Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

เฌอเลียร์

5.0
ความคิดเห็น
46.9K
ชม
33
บท

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

บทที่ 1 บทนำ

“พ่อ...แม่ปราบเมื่อไรจะทำหน้าที่นางฟ้าเสร็จฮะ”

ในรถเอสยูวีคันโตเกิดอุณหภูมิลดฮวบกะทันหัน วิเชียรที่นั่งข้างคนขับเหลือบตาดูเด็กชายผู้นั่งคนเดียวที่เบาะหลัง สลับกับเจ้านายผู้นั่งหลังพวงมาลัย เห็นแล้ว มือกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน

“ปราบอยากเจอแม่”

เจ้าตัวน้อยอมลมจนแก้มพอง

“ทุกคนมีหน้าหน้าที่ต้องทำ แม่...ก็มีหน้าที่ของเขา”

ผู้เป็นพ่อตอบเสียงต่ำ ๆ ตามองไปยังถนน ทว่าร่างใหญ่โตแผ่รังสีอึมครึมชวนอึดอัดออกมา

วิเชียรกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อเรื่องต้องห้ามถูกเอ่ยออกจากผู้เป็นนายน้อยของบ้าน

“พ่อช่วยบอกแม่ทำงานเสร็จเร็ว ๆ ได้ไหมฮะ ปราบคิดถึง”

บรรยากาศน่าจะเศร้ากว่านี้ ถ้าคนนั่งเบาะหลังจะไม่พูดเสร็จแล้วล้วงมือหยิบโดนัทเคลือบช็อกโกแลตจากถุงออกมาเคี้ยวหงุบ ๆ หงับ ๆ

“อืม...”

ไผทรับคำ เมื่อเห็นความสนใจของเด็กชายเบี่ยงเบนไปที่ของกิน บรรยากาศกดดันค่อยผ่อนคลายลงมาหน่อย ลูกน้องอย่างวิเชียรถึงกับเป่าปากโล่งอกไปด้วย

“เกลไม่ชอบกินบร็อคโคลี่”

สกลกันต์กินขนมพร้อมเล่าเรื่องในโรงเรียนไปเรื่อย เหมือนทุก ๆ วันยามผู้เป็นบิดาขับรถมารับจากโรงเรียนอนุบาล

“อืม...”

ไผทตอบรับลูก แสดงความเอาใจใส่ เรื่องพวกนี้เขาอ่านมามากแล้วจากหนังสือจิตวิทยาการเลี้ยงเด็ก คิดว่าตัวเองรับมือลูกได้ดีประมาณหนึ่ง

“เพราะบร็อคโคลี่ขมไม่อร่อย”

“อืม...”

สงสัยมื้อเย็นเขาต้องสั่งยายพุด แม่ครัวประจำบ้านให้งดทำกับข้าวที่มีส่วนประกอบเป็นเจ้าผักเขียว ๆ นี่สักอาทิตย์

“แต่เกลบอก แม่เกลมีเวทมนตร์ทำให้บร็อคโคลี่อร่อย”

ไผทเหยียบเบรกเอี๊ยด สีแดงขึ้นบนสัญญาณไฟจราจรที่สี่แยกพอดี ในรถอุณหภูมิลดต่ำอีกแล้ว แต่กระนั้นวิเชียรก็มีเหงื่อผุดขึ้นหน้าผาก

“ปราบไม่ชอบมะเขือเทศ แม่เป็นนางฟ้า ต้องมีเวทมนตร์ทำให้มะเขือเทศอร่อยแน่ ๆ เลย ปราบอยากเจอแม่”

ตาคมเข้มที่ได้ต้นแบบมาจากไผทมีไฟลุกโชน แสดงความมุ่งมั่น แต่แก้มกลมยังมีเศษช็อกโกแลตเปื้อนอยู่เลย

“เป็นลูกผู้ชาย อย่าคิดเล็กคิดน้อย เอาชนะผู้หญิงด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้สิ”

ผู้เป็นพ่อจับไต๋ได้ คงไม่พ้นโดนเพื่อนขิงมาแน่ ๆ

“ก็เกลบอกว่าคนกินผักได้เท่นี่นา ดีนกินผักได้หมด เกลบอกว่าเท่มาก ปราบกินผักทุกอย่างได้เหมือนกัน”

ผู้ใหญ่สองคนถึงกับอมยิ้ม เมื่อได้ฟังเรื่องว้าวุ่นของวัยรุ่นฟันน้ำนม

“...ยกเว้นมะเขือเทศ มันไม่อร่อยจริง ๆ นะฮะพ่อ แต่ปราบอยากเท่ไง”

โดนัทหมดชิ้น เจ้าตัวขยำถุงที่ใส่เสียเป็นก้อนกลม บ่งบอกความขัดอารมณ์เป็นอย่างมาก

“งั้นเดี๋ยวพ่อจะให้ยายพุดทำเมนูมะเขือเทศเยอะ ๆ ปราบจะได้ฝึกกินไว้”

ไฟเขียวกะพริบขึ้น พร้อมอารมณ์ของไผทที่ดีขึ้นมาก เมื่อหาทางออกของวิกฤติประจำวันกับเจ้าลูกชายตัวดีได้

“อึ๊ย...ยายพุดชอบทำมะเขือเทศผัดไข่เละ ๆ ไม่อร่อย” สกลกันต์เบ้หน้า

“งั้นซุปไก่ใส่มะเขือเทศล่ะ เอาไหม”

วิเชียรเป็นคนพยักหน้าเสียเอง เจ้าซุปนี่บีบมะนาว ใส่น้ำปลา บุบพริกขี้หนูใส่เสียหน่อย มันคือกับแกล้มเหล้าแซ่บ ๆ ดี ๆ นี่เอง นึกถึงแล้วเปรี้ยวปาก

“เช็ดน้ำลายด้วยไอ้เชียร กูถามลูกกู มึงไม่ต้องทำท่าอยากกินขนาดนั้น”

ลูกน้องหัวเราะแหะ ๆ ที่เจ้านายรู้ทัน

“ใส่สปาเกตตีด้วยนะ ปราบชอบ”

“ได้ แวะห้างกันหน่อย จะได้ซื้อของไปให้ยายพุดทำให้”

แม่ครัวถนัดทำอาหารไทย เมนูฝรั่งไผทเคยซื้อหนังสือไปให้เหมือนกัน แต่ยายพุดบอกอ่านไม่รู้เรื่อง จำไม่ได้ว่าอะไรเป็นอะไร

ขนาดมักกะโรนีที่ใส่ในซุปไก่ ยายพุดยังเรียกผิดเป็นสปาเกตตี เลยพลอยทำให้สกลกันต์เรียกผิดไปด้วยจนถึงทุกวันนี้

เมนูฝรั่งที่ลูกชายได้กินมาจากการเห็นในยูทูปบ้าง เห็นเพื่อนกินบ้าง ที่โรงเรียนมีให้กินบ้าง

“ซื้อชีสวัวหัวเราะด้วยนะพ่อ ดีนกับเกลบอกว่าอร่อย”

ไผทผงกศีรษะให้ ก่อนเลี้ยวรถเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าหรูที่สุดในจังหวัด เพื่อซื้อของให้ลูกชายคนเดียวอย่างตามใจ

เหมือนทุกครั้งที่มีประเด็นเรื่องแม่ของเจ้าตัวผุดขึ้นมา

“ไง...แก”

ศรัญญาทักทันทีเมื่อเห็นหญิงสาวเดินหน้าบานกลับเข้ามาในร้านคาเฟ่

“เขาน่ารักมากเลย”

วัชรมัยเปี่ยมสุขจนยิ้มตาหยี เพื่อนเอาน้ำเปล่าใส่มะนาวฝานมาเสิร์ฟ เธอเลือกนั่งห้องพิเศษของร้าน ที่ศรัญญาเอาไว้ให้ลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรืออยากเช่าไว้ประชุมขนาดเล็ก

“ลูกของฉัน หน้าเหมือนพ่ออย่างกับก๊อบปี้วาง โตไปคงหล่อน่าดู”

พอนึกถึงอีกคน ใบหน้าชื่นมื่นของวัชรมัยก็เจื่อนลง

“ฉันมันเลวจริง ๆ นะเก๋ ที่ทิ้งลูก ไม่เคยมาดูดำดูดีเขาเลย เสียดายจริง ๆ”

ในตาร้อนผ่าว น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อ

“อย่าคิดมากสิแก เดี๋ยวอาการจะยิ่งแย่”

ศรัญญามองหาทิชชู ก่อนวิ่งไปคว้าที่อยู่นอกห้องประชุมมายื่นให้

“ฉันเป็นแม่ที่เลวจริง ๆ”

น้ำตากลิ้งเผาะไหลอาบแก้ม เมื่อนึกถึงการกระทำที่ผ่านมาของตัวเอง

“ถ้าลูกรู้ต้องเกลียดฉันแน่ ๆ”

เด็กชายแก้มกลมใส ตาคมกริบ ตัวนิดเดียว เล็กไปเสียทุกส่วน วัชรมัยอยากยื่นมือไปสัมผัส แต่ความผิดบาปที่เกาะกินจิตใจทำให้เธอทำได้เพียงตัวแข็งทื่อ ยืนนิ่งงันมองเด็กชาย

ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสเข้าใกล้ได้เพียงถึงขนาดนี้

“ฉันจะทำยังไงดีเก๋”

ศรัญญามองเพื่อนแล้วถอนหายใจ สภาพวัชรมัยเหมือนวันนั้น วันที่เธอไปส่งเพื่อนขึ้นรถไปกรุงเทพฯ วัชรมัยตัวสั่น ร้องไห้น้ำตาท่วม

เวลาห้าปีเปลี่ยนเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้น แต่เพื่อนยังอ่อนไหวเหมือนเดิม

...เหมือนวันที่ยังเป็นเพียงเด็กสาวเพิ่งคลอดลูกวัชรมัยในวัยยี่สิบห้าปี ราวกับกลับเป็นสาวอายุยี่สิบ

“ใจร่ม ๆ ไว้แก อย่าคิดมาก เดี๋ยวอาการทรุด”

เพื่อนที่จากที่นี่ไปดังนกปีกหัก มีเพียงข่าวคราวส่งมาบอกสบายดี ศรัญญาพลอยดีใจด้วย ก่อนกลับมาเจอกันอีกเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมความจริงอันหนักอึ้ง

“กรรมตามฉันทันแล้วแก”

เสียงสะอื้นไห้ดังทั่วห้อง ศรัญญาสงสารในชะตากรรมของอีกคนจนต้องโอบประคองปลอบ

“ฉันทำผิด...ทำบาปกับลูกเหลือเกิน”

สุดท้ายเด็กชายที่เธอปล่อยมือ ยื่นสิทธิ์ให้คนอื่น วันนี้กลับเป็นเธอที่อาลัยเขากว่าใคร อยากกอด อยากหอม

อยากได้ยินเสียงเล็ก ๆ นั้น เรียกว่า...แม่

“ฉันมันคนเห็นแก่ตัว”

ศรัญญาลูบหลังเพื่อนเหมือนเคย ปลอบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอจนกระทั่งวันนี้

“สมแล้วที่ฉันได้รับกรรม”

วัชรมัยเป็นคนเลว สมแล้วที่ตกอยู่ในสถานการณ์ร้ายในชีวิตเช่นนี้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรางกุหลาบ

พรางกุหลาบ

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

โรแมนติก

5.0

Bitter & Sweet +++++++++++++++++++++ จากวันวานที่เคยปฏิเสธความรัก วันนี้ลลินทร์อยู่ในสภาพ...แห้ง ขาดรัก ก็ว่าจะไม่สนใจความรักแล้วเชียว แต่นักเขียนนิยายรักหนุ่มกลับมาป่วนให้ใจสะดุด งานนี้คนเกลียดนิยายรักอย่างเธอ...จะทำยังไงดีล่ะ +++++++++++++++++++++ “คุณนี่ไม่โรแมนติกเลย ไม่รู้จักกระทั่งรสหวานหรือขมของความรัก นิยายรักน่ะมีพื้นฐานมาจากเรื่องพวกนี้แหละ” เขาต่อว่ากันซึ่ง ๆ หน้า “คุณเคยรักใครบ้างไหมครับ รักมากจนเจ็บเมื่อเขาทรยศ จากกันเป็นสิบปี คิดว่าจะลืมเขาเสียแล้ว แต่แค่เจอหน้า ความรู้สึกเจ็บก็แล่นแปล๊บเข้าในอก” สาบานได้ว่าลลินทร์ได้ยินคำพูดนี้จากปากคน ไม่ใช่ตัวอักษรบนกระดาษ เขาช่างสมกับเป็นนักเขียนขายดีเสียจริงขนาด แค่พูดยังเป็นสำนวนสละสลวยถึงเพียงนี้ ดวงตาคมกริบมองเธอเรียบนิ่ง “ความรู้สึกทั้งโมโหที่เธอไม่สนใจ ทั้งเกลียดตัวเองที่ยังมองตามเธออยู่ได้ รู้สึกขมขื่นใจเมื่อคิดถึง” ชายหนุ่มกดปุ่มปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วพับหน้าจอลงเสีย วางมันไว้ใกล้ไอแพ็ด “บอกผมหน่อยสิคุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยมานั้นแปร่งปร่า จนสองสาวรู้สึกได้ “ตอบสิครับ คุณคนไม่โรแมนติก” สามครั้งภายในวันเดียวที่โดนเขาว่าเช่นนี้ โรแมนติกหรือไม่ ...อย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย จะมาจี้ถามเอาอะไรจากเธอ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุกและบุญรักษาค่ะ จโกระ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ภริยา(ไม่)รักของนายหัว
1

บทที่ 1 บทนำ

19/12/2023

2

บทที่ 2 ปราบไม่กินมะเขือเทศ โตไปไม่หล่อหรอก

19/12/2023

3

บทที่ 3 ฉันแค่อยากเห็นหน้าลูก

19/12/2023

4

บทที่ 4 ปราบคิดถึงแม่

19/12/2023

5

บทที่ 5 แม่ทำอะไรไม่ดีเหรอครับ บอกปราบสิ เดี๋ยวปราบเคลียร์กับพ่อให้

19/12/2023

6

บทที่ 6 เนี่ย...แม่ดูสิ พ่อชอบดุปราบ

19/12/2023

7

บทที่ 7 ปราบอยากเจอแม่ พ่อพามาแม่มาหาปราบอีกได้ไหม

19/12/2023

8

บทที่ 8 แม่กลับมาอยู่กับปราบตลอดไปแล้วใช่ไหม

19/12/2023

9

บทที่ 9 จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ

19/12/2023

10

บทที่ 10 ทำไม เธอจะเก็บจูบไว้ให้ใคร

19/12/2023

11

บทที่ 11 โป้ง! ปราบโกรธพ่อแล้ว

19/12/2023

12

บทที่ 12 แม่เรากลับจากบนฟ้า จะมาอยู่กับเราตลอดไป

19/12/2023

13

บทที่ 13 ไม่ใช่เมีย!

19/12/2023

14

บทที่ 14 ปราบไม่ได้โดนทิ้ง!

19/12/2023

15

บทที่ 15 โกหก! ลูกฉันเป็นเด็กดี ไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่

19/12/2023

16

บทที่ 16 ลูกเมียกินอะไร ฉันก็จะกินอย่างนั้น

19/12/2023

17

บทที่ 17 ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าเธอไม่โกหก

19/12/2023

18

บทที่ 18 แม่เป็นอะไรเหรอ ปราบเป่าเพี้ยง ๆ ให้ได้นะ

19/12/2023

19

บทที่ 19 พี่ป้องเป็นแค่พ่อของลูก ไม่ใช่ผัวมิ้งเสียหน่อย

19/12/2023

20

บทที่ 20 ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอ

19/12/2023

21

บทที่ 21 อืม...ให้แล้วไม่เอาคืน

19/12/2023

22

บทที่ 22 ร้านนี้แหละ กลิ่นดี ต้องอร่อยแน่

19/12/2023

23

บทที่ 23 ฉันไม่กินขี้มือคนอื่นนอกจากเมียหรอก

19/12/2023

24

บทที่ 24 ผมชื่อไผท...เป็นสามีมิ้ง

19/12/2023

25

บทที่ 25 มิ้ง...นี่พี่เอง ผัวเธอนั่นแหละ

19/12/2023

26

บทที่ 26 บทส่งท้าย

19/12/2023

27

บทที่ 27 บทพิเศษ สามคืน 1

19/12/2023

28

บทที่ 28 บทพิเศษ สามคืน 2

19/12/2023

29

บทที่ 29 บทพิเศษ สามคืน 3

19/12/2023

30

บทที่ 30 บทพิเศษ สามคืน 4

19/12/2023

31

บทที่ 31 บทพิเศษ สามคืน 5

19/12/2023

32

บทที่ 32 บทพิเศษ สามคืน 6

19/12/2023

33

บทที่ 33 บทพิเศษ ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

19/12/2023