเถอะค่ะ มะลิเดินไม่ถนัด”

“ดัดจริต”

อารยาได้ยินและแขวะ ทั้งที่รู้ว่าพี่สาวซึ่งไม่ชอบขี้หน้านุ่งผ้าซิ่น ผ้าถุงไม่ถนัด เพราะเห็นหลายครั้งที่เกือบทำขายหน้า แต่รู้ว่าตอนนี้แม่มีเข็มขัดให้ ไม่มีทางหลุด จึงแขวะออกมาแบบนั้น

“เธอไปก็ไปสิ มาแขวะพี่ทำไม”

มะลิซ้อนนั้นเรื่องไม่ยอมคนอยู่ในสายเลือด ที่ทนๆ อยู่เพราะความจำเป็น แต่เมื่อทนไม่ได้ก็ตวาดออกมา อารยาใบหน้าเจื่อน และรีบเดิน

กลายเป็นผีบ้าอีกแล้วมั้ง ไปดีกว่า พ่อรู้จะตีเราอีก

มะลิซ้อนจะโกรธอารยากลายเป็นขำ และรีบเดินตามไป

ก็ใครใช้ให้มาแยกเขี้ยวไม่หยุดล่ะ รู้ก็รู้ว่าความอดทนเธอมีขีดจำกัด

ก็แค่ชื่อที่เปลี่ยนไป อย่างอื่นเธอยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ใครไม่รู้เธอรู้ตนเองดี

ที่เปลี่ยนไปก็แค่ชื่อ พ่อเสือช่างสรรหาชื่อมาจริงๆ

จัสมินยิ้มเมื่อคิดถึงความหลังวันที่ได้รู้ชื่อใหม่จากพ่อ

“พ่อเสือชื่ออื่นไม่ได้หรือไงคะ มันเชยมาก”

บนบ้านไม้เรือนแพหลังขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเธอเข้าไปจับแขนฝ่ายนั้น แม่อารดียิ้ม

“อย่าดื้อกับพ่อ ไหนว่าจะเชื่อฟัง อย่างนี้คนข้างหลังคงเครียด ถ้ารู้ไม่เชื่อฟัง”

คิดถึงพ่อที่กำลังลำบากก็น้ำตาคลอตาแต่ยังเถียง

“ก็ชื่ออื่นมีเยอะ พ่อรู้ใช่ไหมมันเชย”

“ตอนนี้พ่อเสือคือพ่อของลูก อยู่ที่นี่ชื่อนี้แหละดี”

สองผัวเมียกล่อมเธอต่างๆ นาๆ เอาแม่ เอาพ่อมาอ้าง เอาจดหมายที่พ่อฝากฝังมาอ้าง เธอจำพยักหน้า

“ก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะคะเรียกมะลิก็พอ”

สองผัวเมียที่กลายเป็นพ่อแม่มองหน้ากัน เธอถือจดหมายเข้าห้องนอน ปากขมุบขมิบ “เชยจริงๆ”

“พ่อไม่ชอบเด็กไม่เชื่อฟัง ไม่อย่างนั้นจะส่งกลับเมืองจีน เชื่อว่าคนคอยทางโน้นคงดีใจ”

“มะลิไม่กลับตอนนี้ค่ะ จะอยู่รอที่นี่ พ่อเสือบอกเองว่าไม่นาน”

พ่อเสือเงียบ เธอปิดประตูขังตนเองในห้อง

จัสมิน มะลิซ้อน

พ่อเสือก็ตั้งเข้าท่าดีแฮะ แต่จะชมทำไม ก็บอกว่าไม่ชอบในตอนแรกแล้วนี่น่า ขืนบอกว่าชอบ ยายน้องสาวจอมปลอมที่จ้องเหมือนจะกินเลือดได้หัวเราะเยาะตาย เมื่อครู่ก็แอบฟัง คงงงๆ ทำไมเธอถึงต้องเปลี่ยนชื่อ

น้องสาว ไม่คิดเลยจะมีวันนี้

กระต๊ากๆ

“ว้าย”

ไก่วิ่งวุ่น กระพือปีกบินในห้อง เธอวิ่งร้องไห้ตกใจจากห้อง คนที่ได้ชื่อว่าน้องสาวยืนหัวเราะ เธอตกใจ ไม่ชอบที่โดนแกล้ง ตรงเข้าไปตบใบหน้านั้นถึงสามครั้ง

ฝ่ายนั้นไม่ได้ตอบโต้เพราะกำลังตกใจก่อนจะตาแดงๆ ไปฟ้องพ่อเสือ

“พ่อ เธอตีหนู พ่อต้องตีคืนให้นะ”

พ่อเสือตาวาว “ใครแกล้งใครก่อนเห็นอยู่ ไปให้พ้นอย่ามาให้เห็นหน้า เดี๋ยวโดนดีแน่”

อารยาตกใจกำลังจะลงจากเรือนแต่กลับโดนเรียกจากแม่

“ไปทำความสะอาดให้เสร็จถึงจะไปได้ กวาดห้องพี่เขาให้สะอาดเรียบร้อย”

“ก็ ก็แค่ขนไก่นะคะแม่”

“ถ้าชอบก็เอาไปนอนห้องตัวเองเลย เข้าไปกวาดเลยนะ”

เธอเผลอเสียงดัง เหมือนเคยอยู่กับคนรับใช้ที่ชอบทำให้ไม่พอใจ และหันเห็นพ่อเสือมองอยู่ เสียงจึงค่อยลง

“ไปทำสิ จะช่วย แต่ช่วยนะ เธอต้องทำมากกว่า”

กว่าจะได้พักผ่อนก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ

เมื่อเสร็จทั้งสองคนเดินออกจากห้องไปล้างหน้า กว่าจะนอนได้คืนนั้นก็นั่งดับดาวบนท้องฟ้าจนน้องสาวกำมะลอตวาดออกมา

“เชิญเสด็จค่ะเจ้าหญิงมะลิซ้อน บรรทมได้เพค่ะ”

อารยาช่างเป็นคนตลกและดูมีน้ำใจกับคนอื่น น่าคบหาถ้าไม่ติดว่ากับเธอนั้น ชอบอิจฉาอยู่ร่ำไป มะลิซ้อนมองคนที่คิดถึง ซึ่งโบกมือโบกไม้ให้เพื่อนรัก

‘ขจรลาภ’ เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้าน รีบรุดลงมาที่เพื่อน แต่เมื่อน้องสาวจะจับไหล่กลับเซเพราะร่างหนาใหญ่นั้นตรงดิ่งมาที่เธอแทน

“มะลิมาด้วยเหรอ มา มากินน้ำก่อน”

“เพื่อนทรยศ” เสียงอารยาว่าก่อนจะลับตาเข้าไปในโรงครัว

มะลิซ้อนไม่รู้จะสงสารหรือขำอารยาดี แต่เธอก็ยิ้มให้เพื่อนใหม่ที่ดีกับเธอเสมอไม่ได้ “ขอบใจจ๊ะคุณลาภ”

ลาภยิ้มยินดีทั้งที่ใครๆ บอกเขาไม่ใช่หนุ่มชอบยิ้ม มะลิเริ่มรับรู้ความในใจคนข้างๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิขิตนางฟ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

รักเพียงใดก็ไร้สถานะ

โรแมนติก

5.0

อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ

ร้ายไม่เคยรัก

ร้ายไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ

ความผูกพันที่ไร้ค่า

ความผูกพันที่ไร้ค่า

โรแมนติก

5.0

เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง

พันธนาการรักนางบำเรอ

พันธนาการรักนางบำเรอ

โรแมนติก

5.0

จังหวะนั้นประตูเปิดออกสุดแรง พูดหันมองก่อนจะหดมือ ทำตัวเล็กลีบ “เป็น เป็นลมไปเรียบร้อยครับ” วงศกรไม่ถามอะไร จับชีพจรที่ข้อมือ จับแก้มแดงแจ๋ “ทำไมหน้าแดงขนาดนี้” อายหมอมั้งครับ “เอ่อ โดดแดดครับ” “ก็ไอ้พูดไม่มีหมวก ไม่มีเสื้อให้เลย พาไปสอนเก็บองุ่นทั้งที่แดดเปรี้ยงครับคุณหมอ” วงศกรหันมองพูด “ผมไม่รู้ว่าคุณเค้ากระหม่อมบาง อีกอย่างคุณบอกโอเค” “ออกไปก่อน” สองพ่อลูกลุกขึ้นพร้อมกัน วงศกรหาผ้าเย็นมาเช็ดใบหน้า ลำคอที่เปลี่ยนสีชัดเจน โง่ที่สุด หรือไม่ก็เรียกร้องความสนใจ “โอ้ย!” วงศกรมองมือที่หยาบกร้านซึ่งจับหน้าท้อง หมอหนุ่มเริ่มการตรวจทันที ขณะนั้นคนป่วยรู้สึกตัว เธอถอยห่างร่างใหญ่ที่นั่งใกล้ๆ พลางลำดับเหตุการณ์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

หย่าให้รักร้าวราน

หย่าให้รักร้าวราน

คุณธิดา
5.0

หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ซ่อนรักซ่อนรอยร้าว
1

บทที่ 1 พี่สาว น้องสาว คนสวยประจำหมู่บ้าน

17/09/2022

2

บทที่ 2 ผายปอด

17/09/2022

3

บทที่ 3 คู่แข่งความรัก

17/09/2022

4

บทที่ 4 ความฝันที่แสนเลือนราง

17/09/2022

5

บทที่ 5 แผนชิงรัก

17/09/2022

6

บทที่ 6 เวลาที่ควรจดจำ

17/09/2022

7

บทที่ 7 รักเขาไม่ได้

17/09/2022

8

บทที่ 8 ไม่อยากยอมรับความรู้สึก

17/09/2022

9

บทที่ 9 อยากห่างแต่ยิ่งเจอ

17/09/2022

10

บทที่ 10 ฝากรอยราคี

17/09/2022

11

บทที่ 11 ไม่อยู่ในความทรงจำเขา

21/09/2022

12

บทที่ 12 อย่าทำให้รักคุณเลย

21/09/2022

13

บทที่ 13 ทรยศความรู้สึกตน

21/09/2022

14

บทที่ 14 หนทางข้างหน้าช่างมืดมน

22/09/2022

15

บทที่ 15 ไม่นานจะลืมคุณ

23/09/2022

16

บทที่ 16 การเริ่มต้นที่แสนสนุก

24/09/2022

17

บทที่ 17 ซึ้งใจจริงๆ

25/09/2022

18

บทที่ 18 ใครบอกว่าเขาไม่อยากรับรู้

26/09/2022

19

บทที่ 19 ในวันที่เกือบจะสาย

25/09/2022

20

บทที่ 20 ไปเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย

26/09/2022

21

บทที่ 21 ยังคงมีน้ำตา

26/09/2022

22

บทที่ 22 ดีใจมากแต่ไม่ได้แสดงออกมา

26/09/2022

23

บทที่ 23 เจ็บจนเกินจะอภัย

26/09/2022

24

บทที่ 24 แอบมอง

27/09/2022

25

บทที่ 25 สวยขนาดนี้ ไม่มองก็โง่

27/09/2022

26

บทที่ 26 ว่าที่คุณแม่วีน

27/09/2022

27

บทที่ 27 สองพี่น้องขาโหด

28/09/2022

28

บทที่ 28 รักคืนรัง

27/09/2022

29

บทที่ 29 ธรรมชาติเป็นพยานแห่งรัก

28/09/2022

30

บทที่ 30 พิศวาสมิเสื่อมคลาย

28/09/2022