รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

กวีมนตรา_พัณณ์ภัสร์

4.5
ความคิดเห็น
148.6K
ชม
76
บท

“สิ่งที่ฉันอยากได้...” เฟลิกซ์ลากเสียงบอกอย่างช้าๆ วางมือข้างหนึ่งค้ำยันที่ผนังข้างๆ ศีรษะของเธอ มืออีกข้างยื่นออกไปใช้ปลายนิ้วแตะเข้าที่ข้างลำคอเล็กๆ เนียนละเอียดของเธอ “อุ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้ง ความร้อนจากปลายนิ้วที่สัมผัสเข้าที่ลำคอและกำลังลากช้าๆ ไปตามแนวลำคอระหงบาดเข้าไปในผิวเนื้อของเธอจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด “ก็... เธอไงล่ะ” ทันทีที่ได้สานสบกับดวงตาแสนหวานของเธอ ‘เฟลิกซ์ เวอซินี’ ก็รู้ว่าภายใต้คราบสุขุมเย็นชาของเธอ ซุกซ่อนผู้หญิงที่ร้อนแรงราวกับไฟเอาไว้ และเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก ชายหนุ่มจึงพยายามทำทุกทางเพื่อที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากหญิงสาวผู้แสนงดงามและน่าค้นหาผู้นี้ให้ได้ แม้กระทั่งใช้ตำแหน่งอำนาจที่มีมากว่า ดึงรั้งเธอให้มาพัวพันด้วยคำว่า ‘หน้าที่การงาน’ ซึ่งเธอไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเขาคือ ‘เจ้านาย’ ส่วนเธอเป็นเพียง ‘พนักงานระดับล่าง’ ‘ลินิน พรหมพิริยะ’ หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับนางอัปสร เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน แต่เธอกลับใช้ความเย็นชามาสร้างกำแพงป้องกันไม่ให้ใครหน้าไหนได้เข้าใกล้ เพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์เร่าร้อนแสนฉาบฉวยของชายหญิง ตามคำสั่งสอนของผู้เป็นยาย เธอใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับกฎเกณฑ์เหล่านั้น และเธอทำมันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด... แม้จะรู้ตัวดีเสมอว่าเธอเองก็อยากลิ้มลองรสชาติแสนหอมหวานและเร่าร้อนของรสสวาทดูสักครั้ง จนกระทั่งมาพบกับผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ แถมเจ้าเล่ห์จนเธอตามเกมเขาไม่ทัน ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นทรงเสน่ห์ล้ำลึกจนเธอหลงใหล แม้พยายามจะห้ามใจ แต่ก็ถูกเขารั้งเอาไว้ด้วย ‘บ่วงปรารถนา’ จนได้ แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยืดยาวได้อย่างไร ในเมื่อเขามองเธอเป็นเหมือน ‘กระต่ายป่า’ ที่หายากและนายพรานอย่างเขาก็สนุกกับการล่า ส่วนเธอเองกลับหลงรักผู้ชายร้อนแรงเจ้าของฉายา ‘คาสโนวาแห่งปารีส’ เข้าเต็มหัวใจ รสสวาทที่เขาทิ้งไว้ กลายเป็นบ่วงปรารถนาจองจำหัวใจของเธอให้หยุดอยู่ที่เขาแต่เพียงคนเดียว แล้วเขาล่ะ... พร้อมที่จะหยุดอยู่ที่เธอหรือเปล่า? “พะ...พอก่อนค่ะ ไม่เล่นแล้วนะคะ ฉันมีเวลาไม่มาก ต้องรีบลงไปทำงานต่อ” “ก็เพราะมีเวลาไง ถึงต้องรีบทำ” คำพูดมีนัยยะของเขาเล่นเอาคนฟังหน้าแดงเถือกไปจนถึงคอ “มะ...ไม่เอานะคะ” เธอร้องห้ามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก พยายามหยุดมือใหญ่ที่สอดมาตามรอยแยกกระโปรงยูนิฟอร์มของเธอที่ผ่าสูงขึ้นมาเหนือเข่าด้านหนึ่ง “รีบพูดธุระของคุณมาเถอะค่ะ” “ก็นี่แหละธุระของฉัน ฉันต้องการเธอจนแทบคลั่งอยู่แล้ว ไม่รู้สึกบ้างเหรอ?”

บทที่ 1 Chapter 1

“อ๊า!!! อย่างนั้นแหละชัย เร่งอีกนิดสิ” เสียงครวญครางอย่างกระสันซ่านของหญิงสามสิบปลายๆ เจ้าของใบหน้าสวยคมคายดังก้องเสียดแทรกความเงียบสนิทของยามดึกสงัด

หนึ่งสาวสะพรั่งรูปร่างอวบอัดวัยสามสิบต้นๆ นอนระทดระทวยอยู่บนโซฟาใหญ่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านปูนสไตล์โมเดิร์นขนาดเหมาะสมกับครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันห้าชีวิต และสมฐานะผู้มีธุรกิจห้างหุ้นส่วนจำกัดขายอุปกรณ์ก่อสร้าง กับอีกหนึ่งหนุ่มรูปร่างกำยำผิวค่อนข้างคล้ำเข้มด้วยทำงานกลางแจ้งมาทั้งชีวิต กำลังเริงรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง เสียงครวญครางที่แม้จะพยายามสะกดกลั้นให้เงียบเชียบเพียงใด ก็ยังเล็ดลอดดังมาจนปลุกให้เด็กหญิงวัยแปดขวบตื่นจากนิทราในเวลาดึกสงัด

เด็กหญิงที่มีใบหน้าสวยคมคายตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อสาวเดินตามทางเดินของชั้นสองของตัวบ้านที่มีเพียงแสงไฟสลัวสาดส่องพอให้มองเห็นทางมาตามเสียงครางกระเส่ากับเสียงลมหายใจกระชั้นชิด กระทั่งมาหยุดอยู่ที่เชิงบันไดที่ทอดตัวลงไปสู่ชั้นล่าง อันสามารถมองเห็นสมรภูมิพิศวาสได้อย่างชัดเจน ในมือข้างหนึ่งของแม่หนูถือตุ๊กตากระต่ายที่พึ่งได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณยายเจ้าระเบียบ เด็กหญิงหย่อนกายนั่งลงที่บันไดขั้นสูงสุด มืออีกข้างเกาะลูกกรงตรงราวบันไดเอาไว้ ขณะที่จับจ้องมองภาพความหฤหรรษ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก

“โอ้... ชัย!! แรงอีกนิดสิ พี่จะไม่ไหวแล้ว” นั่นเสียงแม่ของเธอเอง เด็กหญิงจำได้ เพียงแต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยอาการสั่นเครือราวกับทรมานอย่างหนัก และผู้ชายคนนั้น... แม่หนูน้อยจำได้ว่าเป็นหนึ่งในพนักงานที่ทำงานในร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของ

ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันนะ? เด็กหญิงตั้งคำถามในใจ ทำไมแม่ของเธอถึงได้ดูทรมานอย่างนั้น ทำไมผู้ชายที่เธอเรียกติดปากว่า ‘น้าชัย’ ถึงได้เคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าเช่นนั้นเหนือเรือนร่างเปลือยเปล่าของผู้เป็นแม่ของเธอเอง? เด็กหญิงเกิดอาการใคร่รู้ ทว่าก็ไม่อาจหาคำตอบได้ ด้วยไม่เคยเห็นกิจกรรมดังกล่าวมาก่อนในชีวิต

“ใช่! ใช่! อย่างนั้นแหละ ดีมาก” เสียงของสาววัยสามสิบกลางๆ เอ่ยชื่นชมในการเคลื่อนไหวและบทรักแสนเร่าร้อนของหนุ่มรุ่นน้อง เธอไม่ได้ลิ้มลองบทสวาทที่เหมือนไฟแผดเผาอย่างนี้มานานแล้ว เพราะระยะหลังๆ มานี่ดูเหมือนสามีของเธอจะค่อนข้างห่างเหิน เรียกได้ว่าร่วมรักกันอาทิตย์ละไม่เกินสองครั้งด้วยซ้ำ คงไม่แปลกที่เธอจะหาเศษหาเลยกับผู้ชายหนุ่มแน่นที่พร้อมจะตอบสนองอารมณ์ใคร่ของตัวเอง หญิงสาวคิดเช่นนั้น

“อา... พี่วรรณแน่นจริงๆ เลยนะครับ” เสียงของชายหนุ่มวัยกลัดมันแตกปร่าด้วยความปรารถนาที่แสนเร่าร้อน ทว่าคนที่แอบมองเหตุการณ์อยู่ไม่อาจเข้าใจได้ ได้แต่ยืนมองภาพการเคลื่อนไหวที่แสนร้องแรงนั้นด้วยความสนเท่ห์

“พี่ไม่ไหวแล้วชัย! ไม่ไหวแล้ว! อ๊า!!” เสียงหญิงสาวรูปร่างอวบอัดร้องบอก ก่อนที่เธอกรีดร้องเป็นทางยาวพร้อมกับร่างกายที่เกร็งสะท้าน สองขาสองแขนโอบรัดโอบรัดรอบร่างกำยำที่ชื้นเหงื่อของคนเหนือร่างแน่น

“อา... ผมก็ไม่ไหวแล้วครับพี่วรรณ อึก!” ไม่ทันได้สิ้นเสียงกรีดร้องเป็นทางยาวอย่างสุขสม ร่างหนั่นแน่นของชายผู้เร่าร้อนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหยุดนิ่งเพื่อปลดปล่อยความปรารถนาทุกหยาดหยดเข้าไปในปราการพลาสติกที่สวมใส่เพื่อป้องกันทั้งตัวเองและอีกฝ่าย เพราะไม่อยากให้มีผลอันไม่พึงประสงค์ตามมาจากการเป็นชู้รักของกันและกัน

สองหนุ่มสาวกอดกันกลม ขณะที่ทิ้งจังหวะให้ตัวเองได้ซึมซับกับความกระสันซ่านที่พานพบ กระทั่งเมื่อลมหายใจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผู้มีรสรักแสนร้อนแรงจะผละออกห่างจากร่างอวบอัดขาวนวลของสาวรุ่นพี่ แล้ว จัดการรูดเครื่องป้องกันแล้วโยนทิ้งออกไปไกลอย่างไม่ใส่ใจว่ามันจะไปตกลงที่ใด

“ผมรักพี่วรรณจังเลย” ชายหนุ่มรำพันขณะที่สวมกางเกงของตัวเอง ที่จริงต้องบอกว่าเขาหลงรักบทรักแสนเร่าร้อนของสาวรุ่นพี่เสียมากกว่า

“พี่ก็รักเธอจ้ะชัย อืม...” สาวสวยที่มีฐานะเป็นนายหญิงของอีกฝ่ายตอบกลับ ขณะที่ใช้ปลายมือเชยคางเหลี่ยมของอีกฝ่ายกลับมาแล้วมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้

เด็กหญิงเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำบอกรักของคนทั้งคู่ แม้เธอจะเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ระหว่างแม่กับผู้ชายอีกคนที่เธอคุ้นหน้าเป็นอย่างดีนั้นมันคืออะไร แต่สำหรับเด็กวัยแปดขวบอย่างเธอก็พอจะรู้ว่าแล้วคำว่า ‘รัก’ น่ะมันคืออะไร และมีความหมายแค่ไหน

“แม่กับน้าชัยทำอะไรกันเหรอคะ?” เด็กหญิงเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนดูเหตุการณ์เร่าร้อนของทั้งสองมานาน

“ว้าย! ตายแล้ว! ยัยนิน!” คนเป็นแม่ร้องเสียงหลง เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วมาพบกับเรื่องที่เธอเฝ้าปกปิดเอาไว้มาร่วมปี ก่อนที่จะรีบคว้าเสื้อคลุมผ้าไหมที่สวมติดกายลงมาจากห้องนอนและถอดมันกองเอาไว้ข้างๆ โซฟาตัวนั้นขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว

ร่างสะโอดสะองเดินลิ่วตรงมาหาลูกสาวที่เดินมาถึงครึ่งทางของบันไดที่ทอดตัวสู่ชั้นบนของบ้าน มือคว้าต้นแขนเล็กๆ บีบไว้อย่างโมโห

“แกลงมาทำอะไร!? ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน!?” คนเป็นแม่แผดเสียงถามอย่างไม่พอใจ ที่จริงต้องบอกว่าเธอตกใจมากกว่าที่ลูกสาวตื่นมาเห็นเหตุการณ์คบชู้ของตนเข้า

“นะ...หนูหิวน้ำ” เด็กหญิงวัยแปดขวบน้ำตาคลอ เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และเธอทำอะไรผิดนักหนา แต่ที่รู้คือเธอไม่อยากให้แม่โกรธเธอ และเธอไม่อยากถูกทำโทษด้วยการตีเจ็บๆ อย่างที่แม่ทำเวลาที่เธอทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างเดิมอีก แต่ก็ยังอุตส่าห์ถามด้วยความใสซื่อ “มะ...เมื่อกี้แม่กับน้าชัยทำอะไรเหรอคะ?”

“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก! กลับขึ้นไปนอนได้แล้ว หรืออยากโดนตี!?” คราวนี้เด็กหญิงน้ำตาปริ่มขอบตา ก่อนยอมหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องนอนของตนตามเดิม คนเป็นแม่เดินกลับไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ ชู้รักซึ่งสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว แต่เปลือยท่อนบนให้ล่อตาล่อใจสาวไฟแรงสูงเล่น

“เอาไงดีล่ะพี่วรรณ? หนูนินเห็นอย่างนั้นแล้วแกจะเอาไปบอกคุณสิทธิ์ไหมพี่?” ชายชู้ถามอย่างเป็นกังวล ถึงแม้เขาจะหลงบทสวาทของสาวรุ่นพี่มากแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่เขาจะเอาชีวิตมาเสี่ยงโดนฆ่าเพราะเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน หรือโดนไล่ออกจากงานหรอกนะ

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เรื่องนั้นพี่จะจัดการเอง ยัยนินน่ะไม่กล้าขัดคำสั่งพี่หรอก” วรรณภาบอก เธอมั่นใจอย่างนั้น ลินินเรียกได้ว่าเป็นเด็กค่อนข้างหัวอ่อน นั่นเพราะถูกคนเป็นยายเสี้ยมสอนมาตั้งแต่เด็กเรื่องการเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ และเด็กหญิงก็ปฏิบัติตัวอยู่ในโอวาทของคนเป็นแม่เสมอมา อีกอย่าง... เธอค่อนข้างแน่ใจว่าลูกสาวยังเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เพิ่งเห็นไปน่ะมันคืออะไร

“แน่ใจหรือพี่?” แม้จะได้รับคำยืนยันหนักแน่น แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ด้วยว่ามีชนักอันใหญ่ปักติดหลังอยู่นั่นเอง

“เชื่อพี่สิ ไม่ต้องคิดมากหรอกชัย” วรรณภาบอกพลางเอียงศีรษะซบกับบ่าบึกบึนแน่นด้วยกล้ามเนื้อต่างจากผู้เป็นสามีที่มีรูปร่างท้วมออกไปทางเจ้าเนื้อมากกว่า มือเรียวลูบไล้ไปตามแผงอกกว้างล่ำสัน “พี่ว่า... พี่มีวิธีช่วยให้ชัยผ่อนคลายความเครียดได้นะ”

“ยังไม่พออีกเหรอพี่? เมื่อกี้นี้ก็สองยกแล้วนะ” ชาญชัยถามอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อหู เขานับว่าเป็นชายหนุ่มที่บทรักร้อนแรงจนมีสาวๆ หลายคนติดใจรสรักของเขา แต่ไม่มีใครที่จะมีความต้องการมากล้นเหมือนนายหญิงคนนี้เลยสักคน แถมยังตอบสนองแรงรักได้อย่างถึงพริกถึงขิงอีก อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักอย่างสาวรุ่น

“แหม...” สาวหุ่นน่าฟัดลากเสียงยาว ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วนั่งคร่อมลงบนตักกว้างของชู้รัก มือเรียววางที่อกกว้างที่ยังชื้นเหงื่อ ลูบไล้อย่างเชิญชวนพร้อมส่งแววตาเย้ายวนไปให้ “ก็ชัยทำให้พี่ร้อนแรงได้ขนาดนั้น เท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกจ้ะ”

ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะเริ่มต้นเริงสวาทกันบนโซฟาตัวนั้นกันอีกหลายต่อหลายยก นั่นเพราะตอนนี้สามีของเธอพาลูกชายคนโตและลูกชายคนเล็กไปเยี่ยมปู่กับย่าที่ต่างจังหวัด ทั้งคู่จึงต้องการตักตวงเวลาอันมีค่านี้เอาไว้อย่างเต็มที่

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ กวีมนตรา_พัณณ์ภัสร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ่วงเสน่ห์ เล่ห์ดวงใจ

บ่วงเสน่ห์ เล่ห์ดวงใจ

มหาเศรษฐี

5.0

เมื่อจู่ๆ ‘คริสโตเฟอร์ เมสัน’ ผู้บริหารหนุ่มหล่อจอมเฮี้ยบของแม็กนามีเดีย ตัดสินใจที่จะยุบนิตยสารแม่บ้านตกยุคที่ไม่เคยทำกำไรมานาน แน่นอนว่ามันรวมไปถึงการลอยแพพนักงานด้วยการจ้างออกทั้งแผนก ‘อลิสา สิปปา’ บ.ก.สาวไทยผู้แสนจะเชยไม่แพ้นิตยสารที่เธอดูแลอยู่จึงหมดทางเลือก นอกจากบุกไปพบเจ้านายคนใหม่เพื่อขอให้เขายืดเวลา แต่ว่าก็ว่าเถอะ แค่การแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูเฟี้ยวฟ้าวเหมือนผู้หญิงปกติในสังคมเธอยังทำไม่ได้ ประสาอะไรจะปรับปรุงนิตยสารใหม่ทั้งเล่มแล้วปลุกยอดขายให้เขาได้ล่ะ ถ้าอยากได้โอกาสนักล่ะก็ ก่อนอื่นลองทำตัวสวยจนเขารู้สึกพอใจก่อนจะดีไหม “ถ้าเธอไม่ตื่นเดี๋ยวนี้ล่ะก็... เราคงไม่ได้ลุกจากเตียงกันอีกจนกว่าจะถึงเที่ยงของวันนี้นะ” ไม่ขู่เปล่า แต่คริสโตเฟอร์ยังคงกดจมูกลงที่ข้างขมับของเธอ ก่อนที่จะใช้กลีบปากแกร่งค่อยๆ ไล่จูบหนักๆ ไปตามผิวแก้มนวล เล่นเอาคนที่ตั้งท่าจะดึงดันเมื่อครู่เปิดเปลือกตาทันควัน “ตื่นแล้วค่ะ!” หญิงสาวร้องบอก แล้วผลักอกกว้างให้ออกห่าง ตั้งท่าจะถลาลงจากเตียงเมื่อเขาทำท่าว่าจะปล้ำเธอเข้าจริงๆ หากทว่าเขากลับดึงแขนเธอไว้ไม่ยอมให้ลงจากเตียงไปง่ายๆ “ตื่นแล้วก็มามอร์นิ่งคิสกันก่อนสิ” ชายหนุ่มพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่เอาค่ะ!” อลิสาสั่นหน้าปฏิเสธ ขืนจูบเขาล่ะก็... เธอกลัวว่ามันจะไม่หยุดเพียงแค่จูบน่ะสิ และเธอเองก็คงอดที่จะปล่อยให้อารมณ์เตลิดตามเขาไปไม่ได้ด้วยแน่ๆ “เพิ่งตื่นก็ต้องแปรงฟันแล้วก็ทำความสะอาดร่างกายก่อนสิคะ” “ถ้าแปรงฟันแล้วเขาจะเรียกมอร์นิ่งคิสได้ยังไงล่ะ?” คริสโตเฟอร์ถามด้วยน้ำเสียงเง้างอนน้อยๆ ก่อนยื่นข้อเสนอให้ “เลือกเอาว่าเธอจะเป็นคนจูบฉัน หรือจะให้ฉันเป็นคนจูบเธอ?”

กลรัก เกมปรารถนา

กลรัก เกมปรารถนา

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะต้องการหาข้อมูลเขียนนิยายเรื่องใหม่ กานต์มาดา นักเขียนสาวจึงต้องสร้างกลรักขึ้นมา แล้วหลอกล่อให้เขา...อัลฟอนโซ่ เจ้าของบริษัทใหญ่ในสเปน และพ่วงตำแหน่งคุณพ่อลูกหนึ่ง ให้มาเล่นเกมปรารถนากับเธอ แต่เมื่อเขาจะเอาจริง เธอจึงต้องยุติทุกอย่างลงก่อนที่ความสัมพันธ์จอมปลอมจะจริงจังไปจนเกินควบคุม แต่...ไม่มีใครที่จะหลอกเล่นกับหัวใจของหนุ่มหล่อทรงเสน่ห์และอำนาจแห่งแดนกระทิงดุไปได้ อัลฟอนโซ่หมายมั่นที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้บทเรียนกับกานต์มาดา ที่กล้ามาล้อเล่นกับความรู้สึกเขา!!! งานนี้...ใครจะชนะในเกมปรารถนาที่กลับกลายเป็นการเอาคืนได้? หรือต่างกันต่างก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับกลรักที่ร้อยรัดหัวใจของเขาและเธอเอาไว้กันแน่? ร่วมหาคำตอบกันได้ใน “กลรัก เกมปรารถนา” **************** “ทำไม? หรือคุณกลัวผม?” “ใช่! เพราะคุณมันเจ้าเล่ห์! ไว้ใจไม่ได้!” “...จริงๆ ผมก็ไม่ชอบทำอะไรคนหลับหรอกนะ ทำอะไรตอนที่ไม่หลับได้อารมณ์กว่าเยอะ เพราะผมจะได้ยินเสียงครางหวานหูของคุณ มันเพราะจับใจยิ่งกว่าบทเพลงบทไหนในโลกเลยล่ะ”

บ่วงวิวาห์จำยอม (The Unwilling Wedding)

บ่วงวิวาห์จำยอม (The Unwilling Wedding)

มหาเศรษฐี

5.0

“คุณก็รู้ว่าฉันเมา แล้วคุณยังจะทำอย่างนั้นกับฉันอีก คุณยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่รึเปล่า หา! คุณปรานต์? หรือคุณโกรธแค้นฉันมากถึงอยากจะแก้แค้นฉันให้ตายทั้งเป็นอย่างนี้?” “เธอจะมาหาว่าฉันฉวยโอกาสได้ยังไง? ในเมื่อเธอเองเป็นคนเรียกร้องสิ่งนั้นจากฉันเองแท้ๆ เธอควรจะโกรธตัวเธอเองมากกว่า แต่พูดก็พูดเถอะนะ ว่าลีลาของเธอมันช่างร้อนแรงกว่าผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยผ่านมาเสียอีก แหม...ว่าแล้วเราก็มาต่อกันอีกรอบดีไหมจ๊ะสาวน้อย? บอกตรงๆ ว่าฉันยังติดใจเธอไม่หาย” “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” “เอาน่า...ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันยินดีรับผิดชอบเธอทุกอย่าง พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันเลยก็ได้ บอกตามตรงนะ ฉันยังประทับใจในลีลาของเธอไม่หายเลย” ปารวี ต้าเฟย เมธาชัย จำต้องตกอยู่ในบ่วงวิวาห์อย่างจำยอม เมื่อถูกคนเป็นพ่อมัดมือชกให้ต้องแต่งงานกับญาตาวี วัฒนากุล ลูกสาวอดีตคนรักของพ่อ คนที่ทำให้แม่ของเขาต้องตกอยู่ในความห้วงของความเจ็บปวดเพราะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้กระทั่งในวินาทีสุดท้ายของชีวิต นั่นทำให้ชายหนุ่มผูกใจเจ็บญาตาวีจนนึกอยากจะขย้ำเธอทุกวินาที แต่มันจะสนุกอะไรกับการฆ่าเธอให้ตาย? สู้หลอกล่อให้เธอตกหลุมพราง แล้วค่อยๆ กรีดหัวใจของเธอให้เจ็บมันสะใจกว่ากันเยอะ ญาตาวีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะต้องโคจรมาพบกับชายหนุ่มผู้เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังหยิ่งยโสชนิดที่เธอนึกอยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้เป็นแผลเหวอะหวะ เธอพยายามจะเอาตัวออกห่างเขาเพราะไม่อยากทนรองรับอารมณ์หงุดหงิดที่ไม่มีเหตุผลของปารวีนัก แต่มันมักจะมีอันให้ต้องเข้าไปพัวพันกับเขาทุกที สุดท้าย... ก็ถูกเขาเล่นกลหลอกล่อให้เธอต้องติดอยู่ใน ‘บ่วงวิวาห์’ กับเขาแบบจำยอม แล้วชีวิตคู่ที่ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานของความรักมันจะยืนยาวสักแค่ไหนกัน ในเมื่อเขาจ้องจะคอยทำร้ายจิตใจของเธอเพื่อแก้แค้นแทนแม่ผู้ล่วงลับของเขา ในขณะเดียวกัน... นับวันเธอก็รู้สึกเหมือนจะยิ่งผูกพันกับเขาไปทั้งใจ “อย่าเล่นบ้าๆ นะญาตาวี!” “เล่นบ้าๆ อย่างนั้นเหรอคะ? ฉันว่าไม่ใช่มั้ง เพราะดูเหมือนคุณเองก็ต้องการไม่ใช่เหรอ?” เจ้าของร่างบางค่อยๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียงนอนระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา ก่อนโน้มตัวมาข้างหน้าจนใบหน้าหวานอยู่ห่างใบหน้าคมคายของเขาไม่ถึงคืบ “อย่าทำอย่างนี้นะญาตาวี เธอไม่รู้หรอกว่าผลที่ตามมามันรุนแรงแค่ไหน” “งั้นเหรอคะ?”

บ่วงมะลุลี

บ่วงมะลุลี

มหาเศรษฐี

5.0

“แล้วอีกอย่าง...ฉันมันพวกไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ด้วยสิ ยิ่งคุณรำคาญ ยิ่งคุณอยากไล่ฉันไปไกลๆ ฉันก็จะคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ คุณ จนคุณขาดฉันไม่ได้ ยิ่งคุณเกลียดฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำให้คุณรักฉันมากเท่านั้น” “แสดงว่า...ถ้าเธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้ว เธอจะเลิกยุ่งกับฉันอย่างนั้นใช่ไหม?” “คุณจะทำอะไร!?” หญิงสาวเบิกตาถามอย่างตกใจ เมื่อเขาย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทีไม่น่าไว้ใจนัก เท้าบางกระชากตัวเองก้าวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณป้องกันตัวเอง “ก็จะทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการไง จะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที!” คำว่า ‘ยอมแพ้’ ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมประจำใจของ ‘มะลุลี วิโรจน์รุ่ง’ นักเขียนสาวผู้พกความมุ่งมั่นจนเข้าขั้นดื้อดึงมาเกิด โดยเฉพาะกับเรื่องของหัวใจ... ในเมื่อเธอหลงรักกระทิงหนุ่มผู้ดุดันและเร่าร้อนอย่าง ‘เอเลียต รามิเรส นาธาเนียล’ เข้าอย่างยากจะถ่ายถอน มีหรือที่เธอจะยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย ดังนั้นเธอจึงเดินหน้า ‘ภารกิจตื้อรักกระทิงหนุ่ม’ อย่างเต็มกำลัง และไม่คิดจะถอยแม้จะถูกเขา ‘ขวิด’ ด้วยการกระทำและคำพูดแสนร้ายกาจ แต่หญิงสาวก็ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นมาทาดอร์สาวปราบพยศกระทิงผู้เร่าร้อนให้จงได้ และมะลุลีก็ยังคงเป็นมะลุลี... เธอมักจะหาเรื่องใส่ตัวเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเธอคิดร่วมมือกับทนายหนุ่มไฟแรงเพื่อกระชากหน้ากาก ‘ชาโดว์ เดวิล’ ฆาตรกรต่อเนื่องแสนโหดเหี้ยมตัวจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสำหรับงานเขียนเล่มใหม่ และการกระทำเช่นนั้นกลับกลายเป็นภัยร้ายที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหายจะคร่าชีวิตของเธอให้แดดับ ภารกิจสืบหาความจริงที่เริ่มต้นไปพร้อมๆ กับภารกิจพิชิตรัก งานนี้มะลุลีจะทำภารกิจทั้งสองสำเร็จหรือไม่? หรือต้องสังเวยทุกๆ ภารกิจด้วยชีวิตและหัวใจของเธอกัน? “แต่ไม่เป็นไรหรอก... อีกไม่กี่นาทียาก็หมดฤทธิ์แล้ว เธอจะรู้สึก... ทุกๆ อย่างที่ฉันทำกับเธอ และเชื่อเถอะว่า เธอจะภาวนาให้ยาที่ฉันฉีดให้ไม่ฤทธิ์ เพราะมันจะเจ็บบรรลัยเลยล่ะ!” “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องเพราะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อมือซึ่งถูกมัดติดกับที่วางแขนของเก้าอี้ไม้ “ดูเหมือน... ยาจะเริ่มคลายฤทธิ์ลงแล้วสินะ ดีเลย!” ปิศาจในเงามืดพูดพลางหยิบมีดพกแบบทหารขึ้นมา กวัดแกว่งมันไปมาพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปหาเหยื่อที่แม้ฤทธิ์ยาจะค่อยๆ เสื่อมลงแล้วแต่ก็ยังยังไร้หนทางพาตัวเองออกจากพันธนาการของเชือกเส้นใหญ่ “มาดูกันว่าคนที่มีความพยายามเป็นเลิศอย่างเธอจะอดทนได้นานกว่านังแพศยาคนอื่นๆ ที่ฉันเคยฆ่าหรือเปล่า?”

ตรวนลวง บ่วงดวงมาน

ตรวนลวง บ่วงดวงมาน

มหาเศรษฐี

5.0

‘ให้ตายเถอะ! นี่เขาจะต้องแต่งงานกับยัยจิตป่วนนี่จริงๆ หรือไง?!!’ นั่นคือสิ่งที่เกเบรียล แมคไรลีย์ ดีไซเนอร์หนุ่มที่พ่วงตำแหน่งรองประธาน บริษัทอาร์ทิสติกแอทแทร์ จำกัดมหาชน ผู้มีโลกส่วนตัวสูงครวญในใจ เมื่อถูกพ่อบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงานกับ มารียา รัตนาวัฒน์ หญิงสาวที่ดูเป็น working woman แต่จริงๆ ซ่อนความป่วนและเพี้ยนเอาไว้มากมาย แถมภรรยาจำเป็นของเขายังหลงรักพี่ชายแท้ๆ ของเขาจนหมดหัวใจ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอคิดว่าเขาเป็น ‘เกย์’ เลยคิดจะแต๊ะอั๋งเขายังไงก็ได้เสียอีก! มารียา ดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างเวนเดล แมคไรลีย์ ขอร้องให้เธอแต่งงานกับบุตรชายของตนด้วยเหตุผลบางประการ เธอคิดว่าเธอจะได้แต่งงานกับเคลวิน แมคไรลีย์ คนที่เธอแอบหลงรักมานานหลายปี แต่ทุกอย่างกับผิดคาดไปหมด! เพราะเธอต้องแต่งงานกับ (คนที่ตนคิดเองเออเองว่าเป็น) เกย์หนุ่มเซ็กซี่ขยี้ใจแทนเสียนี่! แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการใช้เกเบรียลเป็นสะพานไปหาจ้าวหัวใจอย่างเคลวินให้ได้! แต่ทั้งคู่คงไม่รู้ว่าการแต่งงานลวงโลกนี้จะกลับกลายเป็นตรวนรักที่ร้อยรัดดวงมานของคนทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกัน ตรวน... ที่ทั้งสองจะไม่มีวันหนีไปไหนได้ แต่จะทำอย่างไร... เมื่อเวลาที่มีร่วมกันช่างจำกัดนัก? ติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ใน “ตรวนลวงดวงมาน” “ลืม?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม ดวงตาของเขามีแววเยาะหยัน ไม่รู้ว่าหยันตัวเขาเองหรือว่ากำลังเหยียดหยันเธอกันแน่? “เธอลืมได้หรือ? ลืมได้เหรอว่าเธอขอร้องฉันว่าอะไร? ลืมได้หรือว่าเธอสัมผัสฉันอย่างเร่าร้อนแค่ไหน? ลืมได้เหรอว่าเธอตอบสนองสัมผัสของฉันอย่างกระตือรือร้นแค่ไหน? ลืมได้หรือว่าเธอเองที่เป็นคนอยากเรียนรู้และขอให้ฉันสอนทุกอย่างที่เธออยากรู้ให้!?” “ไม่! หยุด! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” มือบางยกขึ้นปิดหูตัวเองไว้ พร้อมทั้งร้องบอกให้เขาหยุดคำพูดที่ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในคืนนั้นเสียที แต่เขาไม่หยุด! เขาจะไม่ยอมให้เธอหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว! “เธอยังจำได้ไหมว่าเธอกรีดร้องด้วยความสุขมากแค่ไหน เวลาที่เราฉันสอดประสานเข้าไปในตัวของเธอ และผลักดันให้เธอพุ่งทะยานไปถึงจุดสุดยอด? ยังจำได้ว่าเธอกรีดร้องเรียกชื่อฉันอย่างแว่วหวานแค่ไหน ตอนที่เธอกระโจนถึงสวรรค์ที่ฉันพาเธอไป!?” ปกติแล้วเกเบรียลไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องบนเตียงมาพูดให้ผู้หญิงได้อับอาย แต่กลับคนหัวดื้ออย่างมารียา ถ้าพูดด้วยคำพูดสุภาพ...พูดด้วยคำพูดตะล่อมอย่างที่เขาชอบใช้คงไม่ได้ผล มันต้องยกเหตุผลและความเป็นจริงมาพูดอย่างนี้แหละ เธอจึงจะหาทางปฏิเสธความจริงไม่ได้!

กรงสวาท ทาสพยัคฆ์ (Love Cage)

กรงสวาท ทาสพยัคฆ์ (Love Cage)

โรแมนติก

5.0

“เร็วๆ สิ! มาแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าคนอย่างเธอมีดีอะไร ถึงได้มีผู้ชายมาขอแต่งงาน... ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเธอน่ะมันสำส่อน ไม่ต่างจากโสเภณีนักหรอก!” ‘รุจาภา วรลักษณ์’ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาถูกจับขังในกรงวิวาห์กับผู้ที่เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่เจอกันทีไรเป็นต้องทำร้ายกันไม่ด้วยการกระทำก็คำพูดอยู่ร่ำไป เพียงเพราะเธอต้องการจะปกป้องคนที่เธอรัก กลับกลายเป็นต้องตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาไปเสียนี่ ‘พยัคฆ์ พิตตินันท์’ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ต้องพบเจอกับผู้หญิงปากร้ายปากคมยิ่งกว่ามีดผ่าตัด แถมร้ายกาจจนเหลือรับ แต่เสือร้ายอย่างเขามีหรือจะนอนนิ่งๆ ให้เธอกระตุกหนวดเอาได้ง่ายๆ? ขืนทำอย่างนั้นก็เสียชื่อเสือหมดน่ะสิ! งานนี้เห็นทีต้องทำการปราบพยศ ‘ยัยเด็กแสบ’ สักหน่อยแล้วล่ะสิ แต่จะมีวิธีไหนเอาคืนได้สะใจไปกว่าการทำให้เธอตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาได้เล่า? “เธอจะต้องไปอยู่ในไร่กันตา...” “ในฐานะอะไรไม่ทราบ?” หญิงสาวถามทันควัน เขาอยากให้เธอไปอยู่ในไร่กับเขาในฐานะอะไรกัน? เมีย... งั้นหรือ? มีหวังปิ่นแก้วได้อาละวาดไร่แตกแน่ๆ! “ทาสไงล่ะ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)
1

บทที่ 1 Chapter 1

17/01/2022

2

บทที่ 2 Chapter 2

17/01/2022

3

บทที่ 3 Chapter 3

17/01/2022

4

บทที่ 4 Chapter 4

17/01/2022

5

บทที่ 5 Chapter 5

17/01/2022

6

บทที่ 6 Chapter 6

17/01/2022

7

บทที่ 7 Chapter 7

17/01/2022

8

บทที่ 8 Chapter 8

17/01/2022

9

บทที่ 9 Chapter 9

17/01/2022

10

บทที่ 10 Chapter 10

17/01/2022

11

บทที่ 11 Chapter 11

26/01/2022

12

บทที่ 12 Chapter 12

26/01/2022

13

บทที่ 13 Chapter 13

26/01/2022

14

บทที่ 14 Chapter 14

26/01/2022

15

บทที่ 15 Chapter 15

26/01/2022

16

บทที่ 16 Chapter 16

26/01/2022

17

บทที่ 17 Chapter 17

26/01/2022

18

บทที่ 18 Chapter 18

26/01/2022

19

บทที่ 19 Chapter 19

26/01/2022

20

บทที่ 20 Chapter 20

26/01/2022

21

บทที่ 21 Chapter 21

26/01/2022

22

บทที่ 22 Chapter 22

26/01/2022

23

บทที่ 23 Chapter 23

26/01/2022

24

บทที่ 24 Chapter 24

26/01/2022

25

บทที่ 25 Chapter 25

26/01/2022

26

บทที่ 26 Chapter 26

26/01/2022

27

บทที่ 27 Chapter 27

26/01/2022

28

บทที่ 28 Chapter 28

26/01/2022

29

บทที่ 29 Chapter 29

26/01/2022

30

บทที่ 30 Chapter 30

26/01/2022

31

บทที่ 31 Chapter 31

26/01/2022

32

บทที่ 32 Chapter 32

26/01/2022

33

บทที่ 33 Chapter 33

26/01/2022

34

บทที่ 34 Chapter 34

26/01/2022

35

บทที่ 35 Chapter 35

26/01/2022

36

บทที่ 36 Chapter 36

26/01/2022

37

บทที่ 37 Chapter 37

26/01/2022

38

บทที่ 38 Chapter 38

26/01/2022

39

บทที่ 39 Chapter 39

26/01/2022

40

บทที่ 40 Chapter 40

26/01/2022