สวาทร้ายซ่อนรัก

สวาทร้ายซ่อนรัก

กาสะลอง

5.0
ความคิดเห็น
124.5K
ชม
87
บท

“โอวว…” เธอเปล่งเสียงครางออกมาเบาๆ พรูลมหายใจร้อนผ่าวออกมาจากริมฝีปาก ขณะเขากำลังละเลียดเข้าไปในหลืบเนื้อคับแน่นของเธอ หลังไหล่ของแอลลี่เบียดนาบไปกับบานประตูเพราะความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับ “เจ็บนิดเดียวนะครับ…” เขาปลุกปลอบเสียงกระเส่า หญิงสาวได้แต่พริ้มตา… รับความรู้สึกละเลียดลึกจากท่อนลำความอุ่นร้อนที่ล่วงล้ำเข้ามาสู่ห้วงความเหว่ว้าของเธอ ไทเลอร์กำลังเติมเต็มบางอย่างที่ชีวิตของเธอโหยหาอยู่ลึกๆ ในใจมาโดยตลอด “แอน…ผมรักคุณ ต้องการคุณที่สุด”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

สวาทร้ายซ่อนรัก

ทันทีที่ก้าวลงจากรถแท็กซี่ หญิงสาวแหงนใบหน้ามองดูโรงแรมขนาดใหญ่ที่เธอตั้งใจจะมาสมัครงาน แลเห็นโครงสร้างคอนกรีตรูปทรงสี่เหลี่ยมสูงเสียดฟ้า ตกแต่งด้วยวัสดุหรูหรา ส่วนที่เป็นกระจกและโลหะเลื่อมเงาสะท้อนวาบวาววับกับดวงตะวัน ตระหง่านอยู่ในประกายแสงแดดของยามสาย

‘BK Paradise Hotel’

เธอสะกดชื่อของโรงแรมที่แลเห็นเด่นชัดจากป้ายตัวอักษรขนาดใหญ่บริเวณด้านหน้า รั้วและประตูทางเข้าก่อด้วยอิฐศิลาแลงแข็งแกร่ง บางส่วนของรั้วปกคลุมเอาไว้ด้วยสีเขียวของต้นตีนตุ๊กแก ขึ้นหนาแน่นจนแทบมองไม่เห็นสีอิฐ ถัดจากตัวตึกขนาดใหญ่มีห้องพักสไตล์รีสอร์ต ปลูกสร้างเรียงสลับออกมาเป็นปีกซ้ายขวาของโรงแรม

“มาสมัครงานค่ะ”

เธอตรงไปรับบัตรสำหรับผู้มาติดต่อที่หน้าป้อมยาม เดินผ่านประตูทางเข้าด้านหน้าของโรงแรมที่ร่มครึ้มไปด้วยต้นปาล์มหนาแน่น อวดสีเขียวขจีอันน่ารื่นรมย์ต่อสายตาผู้พบเห็น หากแต่ในความรู้สึกของหญิงสาว…กลับไม่นึกชื่นชมในความงามอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยหญิงสาวรู้ดีว่าการที่ต้องดั้นด้นมาถึงเมืองไทยครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อสร้างอนาคต หรือหวังเอาความก้าวหน้าจากหน้าที่การงานจากที่แห่งนี้ แต่เธอมาเพราะมีเหตุผลบางอย่างเป็นแรงผลักดัน

ขณะก้าวเดินเข้ามาถึงบริเวณลานโล่งชั้นใน ก่อนถึงประตูขนาดใหญ่ เพื่อจะเข้าสู่ภายในโรงแรมหรู ระหว่างทางที่เธอเดินผ่านบ่อน้ำพุขนาดใหญ่ มีรูปปั้นผู้หญิงเปลือยกายอะร้าอร่าม แบกแจกันใบใหญ่เอาไว้เหนือบ่า สายน้ำพร่างลงมาจากปากแจกัน ไหลสู่บึงบัวขนาดใหญ่ น้ำเบื้องล่างใสราวกระจก แลเห็นฝูงปลาคาร์ปแหวกว่ายไปมา

ในเวลาต่อมา

ภายในห้องทำงานส่วนตัวของพีระพงษ์ อัครพลไพศัลย์ ผู้เป็นเจ้าของ ‘BK Paradise Hotel’ โรงแรมหรูระดับห้าดาว มีสาขาอยู่ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญในหลายประเทศทั่วโลก

“ไทเลอร์มาหรือยัง…”

ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังนั่งไขว่ห้าง เอนหลังทาบไปกับพนักเก้าอี้หนังสีดำ เอ่ยถามกับวิไลวรรณ เลขาฯ ประจำตัวของเขาที่เพิ่งถูกเรียกตัวเข้ามาในห้อง

วิไลวรรณเป็นหญิงสาวชาวเหนือ เธอมีผิวขาวอวบ ละเอียดลออ หน้าตาจัดว่าสะสวย เส้นผมสีดำสลวยรัดรวบขมวดเป็นมุ่นมวยเอาไว้ที่ด้านหลัง ริมฝีปากเอิบอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูบาง ใบหน้ารูบไข่ฉาบเอาไว้ด้วยเครื่องสำอางแต่พองาม ไม่ฉูดฉาด แต่งกายด้วยเสื้อสูทสั้นสีดำทันสมัย กระโปรงสั้นอวดเรียวขาขาวเนียนจนไม่ต้องใช้ถุงน่อง ดูเหมาะเจาะลงตัว ไม่โป๊และไม่สุภาพจนเกินไป

“คุณไทเลอร์เพิ่งโทรเข้ามาเมื่อสักครู่นี้ บอกว่ารถเกิดอุบัติเหตุค่ะท่าน”

เธอรายงานด้วยน้ำเสียงสุภาพนิ่มนวล พร้อมกับวางถ้วยกาแฟที่ยังแลเห็นไอร้อนลอยขึ้นจากปากถ้วยไว้ตรงหน้าผู้เป็นนายอย่างรู้หน้าที่

กิริยาท่าทีของวิไลวรรณดูคล่องแคล่ว พูดจาด้วยน้ำเสียงราบเรียบน่าฟัง จะหยิบจับอะไรก็ดูทะมัดทะแมง เพราะว่าเธอทำงานอยู่ในตำแหน่งเลขาฯ ส่วนตัวของพีระพงษ์มานานหลายปีจนรู้ใจเขาไปเสียทุกอย่าง

“ยังงั้นรึ…แล้วไทเลอร์เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

เสียงทุ้มกังวานถามด้วยความห่วงใย เมื่อได้ยินที่วิไลวรรณบอกว่ารถของไทเลอร์ประสบอุบัติเหตุ

“เฉี่ยวชนกับมอเตอร์ไซค์ที่สี่แยกไฟแดงค่ะท่าน คุณไทเลอร์บอกว่าไม่เป็นอะไร ประกันกำลังเข้ามาเคลียร์ คงเข้ามาถึงออฟฟิศช้าหน่อย แต่ว่าเช้านี้คุณไทเลอร์มีนัดสัมภาษณ์งานเอาไว้ แล้วตอนนี้คนที่นัดไว้ก็มานั่งรอสัมภาษณ์ได้สักพักแล้วล่ะค่ะ”

“สัมภาษณ์งานตำแหน่งอะไร…”

หัวคิ้วสีดอกเลาระบายแนวอยู่เหนือกรอบดวงตาคมกริบชิดเข้าหากันเล็กน้อย ประธานบริษัทเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะเรื่องรับสมัครพนักงานในตำแหน่งดังกล่าวนั้นไทเลอร์เป็นคนดูแลอยู่แต่แรก พีระพงษ์ให้สิทธิ์ไทเลอร์อย่างเต็มที่ ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการงานที่ชายหนุ่มดูแลรับผิดชอบโดยตรง

“ตำแหน่ง Front Reception ค่ะ”

ตำแหน่งที่วิไลวรรณบอกไปเมื่อครู่หมายถึงพนักงานต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรม

พีระพงษ์ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มอย่างใจเย็น สายตากวาดดูข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์คร่าวๆ ท่าทางไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องราวที่เลขาฯ สาวกำลังรายงานสักเท่าไร ด้วยเขาไว้วางใจให้ไทเลอร์จัดการทุกอย่าง กระทั่งวิไลวรรณเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา

“เห็นคุณไทเลอร์บอกว่าคนนี้เก่งภาษาเวียดนามค่ะท่าน แถมยังพูดได้หลายภาษา เคยสัมภาษ์คร่าวๆ ผ่านโทรศัพท์ไปแล้วครั้งหนึ่ง เพียงแต่ยังไม่เห็นตัวจริง…ถ้าเธอผ่านสัมภาษณ์ในวันนี้ อาจจะให้ไปประจำอยู่สาขาเวียดนามค่ะ”

วิไลวรรณเอ่ยไปตามที่รู้มาจากไทเลอร์

“ยังงั้นรึ…”

ได้ฟังแล้วพีระพงษ์ก็ย่นหน้าผาก

คำว่า ‘เวียดนาม’ สะกิดใจเขาอย่างแรง เพราะเมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ตอนยังหนุ่มแน่นเขาเคยเป็นผู้จัดการโรงแรมอยู่ที่นั่นมาก่อน ความรักและความหลังในวัยหนุ่มหลายๆ เรื่องเคยเกิดขึ้นและถูกกลบฝังเอาไว้ที่เวียดนาม

พีระพงษ์เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่โรงแรมในเวียดนาม เขาไต่เต้าขึ้นมาจากตำแหน่งผู้จัดการธรรมดาๆ คนหนึ่ง หากแต่ด้วยความที่เป็นคนหล่อเหลา เฉลียวฉลาด พูดจาฉะฉานน่าเชื่อถือ มีบุคลิกภาพเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น ประกอบกับเป็นคนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรู้และความสามารถโดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับของผู้บริหาร ไม่นานเขาก็สามารถผงาดกล้าขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของโรงแรม ซึ่งทำหน้าที่วางแผนและกำหนดนโยบาย การบริหารต่างๆ หลังจากที่เคยทำงานแค่ในระดับปฏิบัติการเท่านั้น

“จะให้เลื่อนสัมภาษณ์ออกไปก่อนไหมคะ…งั้นดิฉันจะบอกให้เธอกลับไปก่อนนะคะ ถ้าคุณไทเลอร์สะดวกเมื่อไรค่อยนัดให้เข้ามาสัมภาษณ์กันอีกที…แต่ตอนนี้เธอทำแบบทดสอบความสามารถพื้นฐานเสร็จแล้วค่ะ”

“เป็นยังไงบ้าง…”

ถามพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่ม

พีระพงษ์เริ่มหันเหความสนใจมายังเรื่องที่วิไลวรรณกำลังรายงาน ตั้งแต่ได้รู้ว่าหญิงสาวที่กำลังรอรับการสัมภาษณ์เป็นชาวเวียดนาม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ กาสะลอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
สุดแค้นแสนหื่น

สุดแค้นแสนหื่น

โรแมนติก

5.0

“อ๊อย... ” หล่อนร้องคราง เมื่อหนวดเคราสากระคาย ปักทิ่มลงบนผิวเนื้ออ่อนๆ ของทรวงอก ทำเอาเส้นขนลุกซู่ สองเต้าขยับยก หัวนมชูชันรับเคราแข็งปักทิ่มลงมาไม่ยั้ง แอ่นสองเต้าสู้ริมฝีปากของพ่อเลี้ยงดามพ์ ครอบลงมาดูดเลียลนลานหิวกระหาย “อูย... สะ... เสียว... ” เดือนฉายเม้มริมฝีปากแน่น ปลายลิ้นร้อนผ่าวของ พ่อเลี้ยงตวัดรัวรวบหัวนม เลียกินรอบวงป้านหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ขณะที่กึ่งกลางกายของหล่อนกำลังโดนนิ้วยาว กระแทกยัดเข้าใส่รูเสียงดังพลั่กๆ น้ำหล่อลื่นทะลักออกมาอาบเลื่อมลำนิ้วของเขา “นมก็เต่งตึง... ร่องก็ฟิตแน่นดีเหลือเกินเดือนจ๋า... อ๊า ดูสิ... น้ำเยิ้มออกมาแล้ว” สีหน้าของพ่อเลี้ยงบ่งบอกความสะใจ ที่เห็นอารมณ์ของหล่อนกระเจิดกระเจิง ก็ใครจะทนไหว โดนหนักขนาดนี้ ไม่อ่อนระทวยก็เกินไป เพราะว่าพ่อเลี้ยงจอมหื่นจู่โจมทั้งหัวนมและร่องสวาทของหล่อนไปพร้อมกัน

คุณอาสุดเสน่หา

คุณอาสุดเสน่หา

โรแมนติก

5.0

“โอ๊ย... ” ใบบัวร้อง เมื่อร่างสูงใหญ่โถมเข้าหาร่างเล็กๆ ที่พยายามกระถดกายถอยหนีจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผนังด้านหนึ่งของห้อง “มานี่... ดื้อนักใช่ไหม เถียงเก่งนักใช่ไหม” ขาข้างหนึ่งของใบบัวถูกคว้าแล้วกระชากออกมาที่กลางเตียง ก่อนที่ร่างกำยำจะโถมทับลงไปบนเรือนกายบอบบางน่าเวทนา “ถ้าคิดว่าร่างกายของบัวสามารถทดแทนบุญคุณที่คุณอาอุปการะเลี้ยงดูมา... ก็เชิญคุณอาตักตวงเอาให้สาสมใจเถอะค่ะ” ใบบัวเชิดหน้าขึ้นท้าทายทั้งน้ำตาคลอเบ้า “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง... ฉันเอาเธอแน่ๆ” ทันทีที่พูดจบมือใหญ่ก็กระชากเสื้อของเธอจนขาดวิ่นออกจากกันเสียงดังแคว่ก ก้มหน้าลงจูบฟัดทรวงอกอวบใหญ่ที่ผุดออกมาตรงหน้าอย่างหิวกระหาย สลับจูบไซ้ขึ้นไปที่ซอกคอเสียงดังฟืดฟาด เพราะพ่อเลี้ยงกระสันหาโอกาสนี้มาตลอด หากแต่สำนึกในความเหมาะสมก็ทำให้เขาพยายามยับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด... แต่วันนี้เห็นทีจะไม่ พอโดนจูบหนักๆ เนื้อตัวของสาวน้อยก็อ่อนระทวยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทรวงอกอวบอัดแอ่นหยัดรับริมฝีปากของคุณอาที่ดูเลียยอดถันสองข้างสลับไปมาอย่างเมามัน “อื๊อ... อ๊า” ใบบัวพริ้มตา ทันทีที่เขาครอบริมฝีปากเข้ากับหัวนมแล้วดูดลึกลงไปจนสุดฐานป้านสีชมพูพร้อมกับไล้ลิ้นวนเลียจนยอดทรวงอกของสาวน้อยปูดปลิ้นอยู่ในอุ้งปากของเขา

รสสวาทรักต่างวัย

รสสวาทรักต่างวัย

โรแมนติก

5.0

“ไม่ไหวแล้ว... ไมค์จ๋า ได้โปรดเอาน้าเถอะนะ อย่าทรมานกันแบบนี้... อูย” คนที่นอนหงายอยู่บนเตียงร้องขอเสียงกระเส่า ไร้สิ้นยางอาย อ้อนวอนอย่างซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองว่าอยากโดนเอา ดาวรินเสียวซ่านจนต้องเปล่งเสียงร้องครางออกมาเป็นระยะ เมื่อจุดอ่อนไหวที่สุดในร่างกายกำลังถูกกระตุ้นทั้งบนและล่าง เพราะว่าขณะริมฝีปากร้อนผ่าวของ ไมเคิลแนบเน้นลงมาเบิร์นกุหลาบงามของหล่อน มือของเขาก็ดันต้นขาด้านในให้แบะอ้า และมืออีกข้างที่เหลือก็เอื้อมขึ้นมาบีบบี้หัวนมของหล่อนไปพร้อมๆ กัน “ได้ครับ... ผมใส่ให้แน่ๆ แต่ขอเลียอีกนิดนะครับ” หนุ่มน้อยสายเบิร์นกระตุกยิ้ม ลากลิ้นเฉาะผ่าลงมากลางร่องกลีบอวบนูน ทำให้โพรงสวาทของสาวใหญ่เพื่อนแม่ขมิบหมุบๆ ใบหน้าบิดเบ้ทรมาน เรือนร่างของน้าดาวเริ่มสั่นเกร็งตามจังหวะปลายลิ้นเสียบแทงเข้ามารัวๆ

รสสวาทไอ้หนุ่มเข้ม

รสสวาทไอ้หนุ่มเข้ม

โรแมนติก

5.0

“ซี้ด... ” ฉันเสียวมากจนต้องหลับตาปี๋ ปล่อยให้นิ้วโป้งของแดนน์บดขยี้อยู่กับปุ่มเนื้อน้อยๆ ที่เรียกว่าติ่งประสัน “อู้ววว... คุณแดนน์” ฉันรู้สึกซ่านเสียวจนน้ำตาเล็ดไหลออกมาพร้อมกับน้ำหล่อลื่น หลังไหล่แอ่นระแน้ดีดดิ้นด้วยความซ่านสยิวสุดจะบรรยาย ใบหน้าแหงนเชิด สูดซี้ดริมฝีปากเหมือนกำลังกินของเผ็ดจัด นิ้วดำๆ ของแดนน์สอดเสียบเข้ามาในร่องเสียวของฉันอยู่นานเป็นครู่เสียงดังซ่วบๆ กระทั่งความเสียวซ่านลามไหลลึกเข้ามาในช่องท้อง “คุณเซ็กซี่เหลือเกิน... น่าจูบน่าฟัดไปทั้งตัว” แดนน์รำพึงออกมาด้วยความพึงพอใจ ขณะลำนิ้วแกร่งกำลังเคลื่อนเข้าๆ ออกๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ในกลีบสวาทของฉันที่ขมิบตอดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ “เอาออกไปนะคุณแดนน์... ฮื่อๆ พอแล้ว” อาจเป็นเพราะว่าช่องทางรักของฉันไม่ได้ใช้งานมานาน มันจึงกลับมาฝืดแน่นอีกครั้ง นี่แค่โดนนิ้วของแดนน์สอดใส่ก็ยังรู้สึกแน่น... เสียว แล้วถ้าโดนแก่นกายอลังการของเขาล่ะ... อู้ว มีหวังฉันฉีกแน่ๆ

วิวาห์บำเรอสวาท

วิวาห์บำเรอสวาท

โรแมนติก

5.0

ดาราวดีสูดซี้ดริมฝีปากเหมือนกำลังกินของเผ็ดอยู่นานเป็นครู่ กระทั่งความเสียวซ่านลามไหลเข้าไปในช่องท้อง ด้วยไร้ทางจะปัดป้องมือใหญ่ที่กดแผ่นหลังของเธอให้คว่ำหน้าเอาไว้ พีรวิทย์เป็นผู้ชายตัวใหญ่มาก ต่อให้ดิ้นรนขัดขืนยังไงคงไม่เป็นผล “ไม่ต้องกลัว ลืมไปหรือเปล่าว่าเราแต่งงานกันแล้วนะ… จะเป็นไรไปล่ะ ถ้าผัวจะสำรวจร่างกายของเมียแบบนี้” เขาหาเหตุผลมาคัดค้านจนหญิงสาวใจอ่อน ยอมหลับตาปล่อยให้มือใหญ่ลูบล้วงเนินเนื้ออุ่นจัด กระทั่งลำนิ้วแกร่งของเขาชำแรกเข้าไปในกลีบเนื้อสาวซึ่งไร้ทางปัดป้อง “น้องดาวสวยเหลือเกิน… ไม่คิดว่าแก้ผ้าแล้วจะน่าฟัดอย่างนี้” เขารำพึงออกมาด้วยความพึงพอใจ ขณะลำนิ้วแกร่งกำลังเคลื่อนเข้าๆ ออกๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ในกลีบเนื้อสาวซึ่งขมิบตอดนิ้วของเขาเป็นจังหวะ “เอาออกไปนะ… ดาวเจ็บ” หญิงสาวอุทธรณ์เสียงอ่อน ชายหนุ่มนึกในใจว่านี่แค่ไถถูแค่เพียงภายนอก เธอก็ยังเจ็บ แล้วถ้าเจ้าแก่นกายอลังการของเขาฝังเข้าไปในตัวเธอจนมิดล่ะ? “อันที่จริงเราผ่านคืนเข้าหอมาแล้วนะ… แต่พี่ยังไม่ได้เข้า ‘หอ’ น้องดาวเลยนะ แล้วในฐานะสามี พี่ก็มีสิทธิ์โดยสมบูรณ์ไม่ใช่หรือ? ที่จะเข้า ‘หอ’ น้องดาว” เขาเริ่มอ้างสิทธิ์ขึนมาในทันที หลังจากปล่อยให้ตัวเองหลงโง่งมงายอยู่ตั้งนาน เพราะว่าในคืนเข้าหอเขาเลือกที่จะออกไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ ปล่อยให้เจ้าสาวของตัวเองต้องนอนร้องไห้ ครุ่นคิดด้วยความน้อยใจไปต่างๆ นานาว่าอาจจะเป็นเพราะเธอไม่สวย ไม่เซ็กซี่พอจะเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ได้

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

เนื้อนวล
4.9

เคลวิน แม็คคลาเรน ถูกคู่หมั้นหักหน้าด้วยการประกาศแต่งงานกับชายคนอื่น ด้วยความคั่งแค้นที่ถูกหยามหน้า ทำให้เขาว่าจ้างเด็กสาววัยกำดัดที่ตนเองอุปการะเอาไว้มาแต่งงานด้วย เพื่อเอาคืนคนเคยรักให้กระอักเลือด เพราะบุญคุณล้นหัว ทำให้เฌอปรางต้องยอมลงชื่อในสัญญาจ้างแต่งงาน แทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก "เธออ่านสัญญาละเอียดหรือยัง" "หนูอ่านละเอียดแล้วค่ะ" "ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม" "ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ" "งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง" หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด "ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ" "ถูกต้อง" เขายิ้มอย่างพอใจ "แล้วข้อสองล่ะ" หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก "ห้ามรักคุณค่ะ" เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว "แล้วข้อสามล่ะ" "ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ" "ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด" หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป "แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ" "ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไง" ท่าทางของเขาเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด "เอ่อ หนูแล้วแต่คุณค่ะ" เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตรเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น แต่ใครจะรู้เล่าว่า เมื่อสัญญาจบสิ้นลง เธอได้เดินจากไปพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สวาทร้ายซ่อนรัก
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

10/01/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

10/01/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

10/01/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

10/01/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

10/01/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

10/01/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

10/01/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

10/01/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

10/01/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

10/01/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

10/01/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

10/01/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

10/01/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

10/01/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

10/01/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

10/01/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

10/01/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

10/01/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

10/01/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

10/01/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

10/01/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

10/01/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

10/01/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

10/01/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

10/01/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

10/01/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

10/01/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

10/01/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

10/01/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

10/01/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

10/01/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

10/01/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

10/01/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

10/01/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

10/01/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

10/01/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

10/01/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

10/01/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

10/01/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

10/01/2022