Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
119
ชม
26
บท

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

บทที่ 1 บทนำ

วันนั้นเป็นช่างเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส คงเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

ฉันรับรู้ได้จากแสงตะวันเจิดจ้าอบอุ่นที่ตกกระทบผิว แม้มันจะทำให้ดวงตาฉัน ที่ตกอยู่ในความมืดมานานหลายวันต้องพร่า จนต้องหยีมองก็ตาม

จมูกแห้งจนผิวเนื้อตกสะเก็ดยังได้กลิ่น หญ้าแห้ง เจือกลิ่นเก่า ๆ ไม่อภิรมย์ของเนื้อไหม้ ปนกลิ่นอันโสมมจากอุจจาระปัสสาวะ ผู้คุมกระตุกโซ่ตรวนหนาหนักที่คล้องมือ เมื่อเห็นเท้าอันเปลือยเปล่าของฉันเริ่มชะลอช้าลง เสียงผู้คนรอบข้างเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ

“นังแม่มด”

“นังคนชั่วช้า”

“นอกรีต”

“เจ้าจะไม่ตายดี”

“คนทรยศพระเจ้า ทำสัญญากับปีศาจ”

คำก่นด่าอื้ออึงไปทั่วบริเวณ นิ้วผู้คนตามทางชี้มาทางฉันอย่างกล่าวหา

“ปึ๊ก!”

หินก้อนใหญ่ลอยละลิ่วออกจากฝูงคน กระทบหน้าผากฉัน ทำเอาตัวงอเพราะความเจ็บจี๊ด ก่อนจะรู้สึกถึงเลือดซึม

“ชำระมัน! ลงโทษนังแม่มดเสีย”

น้ำเหนียวหนืดไหลรดดวงตาฉัน เห็นภาพชายผู้เป็นต้นเสียงด้วยพร่าเลือนด้วยเปื้อนธารโลหิต เขามีกางเขนสีเงินเด่นอยู่บนเสื้อคลุมดำ

“ขอพระเจ้าจงอำนวยพรแด่การชำระล้างนางในครั้งนี้ด้วยเถิด”

แล้วเขาก็กุมมือสวด ฉันหัวเราะหึ รู้ดี คนอย่างเขาไม่ได้สวดให้อย่างจริงใจหรอก ใครจะเปลืองแรงเช่นนั้นกับศัตรูจริงไหม

“ฆ่ามัน ฆ่าแม่มดเสีย”

ผู้คุมกระตุกโซ่ดึงฉันที่อ่อนระโหยโรยแรง เดินไปเรื่อยสู่ลานกว้างกลางเมือง เสาต้นสูงตั้งตระหง่าน ใต้นั้นมีกองฟางสุมอยู่ และชาวบ้านหน้าถมึงทึง

ไม่ไกลออกไปมีลานยกสูง เก้าอี้ประดับผ้าไหมบุอย่างดี ผู้คนแต่งกายสวยงามราวกับมาดูละครรวมกันอยู่ตรงนั้น

ชายอ้วนเตี้ยในชุดคลุมดำมีกางเขนห้อย พร่ำเพ้ออะไรสักอย่างเกี่ยวกับพระเจ้าและบาป พร้อมสาธยายเรื่องความชั่วร้ายมากมายที่ฉันแน่ใจว่าไม่ได้ทำ

ริมฝีปากแห้งผากของฉันสั่นระริก เตรียมพร้อมเอ่ยค้าน สายตาที่พร่าเลือนกลับไปเห็นบางอย่างเสียก่อน

ท่ามกลางผู้คนบนเวที มีร่างหนึ่งยืนโดดเด่น ชุดลูกไม้ติดชายระบายฟูฟ่อง สีขาวราวชุดเจ้าสาว แต่ยังมีเสื้อแดงคลุมอยู่ ผมสีทองคลอเคลียถึงเนินอกอวบ

ทว่าที่ทำใจฉันกระตุกเต้นแรง บีบรัดจนเจ็บในอกคือดอกกุหลาบสีม่วงก้านยาวในมือเธอ

สายตาฉันเคลื่อนไป พบร่างสูงใหญ่ยืนเคียงข้างคนชุดขาว ผมสีทองปลิวไสว ตัดกับชุดคลุมองอาจสีดำ ท่ามกลางโลหิตที่ไหลเปรอะดวงตา ฉันเห็นดวงดาวสีฟ้าหนึ่งคู่เรืองรองอยู่ในนั้น

ความพร่าเลือนทำให้ไม่อาจเห็นหน้าเขาชัด มีเพียงดวงตาที่สบกัน ฉันอยากพึมพำบางอย่างแต่ไร้เสียงออกมา

เขาแตะไหล่กระชับเสื้อคลุมสีแดงของเธอให้แน่นขึ้น คนถูกปฏิบัติอย่างทะนุถนอมส่งรอยยิ้ม

บรรยากาศอบอุ่นอ่อนหวานลอยฟุ้งไปทั่ว ขอบตาฉันผ่าว น้ำอุ่นผสมโลหิตช่างแสบเหลือเกิน ทุกหยาดหยด ทุกพื้นผิวที่น้ำในตาไหลผ่าน ฉันปวดแสบปวดร้อน เหมือนใครเอาน้ำกรดมาราด

ในวันท้องฟ้าแจ่มใสลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาอ่อน ๆ เส้นผมสีทองและกลีบกุหลาบสีม่วงพลิ้วไหว บางกลีบร่วงหล่นตกลงสู่พื้นด้วยซ้ำ

นักโทษที่อยู่ข้างฉันอาศัยจังหวะผู้คุมเผลอวิ่งหลบหนี เกิดยื้อยุดกันอย่างโกลาหล เจ้านั่นก่นด่าทั้งพระเจ้า ทั้งราชวงศ์ กล่าวอย่างอาฆาตว่าตายแล้วจะเป็นปีศาจมาล้างแค้น

คนขวัญอ่อนบนเวทีตัวสั่น เดินหลบบ้าง เปลี่ยนให้ทหารท่าทีขึงขังขึ้นมายืนเป็นเกราะกำบังบ้าง

ฉันเห็นคนตัวสูงชุดก้าวบังหญิงสาว รองเท้าบูตหนังเหยียบกลีบกุหลาบม่วง

ในอกฉันเจ็บเหมือนมีเข็มนับหมื่นนับพันทิ่ม น้ำในตายังไหลริน อาบแก้มจนถึงริมฝีปาก รสเค็มปนรสโลหะคืออาหารมื้อแรกนับตั้งแต่ฉันถูกจับขัง

เราสบตากัน

ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน

ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง

“เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด”

เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน

ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา

ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด

ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว

“ประหารแม่มด”

ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก

“ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย”

ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ

หรือที่ชาเป็นเพียงผิวเนื้อที่ถูกไฟไหม้ แต่หัวใจยังเจ็บเหมือนเดิม อย่าเพิ่งไปสิดวงดาวสีฟ้า ขอร้องล่ะ ให้เห็นได้มองอีกสักครั้ง

“สเวน!”

ฉันเรียกชื่อเขาดังเคยเอื้อนเอ่ยในวันวาน ดวงดาวสีฟ้าในชีวิต

ทว่าคนที่เพรียกหาไม่แม้หันมา เขาประคองหญิงสาวในชุดขาวลงจากเวทีไป เหลือเพียงกลีบกุหลาบม่วงช้ำที่ถูกเหยียบย่ำ พร้อมดวงตาอันมืดดับ และสติอันขาดห้วงของฉัน

“เห้!...เอ๊ย!”

ฉันสบถลืมตาตื่นพร้อมฮุบหายใจเฮือกใหญ่ ลุกนั่งพรวดพราดขึ้นจากเตียง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าผาก

ฝันเฮงซวยนี่อีกแล้ว เกือบตายตามคนในฝันแล้วไหมล่ะ

มือยกเช็ดเหงื่อ ก่อนแลไปบนโต๊ะเขียนเขียนหนังสือริมหน้าต่างกระจก กุหลาบสีลาเวนเดอร์อวดโฉมอยู่ในโถแก้ว กลีบหนาสวยราวกับกำมะหยี่ จังหวะที่ต้องไฟก็ส่งแสงเรืองรอง สวยเหมือนไม่มีอยู่จริง

ปากกำลังจะอ้าด่าเจ้าสิ่งลึกลับ ตากลับเห็นเวลาบนหน้าปัดนาฬิกามินิมอลสไตล์มูจิ

“เฮ้ย!”

ฉันกระโดดแผล็วลงจากเตียง เจ็ดโมงครึ่ง หลับเกินเวลาตื่นปรกติไปเป็นชั่วโมง สายแล้ว!

รีบเร่งทำกิจวัตร คว้าเสื้อผ้ารองเท้ามาสวม รีบลงลิฟต์ ขึ้นขี่วินมอเตอร์ไซด์หน้าคอนโดฯเพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า เริ่มต้นชีวิตพนักงานออฟฟิศตัวเล็ก ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง

ในใจคิดว่า ไม่น่าเลยจริง ๆ วันนั้นไม่น่าไปยืนหลบฝนหน้าร้านไม่น่าไว้ใจนั่น จนได้เผลอซื้อของอาถรรพ์

เบียดบังเวลาการนอนของฉันทุกค่ำคืนอยู่นี่ไง

“รีบเลยค่ะพี่! เอาให้ว่อง ถ้าถึงสถานีบีทีเอสภายในห้านาทีนี้หนูให้เพิ่มร้อยหนึ่งเลยค่ะ”

วินฯสีกั๊กส้มพยักหน้าตกลง บิดซ้าย แซงขวา ท้านรก กระทั่งสี่นาทีสามสิบวินาที ฉันก็ได้มายืนหน้าสถานีไฟฟ้า พร้อมเงินปลิวจากกระเป๋าไปร้อยยี่สิบบาท

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

โรแมนติก

5.0

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

Bitter & Sweet ไม่สายที่จะรัก

โรแมนติก

5.0

Bitter & Sweet +++++++++++++++++++++ จากวันวานที่เคยปฏิเสธความรัก วันนี้ลลินทร์อยู่ในสภาพ...แห้ง ขาดรัก ก็ว่าจะไม่สนใจความรักแล้วเชียว แต่นักเขียนนิยายรักหนุ่มกลับมาป่วนให้ใจสะดุด งานนี้คนเกลียดนิยายรักอย่างเธอ...จะทำยังไงดีล่ะ +++++++++++++++++++++ “คุณนี่ไม่โรแมนติกเลย ไม่รู้จักกระทั่งรสหวานหรือขมของความรัก นิยายรักน่ะมีพื้นฐานมาจากเรื่องพวกนี้แหละ” เขาต่อว่ากันซึ่ง ๆ หน้า “คุณเคยรักใครบ้างไหมครับ รักมากจนเจ็บเมื่อเขาทรยศ จากกันเป็นสิบปี คิดว่าจะลืมเขาเสียแล้ว แต่แค่เจอหน้า ความรู้สึกเจ็บก็แล่นแปล๊บเข้าในอก” สาบานได้ว่าลลินทร์ได้ยินคำพูดนี้จากปากคน ไม่ใช่ตัวอักษรบนกระดาษ เขาช่างสมกับเป็นนักเขียนขายดีเสียจริงขนาด แค่พูดยังเป็นสำนวนสละสลวยถึงเพียงนี้ ดวงตาคมกริบมองเธอเรียบนิ่ง “ความรู้สึกทั้งโมโหที่เธอไม่สนใจ ทั้งเกลียดตัวเองที่ยังมองตามเธออยู่ได้ รู้สึกขมขื่นใจเมื่อคิดถึง” ชายหนุ่มกดปุ่มปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วพับหน้าจอลงเสีย วางมันไว้ใกล้ไอแพ็ด “บอกผมหน่อยสิคุณเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยมานั้นแปร่งปร่า จนสองสาวรู้สึกได้ “ตอบสิครับ คุณคนไม่โรแมนติก” สามครั้งภายในวันเดียวที่โดนเขาว่าเช่นนี้ โรแมนติกหรือไม่ ...อย่างไร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย จะมาจี้ถามเอาอะไรจากเธอ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุกและบุญรักษาค่ะ จโกระ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

โรแมนติก

5.0

“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

มหาเศรษฐี

4.9

เมื่อองค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ถูกวางยาปลุกกำหนัดในคืนวันอภิเษกสมรส... จิรัชยาเป็นเพียงลูกของนางบำเรอของอัครมหาเสนาบดีประจำมหานครฟาดิลาห์ หน้าที่ของลูกนอกสมรสอย่างหล่อนก็คือคอยรับใช้ ฮันนา ว่าที่องค์สุลตาน่า ความทุกข์แสนสาหัสเดียวในใจของหล่อนก็คือการแอบหลงรักจ้าวผู้ครองแคว้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วความฝันของหล่อนก็เป็นจริง เมื่อหล่อนได้นอนอยู่ใต้ร่างขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ แต่คืนนั้นมันเป็นคืนแต่งงานของเขากับฮันนา...! “ยังไม่รีบไสหัวลงไปจากเตียงอีกหรือ!” กายสาวบอบช้ำยังไม่ทันได้ขยับลงจากแท่นบรรทมก็ถูกเขาผลักไสแรงๆ จนกลิ้งตกลงมากองกับพื้นห้องไม่ต่างจากเศษขยะสกปรก น้ำตาแห่งความปวดร้าวไหลพรากออกมาราวกับสายฝน “หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...” จิรัชยาพยายามจะอธิบาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดขององค์สุลต่านแผดดังก้องขึ้นเสียก่อน หล่อนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “เธอกล้ามากนะที่วางยาฉัน!” “หม่อมฉัน... ไม่รู้เรื่องนะเพคะ หม่อมฉัน... ไม่ได้ทำ...” หล่อนสะอื้นได้อย่างน่าเวทนา แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าเธอไม่ได้ทำ งั้นก็คงเป็นแม่ของเธอสินะที่ทำ จิรัชยา!”

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

โรแมนติก

5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
พรางกุหลาบ
1

บทที่ 1 บทนำ

10/06/2024

2

บทที่ 2 กุหลาบดอกนั้น 1

10/06/2024

3

บทที่ 3 กุหลาบดอกนั้น 2

10/06/2024

4

บทที่ 4 ดวงดาวสีฟ้า

10/06/2024

5

บทที่ 5 พาร์ทเนอร์คนสำคัญ

10/06/2024

6

บทที่ 6 Lucky Draw

10/06/2024

7

บทที่ 7 หนุ่มน้อยผู้อับโชค

10/06/2024

8

บทที่ 8 เรื่องบังเอิญ...หรือเปล่า

10/06/2024

9

บทที่ 9 ผู้ชายเย็นชา

10/06/2024

10

บทที่ 10 คำขอร้อง

10/06/2024

11

บทที่ 11 ไม่ได้ชอบกุหลาบ

10/06/2024

12

บทที่ 12 อีกด้านของความฝัน

10/06/2024

13

บทที่ 13 คำสาบาน

10/06/2024

14

บทที่ 14 ไม่ยากเจอ

10/06/2024

15

บทที่ 15 ปล่อยวาง

10/06/2024

16

บทที่ 16 คนเฝ้า

10/06/2024

17

บทที่ 17 รุก

10/06/2024

18

บทที่ 18 ในสวน

10/06/2024

19

บทที่ 19 สิ่งมีชีวิตสีดำ

10/06/2024

20

บทที่ 20 อโหสิ

10/06/2024

21

บทที่ 21 กลับ

10/06/2024

22

บทที่ 22 ยามกุหลาบร่วงโรย

10/06/2024

23

บทที่ 23 บทส่งท้าย

10/06/2024

24

บทที่ 24 บทพิเศษ สเวน 1

10/06/2024

25

บทที่ 25 บทพิเศษ สเวน 2

10/06/2024

26

บทที่ 26 บทพิเศษ 2 วัน ๆ ของจิ๊งซ์

10/06/2024