ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์
วันนั้นเป็นช่างเป็นวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส คงเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ฉันรับรู้ได้จากแสงตะวันเจิดจ้าอบอุ่นที่ตกกระทบผิว แม้มันจะทำให้ดวงตาฉัน ที่ตกอยู่ในความมืดมานานหลายวันต้องพร่า จนต้องหยีมองก็ตาม
จมูกแห้งจนผิวเนื้อตกสะเก็ดยังได้กลิ่น หญ้าแห้ง เจือกลิ่นเก่า ๆ ไม่อภิรมย์ของเนื้อไหม้ ปนกลิ่นอันโสมมจากอุจจาระปัสสาวะ ผู้คุมกระตุกโซ่ตรวนหนาหนักที่คล้องมือ เมื่อเห็นเท้าอันเปลือยเปล่าของฉันเริ่มชะลอช้าลง เสียงผู้คนรอบข้างเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ
“นังแม่มด”
“นังคนชั่วช้า”
“นอกรีต”
“เจ้าจะไม่ตายดี”
“คนทรยศพระเจ้า ทำสัญญากับปีศาจ”
คำก่นด่าอื้ออึงไปทั่วบริเวณ นิ้วผู้คนตามทางชี้มาทางฉันอย่างกล่าวหา
“ปึ๊ก!”
หินก้อนใหญ่ลอยละลิ่วออกจากฝูงคน กระทบหน้าผากฉัน ทำเอาตัวงอเพราะความเจ็บจี๊ด ก่อนจะรู้สึกถึงเลือดซึม
“ชำระมัน! ลงโทษนังแม่มดเสีย”
น้ำเหนียวหนืดไหลรดดวงตาฉัน เห็นภาพชายผู้เป็นต้นเสียงด้วยพร่าเลือนด้วยเปื้อนธารโลหิต เขามีกางเขนสีเงินเด่นอยู่บนเสื้อคลุมดำ
“ขอพระเจ้าจงอำนวยพรแด่การชำระล้างนางในครั้งนี้ด้วยเถิด”
แล้วเขาก็กุมมือสวด ฉันหัวเราะหึ รู้ดี คนอย่างเขาไม่ได้สวดให้อย่างจริงใจหรอก ใครจะเปลืองแรงเช่นนั้นกับศัตรูจริงไหม
“ฆ่ามัน ฆ่าแม่มดเสีย”
ผู้คุมกระตุกโซ่ดึงฉันที่อ่อนระโหยโรยแรง เดินไปเรื่อยสู่ลานกว้างกลางเมือง เสาต้นสูงตั้งตระหง่าน ใต้นั้นมีกองฟางสุมอยู่ และชาวบ้านหน้าถมึงทึง
ไม่ไกลออกไปมีลานยกสูง เก้าอี้ประดับผ้าไหมบุอย่างดี ผู้คนแต่งกายสวยงามราวกับมาดูละครรวมกันอยู่ตรงนั้น
ชายอ้วนเตี้ยในชุดคลุมดำมีกางเขนห้อย พร่ำเพ้ออะไรสักอย่างเกี่ยวกับพระเจ้าและบาป พร้อมสาธยายเรื่องความชั่วร้ายมากมายที่ฉันแน่ใจว่าไม่ได้ทำ
ริมฝีปากแห้งผากของฉันสั่นระริก เตรียมพร้อมเอ่ยค้าน สายตาที่พร่าเลือนกลับไปเห็นบางอย่างเสียก่อน
ท่ามกลางผู้คนบนเวที มีร่างหนึ่งยืนโดดเด่น ชุดลูกไม้ติดชายระบายฟูฟ่อง สีขาวราวชุดเจ้าสาว แต่ยังมีเสื้อแดงคลุมอยู่ ผมสีทองคลอเคลียถึงเนินอกอวบ
ทว่าที่ทำใจฉันกระตุกเต้นแรง บีบรัดจนเจ็บในอกคือดอกกุหลาบสีม่วงก้านยาวในมือเธอ
สายตาฉันเคลื่อนไป พบร่างสูงใหญ่ยืนเคียงข้างคนชุดขาว ผมสีทองปลิวไสว ตัดกับชุดคลุมองอาจสีดำ ท่ามกลางโลหิตที่ไหลเปรอะดวงตา ฉันเห็นดวงดาวสีฟ้าหนึ่งคู่เรืองรองอยู่ในนั้น
ความพร่าเลือนทำให้ไม่อาจเห็นหน้าเขาชัด มีเพียงดวงตาที่สบกัน ฉันอยากพึมพำบางอย่างแต่ไร้เสียงออกมา
เขาแตะไหล่กระชับเสื้อคลุมสีแดงของเธอให้แน่นขึ้น คนถูกปฏิบัติอย่างทะนุถนอมส่งรอยยิ้ม
บรรยากาศอบอุ่นอ่อนหวานลอยฟุ้งไปทั่ว ขอบตาฉันผ่าว น้ำอุ่นผสมโลหิตช่างแสบเหลือเกิน ทุกหยาดหยด ทุกพื้นผิวที่น้ำในตาไหลผ่าน ฉันปวดแสบปวดร้อน เหมือนใครเอาน้ำกรดมาราด
ในวันท้องฟ้าแจ่มใสลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาอ่อน ๆ เส้นผมสีทองและกลีบกุหลาบสีม่วงพลิ้วไหว บางกลีบร่วงหล่นตกลงสู่พื้นด้วยซ้ำ
นักโทษที่อยู่ข้างฉันอาศัยจังหวะผู้คุมเผลอวิ่งหลบหนี เกิดยื้อยุดกันอย่างโกลาหล เจ้านั่นก่นด่าทั้งพระเจ้า ทั้งราชวงศ์ กล่าวอย่างอาฆาตว่าตายแล้วจะเป็นปีศาจมาล้างแค้น
คนขวัญอ่อนบนเวทีตัวสั่น เดินหลบบ้าง เปลี่ยนให้ทหารท่าทีขึงขังขึ้นมายืนเป็นเกราะกำบังบ้าง
ฉันเห็นคนตัวสูงชุดก้าวบังหญิงสาว รองเท้าบูตหนังเหยียบกลีบกุหลาบม่วง
ในอกฉันเจ็บเหมือนมีเข็มนับหมื่นนับพันทิ่ม น้ำในตายังไหลริน อาบแก้มจนถึงริมฝีปาก รสเค็มปนรสโลหะคืออาหารมื้อแรกนับตั้งแต่ฉันถูกจับขัง
เราสบตากัน
ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน
ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง
“เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด”
เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน
ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา
ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด
ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว
“ประหารแม่มด”
ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก
“ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย”
ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ
หรือที่ชาเป็นเพียงผิวเนื้อที่ถูกไฟไหม้ แต่หัวใจยังเจ็บเหมือนเดิม อย่าเพิ่งไปสิดวงดาวสีฟ้า ขอร้องล่ะ ให้เห็นได้มองอีกสักครั้ง
“สเวน!”
ฉันเรียกชื่อเขาดังเคยเอื้อนเอ่ยในวันวาน ดวงดาวสีฟ้าในชีวิต
ทว่าคนที่เพรียกหาไม่แม้หันมา เขาประคองหญิงสาวในชุดขาวลงจากเวทีไป เหลือเพียงกลีบกุหลาบม่วงช้ำที่ถูกเหยียบย่ำ พร้อมดวงตาอันมืดดับ และสติอันขาดห้วงของฉัน
“เห้!...เอ๊ย!”
ฉันสบถลืมตาตื่นพร้อมฮุบหายใจเฮือกใหญ่ ลุกนั่งพรวดพราดขึ้นจากเตียง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าผาก
ฝันเฮงซวยนี่อีกแล้ว เกือบตายตามคนในฝันแล้วไหมล่ะ
มือยกเช็ดเหงื่อ ก่อนแลไปบนโต๊ะเขียนเขียนหนังสือริมหน้าต่างกระจก กุหลาบสีลาเวนเดอร์อวดโฉมอยู่ในโถแก้ว กลีบหนาสวยราวกับกำมะหยี่ จังหวะที่ต้องไฟก็ส่งแสงเรืองรอง สวยเหมือนไม่มีอยู่จริง
ปากกำลังจะอ้าด่าเจ้าสิ่งลึกลับ ตากลับเห็นเวลาบนหน้าปัดนาฬิกามินิมอลสไตล์มูจิ
“เฮ้ย!”
ฉันกระโดดแผล็วลงจากเตียง เจ็ดโมงครึ่ง หลับเกินเวลาตื่นปรกติไปเป็นชั่วโมง สายแล้ว!
รีบเร่งทำกิจวัตร คว้าเสื้อผ้ารองเท้ามาสวม รีบลงลิฟต์ ขึ้นขี่วินมอเตอร์ไซด์หน้าคอนโดฯเพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า เริ่มต้นชีวิตพนักงานออฟฟิศตัวเล็ก ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง
ในใจคิดว่า ไม่น่าเลยจริง ๆ วันนั้นไม่น่าไปยืนหลบฝนหน้าร้านไม่น่าไว้ใจนั่น จนได้เผลอซื้อของอาถรรพ์
เบียดบังเวลาการนอนของฉันทุกค่ำคืนอยู่นี่ไง
“รีบเลยค่ะพี่! เอาให้ว่อง ถ้าถึงสถานีบีทีเอสภายในห้านาทีนี้หนูให้เพิ่มร้อยหนึ่งเลยค่ะ”
วินฯสีกั๊กส้มพยักหน้าตกลง บิดซ้าย แซงขวา ท้านรก กระทั่งสี่นาทีสามสิบวินาที ฉันก็ได้มายืนหน้าสถานีไฟฟ้า พร้อมเงินปลิวจากกระเป๋าไปร้อยยี่สิบบาท
บทที่ 1 บทนำ
10/06/2024
บทที่ 2 กุหลาบดอกนั้น 1
10/06/2024
บทที่ 3 กุหลาบดอกนั้น 2
10/06/2024
บทที่ 4 ดวงดาวสีฟ้า
10/06/2024
บทที่ 5 พาร์ทเนอร์คนสำคัญ
10/06/2024
บทที่ 6 Lucky Draw
10/06/2024
บทที่ 7 หนุ่มน้อยผู้อับโชค
10/06/2024
บทที่ 8 เรื่องบังเอิญ...หรือเปล่า
10/06/2024
บทที่ 9 ผู้ชายเย็นชา
10/06/2024
บทที่ 10 คำขอร้อง
10/06/2024
บทที่ 11 ไม่ได้ชอบกุหลาบ
10/06/2024
บทที่ 12 อีกด้านของความฝัน
10/06/2024
บทที่ 13 คำสาบาน
10/06/2024
บทที่ 14 ไม่ยากเจอ
10/06/2024
บทที่ 15 ปล่อยวาง
10/06/2024
บทที่ 16 คนเฝ้า
10/06/2024
บทที่ 17 รุก
10/06/2024
บทที่ 18 ในสวน
10/06/2024
บทที่ 19 สิ่งมีชีวิตสีดำ
10/06/2024
บทที่ 20 อโหสิ
10/06/2024
บทที่ 21 กลับ
10/06/2024
บทที่ 22 ยามกุหลาบร่วงโรย
10/06/2024
บทที่ 23 บทส่งท้าย
10/06/2024
บทที่ 24 บทพิเศษ สเวน 1
10/06/2024
บทที่ 25 บทพิเศษ สเวน 2
10/06/2024
บทที่ 26 บทพิเศษ 2 วัน ๆ ของจิ๊งซ์
10/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์
ข้อมูลเพิ่มเติม