5.0
ความคิดเห็น
3.8K
ชม
22
บท

เวรุณีผู้สูญเสียน้องชาย ธรณ์ผู้สูญเสียน้องสาวเพราะน้องชายเธอ คนอื่นอาจมีน้ำตา ... แต่กับเขาความสูญเสียคือไฟแค้น ++++++++++++++++++++++++ “คุณแย่ใส่ผมก่อน พูดว่าน้องสาวผมตาย น้องชายคุณตายก็เจ๊ากันไป ว่าผมเป็นเกย์ แล้วยังลามปามถึงแม่ผมอีก” สายตาส่งมาโกรธเกรี้ยวราวกับจะเผาให้เป็นจุณ “เออ...ก็ได้ ฉันขอโทษ” เธอพยายามแก้สถานการณ์คับขัน อยู่ในห้องปิดตายกับเขาสองต่อสอง เกิดพี่ชายธิณาบ้าที่น้องคนเดียวตายไป จับเธอโยนจากหน้าต่างล่ะ นี่ชั้นยี่สิบกว่าๆ นะ “ตอแหล ไม่ได้มีความจริงใจเลย” แรงนิ้วมือจิกท้ายทอยเธอแรงยิ่งขึ้น จนน่ากลัวหนังหัวจะหลุดตามออกมาเป็นแผ่นๆ “น้องชายคุณทำผมหมดสิ้นทุกอย่าง น้องสาวคนเดียว ทายาทตระกูลผมหมดแล้ว” ธรณ์พึมพำกับเธอราวคนบ้า “แล้วจะให้ฉันทำยังไง บ้านฉันก็หมดตระกูลแล้วเหมือนกัน จะให้ฉันรับผิดชอบมีลูกให้เลยไหมล่ะ” คำประชดทำเอาอีกฝ่ายสะดุดกึก มองพินิจเธอด้วยแววตาคาดไม่ถึง “อย่าพูดอะไรบ้าๆ น่ะ คุณไม่ใช่สเปคผม” เสียงเยาะเจือดูถูก เวรุณีหน้าร้อน “คุณก็ไม่ใช่สเปคฉันเหมือนกัน!” +++++++++++++++

บทที่ 1 1

รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างคันนั้นเคลื่อนออกไป ทิ้งไว้เพียงควันเทาจากท่อไอเสียลอยอ้อยอิ่ง ร่างอ่อนล้าเหลือเกินค่อยๆ เลื่อนประตูรั้วเหล็กเข้าทาวเฮ้าส์หลังเล็ก ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด เวรุณีเหลียวดูลานจอดรถซึ่งเว้าเข้าไปในบ้าน ใกล้หน้าต่าง ข้างระเบียง ...ว่างเปล่า ไร้มอเตอร์ไซด์นายเวลาผู้เป็นน้องชาย แสดงว่ายังไม่กลับ

เธอแบ่งแกงจืดเต้าหู้หมูสับและยำปลาทูใส่ตู้ไว้ให้ ส่วนตัวเองยกอาหารมาจัดการหน้าโทรทัศน์ ว่าจะลดมื้อเย็นแล้วเชียว

แต่วันนี้เหนื่อยจริงๆ เงินหายไปยี่สิบห้าสตางค์ ต้องรื้องบบัญชีมาตรวจใหม่ ป้ายหน้าธนาคารบอกปิดบ่ายสามครึ่ง แต่ความจริงกว่าจะออกมาได้ก็เกือบหนึ่งทุ่ม

เวรุณีดูโทรทัศน์สลับกดโทรศัพท์มือถือติดต่อน้องชาย เวลาอายุครบยี่สิบเดือนหน้า กำลังจะจบปวส. เขาคุยกับเธอขอทำงานสักหนึ่งปี แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเบาภาระ เวรุณีไม่ขัดน้อง ดีเสียอีกจะได้มีเวลาตั้งตัวเก็บเงินบ้าง

เงินเดือนพนักงานธนาคารกับการกินอยู่สองปากในเมืองหลวง ทำเอาชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่บ่อยๆ โชคดีที่บ้านไม่ต้องผ่อน เพราะเป็นมรดกตกทอดจากพ่อแม่ผู้ล่วงลับ

หน้าจอตัดเข้าสู่ข่าวซึ่งในสื่อโซเซียลรายงานตัดหน้าไปก่อนแล้ว เธอจึงเก็บจานชามไปล้าง เวรุณีมองอาหารเกลี้ยงจานสลับกับเอวตน เธอน้ำหนักไม่ได้เกินมาตรฐาน เพียงแต่ไม่ได้ดูผอมบางอย่างสาวๆ หลายคนสมัยนี้

อกอวบอิ่ม เอวเว้า ก้นกลม มีทรวดทรง ตั้งใจอยากให้น้ำหนักลดลงจากเดิมสามสี่กิโล แต่ด้วยงานทั้งหนักและเครียด ส่งผลให้ทำอย่างที่ตั้งใจไม่ได้เสียที

“หนูทิปๆ”

ป้าจันทร์คนข้างบ้านตะโกนอยู่หน้ารั้ว

“ไทม์น้องชายหนู รถชนนะ รู้หรือยัง หน้าปากซอยนี่เอง”

เวรุณีหน้าซีด

“เขาเอาส่งโรงพยาบาลแล้ว ตามไปเร็ว!”

หญิงสาวรีบโบกรถแท็กซี่ซึ่งมาส่งคนในซอยไปที่หมายทันที

“หมอเสียใจด้วยนะครับ คนไข้อาการหนักมาก มาถึงโรงพยาบาลช้าไป”

หมอสูงวัยอธิบายเสียงเรียบ

“ทำไมช่วยน้องฉันไม่ได้คะ เหตุการณ์เกิดไม่ถึงชั่วโมงเลย!”

“คนไข้คอหักครับ หมอช่วยไว้ไม่ได้จริง”

เวรุณีรับฟังน้ำตาไหลพราก ทรุดลงนั่งกับเก้าอี้พลาสติกหน้าห้องฉุกเฉิน ระหว่างสมองยังมึนงง จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกนั้น ฝีเท้าหนักๆ หลายคู่ก็ย่ำเข้ามาใกล้

“หมอครับ น้องสาวผมเป็นยังไงบ้าง คนไข้ที่ชื่อธิณา”

ร่างสูงในชุดสูทเทาผูกเนคไทน์ดำถามร้อนรน

“เสียใจด้วยครับ คนขับกับคนซ้อนท้ายเสียชีวิตทั้งคู่”

“อุบัติเหตุเพิ่งเกิดชั่วโมงเดียวนะ ทำไมช่วยไว้ไม่ได้”

คนมาด้วยอีกคนยกมือแตะอกเสื้อปราม เพราะเขาทำท่าพร้อมกระโจนใส่หมอทุกเมื่อ

“ทั้งสองคนคอหักครับ ช่วยไว้ไม่ได้”

ว่าแล้วหมอก็ขอตัวไปดูคนไข้อื่น ผู้ชายคนนั้นร่างสั่นเทิ้ม กำมือทั้งสองแน่นสะกดอารมณ์

“คุณเป็นญาติผู้ตายใช่ไหมคะ”

พยาบาลเดินเข้ามาคลายสถานการณ์โศกเศร้า

“ค่ะ นายเวลา ...คนตาย เป็นน้องชายฉัน”

คนสวมสูทหันควับมาทางเวรุณี ดวงตากร้าววาวโรจน์

“ผมเป็นพี่ชายของธิณา คนที่น้องชายคุณพาไปตาย”

เธออ้าปากค้างกับเรื่องใหม่

“เอ๊ะ! อย่ามากล่าวหากันสิคุณ”

แวดได้เท่าที่แรงมี เงยสู้เขาไม่หวั่นเกรง แม้น้ำตายังพรั่งพรูก็ตาม

“หมอก็บอกแล้วนี่ว่าตายทั้งคู่ น้องสาวคุณ น้องชายฉัน”

เวรุณีกำลังเศร้า ไม่พร้อมเจอเหตุการณ์อะไรอีก

“ถ้าน้องชายคุณไม่พาน้องสาวผมไปแว๊นซ์ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คงไม่เกิดเรื่อง”

“ใจเย็นๆ ครับคุณธรณ์”

คนสวมสูทอีกคนเข้ามาคั่นกลางระหว่าง เวรุณีที่นั่งอยู่ กับธรณ์ผู้ทำท่าจะขย้ำเธอได้ทุกเมื่อ

“ใครจะไปรู้ล่วงหน้าล่ะ ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เราต่างเสียคนที่รักไปทั้งคู่ ก็เจ๊ากันไป”

ด้วยอารมณ์ไม่ปรกติ สมองไม่แล่น เวรุณีจึงเลือกใช้คำง่าย ...จนยิ่งไปสุมไฟในใจอีกฝ่าย

“ไม่มีเจ๊ากัน อย่ามาพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ ผมมีน้องสาวคนเดียวนะ!”

“ฉันก็มีน้องชายคนเดียวเหมือนกัน!”

“เอาละค่ะๆ ญาติทั้งสองฝ่ายพอได้แล้ว”

พยาบาลรีบห้ามก่อนยืดเยื้อมากกว่านี้

“คนตายไปแล้ว จะจัดการอะไร ยังไงขอให้เป็นเรื่องทีหลัง แต่ตอนนี้ไปจัดการเอกสารกับโรงพยาบาลก่อน ตามมาทางนี้ค่ะ”

เวรุณีลุกขึ้นสะบัดหน้าพรืด เดินตามพยาบาลไป โดยไม่สนใจว่าร่างสูงจะมาด้วยหรือไม่

งานศพเวลาเต็มไปด้วยความเงียบเหงา เธอกับน้องเหลือญาติไม่มากนัก บางคนก็อยู่ไกล ที่มาร่วมงานส่วนมากจะเป็นเพื่อนบ้านกับเพื่อนร่วมงานธนาคาร เพื่อนเวลามาไหว้ศพเป็นกลุ่มใหญ่ และเล่าเรื่องธิณากับน้องคร่าวๆ

“เขาเป็นเด็กใจแตก ไทม์มันคุยดีด้วย เพราะเห็นเป็นลูกค้าร้านเบียร์”

เวลามีงานพิเศษเป็นเด็กเสิร์ฟร้านเบียร์ แต่ไม่เคยเหลวไหล การเรียนดีตลอด กลับมานอนบ้านทุกคืน

“หลังๆ ธิณาตามมันแจเลยละครับ บางครั้งก็มาหาทั้งชุดนักเรียน”

“เขาอายุเท่าไรกันแน่ เด็กคนนั้น”

พี่ชายคนตายเธอจำหน้าไม่ได้ ด้วยขณะนั้นม่านน้ำตาแห่งความเสียใจครอบคลุมทุกสิ่ง แต่คะเนจากการแต่งตัว ...ว่าต้องมีฐานะดี

“ม.ห้าครับ”

เพื่อนน้องชายอึกอัก

“แต่ไทม์มันไม่มีอะไรนะครับ มันสงสารเด็ก คุยด้วยเฉยๆ บางทียังไล่ให้ไปทำการบ้านส่งครูเลย”

โชคชะตาช่างยุติธรรม หยิบยื่นความตายให้โดยไม่ละเว้น ไม่ว่ารวยหรือจนล้วนเท่าเทียม เสียแต่ว่าพรากชีวิตพวกเขาไปเร็วเหลือเกิน หนุ่มสาวอายุยังน้อย เวรุณีคิดพลางถอนหายใจขณะมองกลุ่มควันจากปล่องเมรุเผาน้องชาย

“ทิปเป็นยังไงบ้าง”

พจนารถเพื่อนร่วมงานทักเมื่อเห็นเธอวางกระเป๋าเก็บในล็อกเกอร์ก่อนเข้างาน เวรุณียิ้มเซียวๆ แทนคำตอบ

“ทำใจให้สบายนะ เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาของโลก”

“ขอบใจ”

เธอไม่รู้จะพูดอะไรได้มากกว่านี้

“ทุกคนมานี่หน่อย ผู้การมีเรื่องจะแจ้ง”

หัวหน้างานเรียกเข้าห้องประชุมซึ่งผู้จัดการธนาคารนั่งบนหัวโต๊ะ เรื่องที่ผู้จัดการหรือเรียกย่อตามปากคนธนาคารว่า ‘ผู้การ’ แจ้งคือจะมีการเปลี่ยนผู้บริหาร

ธนาคารเวรุณีถูกเทคโอเวอร์มาหนึ่งปีแล้ว โดยกลุ่มธุรกิจใหญ่ แรกๆ ก็ให้ผู้บริหารชุดเดิมบริหารไปก่อนเพื่อความต่อเนื่องในนโยบาย จนมาปีนี้ก็เข้ามาบริหารเต็มตัว

ผู้จัดการแจ้งทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบต่อพนักงานระดับปฏิบัติการเล็กๆ อย่างพวกเธอ เวรุณีประคองสติทำงานด้วยใจอันพยามยามเข้มแข็ง

ต่อแต่นี้ต้องอยู่คนเดียวแล้ว ไม่มีน้องชาย บ้านก็เงียบเหงา การทำงานเป็นสิ่งเดียวในชีวิตที่ช่วยให้เธอไม่ร้องไห้ คลายความเศร้าโศกจากความสูญเสีย

บ่ายหนึ่งพจนารถชวนไปทานข้าว เขาพยายามคุยเรื่องต่างๆ ปลอบ ชายหนุ่มเข้าใจอารมณ์เธอ เพราะเขาเพิ่งเสียแม่ไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปีที่แล้ว เวรุณีทานนิดเดียว เขี่ยข้าวในจานไปมารอเวลาเข้าทำงาน เมื่อกลับมา ภายในออฟฟิศเกิดโกลาหลย่อยๆ เพื่อนโต๊ะใกล้กันกระซิบ

“ซีอีโอใหม่จู่ๆ ก็มาเยี่ยมชั้นเรา เก็บของให้เรียบร้อยเร็ว ผักชีโรยหน้าหน่อย”

สักพักรองผู้จัดการมาบอก

“ทิปมานี่หน่อย”

เขาพาเธอมายังห้องประชุมเล็ก เคาะสองสามทีประตูก็เปิดออก ในห้องมีผู้ชายสองคน หนึ่งอยู่หลังประตูยิ้มละไมให้ ส่วนอีกหนึ่งหันหน้าเข้าหน้าต่างกระจกใสซึ่งฉายทิวทัศน์ตึกสูงทันสมัย และถนนเต็มไปด้วยรถรามากมายในเมืองหลวง

“ทุกคนออกไปก่อน”

ร่างสูงในสูทดำหันมาประจันหน้า เขาคุ้นตาแปลกๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผิวขาว คิ้วดำสนิทเหมือนเส้นผมซึ่งหวีเสยเรียบ จมูกโด่ง ริมฝีปากสีเข้มบาง หล่อไม่ถึงขนาดดารา ...แต่มาดดูดีมีฐานะ

“ทำงานอยู่ที่นี่เองเหรอ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรางกุหลาบ

พรางกุหลาบ

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

โรแมนติก

5.0

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
4.5

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ